สุขภาพผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะภายนอกที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในร่างกาย ผิวหนังนั้นมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้งเป็นเกราะป้องกันจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือช่วยควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับการมี สุขภาพผิว ที่ดี และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย เพื่อการปกป้องดูแลผิวของคุณให้ดียิ่งขึ้น ได้ที่นี่

สนับสนุนโดย:

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพผิว

ล้างหน้าตามแนวขน เคล็ดไม่ (ลับ) สำหรับคนเป็นสิว

การ ล้างหน้าตามแนวขน เป็นอีกหนึ่งศาสตร์การล้างหน้าที่มีส่วนช่วยลดการอุดตันของสิว กระชับรูขุมขนและช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย บทความนี้ Hello คุณหมอ จึงนำเคล็ดลับ หน้าสวย ไร้สวย ด้วยการล้างหน้าตามแนวขน มาฝากกันค่ะ จะมีรายละเอียดอย่างไร ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลย ล้างหน้าตามแนวขน เคล็ดไม่ (ลับ) สำหรับคนเป็นสิว ล้างหน้าตามแนวขน เป็นอีกหนึ่งศาสตร์การล้างหน้า ที่ถูกคิดค้นโดย นายแพทย์สมนึก อมรสิริพาณิชย์ ซึ่งกล่าวว่า ท่อน้ำมันจะมีแนวเดียวกับโพรงขน การล้างหน้าไปตามทิศทางเดียวกันกับโพรงขนจะช่วยให้น้ำมันไหลออกมาทิศทางเดียวกัน จึงทำให้ไม่เกิดการอุดตันของสิว หากล้างหน้าไม่ตรงทิศทาง อาจส่งผลให้สิ่งสกปรกออกมาไม่หมด เพิ่มโอกาสการเป็นสิวอุดตันได้  4 ขั้นตอนการล้างหน้า ตามแนวขน อย่างถูกต้องและถูกวิธี เคล็ดลับง่าย ๆ ในการล้างหน้าตามแนวขน อย่างถูกต้องและถูกวิธี มีดังต่อไปนี้ ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากการนำโฟมล้างหน้าผสมกับน้ำเล็กน้อยให้เกิดฟอง โดยเริ่มจากถูบริเวณหน้าผาก จากบริเวณตรงกลางหน้าผากออกไปด้านช้าง ขั้นตอนที่ 2 หลังจากนั้นถูไล่ลงมาบริเวณจมูก ขั้นตอนที่ 3 เริ่มใหม่ที่บริเวณแก้ม ถูแนวเฉียง ๆ ลงมาจนถึงบริเวณขากรรไกร ขั้นตอนที่ 4 ลำดับสุดท้ายบริเวณริมฝีปากบนลงมาถึงบริเวณคาง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด และซับให้แห้ง  ข้อควรรู้เกี่ยวกับการล้างหน้า ควรล้างหน้าเป็นประจำทุกวันอย่างน้อยวันละ […]

