การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

การที่เส้นผมเสียดสีกับสิ่งของอื่น ๆ เป็นเวลานาน อาจทำให้เกิด ผมไฟฟ้าสถิต ได้ เมื่อผมเกิดไฟฟ้าสถิต มักเกิดปัญหา หวีผมแล้วผมฟู จัดแต่งทรงได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม การดูแลอย่างถูกวิธี อาจช่วยลดปัญหาผมเกิดไฟฟ้าสถิต หวีแล้วผมฟูได้ ผมไฟฟ้าสถิต เกิดจากอะไร เส้นผมสามารถสร้างประจุไฟฟ้าได้เช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น เมื่อสวมหมวกจะเกิดอิเล็กตรอนบนหมวกได้ และเมื่อถอดหมวกออก อิเล็กตรอนเชิงลบอาจอยู่ที่หมวก และเส้นผมซึ่งมีประจุบวกอาจชี้หรือตั้งขึ้น เนื่องจากเส้นผมที่มีประจุบวกจะต้านทานกับอิเล็กตอนเชิงลบของหมวก เหมือนกับแม่เหล็กนั่นเอง อย่างไรก็ตาม นักเคมีเครื่องสำอางจึงได้พยายามค้นหาวิธีการจัดการกับไฟฟ้าสถิตที่เกิดขึ้น ด้วยการทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผมที่มีประจุบวกขึ้นมา เพื่อช่วยให้มีค่าเป็นกลาง ซึ่งอาจช่วยป้องกันผมไฟฟ้าสถิตได้ วิธีรับมือและแก้ไขไม่ให้เกิด ผมไฟฟ้าสถิต แก้ไขแบบรวดเร็วด้วยการใช้น้ำลูบผม ใช้ปลายนิ้วจุ่มน้ำ หรือหยดน้ำลงที่ปลายนิ้ว จากนั้นลูบน้ำให้ทั่วเส้นผม วิธีนี้ช่วยทำให้เส้นผมนั้นมีค่าประจุเป็นกลาง และอาจไม่เกิดผมไฟฟ้าสถิต เลือกใช้แชมพูที่ให้ความชุ่มชื้น  วิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดการผมหยิกและทำให้อยู่ทรง คือ ทำให้ผมชุ่มชื้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การสระผมด้วยแชมพูที่ให้ความชุ่มชื้น สามารถช่วยต่อสู้กับผมแห้ง ทั้งยังคืนความสมดุลตามธรรมชาติให้แก่หนังศีรษะ เพราะมันมีทั้งน้ำมันและความชุ่มชื้น ใช้มอยส์เจอไรเซอร์  การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ทาหน้ามาทาลงบนเส้นผม อาจช่วยหล่อลื่นเส้นผม ลดปัญหาผมแห้ง และช่วยเพิ่มประจุบวกให้กับเส้นผม ลดการเกิดไฟฟ้าสถิต ทั้งยังช่วยป้องกันเส้นผมและช่วยลดการแตกหักของเส้นผมด้วย เลิกใช้หวีพลาสติก การใช้หวีพลาสติกในการหวีอาจทำให้ผมเกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่ายขึ้น อาจลองใช้หวีโลหะแทน เนื่องจากโลหะมีค่าการนำไฟฟ้ามากกว่าและจะทำให้ประจุไฟฟ้าที่สะสมอยู่ในเส้นผมไหลออก ซึ่งเป็นการลดปริมาณของไฟฟ้าสถิต ลองหันมาเลือกใช้แปรงหวีผมแบบคริกเก็ต (Cricket Hair Brush) ในการหวีผม เนื่องจากแปรงคริกเก็ตมีน้ำหนักเบาและมีด้ามจับที่ทำจากยาง อาจช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิตในเส้นผมได้ เลือกไดร์เป่าผมระบบไอออนิก  การใช้ไดร์เป่าผมที่มีความร้อน […]

การใช้ น้ำมันมะพร้าวหมักผม อาจช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี เงางาม มีน้ำหนัก และอาจช่วยลดการขาดหลุดร่วงได้ เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวสามารถซึมลึกเข้าสู่ในเส้นผมเพื่อช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นให้เส้มผมได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้น้ำมันมะพร้าวในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจส่งผลให้ผมขาดหลุดร่วงได้ [embed-health-tool-bmi] ประโยชน์ของการใช้ น้ำมันมะพร้าวหมักผม คนไทยนั้นรู้จักกับน้ำมันมะพร้าวมาเนิ่นนาน เพราะเป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย ทั้งเพื่อการประกอบอาหาร งานฝีมือ รวมถึงยังใช้เป็นเคล็ดลับในการบำรุงร่างกายและเพื่อการดูแลตนเองได้อีกด้วย โดยหนึ่งในประโยชน์ดี ๆ ของน้ำมันพร้าว คือ ช่วยในการบำรุงเส้นผม ดังนี้ น้ำมันมะพร้าว เป็นน้ำมันสกัดจากพืชที่อุดมไปด้วยกรดไขมันสายกลาง (Medium Chain Fatty Acids หรือ MCFAs) ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย และสารต้านจุลชีพ ที่มีประโยชน์ช่วยในการบำรุงร่างกาย  น้ำมันมะพร้าว มีกรดลอริก (Lauric Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเช่นเดียวกับที่พบอยู่ในน้ำนมแม่ โดยกรดลอริกจะทำหน้าที่สำคัญช่วยป้องกันการสูญเสียโปรตีนในเส้นผม  ด้วยโครงสร้างของน้ำมันมะพร้าว จึงทำให้สามารถจะแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมได้อย่างล้ำลึก สามารถบำรุงเส้นผมได้อย่างทั่วถึง ตั้งแต่โคนจรดปลายของเส้นผม วิธีการใช้น้ำมันมะพร้าวหมักผม สำหรับการใช้น้ำมันมะพร้าวหมักผมและบำรุงเส้นผมให้เงางามนั้น ควรต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรชโลมทีละมาก ๆ เพราะจะทำให้น้ำมันเยิ้มไปทั่วทั้งหนังศีรษะและเส้นผม ทำให้เสียปริมาณของน้ำมันมะพร้าวไปเปล่า ๆ การใช้น้ำมันมะพร้าวกับเส้นผมที่ถูกต้อง ควรทำโดยการค่อย ๆ ชโลมไล่ระดับไปด้วยปริมาณทีละ 1 ช้อนชา จนกว่าจะชโลมทั่วทั้งเส้นผม […]

ผมบาง อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ความเครียด การสระผมมากเกินไป การมัดผม การอาบน้ำร้อน การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็น ปัจจัยเสี่ยงผมบาง ที่ทำให้ผมขาด หลุดร่วง และเกิดปัญหาผมบาง การดูแลสุขภาพผมอย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ อาจช่วยแก้ปัญหาผมบาง และทำให้ผมมีสุขภาพดียิ่งขึ้น [embed-health-tool-bmi] ปัจจัยเสี่ยงผมบาง มีอะไรบ้าง ความเครียด สาเหตุหลัก ๆ ที่มีส่วนทำให้ผมร่วงจนผมบาง ก็คือความเครียด เพราะความเครียดอาจเพิ่มระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งอาจส่งผลทำให้เส้นผมที่หนังศีรษะเริ่มหลุดร่วงลงมา การอาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น การอาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่ม อาจทำให้เส้นผมขาดความชุ่นชื้น ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะเกิดอาการแห้ง ซึ่งหนังศีรษะและเส้นผมที่เกิดอาการแห้งจะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เส้นผมหลุดร่วง จนกลายเป็นปัญหาผมบางตามมา การมัดผมแน่นจนเกินไป การมัดผมหรือรวบตึงหรือแน่นจนเกินไป มีโอกาสสูงที่จะทำให้รูขุมขนที่หนังศีรษะเกิดการตึงตัวและได้รับความเสียหายจนทำให้เส้นผมต้องหลุดร่วง หนังศีรษะได้รับความร้อนมากเกินไป จะด้วยความร้อนจากแสงแดด ความร้อนจากอุปกรณ์ทำผม หรือคลื่นความร้อนจากสิ่งใดก็แล้วแต่ ถ้าหากหนังศีรษะและเส้นผมได้รับไอความร้อนนั้นเป็นระยะเวลานาน ๆ หรือติดต่อกันเป็นประจำ ก็จะมีผลให้หนังกำพร้าที่บริเวณหนังศีรษะเกิดความเสียหายและบางลง จนเป็นสาเหตุให้เกิด ปัญหาผมบาง ผลข้างเคียงจากยารักษาโรค ยารักษาโรคที่ใช้รักษาอาการทางสุขภาพบางชนิด อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิด ปัญหาผมบาง เช่น ยารักษาอาการซึมเศร้า ยาลดความดัน ยาต้านอาการวิตกกังวล เป็นต้น และถ้าหากผลข้างเคียงดังกล่าวไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ควรปรึกษาคุณหมอและเภสัชกรถึงการรับมือกับผลข้างเคียงหรืออาจขอเปลี่ยนยารักษาโรค ใช้หวีที่ไม่เหมาะสม การเลือกหวี ก็มีส่วนสำคัญต่อสุขภาพของเส้นผมและหนังศีรษะเช่นกัน โดยเฉพาะหวีที่เป็นโลหะ เพราะเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความร้อนและการเสียดสีขณะที่หวีผมได้ ซึ่งหวีพลาสติกอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ควรเลือกหวีที่มีลักษณะโค้งมน มีช่องว่างระหว่างหวีที่ไม่เล็กจนเกินไป เพราะเสี่ยงจะทำให้เส้นผมเกิดการพันติดกับหวี และต้องออกแรงดึงจนเสี่ยงจะทำให้ผมขาดและร่วงได้ ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่ไม่เหมาะสม ผลิตภัณฑ์สำหรับการบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมที่วางขายกันทุกวันนี้ มีหลากหลายยี่ห้อให้เราได้เลือกซื้อและนำมาใช้ แต่ไม่ใช่ทุกผลิตภัณฑ์ที่จะเหมาะสมกับสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผม ดังนั้น […]

สุขภาพเส้นผม เป็นอีกเรื่องที่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายควรให้ความใส่ใจ เพราะหากสุขภาพเส้นผมไม่แข็งแรง ผมแห้งแตกปลาย ขาดหลุดร่วงง่าย ก็อาจทำให้เกิดปัญหาต่อหนังศีรษะและเส้นผม นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความมั่นใจอีกด้วย กล้วย เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่มากมาย ทั้งโภชนาการและรสชาติ ที่อร่อย หอม หวาน ไม่เพียงแต่จะทำให้นิยมรับประทาน กล้วยยังสามารถใช้ในการบำรุงผมได้อีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลของ กล้วย บำรุงเส้นผม มาฝากกันค่ะ ประโยชน์ของ กล้วย บำรุงเส้นผม  กล้วย ได้รับการวิจัยและทดลองว่ามีคุณสมบัติทางโภชนาการและทางเคมี ที่สามารถนำมาบำรุงเส้นผมได้อย่างหลากหลายวิธี ดังนี้ ช่วยบำรุง ลดผมชี้ฟู กล้วยมีส่วนผสมของซิลิก้า (Silica) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยทำให้เกิดความชุ่มชื่น นอกจากนี้ซิลิก้ายังช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนนั้นเป็นโปรตีนที่ส่วนช่วยให้เส้นผมมีน้ำหนัก สุขภาพแข็งแรงขึ้น ซึ่งครีมนวดผมส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมของซิลิก้าอยู่ด้วย ช่วยลดรังแค จากงานวิจัยพบว่า ในกล้วยนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระและมีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งสาเหตุของการเกิดรังแคนั้น มาจากการระคายของผิวหนัง ผิวหนังแห้ง เชื้อรา และแบคทีเรีย การใช้ กล้วย บำรุงเส้นผม นั้นจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังไม่แห้ง และยังช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย การใช้กล้วยในการบำรุงผมจึง มีคุณสมบัติในการช่วยบรรเทาการเกิดรังแคได้ ช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม สารต้านอนุมูลอิสระของกล้วยนั้น สามารถซึมผ่านหนังศีรษะและเส้นผมได้ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่มีในกล้วยนั้นจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเส้นผม ลดการขาดหลุดร่วง เปราะบางของเส้นผม ที่สำคัญยังช่วยให้รูขุมขนมีความแข็งแรงทำให้ผมหลุดร่วงน้อยลง สูตรมาสก์กล้วยบำรุงเส้นผม สูตรมาสก์ผมด้วยไข่และกล้วย ส่วนผสมสำหรับการทำมาสก์ผมง่ายๆ อย่างกล้วยและไข่ เป็นวัตถุดิบที่สามารถหาได้ง่าย […]

โบท็อกซ์ผม (Hair Botox) เป็นวิธีการบำรุงเส้นผมรูปแบบหนึ่ง โดยการเคลือบเส้นผมด้วยเคราติน เพื่อช่วยเติมเต็มเส้นผมที่บอบบาง ให้แข็งแรงและดูเงางาม อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาวิธีการทำโบท็อกซ์ผมให้ละเอียด หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญการทำโบท็อกซ์ผม เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ [embed-health-tool-bmi] โบท็อกซ์ผม คืออะไร? การโบท็อกซ์ผม จะช่วยเติมเต็มเส้นผม ทำให้ผมเรียบเนียน สร้างเส้นผมให้สวยงามยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยทำให้เส้นผมที่เสีย กลับมาเงางาม และดูมีสุขภาพดีขึ้น แต่ทั้งนี้การทำโบท็อกซ์ผมนั้น ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and Drug Administration หรือ FDA) การโบท็อกซ์ผม เป็นการบำบัดแบบลึก โดยการเคลือบเส้นใยผมด้วยฟิลเลอร์ (Filler) เช่น เคราติน นอกจากนั้นมันยังสามารถรักษาเส้นผมที่แตกหักหรือบอบบางแต่ละเส้น รวมถึงเติมเต็มเส้นผมในบริเวณที่ผมบาง เพื่อให้เส้นผมดูเต็มและเงางามมากขึ้น สำหรับส่วนผสมของโบท็อกซ์ผมก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ละผลิตภัณฑ์ แต่โดยปกติแล้วจะมีส่วนผสมต่างๆ เหล่านี้ผสมอยู่ด้วย น้ำมันคาเวียร์ (Caviar Oil) เปปไทด์ BONT-L วิตามินบี 5 วิตามินอี คอลลาเจนคอมเพล็กซ์ (Collagen Complex) ทั้งนี้ การโบท็อกซ์ผมสามารถไปทำที่ร้าน หรือซื้อผลิตภัณฑ์กลับไปใช้งานที่บ้านก็ได้ โดยแชมพูสระผมเพื่อทำการเปิดเกล็ดผม จากนั้นนำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของโบท็อกซ์มานวดลงบนเส้นผมตั้งแต่รากไปจนจรดปลายผม แล้วทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 20-90 นาที […]

ผมแตกปลาย หมายถึงปัญหาเส้นผมที่แห้งเสีย และมีรอยแยกแตกบริเวณส่วนปลายเส้นผม อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การแปรงผมมากเกินไป ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม ความเครียด การมัดผมแน่นจนเกินไป หากมีปัญหาผมแตกปลายแต่ไม่อยากเล็มผมทิ้งไป อาจใช้วิธีการบำรุงเส้นผมเพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมให้กลับมามีสุขภาพดี [embed-health-tool-bmi] ผมแตกปลาย เกิดขึ้นได้อย่างไร หลายคนคงสงสัยว่าผมแตกปลายนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ดังนั้น ลองมาดูสาเหตุของผมแตกปลายกันดีกว่า ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดผมแตกปลาย มีดังนี้ ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมและจัดแต่งทรงผม ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ทำสี ดัดผม หรือยืดเส้นผม นั้น มีสารเคมีที่สามารถทำให้เส้นผมอ่อนแอ และทำให้เส้นผมแตกหักได้ นอกจากนั้นแล้วแชมพูบางชนิด ก็สามารถทำให้ผมแตกหักง่าย และเปราะบางได้เช่นกัน จากการศึกษาในปี 2014 รายงานว่า ค่าความเป็นกรด (pH) ของแชมพูอาจส่งผลกระทบต่อการแตกหักของเส้นผม นอกจากนี้ แชมพูบางชนิดยังมีสภาพเป็นด่าง ส่งผลให้เกิดประจุบบนเส้นผม จากนั้นมันจะสร้างแรงเสียดทานที่มากขึ้นระหวางเส้นผม จนอาจนำไปสู่การแตกหักของเส้นผมได้ แปรงผมมากเกินไป หลายๆ คนมักเคยได้ยินว่าการแปรงผม 100 ครั้งต่อวัน ส่งผลดีต่อสุขภาพผม แต่ความจริงแล้ว การแปรงผมมากเกินไป อาจทำให้เกิดการแตกปลายได้ ความจริงแล้วคนเราไม่จำเป็นต้องแปรงผมมากเกินไป เนื่องจากการแปรงผมเป็นเพียงการจัดแต่งทรงผมเท่านั้น แต่หากต้องการแปรงผมควรเลือกใช้แปรงที่มีฟันกว้าง สำหรับผู้ที่มีผมแห้ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้แปรงพลาสติก เปลี่ยนไปใช้แปรงที่มีขนแปรงธรรมชาติแทน ความร้อนและการขาดความชุ่มชื้น การใช้ความร้อนกับเส้นผม อาจทำให้ความชื้นออกจากเส้นผมไวขึ้น แต่มันอาจจะส่งผลให้เส้นผมแตกปลายได้ แต่ความร้อนที่ที่ทำให้เส้นผมแตกปลายนั้นไม่ได้มีแต่ความร้อนจากไดร์เป่าผมเพียงอย่างเดียว แต่สภาพอากาศร้อนก็สามารถทำให้เส้นผมแห้ง […]

คิ้ว ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งบนใบหน้าที่สาวๆ จะต้องบรรจงเขียนให้ออกมาอย่างสวยงาม เข้ากับรูปหน้าของแต่ละคน หากวันใดที่สาวๆ ปล่อยให้คิ้วโล้น ใบหน้าก็คงจะโล่งไม่น่าดู การมีขนคิ้วจึงเป็นหนึ่งที่สาวๆ หลายคนปรารถนา เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเขียนคิ้วมากนัก วันนี้ Hello คุณหมอ มีเคล็ดลับในการ ดูแลขนคิ้วด้วยน้ำมันมะพร้าว มาฝากกันค่ะ ดูแลขนคิ้วด้วยน้ำมันมะพร้าว เป็นวิธีที่ดีหรือไม่ น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่มีส่วนช่วยในการบำรุงขนคิ้ว เพราะน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยบำรุงและปกป้องขนคิ้ว การใช้น้ำมันมะพร้าวบริเวณใบหน้าและดวงตา ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความอ่อนโยนนั้นมีความปลอดภัย น้ำมันมะพร้าวจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีความปลอดภัยในการใช้บำรุงขนคิ้วแทนสารสกัดที่อาจมีสารเคมีอยู่ด้วย ป้องกันการหลุดร่วง น้ำมันมะพร้าวมีส่วนช่วยในการป้องกันการขาดหลุดร่วงของเส้นขน จากงานวิจัยในปี 2003 พบว่าน้ำมันมะพร้าวมีส่วนช่วยในการลดการสูญเสียโปรตีนของเส้นขน จากการทดสอบโดยให้กลุ่มทดลองใช้น้ำมันมะพร้าวชโลมบนหนังศีรษะและเส้นผม หลังสระผม ซึ่งการทดลองนี้สามารถใช้ได้เช่นเดียวกันกับขนคิ้ว การทดลองนี้ชี้ให้เห็นว่าน้ำมันมะพร้าวช่วยทำให้เส้นขนสูญเสียโปรตีนน้อยลง และทำให้เส้นผมหลุดร่วงน้อยลง จึงทำให้คิ้วนั้นหนาขึ้นเพราะลดการขาดหลุดร่วง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น น้ำมันมะพร้าวถือเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์รูปแบบธรรมชาติที่มีส่วนช่วยในการบำรุงขนได้ดีกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ จากงานวิจัยพบว่าน้ำมันมะพร้าวจะซึมเข้าไปในเส้นขนได้ดีกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ และน้ำมันมะพร้าวช่วยทำให้เส้นขนเสียความชุ่มชื้นได้ช้าลง ทำให้มีขนคิ้ว มีความแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้น ช่วยฆ่าแบคทีเรีย ผิวหนังเป็นที่อยู่ของเชื้อราและแบคทีเรียต่างๆ มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือชี้ให้เห็นว่า กรดไขมันที่พบได้ในน้ำมันมะพร้าว เช่น กรดลอริก (Lauric acid) เป็นกรดที่มีคุณสมบัติในการป้องกันและต่อต้านเชื้อราและแบคทีเรียต่างๆ ที่จะทำร้ายร่างกายได้ นอกจากนี้การใช้น้ำมันมะพร้าวในการทาบริเวณคิ้วและรอบๆ ดวงตายังช่วยป้องกันผิวหนังจากโรคผิวหนังได้อีกด้วย  วิธี ดูแลคิ้วด้วยน้ำมันมะพร้าว อย่างง่ายๆ วิธีการใช้น้ำมันมะพร้าวในการเพิ่มขนคิ้วสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความชอบในแต่ละคน โดยปกติแล้วเซรั่มบำรุงคิ้วส่วนใหญ่มักจะมีอุปกรณ์อย่างเช่น แปรง ที่ช่วยให้สะดวกในการใช้ แต่น้ำมันมะพร้าวบางครั้งก็อาจจะไม่มีอุปกรณ์ช่วยในการใช้ แต่การใช้น้ำมันมะพร้าวก็ไม่ได้ยาก เพียงใช้นิ้วที่สะอาดหรือสำลีก้านก็สามารถทำได้ วิธีการใช้น้ำมันมะพร้าว […]

วิตามินอี เป็นหนึ่งในสารประกอบที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมความงามหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น แป้งฝุ่นอัดแข็ง ลิปบาล์ม น้ำมันใส่ผม หรือแม้แต่กระทั่งแชมพู ครีมนวด ทั้งนี้ หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินอีจะทำให้ผมสวยสลวยได้อย่างไร และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง จำเป็นที่คนรักผมควรใส่ใจและหาข้อมูลเพื่อจะได้มั่นใจหากต้องการใช้วิตามินอี บำรุงผม เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ วิตามินอี บำรุงผม   วิตามินอี นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิตามินที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยในการลดความเสียหายของเซลล์ในร่างกายจากอนุมูลอิสระและช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกาย ผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยงามหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ครีมบำรุงผิว แป้งฝุ่นอัดแข็ง หรือแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผมก็มักจะมีวิตามินอี เป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญ วิตามินอี ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวเพื่อช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอยแห่งวัย การอักเสบ และความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด สารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมันอย่างวิตามินอีนั้นมีความสำคัญต่อการบำรุงผิว และมีส่วนช่วยช่วยในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับผิว นอกจากคุณประโยชน์ด้านผิวหนังแล้ว วิตามินอียังได้รับการยกย่องว่าเป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยป้องกันผมขาดหลุดร่วง ช่วยให้เส้นผมที่เสียหายจากการถูกดัด ทำสี กลับมามีน้ำหนักส่องประกายเงางามเช่นเดิม วิตามินอี บำรุงผม ได้อย่างไรบ้าง วิตามินอี มีส่วนช่วยบำรุงผม และมีประโยชน์ต่อสุขภาพเส้นผม ดังต่อไปนี้ ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนเลือดที่หนังศีรษะ วิตามินอีมีส่วนช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งมีส่วนช่วยในการปรับปรุงสุขภาพของเส้นผม และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและช่วยเพิ่มปริมาณรูขุมขนได้ ช่วยเพิ่มความสมดุลในการผลิตน้ำมันบนหนังศีรษะ วิตามินอีมีความสำคัญในการสร้างเกราะป้องกันบนพื้นผิว ซึ่งเกราะป้องกันนี้มีส่วนช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้น ซึ่งสาเหตุที่ผิวแห้งกร้านอาจเกิดมาจากการขาดวิตามินอี น้ำมันอโวคาโดที่อุดมไปด้วยวิตามินอีนั้น ช่วยให้หนังศีรษะมีความชุ่มชื่น และอาจช่วยป้องกันการผลิตน้ำมันส่วนเกินที่หนังศีรษะอีกด้วย เพิ่มความเงางามให้เส้นผม เส้นผมที่แห้งกรอบ ชี้ฟู ขาดความเงางามนั้นเกิดจากการได้รับความเสียหาย เมื่อชั้นไขมันที่ปกคลุมอยู่ด้านนอกของเส้นผมถูกทำลายจนหมด เส้นผมจะขาดความเงางาม จนส่งผลให้เส้นผมเกิดความแห้งเสีย ชี้ฟู จนยากที่จะจัดแต่งทรงผม น้ำมันวิตามินอี เป็นสารสกัดที่มีส่วนช่วยในการป้องกันเส้นผมจากความเสียหาย เพิ่มความแข็งแรงใหหนังศีรษะ วิตามินอีมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวหนัง ซึ่งรวมถึงหนังศีรษะด้วย […]

โรคชันนะตุ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งบนหนังศีรษะ มักทำให้เกิดอาการคันศีรษะอย่างรุนแรง ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ หนังศีรษะตกสะเก็ด เป็นไข้ ต่อมน้ำเหลืองบวม ทั้งนี้ หากสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นและรีบทำการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที ก็จะสามารถกลับมามีหนังศีรษะและเส้นผมสุขภาพดีดังเดิมได้ โรคชันนะตุ (Tinea capitis) โรคชันนะตุ  เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งของหนังศีรษะและเส้นผม เป็นโรคติดต่อที่มักเกิดจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งหรือติดต่อกันโดยใช้ของร่วมกัน เช่น หวี ผ้าเช็ดตัว หมอน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่มักพบในช่วงเด็กหัดเดินและเด็กวัยเรียน ผู้ป่วยมักมีอาการคัน ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ หนังศีรษะตกสะเก็ด สาเหตุของโรคชันนะตุ โรคชันนะตุเกิดจากการติดเชื้อราชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “เดอร์มาโทไฟต์ (Dermatophytes)” เชื้อราชนิดนี้อาศัยอยู่บนผิวชั้นนอกหนังศีรษะและเส้นผม โดยสาเหตุการติดเชื้อรา เกิดจากพฤติกรรมดังต่อไปนี้ การสัมผัสผิวหนังคนที่ติดเชื้อ ร่างกายอาจได้รับเชื้อโรคชันนะตุจากการไปสัมผัสผิวหนังของผู้ติดเชื้อ การสัมผัสสัตว์ที่ติดเชื้อ ซึ่งสัตว์ที่พบโรคชันนะตุ ได้แก่ วัว แพะ ม้า หมู โดยเฉพาะลูกสุนัขและแมว ผู้ที่ใกล้ชิดชอบสัมผัสสัตว์เลี้ยงอาจติดเชื้อจากการสัมผัส การสัมผัสสิ่งของ เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับวัตถุที่มีเชื้อจากมนุษย์หรือสัตว์ที่ติดเชื้อติดอยู่ เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอน หวี  อาการที่บ่งบอกว่า เสี่ยงเป็นโรคชันนะตุ ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ เส้นผมขาดง่าย เปราะบางหลุดง่าย เส้นผมที่หลุดออกจากหนังศีรษะจะเห็นเป็นจุดสีดำ ๆ หนังศีรษะตกสะเก็ด พื้นที่ตกสะเก็ดมีสีเทาหรือแดง […]

ผู้ชายหัวล้าน อาจเกิดได้กับผู้ชายทุกวัย โดยอาจมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม อาการเจ็บป่วย การใช้ยาบางชนิด การขาดสารอาหาร ความเครียด ซึ่งภาวะหัวล้านอาจทำให้เสียความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม หากต้องการแก้ไขปัญหาหัวล้าน ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อขอคำปรึกษาและรับการรักษาที่เหมาะสม [embed-health-tool-bmr] ผู้ชายหัวล้าน เกิดจากอะไร ผู้ชายหัวล้าน อาจเกิดจากปัจจัยหลาย ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์หรือยีนส์หัวล้าน มลภาวะ รวมไปถึงฮอร์โมนเพศชายอย่างเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ที่ไหลเวียนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงหนังศีรษะ โดยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนบริเวณหนังศีรษะจะถูกเปลี่ยน เป็นฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone หรือ DHT) ซึ่งอยู่ในเซลล์เส้นผมส่งผลให้เส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่มีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ ตามอายุ เมื่อเส้นผมอ่อนแอลงก็จะส่งผลทำให้ผู้ชายหัวล้าน อย่างไรก็ตาม หากผู้ชายไม่มียีนส์หัวล้านก็จะไม่ส่งผลเกิดภาวะหัวล้าน ปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ชายหัวล้าน สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ชายหัวล้าน อาจมีดังนี้ พันธุกรรม โดยส่วนใหญ่ สาเหตุที่ทำให้ผู้ชายหัวล้านมักเกิดจากโรคผมบางจากพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia) โดยผมจะเริ่มบางบริเวณกระหม่อมด้านบน และค่อย ๆ ร่วงจนหมดไป จนเป็นเหมือนวงแหวนล้อมรอบหัวล้าน ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่อาจถ่ายทอดจากครอบครัวทั้งฝั่งพ่อ และครอบครัวฝั่งแม่ อย่างไรก็ตาม รูปแบบหัวล้านเช่นนี้ ยังต้องมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้รูขุมขนเล็กลง และอายุไขของรูขุมขนสั้นลง จนทำให้ผู้ชายหัวล้าน ผมร่วงฉับพลัน (Telogen Effluvium) ผมร่วงฉับพลัน เป็นภาวะที่ทำให้เส้นผมที่อยู่ในระยะเติบโตมีอายุสั้นลง จนทำให้เส้นผมหลาย ๆ […]