โรคกลาก เชื้อรา บนหนังศีรษะ หรือที่เรียกว่า ชันตุ เป็นการติดเชื้อราบนหนังศีรษะที่ทำให้เกิดผื่นวงแหวนบนหนังศีรษะและมีอาการคัน หากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจทำให้ผมร่วงและศีรษะล้านเป็นหย่อมได้ ดังนั้น จึงรับการรักษาอย่างรวดเร็วและควรขอคำแนะนำจากคุณหมอถึงวิธีป้องกันโรคกลากบนหนังศีรษะ ที่อาจช่วยไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ ช่วยฟื้นฟูสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง
[embed-health-tool-heart-rate]
โรคกลาก เชื้อรา บนหนังศีรษะ เกิดจากอะไร
โรคกลาก เชื้อรา บนหนังศีรษะ เกิดจากการติดเชื้อรากลุ่มเดอร์มาโตไฟต์ (Dermatophyte) ซึ่งเป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่บนผิวหนังตามส่วนต่าง ๆ รวมถึงหนังศีรษะ โดยอาจมีสาเหตุมาจากเชื้อราเจริญเติบโตมากเกินไป การได้รับเชื้อรามาจากบุคคลที่เป็นโรคกลากบนหนังศีรษะ การใช้สิ่งของที่สัมผัสกับหนังศีรษะร่วมกัน เช่น หวี หมอน ผ้าห่ม ยางมัดผม กิ๊ฟติดผมและผ้าขนหนูเช็ดผม
อย่างไรก็ตาม การสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว หมู วัว และม้า โดยไม่ล้างมือหลังสัมผัส เมื่อนำมาจับเส้นผมหรือหนังศีรษะก็อาจส่งผลให้ติดเชื้อราจากสัตว์ได้เช่นกัน
อาการของโรคกลาก เชื้อรา บนหนังศีรษะ
อาการของโรคกลากจากการติดเชื้อราบนหนังศีรษะ อาจเริ่มปรากฏขึ้นเมื่อติดเชื้อราประมาณ 4-10 วัน ที่สังเกตได้ดังนี้
- ผื่นแดงบนหนังศีรษะ
- มีอาการคันหนังศีรษะ
- ผื่นแดงพัฒนาเป็นวงแหวน
- ผมร่วงบริเวณที่เป็นกลาก
- รอยกลากและเป็นสะเก็ดที่มีขอบนูน
ควรเข้าพบคุณหมออย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันผมร่วมถาวร หากมีอาการคันในระดับรุนแรงและผมร่วงเยอะมากจนศีรษะล้าน
วิธีรักษาโรคกลาก เชื้อรา บนหนังศีรษะ
วิธีรักษาโรคกลากที่เกิดจากการติดเชื้อราบนหนังศีรษะ มีดังนี้
- ยากริซีโอฟูลวิน (Griseofulvin) เป็นยาในรูปแบบเม็ด แคปซูล และของเหลว เพื่อช่วยรักษาการติดเชื้อราที่ผิวหนัง โดยควรรับประทาน 2-4 ครั้ง/วัน เป็นเวลา 4-8 สัปดาห์ หรือตามที่คุณหมอแนะนำ ผลข้างเคียงของยานี้อาจทำให้ปวดศีรษะ อาเจียน กระหายน้ำมาก ท้องร่วง แต่หากมีอาการรุนแรง เช่น ผื่นที่ผิวหนัง ไข้ขึ้น เจ็บคอ ระคายเคืองในช่องปาก ควรเข้าพบคุณหมออย่างรวดเร็ว
- ยาเทอร์บินาฟีน (Terbinafine) เป็นยาในรูปแบบเม็ดที่ควรรับประทานพร้อมอาหารวันละครั้ง เป็นเวลา 6 สัปดาห์ หรือตามที่คุณหมอแนะนำ เพื่อช่วยรักษาการติดเชื้อราที่หนังศีรษะ เทอร์บินาฟีนอาจส่งผลข้างเคียงทำให้รู้สึกกระสับกระส่าย ปวดศีรษะ อาหารไม่ย่อย ท้องเสีย และควรเข้าพบคุณหมออย่างรวดเร็วหากมีอาการคลื่นไส้ ปงดท้องขวาบน หายใจลำบาก กลืนอาหารลำบาก ผื่นขึ้นผิวหนัง ใบหน้าบวม เจ็บหน้าอกและหัวใจเต้นผิดปกต
- ยาไอทราโคนาโซล (Itraconazole) เป็นยาในรูปแบบเม็ด แคปซูลและสารละลาย เพื่อช่วยรักษาโรคที่ติดเชื้อรา โดยควรรับประทานวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ หรือตามที่คุณหมอแนะนำ ไอทราโคนาโซลอาจส่งผลข้างเคียงทำให้รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ ผมร่วง วิงเวียนศีรษะ และควรเข้าพบคุณหมออย่างรวดเร็วหากมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น ปวดท้อง ตาพร่ามัว หูอื้อ ผื่นลมพิษ ปัสสาวะสีเข้ม และหายใจลำบาก
- ยาฟลูโคนาโซล (Fluconazole) เป็นยาในรูปแบบเม็ดและสารละลาย เพื่อช่วยรักษาโรคที่ติดเชื้อรา และยีสต์ ที่ควรรับประทานวันละ 1 ครั้ง หรือตามที่คุณหมอกำหนด ฟลูโคนาโซลอาจส่งผลข้างเคียงทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ปวดศีรษะ ผมร่วง หากรู้สึกเบื่ออาหาร วิงเวียนศีรษะรุนแรง หัวใจเต้นเร็ว และเป็นลมหมดสตติ ควรรีบเข้าพบคุณหมอทันที
นอกจากนี้คุณหมออาจแนะนำให้ใช้แชมพูสระผมต้านเชื้อราร่วมด้วยเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโรคกลากบนหนังศีรษะและลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อราไปยังผู้อื่น
การป้องกันโรคกลาก เชื้อรา บนหนังศีรษะ
การป้องกันโรคกลากที่เกิดจากการติดเชื้อราบนหนังศีรษะ อาจทำได้ดังนี้
- สระผมให้สะอาดด้วยแชมพูดที่เหมาะสุขภาพหนังศีรษะและเช็ดหรือเป่าผมให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันหนังศีรษะอับชื้น
- หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของที่สัมผัสกับหนังศีรษะร่วมกัน เช่น หวี ผ้าขนหนูเช็ดหนังศีรษะ หมอน กิ๊ฟติดผม และควรทำความสะอาดสิ่งของบ่อยครั้ง เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อราไปยังบุคคลอื่น ๆ
- ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งหลังจากสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงหรือจับวัตถุที่ใช้ส่วนรวม เช่น ราวจับบันได อุปกรณ์ออกกำลังกาย กลอนประตู
- ควรอาบน้ำและตัดแต่งขนให้สัตว์เลี้ยง รวมถึงควรพาสัตว์เลี้ยงเข้ารับการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ หากมีเชื้อราควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์