หลายคนอาจสงสัยว่า ไม่ใส่ถุงยางมีโอกาสท้องไหม อาจเป็นไปได้ว่าท้องและไม่ท้อง แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตรหรือไม่พร้อมตั้งครรภ์ ควรคำถึงความปลอดภัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ด้วยการสวมถุงยางอนามัยและการใช้ยาคุมกำเนิดให้ถูกวิธี เพราะอาจช่วยลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
[embed-health-tool-ovulation]
ไม่ใส่ถุงยางมีโอกาสท้องไหม
การไม่ใส่ถุงยางเมื่อมีเพศสัมพันธ์อาจมีโอกาสเสี่ยงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะหลั่งในเข้าสู่ช่องคลอดเมื่อถึงจุดสุดยอด นอกจากนี้การหลั่งนอกก็ยังอาจทำให้มีโอกาสการตั้งครรภ์ เพราะอสุจิอาจเล็ดลอดออกมาพร้อมกับน้ำหล่อลื่นของผู้ชายและเข้าสู่ช่องคลอดของผู้หญิง ตั้งแต่ก่อนช่วงหลั่งจริงๆ เพราะฉะนั้นการหลั่งข้างนอกในทางปฏิบัติ ถึงมีโอกาสตั้งครรภ์สูงได้ถึง 20% และถึงแม้ว่าจะรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหรือยาคุมรายเดือน หากรับประทานผิดวิธี เช่น ไม่รับประทานยาในช่วงเวลาที่กำหนด ลืมรับประทานยาคุม ลืมกินยาคุม 1-3 วัน ก็อาจเสี่ยงทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์จึงเป็นวิธีที่ช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตรและไม่พร้อมตั้งครรภ์อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกที่สุด อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเริม โรคหูดหงอนไก่ โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียมได้อีกด้วย
คำแนะนำในการคุมกำเนิด
คำแนะนำในการคุมกำเนิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ อาจมีดังต่อไปนี้
- การใช้ยาคุม เช่น ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน การฝังยาคุม การใส่ห่วงคุมกำเนิด การแปะแผ่นคุมกำเนิด ที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเมือกบริเวณปากมดลูกให้หนาขึ้น ทำให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ยาก
- ควรรับประทานยาคุมให้ตรงเวลา สำหรับยาคุมในรูปแบบอื่น ๆ ควรถอดเปลี่ยนตามวันและเวลาที่คุณหมอกำหนด เพื่อให้การคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยาคุมกำเนิดร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยารักษาต้านไวรัสเอชไอวี ยารักษาโรคลมชัก ยาสมุนไพร เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดลดลง และควรแจ้งให้คุณหมอทราบหากรับประทานยารักษาโรคประจำตัว รวมถึงวิตามิน สมุนไพรต่าง ๆ เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานยาคุมอย่างถูกวิธี
- ผู้ชายควรเลือกถุงยางอนามัยให้ถูกไซส์ไม่ควรเล็กหรือใหญ่จนเกินไป เพื่อป้องกันถุงยางแตก ถุงยางหลุด ที่ทำให้ถุงยางและอสุจิเข้าสู่ช่องคลอดผู้หญิง และควรใช้ถุงยางอย่างถูกวิธีโดยนำออกจากบรรจุภัณฑ์อย่างระวังและสวมครอบองคชาตเมื่อแข็งตัวให้ชิดติดกับโคนองคชาตมากที่สุด สำหรับถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงจะมีลักษณะเป็นด้านเปิดสำหรับใส่องคชาติผู้ชายและอีกด้านเป็นด้านปิดเพื่อป้องกันอสุจิเข้าสู่ช่องคลอด โดยนำส่วนปิดสอดเข้าไปในช่องคลอดที่ให้อีดด้านหนึ่งอยู่ด้านนอกบริเวณปากช่องคลอด
- นับวันตกไข่ ซึ่งอาจใช้ได้ผลกับผู้หญิงที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอทุกเดือน โดยจะนับในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่ประจำเดือนรอบใหม่จะมา ยกตัวอย่าง ผู้หญิงที่มีรอบเดือน 28 วัน วันไข่ตกจะอยู่ในช่วงวันที่ 14 ของรอบเดือน (นับวันที่ประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1 ของรอบเดือน) เมื่อนับวันไข่ตกได้แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนวันไข่ตกประมาณ 2-3 วัน เพื่อป้องกันอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ที่ก่อให้เกิดการปฏิสนธิและฝังตัวในผนังมดลูกจนก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามแม้ใช้วิธีการคุมกำเนิด แบบนับวัน นี้ก็ยังสามารถมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-14%