การปฐมพยาบาล

ความรู้ใน การปฐมพยาบาล ถือเป็นความรู้พื้นฐานที่ทุกคนควรรู้ เพื่อจะได้สามารถรับมือกับเหตุฉุกเฉินและอุบัติเหตุได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เรียนรู้วิธี การปฐมพยาบาล สำหรับกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

การปฐมพยาบาล

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการ ทำแผล ที่ควรรู้

หลายคนอาจคุ้นเคยกับขั้นตอนการ ทำแผล ตั้งแต่การหยุดเลือด ทำความสะอาดบริเวณแผลและโดยรอบ และปิดด้วยผ้าพันแผลเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการทำแผลอยู่มากมาย และนี่คือตัวอย่าง 5 ความเชื่อผิด ๆ นั้น 5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการ ทำแผล ความเชื่อที่ 1: ควรทำให้แผลแห้งตลอด ความเชื่อนี้เป็นเรื่องที่พบได้บ่อย ๆ แม้ว่าการทำให้แผลแห้งอยู่เสมออาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้วดูสมเหตุสมผล เพราะแผลมักจะแห้งเมื่อเกิดสะเก็ดแผล แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การรักษาความชุ่มชื้นของแผลจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น บาดแผลที่มีความชุ่มชื้นอย่างพอเหมาะมักจะมีโอกาสอักเสบน้อยกว่าและหายได้ไวกว่าแผลที่แห้ง วิธีหนึ่งที่จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แผลคือการทาปิโตเลียมเจล² เพื่อช่วยเก็บรักษาความชื้นและยังช่วยเป็นเกราะป้องกันการเกิด แผลติดเชื้อ ซึ่งอาจช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นและมีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นน้อยลง นอกจากนี้ คุณก็อาจทาไฮโดรเจล ซึ่งมีส่วนประกอบของวัสดุสังเคราะห์ที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับบาดแผลโดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อของบาดแผล9 ไฮโดรเจลจะช่วยคงความชุ่มชื้นของแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น สังเกตว่าถ้าหากมีสะเก็ดแผลเกิดขึ้น แสดงว่าแผลใกล้จะหายดีแล้ว ไม่ควรแกะสะเก็ดแผล ดร.คาร์ลา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพผิว อย่างไรก็ตาม หากดูเหมือนบาดแผลไม่หายดี หรือมีสัญญาณของ แผลติดเชื้อ ควรเข้ารับการรักษาจากคุณหมอในทันที ความเชื่อที่ 2: ควรใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือแอลกอฮอล์เพื่อ ทำแผล อีกหนึ่งความเชื่อผิด ๆ ที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับการทำแผลคือการใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือแอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดแผล ในความเป็นจริงแล้ว การใช้สารเคมีเหล่านี้เพื่อฆ่าเชื้อเกินความจำเป็นอาจส่งผลให้แผลหายช้าลงได้ แม้ว่าแอลกอฮอล์³ และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์4 จะสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถส่งผลกระทบต่อกระบวนการฟื้นฟูของแผล และทำให้แผลหายช้าลงได้ ทางเลือกที่ดีกว่าคือการทำความสะอาดแผลโดยใช้น้ำสะอาดและไอโอดีน5 ทั้งสองอย่างนี้มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดสิ่งสกปรกและฆ่าเชื้อโรค ความเชื่อที่ 3: การทายาสีฟันบนแผลไหม้จะทำให้แผลหายเร็วขึ้น แม้ว่าหลายคนอาจจะคิดว่าการทายาสีฟันลงบนแผลไหม้ แผลลวก เป็นเรื่องที่ปกติและควรทำ เพราะยาสีฟันมีฤทธิ์ทำให้ผิวเย็นลง […]