หมวดหมู่ สุขภาพผิว เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพผิว

การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

ปลูกผม มีกี่วิธี พร้อมผลข้างเคียงและวิธีดูแลหลังปลูกผม

การ ปลูกผม นับว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาอีกหนทางหนึ่ง ที่สามารถเรียกความมั่นใจของคุณให้กลับมาดังเดิมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีเส้นผมลักษณะบาง และขาดหลุดร่วงง่ายจากการแพ้แชมพู ทำสี หรือแม้แต่มาจากพันธุกรรม ซึ่งวันนี้ Hello คุณหมอ ก็ได้นำบทความดี ๆ เกี่ยวกับนวัตกรรมการปลูกผมมาฝากกันในบทความนี้ให้ผู้ที่สนใจได้ลองทำการศึกษาเบื้องต้นเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเข้ารับการปลูกผมกันค่ะ มารู้จักกับนวัตกรรมการ ปลูกผม กันเถอะ การปลูกผม หรือ ปลูกผมถาวร (Hair Transplant) ถือเป็นการผ่าตัดอย่างหนึ่งที่แพทย์ทำการปลูกถ่าย หรือเคลื่อนย้ายเนื้อเยื่อส่วนที่มีเส้นผมหนาของหนังศีรษะไปยังบริเวณส่วนที่บอบบาง ซึ่งผู้ที่เหมาะกับการแก้ไขด้วยวิธีนี้มักเป็นผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาหนังศีรษะล้าน ผมบางขาดหลุดร่วงทั้งในรูปแบบธรรมชาติ และการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ แต่ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ร่วมด้วยว่าหนังศีรษะของคุณเหมาะสมกับการใช้เทคนิคปลูกผมหรือไม่ เพราะเนื่องจากยังมีวิธีอื่นอีกมากมาย อย่างการใช้แชมพูสระผมลดอาการขาดหลุดร่วงของเส้นผม หรือการใช้วิตามินบำรุงหนังศีรษะ เพื่อลดอาการเจ็บปวดในกรณีที่แพทย์เห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องรับการผ่าตัดปลูกผม เทคนิคการ ปลูกผม ส่วนใหญ่ที่แพทย์นิยมใช้ ก่อนที่จะทำการผ่าตัดคุณจำเป็นต้องบอกรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาของหนังศีรษะคุณให้ศัลยแพทย์ให้ทราบเสียก่อน เพื่อให้ทางทีมแพทย์ได้เลือกเทคนิคในการผ่าตัดที่เหมาะสมกับคุณ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักมีอยู่ 2 เทคนิคด้วยกัน ดังนี้ การปลูกถ่ายแบบ Follicular (FUT) เทคนิคนี้เป็นเทคนิคดั้งเดิมที่ได้รับการผ่าตัดแก้ไขปัญหาหนังศีรษะของผู้ใช้บริการมาอย่างยาวนาน ซึ่งทีมศัลยแพทย์นั้นมักจะทำตามลำดับขั้นตอนเหล่านี้ ทำการผ่าตัดหนังศีรษะที่ได้รับการวิเคราะห์แล้วว่าชิ้นเนื้อส่วนนี้เป็นส่วนที่ผมบนหนังศีรษะของคุณหนาดกดำมากที่สุดออกมา เช่น หลังศีรษะ ท้ายทอย เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วจะมีความยาวประมาณ 6-10 นิ้ว จากนั้นทำการเย็บแผลส่วนที่นำออกมาให้ติดกัน เพื่อเตรียมนำชิ้นส่วนที่ได้มาไปปลูกถ่ายบริเวณที่หนังศีรษะของคุณประสบปัญหา แพทย์จะทำการตัดชิ้นหนังที่นำออกมาให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และเริ่มใช้เข็ม หรือใบมีดผ่าตัดเจาะเป็นรูขนาดเล็กบนบริเวณหนังศีรษะที่จะทำการแก้ไขปัญหา จากนั้นจึงจะทำการนำชิ้นเนื้อเหล่านี้เข้าไปปลูกถ่าย […]


สุขภาพผิว

ครีมบำรุงรอบดวงตา ควรเลือกอย่างไรเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ครีมบำรุงรอบดวงตา (Eye Cream) เป็นครีมใช้เฉพาะจุดเพื่อช่วยบำรุงผิวรอบดวงตา ลดรอยเหี่ยวย่นและรอยตีนกา และลดรอยหมองคล้ำ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีให้เลือกหลากหลายประเภทและหลายยี่ห้อ อาจทำให้ยากต่อการตัดสินใจว่าควรเลือกอย่างไรถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ควรเลือกครีมบำรุงรอบดวงตาที่เหมาะสมกับสภาพผิว และปัญหาของผิวหนังรอบดวงตาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด ริ้วรอยรอบดวงตาเกิดขึ้นได้อย่างไร ริ้วรอยรอบดวงตานั้นเกิดขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น เพราะผิวมักสูญเสียต่อมน้ำมันและเหงื่อทำให้ผิวแห้ง ทั้งยังสูญเสียไขมันที่ทำให้ผิวอวบอิ่มและเรียบเนียน รวมทั้งสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสติน (Elastin) ที่ทำให้ผิวอ่อนนุ่ม ทั้งหมดนี้นำไปสู่รอยย่นและรอยตีนกาบริเวณหางตา นอกจากนั้น ผิวเปลือกตาหรือใต้ดวงตาอาจเกิดการหย่อนคล้อยเมื่อสูญเสียไขมันบริเวณเปลือกตา จึงมักทำให้ดวงตาดูลึกและเข้มขึ้น ส่วนเปลือกตาล่างอาจจะเกิดการหย่อนคล้อยและมีถุงใต้ตา เมื่อผิวหนังรอบดวงตาบางลง เส้นเลือดสีน้ำเงินเข้มที่อยู่ใต้ตาจะมองเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยคล้ำรอบดวงตาเมื่ออายุมากขึ้น วิธีการเลือก ครีมบำรุงรอบดวงตา   ครีมบำรุงรอบดวงตานั้น มักจะมีส่วนผสมบางชนิดที่ให้ประโยชน์โดยเฉพาะสำหรับริ้วรอยรอบดวงตา ซึ่งการเลือกครีมบำรุงรอบดวงตา ควรเลือกที่มีส่วนผสมเหล่านี้ สารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระสามารถช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายของเซลล์ ทั้งยังสามารถช่วยให้รอยย่น ความหมองคล้ำ และริ้วรอยจางลง ฟื้นฟูผิวให้สดใสและป้องกันความเสียหายผิวรอบดวงตา ควรมองหาครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของ วิตามินซี วิตามินอี และ กรดเฟอรูลิก (Ferulic Acid) กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) หรือ เซราไมด์ (Ceramide) กรดไฮยาลูรอนิค หรือสารกลุ่ม เซราไมด์ เป็นสารที่จะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวโดยการกักเก็บน้ำเอาไว้ เรตินอล (Retinol) เรตินอลเป็นสารกลุ่มวิตามินเอที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อลดและป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่น เปปไทด์ (Peptides) เปปไทด์ เหมาะสำหรับผิวรอบดวงตาที่หย่อนคล้อย […]


สุขภาพผิว

ครีมกำจัดขน ข้อดีและข้อเสียที่ควรรู้

ครีมกำจัดขน เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความกังวลใจเรื่องปัญหาขนบนเรือนร่าง รวมถึงผู้ที่อาจมองหาทางเลือกอื่น ๆ นอกจากการโกนขนหรือการเลเซอร์กำจัดขน เพราะครีมกำจัดขนสามารถหาซื้อได้ง่าย การใช้งานค่อนข้างสะดวก แต่บางครั้งการใช้ครีมกำจัดขนในบางคนก็อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ผิวหนังเกิดการระคายเคือง ทั้งยังอาจก่อให้เกิดอาการหอบหืดจากการสูดดมสารเคมีได้ด้วย ทำความรู้จักกับ ครีมกำจัดขน ครีมกำจัดขน หรือ ผลิตภัณฑ์กำจัดขน ที่ส่วนใหญ่มักมาในรูปแบบของครีม โลชั่น เจล และอื่น ๆ อีกมากมายตามการพัฒนาของผู้ผลิต ซึ่งอาจประกอบด้วยสารเคมีที่เป็นกรดไธโอไกลโคลิค (Thioglycolic Acid) แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) โซเดียม ซิลิเกต (Sodium Silicate) ที่ช่วยทำการสลายรากขนของเราให้อ่อนโยนลง เพื่อให้เกิดการหลุดร่วง และกำจัดได้ง่ายขึ้นเพียงคุณทำการเช็ดถู หรือทำความสะอาดออกอย่างเบา ๆ เท่านั้น วิธีการใช้ครีมกำจัดขนอาจแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อ โปรดอ่านรายละเอียดและวิธีใช้ข้างฉลาก พร้อมตรวจสอบเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยก่อนทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการปล่อยครีมกำจัดขนนี้ทิ้งไว้เป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ผิวหนังเกิดความระคายเคือง ข้อดีและข้อเสียของครีมกำจัดขน ข้อดีของการใช้ครีมกำจัดขนอาจมีดังนี้ กำจัดขนได้ลึกไปถึงรากขน มีวิธีการใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ค่อนข้างปลอดภัยต่อการบาดเจ็บของผิวหนังมากกว่าการใช้มีดโกนหรือเลเซอร์ สำหรับข้อเสียของการใช้ครีมกำจัดขน อาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการอาการแพ้สารเคมีได้ในผู้ใช้บางราย โดยอาการเบื้องต้นอาจดังนี้ รู้สึกปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหนังที่ใช้ครีมกำจัดขน อาการคันระคายเคือง ผิวหนังลอก ผดผื่นขึ้น อาการหอบหืดจากการสูดดมสารเคมี ดังนั้น ควรเลือกครีมกำจัดขนสูตรอ่อนโยนต่อผิว พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้ครีมบำรุงผิวหรือการเผชิญกับแสงแดดทันทีหลังจากใช้ครีมกำจัดขน ทางเลือกอื่น ๆ ในการกำจัดขน นอกจากการใช้ครีมกำจัดขน ยังอาจมีทางเลือกอื่น ๆ […]


สุขภาพผิว

ปัญหาขาลายจุด สาเหตุคืออะไร แก้ไขได้อย่างไรบ้าง

ปัญหาขาลายจุด หรือ Strawberry Leg เป็นปัญหาผิวหนังที่มีจุดด่างดำลายเหมือนผิวลูกสตรอว์เบอร์รี่ ซึ่งแม้ไม่ใช่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง แต่ก็ทำให้หมดความมั่นใจ ไม่กล้าจะแต่งตัว ใส่กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงสั้น หรืออาจทำให้รู้สึกมีปมด้อย ซึ่งข้อกังวลต่าง ๆ เหล่านี้ อาจทำให้กลายเป็นปัญหาบุคลิกภาพและทำให้ไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต ปัญหาขาลายจุดมีสาเหตุจากหลายปัจจัย สามารถแก้ไขและป้องกันได้เพียงแต่ต้องปฏิบัติตนให้ถูกวิธี [embed-health-tool-ovulation] สาเหตุของ ปัญหาขาลายจุด เกิดจากอะไรได้บ้าง ปัญหาขาลายจุดเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งทำให้สภาพผิวหนังแตกต่างกันไป โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่พบได้ มีดังนี้ การโกน การใช้มีดโกนที่ไม่มีความเหมาะสม เช่น ใบมีดโกนเก่า ไม่คม หรือไม่ใช้ครีมเมื่อต้องโกนขน อาจทำให้เกิดปัญหาขาลายจุดแบบลูกสตรอว์เบอร์รีได้ บางครั้งการโกนอาจทำให้รูขุมขนเกิดการอักเสบ เกิดขนคุด ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ขาลาย เป็นจุดด่างดำได้เช่นเดียวกัน สำหรับผู้ที่มีผิวหนังสีอ่อน การโกนอาจจะยิ่งทำให้เห็นจุดด่างดำเด่นชัดขึ้น รูขุมขนอุดตัน บริเวณขาเป็นบริเวณที่มีรูขุมขนอยู่มากมาย ซึ่งรูขุมขนเหล่านั้นอาจเกิดการอุดตันได้ โดยเกิดจากการสะสมของแบคทีเรีย ผิวหนังที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่เรียกว่า สิวอุดตันแบบเปิด (Open comedones) ซึ่งรูขุมขนเหล่านี้มักมีสีเข้มขึ้นหลังจากที่โดนอากาศ เพราะน้ำมันและสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในรูขุมขนนั้นแห้งจึงทำให้สีมีความเข้มขึ้น ขาบริเวณนั้นจึงเป็นรอยด่าง เป็นจุด ยิ่งมีรูขุมขนกว้างก็จะยิ่งทำให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น รูขุมขนอักเสบ เมื่อรูขุมขนเกิดการอักเสบ บางครั้งอาจมีการติดเชื้อร่วมด้วย มักเกิดขึ้นจากการโกนขน แว็กซ์ขน หรือการกำจัดขนด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วทำให้รูขุมขนนั้นกว้างขึ้น […]


การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

ผมร่วงเป็นหย่อม สาเหตุ อาการ และการรักษา

ผมร่วงเป็นหย่อม หรือโรคผมร่วงเป็นวง (Alopecia Areata) เป็นโรคที่เกิดจากภูมิต้านเนื้อเยื่อของตนเอง ส่งผลให้ผู้ป่วยผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับผิวหนังส่วนที่มีขนทุกส่วน หากอาการไม่รุนแรง อาจไม่จำเป็นต้องทำการรักษา แต่อาจทำการดูแลสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะเพื่อช่วยให้เส้นผมขึ้นใหม่อย่างรวดเร็วและมีสุขภาพดี [embed-health-tool-heart-rate] คำจำกัดความ ผมร่วงเป็นหย่อม คืออะไร โรคผมร่วงเป็นหย่อม หรือโรคผมร่วงเป็นวง (Alopecia Areata) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผิวหนังส่วนที่มีขน (Hair-bearing skin) ทุกส่วน ลักษณะของโรคนี้คือ ผู้ป่วยจะมีผมร่วงแบบไม่มีแผลเป็นบนหนังศีรษะเป็นหย่อม ๆ บางครั้งโรคนี้อาจเกิดจากปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ด้วย ผู้ป่วยโรคผมร่วงเป็นหย่อมส่วนใหญ่ จะมีหย่อมผมร่วงเพียงไม่กี่จุดเท่านั้น และผมมักจะขึ้นใหม่ได้เองตามธรรมชาติ แต่บางครั้งโรคผมร่วงเป็นหย่อมก็อาจนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ เช่น โรคผมร่วงหมดศีรษะ (Alopecia Totalis) หรือในกรณีรุนแรง อาจทำให้เกิดโรคผมร่วงทั่วตัว (Alopecia Universalis) คือ ผมร่วงหมดศีรษะ ขนคิ้ว ขนตา และขนตามร่างกายก็ร่วงด้วย ผมร่วงเป็นหย่อม พบได้บ่อยแค่ไหน โรคผมร่วงเป็นหย่อมสามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอายุต่ำกว่า 30 ปี โปรดปรึกษาคุณหมอสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการ อาการของ ผมร่วงเป็นหย่อม อาการที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ผมร่วงเป็นหย่อม มักเริ่มต้นด้วยการเกิดหย่อมที่ผมร่วง ลักษณะเป็นจุดกลม ๆ ผิวหนังอ่อนนุ่ม เส้นผมร่วงจนเกลี้ยง […]


การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

ผมไฟฟ้าสถิต หวีแล้วผมฟู มีวิธีรับมือและแก้ไขได้อย่างไรบ้าง

การที่เส้นผมเสียดสีกับสิ่งของอื่น ๆ เป็นเวลานาน อาจทำให้เกิด ผมไฟฟ้าสถิต ได้ เมื่อผมเกิดไฟฟ้าสถิต มักเกิดปัญหา หวีผมแล้วผมฟู จัดแต่งทรงได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม การดูแลอย่างถูกวิธี อาจช่วยลดปัญหาผมเกิดไฟฟ้าสถิต หวีแล้วผมฟูได้ ผมไฟฟ้าสถิต เกิดจากอะไร เส้นผมสามารถสร้างประจุไฟฟ้าได้เช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น เมื่อสวมหมวกจะเกิดอิเล็กตรอนบนหมวกได้ และเมื่อถอดหมวกออก อิเล็กตรอนเชิงลบอาจอยู่ที่หมวก และเส้นผมซึ่งมีประจุบวกอาจชี้หรือตั้งขึ้น เนื่องจากเส้นผมที่มีประจุบวกจะต้านทานกับอิเล็กตอนเชิงลบของหมวก เหมือนกับแม่เหล็กนั่นเอง อย่างไรก็ตาม นักเคมีเครื่องสำอางจึงได้พยายามค้นหาวิธีการจัดการกับไฟฟ้าสถิตที่เกิดขึ้น ด้วยการทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผมที่มีประจุบวกขึ้นมา เพื่อช่วยให้มีค่าเป็นกลาง ซึ่งอาจช่วยป้องกันผมไฟฟ้าสถิตได้ วิธีรับมือและแก้ไขไม่ให้เกิด ผมไฟฟ้าสถิต แก้ไขแบบรวดเร็วด้วยการใช้น้ำลูบผม ใช้ปลายนิ้วจุ่มน้ำ หรือหยดน้ำลงที่ปลายนิ้ว จากนั้นลูบน้ำให้ทั่วเส้นผม วิธีนี้ช่วยทำให้เส้นผมนั้นมีค่าประจุเป็นกลาง และอาจไม่เกิดผมไฟฟ้าสถิต เลือกใช้แชมพูที่ให้ความชุ่มชื้น  วิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดการผมหยิกและทำให้อยู่ทรง คือ ทำให้ผมชุ่มชื้น ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การสระผมด้วยแชมพูที่ให้ความชุ่มชื้น สามารถช่วยต่อสู้กับผมแห้ง ทั้งยังคืนความสมดุลตามธรรมชาติให้แก่หนังศีรษะ เพราะมันมีทั้งน้ำมันและความชุ่มชื้น ใช้มอยส์เจอไรเซอร์  การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ทาหน้ามาทาลงบนเส้นผม อาจช่วยหล่อลื่นเส้นผม ลดปัญหาผมแห้ง และช่วยเพิ่มประจุบวกให้กับเส้นผม ลดการเกิดไฟฟ้าสถิต ทั้งยังช่วยป้องกันเส้นผมและช่วยลดการแตกหักของเส้นผมด้วย เลิกใช้หวีพลาสติก การใช้หวีพลาสติกในการหวีอาจทำให้ผมเกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่ายขึ้น อาจลองใช้หวีโลหะแทน เนื่องจากโลหะมีค่าการนำไฟฟ้ามากกว่าและจะทำให้ประจุไฟฟ้าที่สะสมอยู่ในเส้นผมไหลออก ซึ่งเป็นการลดปริมาณของไฟฟ้าสถิต ลองหันมาเลือกใช้แปรงหวีผมแบบคริกเก็ต (Cricket Hair Brush) ในการหวีผม เนื่องจากแปรงคริกเก็ตมีน้ำหนักเบาและมีด้ามจับที่ทำจากยาง อาจช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิตในเส้นผมได้ เลือกไดร์เป่าผมระบบไอออนิก  การใช้ไดร์เป่าผมที่มีความร้อน […]


สุขภาพผิว

วิธีการรักษาและการป้องกัน ปัญหาผิวแตกลาย

ปัญหาผิวแตกลาย อาจเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังมีการขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงขณะการตั้งครรภ์ ทำให้ผิวหนังเกิดรอยแตกลาย เป็นริ้ว ดูไม่สวยงาม อย่างไรก็ตาม ปัญหาผิวแตกลายอาจรักษาและป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพผิวตามวิธีที่ถูกต้อง เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม [embed-health-tool-bmi] วิธีรักษา ปัญหาผิวแตกลาย วิธีรักษาผิวแตกลาย มีด้วยกันหลายวิธี อาจเลือกปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ ใช้ครีมบำรุง ไม่มีครีมหรือน้ำมันไหนที่ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถป้องกันปัญหาผิวแตกลายได้ อย่างไรก็ตามการรักษาผิวให้นุ่มอาจมีผลในการลดความเสี่ยงต่อปัญหาผิวแตกลายในบางคน โดยมอยเจอร์ไรเซอร์มักช่วยลดอาการคันที่เกิดขึ้นเมื่อผิวแห้ง สำหับครีมและน้ำมันที่อาจช่วยป้องกันรอยแตกลายได้ การนวด อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผิวมีสุขภาพดีและมีโอกาสแตกลายได้น้อยลง ก็คือ การนวด เนื่องจากการนวดผิวนั้นจะช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด ซึ่งทำให้ลดโอกาสในการเกิดปัญหาผิวแตกลายนั่นเอง ใช้เรตินอยด์ (Retinoid) เตรทติโนอิน (Tretinoin) หรือ เรตินเอ (Retin-A) เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ ซึ่งเอาไว้ใช้สำหรับรักษาสิวหรือต่อต้านริ้วรอย แต่มีส่วนประกอบที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อใช้แล้วรอยแตกลายจางลง โดยไปกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของคอลลาเจน ซึ่งช่วยรักษารอยแผลเป็นและรอยแตกลาย แต่เรตินอยด์นั้นไม่ปลอดภัยหากใช้ในระหว่างที่ตั้งครรภ์หรือขณะให้นมบุตร เรตินอยด์ทำงานได้ที่ที่สุดเมื่อใช้ตอนที่รอยแตกลายยังคงเป็นสีแดง หรือกำลังอักเสบอยู่นั่นเอง แต่เมื่อไหร่ที่รอยแตกลายกลายเป็นสีขาวแล้วจะรักษาได้ยากขึ้น รักษาด้วยเลเซอร์ ปัญหาผิวแตกลายนั้นเป็นปัญหาที่ไม่สามารถรักษาได้หายอย่างสมบูรณ์ เป้าหมายของการรักษาคือการปรับปรุงลักษณะและสภาพผิวให้ดีขึ้นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การรักษาด้วยเลเซอร์จะทำให้หลอดเลือดแดงทำงานได้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยในการลดสีของรอยแตกลาย และปรับปรุงสภาพผิวให้ดีขึ้นนั่นเอง นอกจากนั้นการรักษาด้วยเครื่อง Fraxel CO2 และ Microneedling จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสติน (Elastin) ใต้ผิวหนัง ใช้กรดไกลโคลิก (Glycolic) ครีมที่มีส่วนประกอบของกรดไกลโคลิกเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ใช้สำหรับรักษาปัญหาผิวแตกลาย แต่การรักษาเหล่านี้มักจะมีราคาแพง ทั้งยังไม่สามารถป้องกันการเกิดรอยแตกลายที่อาจจะเกิดขึ้นใหม่ได้อีกด้วย วิธีป้องกันปัญหาผิวแตกลาย รอยแตกลายมักจะปรากฏบริเวณ หน้าท้อง หน้าอก สะโพก ก้น และต้นขา เป็นต้น […]


สิว

สิวที่หัว สาเหตุ ประเภท และการรักษา

สิวที่หัว เกิดขึ้นจากการอุดตันของรูขุมขนเนื่องจากเซลล์ผิวที่ตายแล้ว สิ่งสกปรก และไขมันส่วนเกินบริเวณหนังศีรษะ นอกจากนี้ ยังอาจเกิดขึ้นจากการทำความสะอาดหนังศีรษะไม่ดีพอ การสะสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผม และเหงื่อ ที่อาจทำให้เกิดเป็นตุ่มสิวขึ้นบริเวณหนังศีรษะ สิวที่หัวสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยารักษาสิว เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรืออาจขอคำแนะนำจากคุณหมอเพื่อหาวิธีการรักษาอย่างเหมาะสม สิวที่หัว มีสาเหตุมาจากอะไร สาเหตุของการเกิดสิวบนหนังศีรษะล้วนมีปัจจัยที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่แล้วสาเหตุที่ค่อนข้างพบได้บ่อยมากที่สุด มีดังนี้ เซลล์ผิวที่ตายแล้วเข้าไปอุดตันในรูขุมขน การทำความสะอาดหนังศีรษะไม่สะอาด เกิดการสะสมจากผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม เช่น สเปรย์ฉีดผม เจลจัดแต่งทรงผม หนังศีรษะอับชื้นจากเหงื่อ โดยเฉพาะผู้ที่สวมอุปกรณ์ครอบศีรษะไว้เป็นเวลานาน เช่น หมวกคลุมผม หมวกกันน็อค นอกจากมาจากปัจจัยที่กล่าวมาในข้างต้นแล้ว การเกิดสิวที่หัว ยังอาจมาจากเชื้อรา แบคทีเรีย และปรสิตขนาดเล็กจากสภาพแวดล้อมรอบตัว ซึ่งอาจทำให้ศีรษะคุณมีการเกิดสิว และยังอาจนำพาให้เกิดเป็นแผล หรือผิวหนังอักเสบเพิ่มเติมได้อีกด้วย ประเภทของสิว ที่สามารถเกิดขึ้นได้ บนหนังศีรษะคุณ ลักษณะของสิวที่เกิดขึ้นมักปตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการดูแลหนังศีรษะของแต่ละบุคคล ซึ่งประเภทของสิวที่อาจสามารถขึ้นตามแนวเส้นบนศีรษะได้นั้น มีดังต่อไปนี้ สิวอุดตันหัวดำ (Blackheads) สิวอุดตันหัวขาว (Whiteheads) สิวอุดตันหัวปิด ที่มีความเจ็บปวด และนูนแดง ถึงอย่างไรยังคงเป็นสิวที่มีการรักษา หรือใช้ยารักษาได้โดยง่าย แต่ยังมีสิวอีกชนิดที่อาจส่งผลก่อให้เกิดอาการรุนแรง และใช้เวลารักษาค่อนข้างนาน นั่นก็คือ Acne necrotica […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

โทนเนอร์ ประโยชน์ และวิธีเลือกให้เหมาะสมกับผิวหน้า

โทนเนอร์ คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าประเภทหนึ่ง ที่นิยมใช้หลังจากล้างหน้าหรือก่อนลงเซรั่มบำรุงผิว เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมของสภาพผิว ขจัดน้ำมันส่วนเกิน สิ่งสกปรก และอาจช่วยปรับความสมดุลของค่าความเป็นกรด-ด่าง ของใบหน้าได้ แต่การเลือกโทนเนอร์ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้านี้ โทนเนอร์ (Toner) คืออะไร โทนเนอร์ (Toner) คือ สกินแคร์ หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าอีกขั้นตอนหนึ่ง ที่นิยมใช้หลังจากการล้างหน้า หรือก่อนการลงครีมบำรุงผิวต่าง ๆ โดยการลูบไล้โทนเนอร์ให้ทั่วใบหน้า ตามแนวรูขุมขน ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ส่วนใหญ่อาจสามารถดูดซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยปรับสภาพผิว และรองรับการบำรุงผิวและการใช้สกินแคร์อื่น ๆ เพิ่มเติม Dr. Jaliman แพทย์ผิวหนังชื่อดัง ตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์คลินิกด้านผิวหนังโรงเรียนแพทย์บัณฑิตเอกชน Icahn ในนครนิวยอร์ก ได้ระบุไว้ว่า การใช้โทนเนอร์ที่ดีมีประสิทธิภาพ ควรใช้ในช่วงเวลาเช้า-ก่อนนอน เพียงแค่วันละ 2 ครั้งเท่านั้น หากใช้บ่อยจนเกินไป อาจส่งผลทำให้ผิวหน้าแห้งตึงได้ ข้อดีของการใช้โทนเนอร์ บำรุงผิว การแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง และการเผชิญกับมลภาวะภายนอก อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นกรด-ด่างบนในหน้าได้ และอาจทำให้เกิดสิวเห่อขึ้นใหม่อยู่เสมอ การใช้โทนเนอร์อาจช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า เพราะสารประกอบที่มีในโทนเนอร์ เช่น กรดซาลิไซลิก กรดไฮยาลูโรนิก อาจมีส่วนช่วยในการปรับค่าความเป็นกรด-ด่างให้สมดุลขึ้น นอกจากนี้ การใช้โทนเนอร์ยังอาจช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกิน สิ่งสกปรก และแบคทีเรีย ที่เกาะอยู่บนใบหน้าให้ออกไปได้ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับผู้ที่อาจล้างหน้าไม่สะอาด และยังมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่บนใบหน้าอยู่มาก เลือกโทนเนอร์ […]


สุขภาพผิว

สูตรสครับกาแฟ ขจัดเซลล์ผิวเก่า ด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ

วิธีบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียน ไร้ริ้วรอย แลดูสุขภาพดี ด้วยการทาโลชั่น หรือครีมกันแดดอาจยังไม่เพียงพอ เนื่องจากผิวหนังมีกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และการผลัดเซลล์ผิวเก่าอยู่ตลอดเวลา หรือที่เรียกกันว่าขี้ไคล การขัดผิวด้วยสูตรสครับกาแฟจากวัตถุดิบธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยดูแลผิวโดยการขจัดเซลล์ผิวเก่าหรือขี้ไคลให้หลุดออกไปได้ง่ายขึ้น สครับกาแฟ มีประโยชน์ต่อผิวอย่างไร สครับกาแฟ เป็นผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่ทำมาจากกากกาแฟ ซึ่งผ่านกระบวนการทำความอาด และปรับปรุงสูตรให้อ่อนโยนเข้าไม่ทำร้ายผิว โดยในเมล็ดกาแฟจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ และอีลาสติน (Elastin) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ชะลอริ้วรอย มีส่วนช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและช่วยฟื้นฟูผิวหลังจากเผชิญกับรังสียูวีบี (UV-B) จากแสงแดดได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้สครับกาแฟขัดผิวทุกวัน เพราะการขัดผิวบ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวแสบและ อักเสบ เนื่องจากสครับกาแฟดูดซึมน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว จนส่งผลให้ผิวแห้งกร้านและเกิดอาการคันหรือระคายเคืองได้ รวมทั้งอาจเข้าไปอุดตันรูขุมขน หากชำระล้างร่างกายหลังขัดผิวไม่สะอาด สูตรสครับกาแฟ ขจัดเซลล์ผิวเก่า สูตรสครับกาแฟ สามารถทำได้เอง โดยเตรียมส่วนผสมและเรียนรู้ขั้นตอนการทำ ดังต่อไปนี้ สูตรสครับกาแฟ มีส่วนผสมอะไรบ้าง กากกาแฟ ½ ถ้วย น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง (แบบไม่ผ่านการละลาย) น้ำมันมะพร้าว ½ ถ้วยตรง ภาชนะสะอาดพร้อมฝาปิด สูตรสครับกาแฟ มีวิธีทำอย่างไร ใส่กากกาแฟสำเร็จรูป หรือผงจากเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วและบดแล้ว ลงในภาชนะสะอาด เทน้ำตาลทรายลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ค่อย ๆ เทน้ำมันมะพร้าวลงไปผสม […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน