ภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition) เป็นภาวะร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ หรือร่างกายได้รับอาหารมากเกินความจำเป็น ทำให้มีทั้งภาวะโภชนาการต่ำ และภาวะโภชนาการเกิน ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งเสี่ยงต่อโรค เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย ร่างกายไม่เจริญเติบโต หรือหายจากอาการเจ็บป่วยช้า
[embed-health-tool-bmi]
คำจำกัดความ
ภาวะทุพโภชนาการ คืออะไร
ภาวะทุพโภชนาการ คือ ภาวะที่ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ หรือการที่ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเพียงพอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- ภาวะโภชนาการต่ำ เป็นหนึ่งในประเภทของการขาดสารอาหาร เมื่อร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ อาจส่งผลให้ร่างกายเจริญเติบโตช้า หรือมีน้ำหนักที่ต่ำกว่าเกณฑ์
- ภาวะโภชนาการเกิน คือ การที่ร่างกายได้รับประทานอาหารที่เกินกว่าพลังงานหรือไขมันในร่างกายต้องใช้ ร่างกายจึงเกิดการสะสมไขมัน ทำให้มีน้ำหนักตัวมากเกินไป จนอาจทำให้เป็นโรคอ้วนได้
ภาวะทุพโภชนาการพบได้บ่อยเพียงใด
ผู้ที่ป่วยเป็นภาวะทุพโภชนาการ พบได้บ่อยในผู้ที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หรือขาดสารอาหาร
อาการ
อาการของภาวะทุพโภชนาการ
ภาวะทุพโภชนาการ อาจทำให้เกิดอาการในลักษณะที่แตกต่างกันไปซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจ ดังนี้
- ความอยากอาหารลดลง
- อ่อนเพลียและหงุดหงิดง่าย
- ไม่มีสมาธิ
- ร่างกายรู้สึกหนาวบ่อยครั้ง
- ในเด็กร่างกายอาจเจริญเติบโตช้า น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์
- รู้สึกเหนื่อยง่าย
- เกิดความวิตกกังวล
ควรไปพบหมอเมื่อใด
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ขาดสารอาหาร หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาคุณหมอ
ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุของภาวะทุพโภชนาการ
ภาวะทุพโภชนาการเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้
- รับประทานอาหารได้น้อย
เกิดจากสาเหตุหลาย ๆ ปัจจัยด้วยกัน เช่น ปัญหาในช่องปากที่ทำให้รับประทานอาหารได้น้อย กลืนอาหารลำบาก เกิดการคลื่นไส้ และอาเจียน รวมถึงมีโรคประจำตัวที่ส่งผลให้รับประทานอาหารได้น้อย เช่น โรคมะเร็ง โรคตับ
- สภาวะสุขภาพจิต
ผู้ที่มีสุภาพจิตผิดปกติ เช่น โรคคลั่งผอม และอาการทางจิตเภท ทำให้ความอยากอาหารลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกาย ขาดสารอาหาร
- ปัญหาทางสังคม
ปัญหาทางสังคมอาจส่งผลต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น มีฐานะยากจน ไม่มีเงินพอสำหรับการซื้ออาหาร เดินทางไม่สะดวกในการไปซื้ออาหาร การอาศัยอยู่คนเดียวซึ่งอาจส่งผลต่อแรงจูงใจในการรับประทานอาหาร
- ความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร
โรคต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารภายในร่างกาย อาจทำให้ร่างกายเกิดการขาดสารอาหารได้ เช่น โรคเกี่ยวกับช่องท้อง โรคโครห์น (Crohn’s Disease)
ปัจจัยเสี่ยงของภาวะทุพโภชนาการ
- ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ต้องรับการรักษาเป็นเวลาระยะยาวในโรงพยาบาล
- ผู้มีรายได้น้อย
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดูดซึมสารอาหาร
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ในเบื้องต้น แพทย์อาจทำการสอบถามประวัติต่างๆ รวมถึงตรวจอื่นๆ เพิ่มเติมดังนี้
- ตรวจเลือด เพื่อคัดกรองและนำไปตรวจสอบทั่วไปหาสาเหตุของโรค
- ตรวจสอบสารอาหารที่เฉพาะเจาจง เช่น วิตามิน เหล็ก
- การทดสอบระดับโปรตีนในเลือด (Prealbumin Test)
- การตรวจอัลบูมิน (Albumin Test) ซึ่งอาจบ่งบอกถึงโรคตับ และโรคไต
การรักษาภาวะทุพโภชนาการ
วิธีการรักษาภาวะทุพโภชนาการ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการในแต่ละบุคคล โดยในเบื้องต้นอาจทำการสอบถามประวัติและติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง จัดทำตารางการรับประทานอาหาร รวมถึงการให้อาหารเสริม เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ทดแทนการขาดสารอาหาร
ในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง คุณหมออาจจำเป็นต้องให้สารอาหาร เช่น โพแทสเซียมและแคลเซียมทางหลอดเลือดดำ เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ได้รับสารอาหาร
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองเพื่อรักษาและป้องกันการเกิดภาวะทุพโภชนาการ
คนทั่วไปอาจป้องกันภาวะทุพโภชนาการได้ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
สิ่งที่สำคัญที่สุด หากสังเกตพบว่าเริ่มมีสัญญาณหรืออาการใด ๆ ที่อาจบ่งชี้ถึงอาการของภาวะทุพโภชนาการ หรือการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากนักโภชนาการ หรือคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาตามขั้นตอนอย่างเหมาะสมต่อไป