สำรวจ การปฐมพยาบาล

การปฐมพยาบาล

ประคบร้อน ประคบเย็น แตกต่างกันอย่างไร

ประคบร้อน ประคบเย็น เป็นวิธีหนึ่งในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดและอักเสบ ซึ่งลักษณะการใช้งานจะขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย โดยการประคบร้อน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือบริเวณข้อต่อต่าง ๆ และการประคบเย็น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหรือมีอาการบาดเจ็บเฉียบพลัน เช่น อาการปวดศีรษะ ปวดฟัน เลือดกำเดาไหล ประคบร้อน (Hot Compress) การประคบร้อน หรือการใช้ความร้อน ทำให้หลอดเลือดขยายตัว อาจช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อในบริเวณที่เกิดอาการเจ็บปวดหรืออักเสบ โดยวิธีการประคบร้อนเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการดังต่อไปนี้ โรคข้อเข่าอักเสบ เคล็ดขัดยอด อาการปวดข้อต่อที่เกิดจากโรคข้ออักเสบ ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง โรคเอ็นอักเสบเรื้อรัง การประคบร้อนเพียงเล็กน้อยอาจช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายและเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อได้ ทั้งนี้น้ำหนักของการประคบร้อนอาจขึ้นอยู่กับความลึกของผิวหนังที่ได้รับผลกระทบจากอาการเจ็บปวดหรืออักเสบ การประคบเย็น (Cold Compress) การประคบเย็น เป็นการประคบด้วยน้ำแข็ง น้ำเย็นหรือเจลสำหรับประคบเย็น อาจช่วยลดการไหลเวียนของเลือดไปยังส่วนที่เฉพาะเจาะจงของร่างกาย รวมถึงลดการทำงานของเส้นประสาทชั่วคราว เพื่อบรรเทาอาการปวดหรืออักเสบ โดยเฉพาะบริเวณรอบ ๆ ข้อต่อหรือเอ็น โดยวิธีการประคบเย็นเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหรือได้รับบาดเจ็บทันทีที่มีอาการ ภายใน 24-48 ชั่วโมง ดังต่อไปนี้ ปวดศีรษะ  มีไข้สูง  ปวดฟัน  ปวดบวมข้อเท้า  โรคข้อเข่าเสื่อม ข้อเคล็ด  เลือดกำเดาไหล  ประเภทของการ ประคบร้อน ประคบเย็น ประเภทของการประคบร้อน การประคบร้อนหรือการรักษาด้วยความร้อน เป็นการใช้อุปกรณ์ทำความร้อนที่ปลอดภัย เช่น แผ่นความร้อนไฟฟ้า กระเป๋าน้ำร้อนสำหรับประคบร้อนหรือแผ่นความร้อน แช่พื้นที่ในอ่างน้ำร้อนระหว่าง 33 และ 37.7 องศาเซลเซียส ใช้ขี้ผึ้งพาราฟินอุ่น ประเภทของการประคบเย็น รูปแบบของการประคบเย็นนั้นมีหลายวิธี ซึ่งบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ร่างกายได้รับผลกระทบ เช่น แพ็คน้ำแข็งหรือแพ็คเจลแช่แข็ง นวดน้ำแข็ง อ่างน้ำแข็ง นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการบำบัดด้วยความเย็นแบบอื่น ๆ ที่บางครั้งใช้กัน ได้แก่ การแช่แข็ง ซึ่งใช้ความเย็นเพื่อลดอาการกล้ามเนื้อกระตุก ระหว่างการยืดกล้ามเนื้อ ห้องบำบัดความเย็นทั้งร่างกาย ข้อควรระวังเกี่ยวกับการประคบร้อน ประคบเย็น ข้อควรระวังในการประคบร้อน ประคบเย็น มีดังต่อไปนี้ ประคบร้อน ไม่ควรนำไปใช้กับบริเวณที่มีแผลเปิด  สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง […]


การปฐมพยาบาล

สำลักอาหาร จะรับมือและจัดการอย่างไรดี

หลายๆ คนคงจะเคย สำลักอาหาร มาบ้างสักครั้งหนึ่งในชีวิต การสำลักอาหาร หมายถึงการที่มีเศษอาหาร เข้าไปติดในหลอดลม ทำให้ไม่สามารถหายใจได้ตามปกติ การสำลักอาหารนี้อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หากไม่ทำการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที บทความนี้จะมานำเสนอวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากมีคน สำลักอาหาร สัญญาณและอาการของการ สำลักอาหาร สัญญาณและอาการของการสำลักนั้น สามารถสังเกตเห็นได้ง่ายอย่างชัดเจน ผู้ที่สำลักอาหารส่วนใหญ่ มักจะไอไม่หยุด จนกว่าอาหารที่ติดอยู่ในคอหรือหลอดลมหลุดออกไป แต่ในบางครั้ง อาหารนั้นอาจจะติดแน่นอยู่ในหลอดลม และปิดกั้นทางเดินหายใจจนสนิท ทำให้ขาดอากาศหายใจ และอาจเสียชีวิตได้ สัญญาณและอาการของคนที่กำลังสำลักมีดังนี้ พูดไม่ได้ หายใจไม่ออก หรือหายใจมีเสียงดัง ไอ สามารถมีทั้งอาการไอเบาๆ อย่างอ่อนแรง หรือไออย่างรุนแรง ผิวหนัง ริมฝีปาก และเล็บ อาจจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง เนื่องจากขาดอากาศหายใจ หมดสติ บางคนอาจจะเอามือจับคอ เพื่อให้ผู้อื่นรู้ว่าตัวเองกำลังสำลัก อย่างไรก็ตาม หากเด็กทารกสำลัก เราอาจจะไม่สามารถสังเกตเห็นอาการที่กล่าวมาด้านบนได้อย่างชัดเจนเท่าไหร่นัก ดังนั้นผู้ปกครองจึงควรให้การสังเกตเด็กทารกอย่างใกล้ชิด หากพบว่าทารกมีอาการดังต่อไปนี้ อาจจะเป็นสัญญาณว่าทารกกำลังสำลักได้ หายใจไม่ออก ร้องไห้เบาๆ อย่างอ่อนแรง ไอเบาๆ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับอาการสำลักอาหาร การปฐมพยาบาลสำหรับผู้ที่กำลังสำลักที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างมากที่สุด คือวิธีรัดกระตุกหน้าท้อง (Heimlich maneuver) เมื่อเราพบว่ามีคนสำลัก หรือตัวเองกำลังสำลัก และหลังจากไอมาสักพักหนึ่งแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ควรรีบทำการปฐมพยาบาลเพื่อช่วยเหลือในทันที เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้คนผู้นั้นขาดอากาศหายใจ จนสมองเกิดความเสียหาย หรือเสียชีวิตได้ การปฐมพยาบาลหากตัวเองสำลัก เมื่อคุณพบว่าตัวเองสำลัก ควรรีบโทรแจ้งหน่วยพยาบาลฉุกเฉินในทันที และหากในบริเวณโดยรอบไม่มีใครที่สามารถให้การช่วยเหลือคุณได้อย่างทันท่วงที คุณสามารถทำการรัดกระตุกหน้าท้องตัวเองได้ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ กำหมัดให้แน่น แล้ววางไว้บนหน้าท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ เหนือสะดือเล็กน้อย เอามืออีกข้างมากุมกับมือนั้น […]


การปฐมพยาบาล

เลือดกำเดาไหล ทำไมควรก้มหน้า ไม่ใช่เงยหน้า? มาดูเหตุผลกัน

คุณอาจเคยประสบกับอาการ เลือดกำเดาไหล กันมาบ้าง แต่คุณเคยสังเกตหรือไม่ว่า ควรจะมีวิธีการปฐมพยาบาลเพื่อหยุดเลือดกำเดา ด้วยการก้มหน้าหรือเงยหน้า แล้ววิธีใดแน่ที่เป็นวิธีเยียวยาที่ถูกต้อง…เรามาหาคำตอบกันได้จากบทความนี้ของ Hello คุณหมอค่ะ เลือดกำเดาไหลเกิดจากอะไร เลือดกำเดาไหล อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักมาจากการที่เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกแตก หรือเกิดการฉีกขาด จึงทำให้มีเลือดไหลออกมาทางจมูก อย่างไรก็ตาม…เลือดกำเดาไหล อาจเกิดได้จากสาเหตุเหล่านี้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น  เกิดจากการระคายเคือง ต่อเยื่อจมูก เกิดจากการบาดเจ็บภายนอก หรือถูกวัตถุกระแทกเข้าที่ใบหน้าหรือบริเวณจมูก เช่น ถูกลูกฟุตบอลอัดเข้าที่ใบหน้า การติดเชื้อของเยื่อบุจมูก ไซนัส หรือโรคเนื้องอกในจมูก โรคภูมิแพ้ที่ทำให้มีไข้หรือไอ ปัญหาเลือดออกหรือปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ทำอย่างไรเมื่อเกิดอาการเลือดกำเดาไหล   หากพบว่า มีเลือดกำเดาไหล ให้ค่อยๆ นั่งลงกับเก้าอี้ หรือพื้น แล้วก้มหน้าเล็กน้อย   บีบจมูกโดยใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ จากนั้นหายใจทางปากเป็นเวลา 5 ถึง 10 นาที   นำน้ำแข็งมาประคบบริเวณจมูก และสันจมูก หรือ อาจใช้น้ำเย็นในกรณีที่ไม่มีน้ำแข็ง   หากอาการไม่ดีขึ้น หรือเลือดไหลไม่หยุด ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที เลือดกำเดาไหลควรก้มหน้าหรือเงยหน้า เวลาเลือดกำเดาไหล หลายคนมักจะรีบเงยหน้าขึ้นทันที เพื่อหวังจะให้เลือดหยุดไหล แต่รู้หรือไม่ว่า การทำแบบนั้นนอกจากจะไม่ได้ช่วยให้เลือดหยุดไหลเร็วขึ้นแล้ว ยังจะทำให้เลือดไหลย้อนกลับเข้าจมูก และอาจจะสำลัก หรืออาเจียน […]


การปฐมพยาบาล

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูก งูกัด

แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะรู้สึกกลัวงู เพราะรูปลักษณ์ที่หน้ากลัว ของสัตว์เลื้อยคลานชนิดนี้ แต่จริงๆ แล้ว งูนั้นจะกลัวคน มากกว่าที่คนกลัวงูด้วยซ้ำ งูส่วนใหญ่นั้นจะไม่ทำอันตรายต่อมนุษย์ หากมนุษย์ไม่ไปแหย่งูก่อน และงูที่มีพิษนั้นมีแค่ 400 สายพันธุ์ จากงูทั้งหมด 3,000 สายพันธุ์ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม หากคุณโดน งูกัด ขึ้นมา ทาง Hello คุณหมอ ก็มีวิธีดีๆ ที่จะทำการปฐมพยาบาลดังต่อไปนี้ วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อถูก งูกัด อย่าตระหนก และพยายามดูว่างูที่กัดนั้นเป็นงูชนิดไหน เมื่อคุณถูก งูกัด ก่อนอื่นเลยคือ คุณควรจะระงับสติ และพยายามเอาตัวออกจากจุดที่มีงูอยู่ พยายามอย่าไปจับงู เพราะอาจทำให้โดนกัดอีกครั้งได้ นอกจากนี้คุณยังควรจะพยายามจดจำลักษณะของงูที่กัดคุณ หรือถ่ายรูปงูเอาไว้ เพื่อให้แพทย์สามารถระบุชนิดของงูได้ และทำการรักษาอย่างถูกวิธี งูแต่ละชนิดนั้นต้องการเซรุ่มต้านพิษงูที่ต่างกัน อยู่เฉยๆ อย่าขยับตัวมากเกินไป เมื่อคุณโดนงูกัด งู สามารถฉีดพิษเข้าร่างกายจากต่อมพิษผ่านไปทางเขี้ยว และเมื่อพิษงูเข้าสู่ร่างกายอยู่ในกระแสเลือด พิษจะค่อยๆ แพร่กระจายออกไปทั่วร่างกาย การขยับตัวจะยิ่งเพิ่มความเร็วในการแพร่กระจายของพิษ และทำให้คุณมีโอกาสเสียชีวิตได้เร็วขึ้น พยายามทิ้งน้ำหนักลงไปในบริเวณที่งูกัด หากบริเวณที่โดนงูกัดนั้นไม่มีบาดแผลร้ายแรงใดๆ ควรจะกดน้ำหนักลงในบริเวณที่โดนงูกัด การกดน้ำหนักลงไปในบริเวณที่โดนกัดจะช่วยไม่ให้ พิษงู แพร่กระจายไปทั่วร่างกายเร็วเกินไป วิธีนี้จะใช้กันอย่างแพร่หลายในออสเตรเลีย เมื่อกดแผลแล้วให้ทำการดามด้วยไม้เพื่อจำกัดการไหลเวียนของเลือด แต่ระวังอย่าให้แน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้เลือดไม่ไหลเวียนและเป็นอันตรายได้ ปิดแผลด้วยผ้าแห้ง และห้ามใช้น้ำล้างแผลโดยเด็ดขาด พันปิดบริเวณแผลด้วยผ้าที่แห้งและสะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคเข้าไปในแผล […]


การปฐมพยาบาล

สูตร (ไม่ลับ) สำหรับการปฐมพยาบาล กล้ามเนื้อฉีก ด้วยตนเอง

กล้ามเนื้อฉีก (Muscle Strain) หรือ กล้ามเนื้อกระตุก (Pulled Muscle) เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อเกิดการยืดตัวมากเกินไปหรือเกิดการฉีกขาด มีสาเหตุเกิดมาจากความเหนื่อยล้า การใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป หรือการใช้กล้ามเนื้ออย่างไม่เหมาะสม โดยสามารถเกิดขึ้นได้กับร่างกายทุกส่วน แต่พบได้บ่อยที่สุดบริเวณหลังส่วนล่าง คอ ไหล่ และเอ็นร้อยหวาย เมื่อเกิดอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ ใยกล้ามเนื้อ และเอ็นที่ยึดกับกล้ามเนื้อ จะทำให้ กล้ามเนื้อฉีกขาด โดยอาจเกิดขึ้นทั้งหมดหรือเป็นบางส่วน กล้ามเนื้อฉีกขาด สามารถส่งผลกระทบต่อหลอดเลือดฝอย ทำให้เกิดเลือดออกภายใน ซึ่งจะปรากฏให้เห็นเป็นรอยฟกช้ำ และอาจรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณนั้นได้ อาการของ กล้ามเนื้อฉีก อาการของกล้ามเนื้อฉีกขาด ได้แก่ บวม ฟกช้ำ หรือแดง เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ ยังรู้สึกปวดแม้จะอยู่เฉย ๆ รู้สึกปวดเมื่อใช้กล้ามเนื้อเฉพาะส่วนหรือข้อต่อที่เชื่อมกล้ามเนื้อส่วนนั้น กล้ามเนื้อหรือเอ็นยึดกล้ามเนื้ออ่อนแรง ใช้งานกล้ามเนื้อส่วนนั้นไม่คล่องเหมือนปกติ ในภาวะ กล้ามเนื้อฉีกขาด ที่ไม่รุนแรง คุณยังสามารถใช้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นได้อยู่ แม้จะขาดความยืดหยุ่นและความคล่องตัวไปบ้าง ในกรณีที่ กล้ามเนื้อฉีกขาด อย่างรุนแรง จะทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมากจนแทบไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ กล้ามเนื้อฉีกขาด เล็กน้อย หรือปานกลางจะหายไปได้เอง เมื่อเวลาผ่านไป 2-3 สัปดาห์ ขณะที่ภาวะ กล้ามเนื้อฉีกขาด อย่างรุนแรงอาจใช้เวลานานหลายเดือน สาเหตุของอาการ กล้ามเนื้อฉีก กล้ามเนื้อฉีกขาด มักเกิดขึ้นโดยทันทีทันใด การได้รับบาดเจ็บหรือเกิดบาดแผล อาจทำให้เกิดกล้ามเนื้อฉีกขาดได้ โดยมีปัจจัยหลายประการที่มักพบว่าเป็นสาเหตุของ กล้ามเนื้อฉีกขาด ได้แก่ ไม่อบอุ่นร่างกายก่อนเริ่มออกกำลังกาย มีความยืดหยุ่นร่างกายไม่เพียงพอ มีการใช้งานกล้ามเนื้อหนักเกินไป มีความเชื่อผิด […]


การปฐมพยาบาล

ผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอ อีกหนึ่งเทคนิคในการบำบัดอาการปวดหลัง

อาการปวดหลัง เป็นอาการที่กวนใจได้ตลอดเวลา ดังนั้น คุณจึงต้องการหาวิธีบรรเทาอาการปวด ที่ได้ผลและปลอดภัย ทั้งยังสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่อง ผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอ (Kinesio Tape) ที่เราอาจเคยเห็นนักวิ่งหลายคนใช้นั้น เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งสำหรับคุณ Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่คุณควรทราบเกี่ยวกับผ้าเทปบำบัดชนิดนี้มาฝาก ประโยชน์ของ ผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอ ผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอ หรือ ผ้าเทปยืดหยุ่นเพื่อการรักษา เป็นเทปที่ผลิตจากคอตตอนพิเศษ เทปชนิดนี้มีคุณสมบัติยืดหยุ่น คุณจึงสามารถติดที่บริเวณผิวหนังได้ง่าย อีกทั้งช่วยบรรเทาอาการปวด อักเสบ และอาการตึง รวมถึงช่วยเร่งเวลาในการรักษาอาการปวดได้ และช่วยทำให้การเคลื่อนไหวหลายทิศทางดีขึ้น ผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอยังสามารถช่วยลดอาการเครียด และทำให้คุณมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอาการปวดที่เกิดขึ้น เนื่องจากสีของผ้าเทปมีให้เลือกหลากหลาย เทคนิคของผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอสำหรับอาการปวดหลัง หลังจากที่ปิดเทปบริเวณที่ปวดแล้ว เทปจะทำหน้าที่รองรับกล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนล่าง เทปชนิดนี้ยังช่วยส่งผลต่อการทำงานของเอ็นและข้อต่อ ผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดบริเวณหลัง ที่เกิดจากแรงกดทับ หรืออาการตึงบริเวณกระดูกสันหลังบั้นเอว มีบทบาทสำคัญในการแบกรับน้ำหนักของร่างกาย การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ และแรงกระแทกจากภายนอก ผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอถูกใช้เพื่อปรับกิจกรรมของกล้ามเนื้อ ปรับท่าทางการเคลื่อนไหว และช่วยให้การไหลเวียนของเลือด และการระบายน้ำเหลือง รวมถึงการจัดตำแหน่งของข้อต่อบริเวณหลังดีขึ้น การใช้ผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอ ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลังบั้นเอว ส่งผลให้อาการปวดลดลง ข้อควรสังเกต เมื่อใช้ผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอ การติดผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอ อาจติดเป็นรูปตัว ‘I’ หรือตัว ‘Y’ การติดผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอแบบรูปตัว ‘I’ นั้น ใช้ในกรณีที่คุณโน้มกระดูกสันหลังไปด้านหน้า ส่วนการติดผ้าเทปบำบัดคิเนซิโอในรูปตัว ‘Y’ นั้น จะติดบริเวณหลังส่วนล่าง และหางของตัว […]


การปฐมพยาบาล

วิธีปฐมพยาบาลอาการแพ้รุนแรง ที่คุณควรรู้ไว้

ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายสร้างแอนติบอดีขึ้น เพื่อสู้กับสารแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย และป้องกันไม่ให้เกิดอาการเจ็บป่วย แต่ในบางครั้ง ระบบภูมิคุ้มกันก็อาจเข้าใจผิด และต่อต้านสารที่คิดว่าเป็นอันตราย ทั้งที่จริง ๆ แล้ว สารนั้นไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่า “อาการแพ้” ขึ้นสามารถแบ่งได้เป็นหลายระดับ แต่ที่เป็นอันตรายมากก็คือ ระดับที่เรียกว่า “อาการแพ้รุนแรง” Hello คุณหมอ จึงอยากให้คุณทำความเข้าใจ วิธีปฐมพยาบาลอาการแพ้รุนแรง เบื้องต้นไว้ให้ดี จะได้รับมือกับภาวะนี้ได้อย่างทันท่วงนี้ เพราะสารหลายชนิดและสารก่อภูมิแพ้อาจอยู่ในอาหาร ยา หรือสิ่งแวดล้อม โดยที่คุณไม่รู้ตัว [embed-health-tool-bmr] การปฐมพยาบาลอาการแพ้รุนแรง ควรทำเมื่อใด หากผู้ป่วยเคยมีอาการแพ้รุนแรงมาก่อน หรือมีอาการใด ๆ ต่อไปนี้ คุณควรรีบปฐมพยาบาลให้ผู้ป่วยทันที หายใจลำบาก หรือหายใจมีเสียงหวีด เสียงแหบหรือพูดลำบาก แน่นบริเวณลำคอ หรือรู้สึกหลอดลมถูกปิด ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอบวม หายใจถี่ หรือหายใจไม่เป็นจังหวะ เวียนศีรษะ ปวดท้อง หรืออาเจียน หมดสติ วิตกหรือมึนศีรษะ อาการอื่น ๆ ที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรง (Anaphylaxis) ถ้าคุณมีอาการแพ้รุนแรง คุณควรมีชุดฉีดยาเอพิเนฟรีนติดตัวไว้อย่างน้อย 2 ชุดเสมอ เพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน สิ่งที่คุณควรระวังเกี่ยวกับ อาการแพ้เฉียบพลันรุนแรง อาการแพ้อย่างหนัก […]


การปฐมพยาบาล

แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก การดูแลตัวเองที่บ้านอย่างถูกวิธี

แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก นั้นมีระดับความรุนแรงอยู่หลายระดับ ขึ้นอยู่กับว่าร่างกายของเราได้ถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวกมากน้อยแค่ไหน ซึ่ง วิธีเยียวยาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก นั้นขึ้นอยู่กับระดับความเจ็บที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ระดับที่สามารถเยียวยาด้วยตัวเองได้ ไปจนถึงระดับที่ต้องให้คุณหมอดูแลรักษาให้เท่านั้นก็มี วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลเกี่ยวกับแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกมาฝากกันค่ะ ว่าความรุนแรงระดับใดที่สามารถดูแลแผลเองหรอต้องไปพบคุณหมอ ระดับความรุนแรงของ แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก โดยปกติแล้ว แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกนั้นมีระดับความรุนแรงที่แบ่งออกได้ 4 ระดับด้วยกัน คือ ระดับที่ 1 เป็นระดับความรุนแรงน้อยที่สุด ซึ่งจะส่งผลกระทบเฉพาะผิวชั้นนอกสุดเท่านั้น ระดับที่ 2 ระดับนี้ยังถือว่ามีความรุนแรงน้อย โดยจะส่งผลกระทบกับผิวที่อยู่ลึกลงไปอีก ระดับที่ 3 เป็นระดับที่มีความรุนแรงมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบกับทุกชั้นผิวที่อยู่ในร่างกาย ระดับที่ 4 เป็นระดับที่มีความรุนแรงมากที่สุด โดยจะทำให้เกิดความเสียหายถึงกระดูกและข้อต่อ แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ในระดับที่ 1 และ 2 นั้น มักจะอยู่ในระดับที่สามารถรักษาด้วยตัวเองที่บ้านได้ ซึ่งโดยปกติก็มักจะไม่มีอะไรซับซ้อน และใช้วิธีการรักษาแบบง่าย ๆ  โดยปกติแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ในระดับที่หนึ่งจะมีอาการดีขึ้นภายใน 7-10 วัน แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ในระดับที่ 2 จะมีอาการดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ […]


การปฐมพยาบาล

ของมีคม ลูกโดนมีดบาดดูแลยังไงไม่ให้เป็นแผลเป็น

ของมีคม บาดนิ้วลูก คงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลาย ๆ คนอาจจะเคยพบเจอกับปัญหานี้อยู่บ่อย ๆ ซึ่งการดูแลแผลที่เกิดขึ้น ถือเป็นอีกเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ควรให้ความใส่ใจมากพอสมควร เนื่องจากว่า รอยที่เกิดขึ้นเหล่านี้ สามารถที่จะกลายเป็นรอยแผลเป็นในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ทางที่ดีที่สุดก็คือ ต้องดูแลรักษาแผล และผิว ที่โดน ของมีคม บาดให้ถูกวิธีนั่นเอง วิธีดูแลรักษาแผลและผิวที่โดน ของมีคม กดแผล ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า สำหรับผิวของเจ้าตัวเล็กนั้น อาจจะยังไม่ได้มีความแข็งแรงมากเพียงพอ โดยเฉพาะในเรื่องของเส้นเลือดเองก็เช่นกัน ฉะนั้นแล้ว เมื่อเจ้าตัวเล็กโดนของมีคมบาด ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหา เลือดไหลไม่หยุดได้ง่ายๆ หรืออาจจะเป็นรูปแบบที่เลือดออกเยอะมาก ดังนั้นขอแนะนำว่า ให้คุณพ่อคุณแม่รีบเอาผ้าสะอาดมากดบริเวณแผลไว้ ประมาณ 15 นาที เพื่อให้เลือดหยุดไหล แต่ถ้าหากว่าเลือดไม่หยุดไหล แนะนำให้รีบไปหาแพทย์โดยทันที ล้างแผล หลังจากที่ทำการกดแผล จนเลือดหยุดไหลแล้ว แนะนำว่าให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ รีบพาเจ้าตัวเล็กไปล้างแผลทันที สำหรัลการล้างแผลนั้น ก็ควรล้างโดยการใช้น้ำสะอาดกับสบู่ ขอแนะนำว่าสบู่ที่ใช้ล้าง จะต้องไม่เป็นสบู่ที่มีการผสมน้ำหอม หรือกลิ่นหอม ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด คือ การเลือกใช้สบู่สำหรับการล้างหน้าโดยเฉพาะ มาใช้ในการล้างแผล เพื่อทำความสะอาดบริเวณแผลให้สะอาดมากที่สุด ทำแผล หลังจากที่ทำความสะอาดแผลในทุก ๆ ขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถทำแผลให้เจ้าตัวเล็กได้ทันที ด้วยการใช้ผ้าพันแผล ทำแผลบริเวณที่ถูกของมีคมบาด […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม