สุขภาพผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะภายนอกที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในร่างกาย ผิวหนังนั้นมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้งเป็นเกราะป้องกันจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือช่วยควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับการมี สุขภาพผิว ที่ดี และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย เพื่อการปกป้องดูแลผิวของคุณให้ดียิ่งขึ้น ได้ที่นี่

สนับสนุนโดย:

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพผิว

ล้างหน้าตามแนวขน เคล็ดไม่ (ลับ) สำหรับคนเป็นสิว

การ ล้างหน้าตามแนวขน เป็นอีกหนึ่งศาสตร์การล้างหน้าที่มีส่วนช่วยลดการอุดตันของสิว กระชับรูขุมขนและช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย บทความนี้ Hello คุณหมอ จึงนำเคล็ดลับ หน้าสวย ไร้สวย ด้วยการล้างหน้าตามแนวขน มาฝากกันค่ะ จะมีรายละเอียดอย่างไร ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลย ล้างหน้าตามแนวขน เคล็ดไม่ (ลับ) สำหรับคนเป็นสิว ล้างหน้าตามแนวขน เป็นอีกหนึ่งศาสตร์การล้างหน้า ที่ถูกคิดค้นโดย นายแพทย์สมนึก อมรสิริพาณิชย์ ซึ่งกล่าวว่า ท่อน้ำมันจะมีแนวเดียวกับโพรงขน การล้างหน้าไปตามทิศทางเดียวกันกับโพรงขนจะช่วยให้น้ำมันไหลออกมาทิศทางเดียวกัน จึงทำให้ไม่เกิดการอุดตันของสิว หากล้างหน้าไม่ตรงทิศทาง อาจส่งผลให้สิ่งสกปรกออกมาไม่หมด เพิ่มโอกาสการเป็นสิวอุดตันได้  4 ขั้นตอนการล้างหน้า ตามแนวขน อย่างถูกต้องและถูกวิธี เคล็ดลับง่าย ๆ ในการล้างหน้าตามแนวขน อย่างถูกต้องและถูกวิธี มีดังต่อไปนี้ ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากการนำโฟมล้างหน้าผสมกับน้ำเล็กน้อยให้เกิดฟอง โดยเริ่มจากถูบริเวณหน้าผาก จากบริเวณตรงกลางหน้าผากออกไปด้านช้าง ขั้นตอนที่ 2 หลังจากนั้นถูไล่ลงมาบริเวณจมูก ขั้นตอนที่ 3 เริ่มใหม่ที่บริเวณแก้ม ถูแนวเฉียง ๆ ลงมาจนถึงบริเวณขากรรไกร ขั้นตอนที่ 4 ลำดับสุดท้ายบริเวณริมฝีปากบนลงมาถึงบริเวณคาง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด และซับให้แห้ง  ข้อควรรู้เกี่ยวกับการล้างหน้า ควรล้างหน้าเป็นประจำทุกวันอย่างน้อยวันละ […]

หมวดหมู่ สุขภาพผิว เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพผิว

สิว

สิวขึ้นหน้าผาก เกิดจากอะไร ป้องกันได้อย่างไร

สิวเป็นปัญหาสุขภาพผิวที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย และหนึ่งในบริเวณที่มักพบสิว คือ บริเวณหน้าผาก การเรียนรู้ว่า สิวขึ้นหน้าผาก จากสาเหตุใด และมีวิธีใดบ้างที่อาจป้องกันสิวขึ้นหน้าผากได้อย่างปลอดภัย อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวที่หน้าผาก และช่วยให้สิวที่เป็นอยู่ดีขึ้นได้ ปัญหาผิวบริเวณหน้าผากที่พบได้บ่อย ผิวหนังบริเวณหน้าผาก เป็นส่วนที่สามารถพบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพผิวได้หลายชนิดเช่นเดียวกับผิวหนังบริเวณอื่น ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากอาการแพ้หรือการระคายเคือง โดยปัญหาผิวบริเวณหน้าผากที่พบบ่อย เช่น สิวขึ้นหน้าผาก หน้าผากเป็นรอยแดง หน้าผากบวม หน้าผากเป็นรอยไหม้ อาการคัน หน้าผากเป็นแผลหนอง หรือมีแผลเปิด ผิวแห้งและลอก ผดผื่น สิวขึ้นหน้าผาก เกิดจากอะไร สาเหตุที่ทำให้สิวขึ้นหน้าผากมักคล้ายคลึงกับสาเหตุของสิวในบริเวณอื่น เช่น ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร  ปัญหาเกี่ยวกับตับ ความเครียดสะสม ปัญหาด้านการนอนหลับ ความมันบนใบหน้า อาการแพ้ การระคายเคือง สิ่งสกปรกอุดตัน เป็นต้น แต่ปัจจัยดังต่อไปนี้ อาจทำให้เกิดสิวที่หน้าผากโดยเฉพาะ เส้นผม ผิวหนังบริเวณหน้าผากมักสัมผัสกับเส้นผมอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในผู้ที่ทำผมทรงหน้าม้าหรือผมปรกหน้า และในบางครั้ง สิ่งสกปรกหรือความมันส่วนเกินที่อยู่บนเส้นผมอาจไปสะสมอยู่ที่หน้าผากซึ่งสัมผัสกับเส้นผม และหากทำความสะอาดผิวหน้า หรือผิวบริเวณหน้าผากไม่ดีพอ ก็อาจกระตุ้นให้สิวขึ้นหน้าผากได้ ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมบางชนิดอาจมีสารประกอบที่ก่อให้เกิดการระคายที่ผิวหนังบริเวณหน้าผาก หรือผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจมีส่วนในการเพิ่มการผลิตซีบัมหรือน้ำมันบนหนังศีรษะ (Sebum) จนอาจส่งผลให้ผมมันหรือหน้ามันเกินไป และน้ำมันส่วนเกินอาจผสมกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกบนผิวหนัง จนทำให้เกิดสิวได้ วิธีป้องกันสิวขึ้นหน้าผาก วิธีเหล่านี้อาจช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงในการเกิดสิวบริเวณหน้าผากได้ ระวังเรื่องความอับชื้น ควรระมัดระวังเรื่องการสวมหมวกหรือสวมอุปกรณ์ที่ศีรษะ เพราะอาจทำให้ศีรษะและบริเวณหน้าผากอับชื้น หรือมีเหงื่อหมักหมม ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวหนัง งดผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรงต่อผิวหรือก่อให้เกิดอาการอักเสบ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า […]


สุขภาพผิว

สครับกาแฟ มีประโยชน์อย่างไรต่อการดูแลผิวพรรณ

สครับกาแฟ เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการบำรุงผิวพรรณ มีคุณสมบัติที่ใคร ๆ ก็รู้จักกันดีว่าสามารถช่วยขัดผิวให้เรียบเนียน และยังหาซื้อได้ง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่า่ แท้จริงแล้ว สครับกาแฟมีสรรพคุณอื่น ๆ อีกหรือไม่นอกเหนือจากการสครับผิว และมีข้อควรระวังในการใช้อย่างไรบ้าง สครับกาแฟ คืออะไร กาแฟ นอกจากจะมีประโยชน์ในเรื่องการเพิ่มพลังงานและสร้างความตื่นตัวให้แก่ร่างกายแล้ว การนำกากกาแฟที่ถูกสกัดหลังจากการทำเครื่องดื่มมาทำเป็นสครับขัดผิว เพื่อปรับปรุงสุขภาพผิวนั้นถือได้ว่ามีข้อดีไม่น้อยกว่าการบริโภค เพราะสครับกาแฟมีสารประกอบฟีนอล (Phenol) ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านและซ่อมแซมผิวหนังที่ได้รับความเสียหายจากอนุมูลอิสระได้ เพราะภายในเมล็ดกาแฟนั้นมี กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid; HA) อีลาสติน (Elastin) และ คอลลาเจน (Collagen) ที่อาจมีบทบาทในการชะลอริ้วรอยก่อนวัย พร้อมทั้งบำรุงผิวให้แลดูกระชับเต่งตึง   ประโยชน์ของการใช้ สครับกาแฟ ขัดผิว สครับกาแฟบางยี่ห้อสามารถนำมาใช้สครับผิวได้ทั่วทั้งใบหน้าและร่างกาย ทั้งนี้ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง หรือปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้องวิธี  สครับกาแฟจะให้ประโยชน์ในการดูแลผิวพรรณหลายประการ ดังนี้ ลดการอักเสบของสิว และรอยดำ กรดคลอโรจีนิก (Chlorogenic acid ; CGA) ที่อยู่ในเมล็ดกาแฟ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองจนนำไปสู่การเป็นสิวได้ และอาจมีส่วนช่วยลดรอยดำ รอยแดงบนพื้นผิวหนังให้จางลง และอาจช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น ลดความหมองคล้ำ และดูแลผิวหลังการเผชิญแสงแดด การเผชิญกับแสงแดดย่อมเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากในชีวิตประจำวัน แต่หลังจากเผชิญกับแสงแดดหรือช่วงเวลาที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือหลังกลับมาจากการเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลในวันหยุด ควรดูแลและบำรุงผิวพรรณอย่างเร่งด่วน การใช้สครับกาแฟเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยได้ […]


สิว

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ระหว่างการ รักษาสิวหัวดำ

สิวหัวดำ คือตุ่มสิวเล็ก ๆ บนผิวหนังที่เกิดจากการอุดตันของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและไขมันที่สะสมอยู่ในรูขุมขน จนทำให้เกิดเป็นรอยจุดเล็ก ๆ สีดำบนใบหน้าและลำตัว อย่างไรก็ตาม การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในการ รักษาสิวหัวดำ อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิว และช่วยให้สิวหัวดำบรรเทาลงโดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ สิ่งที่ควรทำในการ รักษาสิวหัวดำ ทำความสะอาด การทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด ปราศจากคราบน้ำมัน และสิ่งสกปรก จะช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขน ที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิวหัวดำได้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดหน้าที่ปราศจากน้ำหอม และสามารถช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าได้อย่างหมดจด ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) เนื่องจากสารนี้จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก ไขมัน และเซลล์ผิวหนังที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน ทำให้ช่วยลดการเกิดสิวหัวดำ และสิวอุดตันอื่น ๆ ได้ ขัดใบหน้า การขัดหรือสครับใบหน้า จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ช่วยทำความสะอาดผิวหน้า จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน แต่อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรขัดผิวหน้าแรงหรือบ่อยเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดความระคายเคือง และยังอาจเป็นการกำจัดเซลล์ผิวมากจนเกินไป จนเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสิวอักเสบได้ ไม่ควรขัดหน้ามากเกินกว่าอาทิตย์ละครั้ง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สูตรที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน ในปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้า ครีมบำรุงหน้า หรือเครื่องสำอางต่าง ๆ ที่เป็นสูตรที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) ขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จะไม่มีส่วนผสมที่กระตุ้นให้เกิดการผลิตน้ำมันบนใบหน้า ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการอุดตันรูขุมขนบนใบหน้า และทำให้เกิดสิวหัวดำ ดังนั้น ก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลใบหน้า อย่าลืมอ่านฉลากและมองหาฉลากคำว่า Non-comedogenic ทุกครั้งนะคะ พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยลดระดับของความเครียดสะสม ที่เป็นตัวการในการทำให้เกิดสิว และกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนใบหน้า […]


สุขภาพผิว

โยคะ หน้า คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

โยคะ หน้า (Face Yoga)  คือ รูปแบบหนึ่งของการฝึกโยคะ โดยการกระตุ้นกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดบริเวณใบหน้า ช่วยลดการเกิดริ้วรอย  ทำให้ผิวหน้าดูกระชับ อ่อนกว่าวัย  นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอีกด้วย เช่น ช่วยในการบรรเทาความตึงเครียดบริเวณใบหน้า เพิ่มความผ่อนคลาย ทำให้รู้สึกสดชื่น [embed-health-tool-bmi] 3  ท่าบริหาร โยคะ หน้า เชื่อหรือไม่คะว่า เพียงโยคะใบหน้าทุกวันอย่างสม่ำเสมอวันละ 10-15 นาทีต่อวัน ก็จะเป็นการช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและเป็นการยกกระชับผิวหน้า ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนกว่าวัยได้  วันนี้ทางเราจึงนำ 3 ท่า บริหารใบหน้า แบบง่ายๆ มาฝากทุกคนกันค่ะ 1. ท่าบริหารกระชับหน้าผาก (Forehead Smoother) ท่าบริหารการกระชับหน้าผากจะช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าผากรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย ขั้นตอน: วางมือทั้งสองข้าง ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลาง วางไว้บริเวณกลางหน้าผาก ใช้แรงกดจากกึ่งกลาง เลื่อนไปด้านใดด้านหนึ่ง และหยุดตรงบริเวณขมับ ทำซ้ำ 4 รอบ 2. ท่าบริหารกระชับใบหน้า (Manual Face Lift) ท่าบริหารกระชับใบหน้าจะช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับ ปรับสมดุลระบบหมุนเวียนโลหิตบริเวณใบหน้า ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนกว่าวัย ขั้นตอน: วางฝ่ามือทั้งสองข้างไว้ที่บริเวณขมับ ดันฝ่ามือขึ้นไปด้านหลัง เพื่อยกด้านข้างของใบหน้าขึ้น ทำปากเป็นรูปตัวโอ วางขากรรไกรลง แล้วกดค้างทิ้งไว้ […]


โรคสะเก็ดเงิน

สะเก็ดเงินที่เล็บ (Nail Psoriasis)

สะเก็ดเงินที่เล็บ เป็นความผิดปกติของภูมิคุ้มกันในร่างกายเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งเกิดจากการทำงานของร่างกายที่สร้างเซลล์เร็วผิดปกติจนส่งผลให้ผิวหนังหนาผิดปกติ รวมทั้งในบางราย อาจทำให้เล็บเกิดความหนาผิดปกติ และมีสีที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ โรคสะเก็ดเงินที่เล็บ ไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่สามารถหายขาดได้ ทำได้เพียงดูแลตนเองและรักษาเพื่อประคองอาการ คำจำกัดความสะเก็ดเงินที่เล็บ คืออะไร สะเก็ดเงินเป็นโรคที่เกิดจากความบกพร่องของภูมิคุ้มกันเรื้อรัง ซึ่งสะเก็ดเงินจะทำให้เซลล์ใต้ผิวหนังเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยปกติแล้วเซลล์ผิวหนังนั้นจะสร้างขึ้นมาใหม่ทุกๆ 28-30 วัน แต่เมื่อเป็นโรคสะเก็ดเงิน การผลิตเซลล์ผิวหนังจะทำงานผิดปกติ โดยจะผลิตเซลล์เร็วขึ้นเป็นทุก ๆ 3-4 วัน จึงทำให้ผิวหนังหนาเป็นปื้น มีสีแดง และรู้สึกคัน ซึ่งสะเก็ดเงินสามารถเกิดที่เล็บได้ เรียกว่าสะเก็ดเงินที่เล็บ สะเก็ดเงินที่เล็บ พบได้บ่อยแค่ไหน โรคสะเก็ดเงิน เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องเรื้อรัง โดยผู้ที่มีปัญหาโรคสะเก็ดเงินนั้นมักจะเกิด สะเก็ดเงินที่เล็บมากถึงร้อยละ 35 แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไมจึงเกิดสะเก็ดเงินที่เล็บ แต่บางคนที่เป็นโรคสะเก็ดเงินไม่เกิดอาการที่เล็บ อาการอาการของโรค สะเก็ดเงินที่เล็บ อาการของโรคสะเก็ดเงินที่เล็บนั้นจะมีอาการที่หลากหลาย เช่น เล็บเป็นหลุม เล็บในร่างกายมนุษย์สร้างขึ้นจากเซลล์ที่ชื่อว่าเคราติน (Keratin) ซึ่งจะช่วยให้เล็บนั้นมีลักษณะเรียบและแข็ง แต่การเกิดสะเก็ดเงินที่เล็บนั้นทำให้สูญเสียเคราตินจนเกิดเป็นหลุมบนผิวเล็บ ซึ่งเกิดได้ทั้งเล็บมือและเล็บเท้า ซึ่งจำนวนหลุม ความตื้น ความลึกนั้นจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน เล็บเปิด อาการเล็บเปิดนั้นสามารถพบได้ทั่วไป แต่สำหรับคนที่เป็นโรคสะเก็ดเงินที่เล็บมักจะมีอาการเล็บเปิดที่เกิดจากแบคทีเรียเข้าไปทำลายเซลล์ใต้เล็บ จนทำให้เล็บมีการเปลี่ยนสี จากสีเหลือง สีขาว โดยเริ่มจากจากปลายเล็บลามมาจนถึงโคนเล็บ รูปร่างและความหนาเปลี่ยนแปลงไป สะเก็ดเงินนั้นเกิดจากการผลิตเซลล์ที่เร็วผิดปกติ จนทำให้เกิดปื้นหนา ซึ่งเมื่อเกิดสะเก็ดเงินที่เล็บ จะทำให้เกิดเส้นที่เล็บ และบางครั้งเล็บอาจผลิตเซลล์เร็วเกินไปจนทำให้เล็บนั้นทับซ้อนกันจนมีความหนาผิดปกติและมีรูปร่างเปลี่ยนแปลงไป สีเล็บเปลี่ยน โรคสะเก็ดเงินที่เล็บนั้น […]


สุขภาพผิว

ซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง สาเหตุ อาการ และการรักษา

ซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง (Sebaceous Cyst)  คือ ซีสต์ไขมันหรือซีสต์ของผิวหนังที่เกิดการแข็งตัวขึ้นทีละน้อยภายใต้ผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ซีสต์ไขมันใต้ผิวหนังมักจะไม่กลายเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็ง และสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเพื่อกำจัดก้อนซีสต์ออกไป รวมถึงการดูแลตัวเอง รักษาความสะอาดของผิว และตรวจร่างกายเป็นประจำ เพื่อช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี และลดความเสี่ยงของการเกิดโรค [embed-health-tool-”bmi”]             คำจำกัดความซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง (Sebaceous Cyst) คืออะไร ซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง (Sebaceous Cyst)  คือ ซีสต์ไขมันหรือซีสต์ของผิวหนังที่เกิดการแข็งตัวขึ้นทีละน้อยภายใต้ผิวหนัง โดยมีขนาด 1-5 เซนติเมตร พบได้บ่อยบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัว อย่างไรก็ตามไม่ต้องกังวลว่า ซีสต์ไขมันใต้ผิวหนังจะกลายเป็นเนื้อร้ายอย่างมะเร็ง หรือส่งผลกระทบต่อร่างกาย เพราะซีสต์ไขมันใต้ผิวหนังมักไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงใด ๆ พบได้บ่อยเพียงใด ซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง มักเกิดขึ้นบ่อยบริเวณใบหน้าและลำคอ อาการอาการซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง ผู้ป่วยที่มีซีสต์ไขมันใต้ผิวหนังขนาดใหญ่บริเวณใบหน้าและลำคอจะมีอาการเจ็บปวดและรู้สึกไม่สบายตัว โดยลักษณะของผู้ป่วยที่เป็นซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง จะมีอาการดังต่อไปนี้ ก้อนซีสต์มีเส้นผ่าสูงกลางขนาดใหญ่มากกว่า 5 เซนติเมตร เมื่อทำการผ่าออกแล้วกลับมีซีสต์ก้อนใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มีลักษณะของการติดเชื้ออื่นแทรกซ้อน เช่น มีรอยแดง มีอาการปวด มีหนอง สาเหตุสาเหตุของซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง ซีสต์ไขมันใต้ผิวหนังเกิดจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นต่อมไขมันที่ทำหน้าที่ผลิตไขมันที่คอยให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผมและผิวหนัง โดยซีสต์ใต้ผิวหนังเกิดความผิดปกติของน้ำมันภายใต้ผิวหนังที่ไม่สามารถออกไปสู่ผิวชั้นนอกได้จึงทำให้เกิดการอุดตันอยู่ในรูขุมขน นอกจากนี้ อาจเกิดจากบาดแผลที่ผิวหนัง การผ่าตัด สิว  รวมถึงสาเหตุอื่น ๆ ดังนี้ ต่อมไขมันผิดรูปร่าง เซลล์ผิวหนังเกิดความผิดปกติในระหว่างการผ่าตัด โรคทางพันธุกรรม เช่น ท่อต่อมไขมันผิดปกติหรือผิดรูปร่าง ท่อไขมันหรือต่อมเหงื่อเกิดการอุดตัน เซลล์ได้รับความเสียหายจากการผ่าตัด เช่น โรคการ์ดเนอร์ซินโดรม […]


สุขภาพผิว

เทคนิคลดเลือนริ้วรอยแบบธรรมชาติ ชะลอวัย มีอะไรบ้าง

เทคนิคลดเลือนริ้วรอยแบบธรรมชาติ เพื่อช่วยให้ผิวพรรณกลับมามีสุขภาพดีได้ง่าย ๆ สามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินในราคาแพง เพียงแต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการดูแลรักษาผิวหน้า รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหาร หากทำได้อาจช่วยกู้คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวพรรณ ชะลอวัย และสร้างความมั่นใจให้ทุกช่วงอายุ [embed-health-tool-bmr] เทคนิคลดเลือนริ้วรอยแบบธรรมชาติ แบบง่าย ๆ วิธีลดเลือนริ้วรอยแบบธรรมชาตินั้นสามารถทำได้ตั้งแต่วันนี้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคนิคหรือวิวัฒนาการทางการแพทย์สมัยใหม่ โดยปฏิบัติตามเทคนิคง่าย ๆ ดังนี้ หลีกเลี่ยงแสงแดด แสงแดดนั้นเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาผิวและริ้วรอยต่าง ๆ เนื่องจากในแสงแดดนั้นมีรังสี UV และความร้อน ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระจำนวนมาก และกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพ เกิดปัญหาฝ้า ผิวคล้ำ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัยอันควร วิธีป้องกันและลดเลือนริ้วรอย ควรพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดและรังสี UV เหล่านี้ รวมทั้งการทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน และควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด และพยายามใส่หมวก หรือสวมแว่นกันแดด เพื่อป้องกันการหยีตา หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและรอยตีนกาได้ อย่าล้างหน้าบ่อยเกินไป ยังมีความเชื่อที่ว่า การล้างหน้าบ่อย ๆ นั้นเป็นเรื่องดี เพราะทำให้หน้าไม่มัน และช่วยกำจัดสิ่งสกปรกออกไปจากไปหน้า แต่ที่จริงแล้ว การล้างหน้าบ่อย ๆ นั้นจะทำให้ผิวหน้าสูญเสียความชุ่มชื้นและน้ำมันตามธรรมชาติ ซึ่งน้ำมันตามธรรมชาติเหล่านี้ถือเป็นเกราะป้องกันผิวจากฝุ่นควันและมลภาวะอื่น ๆ ในอากาศ เมื่อสูญเสียน้ำมันเหล่านี้ มักทำให้หน้าแห้ง เสื่อมโทรม และเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น จึงควรล้างหน้าอย่างพอดี […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

โรคน้ำกัดเท้า หรือโรคฮ่องกงฟุต อาการ ปัจจัยเสี่ยง วิธีรักษา

โรคน้ำกัดเท้า (Athlete’s Foot) หรือโรคฮ่องกงฟุต (Hong Kong foot) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อราซึ่งพบได้บ่อยเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หรือหากต้องอยู่ในพื้นที่เปียกชื้น โรคนี้ถือเป็นโรคติดต่อ สามารถติดต่อจากการสัมผัสผิวหนังบริเวณที่ติดเชื้อ หรือสัมผัสกับสะเก็ดผิวหนังที่ติดอยู่ตามรองเท้า ผ้าเช็ดตัว พื้น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การรักษาสุขอนามัยให้ดีอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคนี้ได้ [embed-health-tool-heart-rate] โรคน้ำกัดเท้า คืออะไร โรคน้ำกัดเท้า (Athlete’s Foot) หรือเรียกอีกอย่างว่า โรคฮ่องกงฟุต (Hong Kong foot) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อรา พบมากในสภาพแวดล้อมที่ชื้นแฉะและอบอ้าว เช่น ห้องอาบน้ำ สระว่ายน้ำ บริเวณที่มีน้ำท่วมขัง อาการของโรคน้ำกัดเท้าที่พบบ่อย อาจมีดังนี้ รู้สึกคัน ระคายเคือง แสบ ที่ฝ่าเท้าหรือง่ามเท้า มีแผลขนาดเล็กที่ทำให้คัน ผิวหนังบริเวณเท้าแห้งแตก เล็บเท้าเปราะบาง เล็บเปลี่ยนสี เท้ามีกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์ ปัจจัยเสี่ยงโรคน้ำกัดเท้า แม้จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง หรือชื้นแฉะ แต่หากมีภาวะต่อไปนี้ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคน้ำกัดเท้าได้เช่นกัน เป็นโรคเบาหวาน มีเชื้อราที่เล็บ สวมถุงเท้าหรือรองเท้าที่คับหรือรัดจนเท้าอับชื้น และเสี่ยงเกิดเชื้อรา ไม่ทำความสะอาดรองเท้าบ่อย ๆ ทำให้มีคราบเหงื่อและคราบสกปรกสะสมในรองเท้า จนอาจทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ วิธีรับมือกับโรคน้ำกัดเท้า ผู้ที่มีอาการที่เป็นสัญญาณของโรคน้ำกัดเท้า ควรเข้ารับการรักษาโดยเร็ว เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

สบู่ ส่งผลอย่างไรต่อผิวบ้าง

สบู่ เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างน้ำมันและสารละลายด่าง ทำให้เกิดฟองลื่น ๆ ที่สามารถช่วยการทำความสะอาดและชำระล้างร่างกายให้ปราศจากเชื้อโรคได้ แต่การใช้สบู่ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวได้ เนื่องจากสบู่อาจลดสารแรงตึงผิวที่เป็นเกราะตามธรรมชาติของผิวหนัง ยิ่งโดยเฉพาะหากใช้สบู่ทำความสะอาดผิวบ่อย ๆ ก็อาจทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่นชื้น และส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวหนังได้ [embed-health-tool-bmi] สบู่ ทำงานอย่างไร การใช้สบู่มีมาตั้งแต่สมัยยุคโบราณ โดยเริ่มจากการนำไขมันจากสัตว์ มาผสมเข้ากับขี้เถ้า และเกิดเป็นสารที่สามารถช่วยชำระล้างคราบและสิ่งสกปรกได้ ในปัจจุบันนี้สบู่จะได้จากการใช้ไขมันพืช มาทำให้เกิดปฏิกิริยากับน้ำมัน และสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) ทำให้ได้สารที่สามารถละลายน้ำได้และเกิดฟอง กลายเป็นสบู่ที่เรารู้จักกันอยู่ในทุกวันนี้ หน้าที่หลักของสบู่ก็คือการกำจัดสิ่งสกปรก เช่น เหงื่อ ฝุ่น และไขมันที่เกาะอยู่บนผิวหนังให้ออกไป โดยการใช้สารลดแรงตึงผิว (surfactant) ที่สามารถละลายไขมันได้ สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกาะติดอยู่บนผิวหนังนั้น จะเกาะติดอยู่กับไขมันบนผิว สบู่จะทำหน้าที่ละลายไขมันนั้น ทำให้ไขมันรวมไปจนถึงสิ่งสกปรกนั้นไม่สามารถเกาะอยู่บนชั้นผิวหนังได้ และทำให้สามารถล้างออกได้ง่ายด้วยน้ำสะอาด สารลดแรงตึงผิวนี้นอกจากจะสามารถพบได้ในสบู่ แล้ว ยังสามารถพบได้ในน้ำยาทำความสะอาด เครื่องสำอาง หรือครีมบำรุงผิวอื่น ๆ เช่น ยาสระผม โลชั่น หรือน้ำหอม เป็นต้น สบู่ ส่งผลอย่างไรกับผิว แม้ว่าการใช้สบู่ทำความสะอาดร่างกาย จะช่วยให้รู้สึกสะอาดและสดชื่น แต่อย่างไรก็ตาม สารลดแรงตึงผิวที่พบได้ในสบู่บางชนิด อาจส่งผลกระทบต่อผิวได้เช่นกัน สารลดแรงตึงผิวในสบู่นั้นจะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้วออกไป แต่สารลดแรงตึงผิวนั้นก็อาจผูกเข้ากับเซลล์โปรตีนของผิวชั้นนอก และทำให้เซลล์เหล่านี้มีน้ำมากเกินไปและเกิดอาการบวม ทำให้ส่วนประกอบอื่น ๆ […]


สุขภาพผิว

อันตรายจากพิษของแมลงก้นกระดก และวิธีการรักษา

แมลงด้นกระดก หรือ ด้วงก้นกระดก (Rove Beetles) เป็นแมลงที่มีขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายมด ลำตัวเป็นปล้อง ๆ สีแดงออกส้ม มีจุดเด่นอยู่ส่วนหางหรือก้นที่จะกระดกขึ้น และมีปีก แมลงก้นกระดกอาจพบได้มากในช่วงที่ฝนตก เมื่อสัมผัสกับพิษของแมลงก้นกระดกอาจทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง มีรอยแดง แสบ คล้ายผิวไหม้ อีกทั้งยังอาจเกิดอาการตุ่มพุพองหรือเป็นไข้ได้ ดังนั้น จึงควรศึกษาเกี่ยวกับอันตรายของแมลงก้นกระดก และวิธีการรักษาเบื้องต้น เพื่อช่วยบรรเทาอาการไม่ให้รุนแรง และลดการลุกลามของอาการ [embed-health-tool-bmr] แมลงก้นกระดก คืออะไร แมลงด้นกระดก เป็นแมลงขนาดเล็กที่อยู่ในตระกูลเดียวกับด้วงสายพันธุ์ Staphylinidae ถึงแม้จะเป็นแมลงตัวเล็กที่ดูเผิน ๆ เหมือนมด แต่ยังคงมีข้อสังเกตอยู่บ้างถึงความแตกต่าง โดยเฉพาะลำตัว ที่มีความยาว 7-8 มิลลิเมตร มีลักษณะเป็นปล้อง ๆ สีออกแดง ส้ม เด่นชัด บริเวณหลังหัว และเป็นสีดำยาวลงไปจนถึงบริเวณก้น หรือหาง และตัดสลับด้วยสีแดง ส้ม อีกรอบ ส่วนปลายก้นจะกระดกโค้งงอขึ้น และมีปีกไว้คอยบินตอมแสงไฟ ในบางครั้งแมลงก้นกระดกอาจร่วงลงสู่พื้น หรือหล่นใส่ร่างกายได้ทุกเมื่อ หากไม่ระวังให้ดี อาจได้รับพิษทันทีที่ถูกสัมผัส จนเกิดเป็นรอยแดงบนผิวหนังได้ พิษในตัวแมลงก้นกระดก ส่งผลต่อผิวหนังอย่างไร แมลงชนิดนี้มักมาพร้อมกับความชื้น หรือช่วงที่ฝนตก น้ำท่วมอย่างหนัก […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน