อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อถกเถียงว่า การรับประทานอาการแบบแอดกินส์อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิด ภาวะคีโตซีส (Ketosis) เนื่องจากร่างกายมีคาร์โบไฮเดรตที่เป็นแหล่งพลังงานหลักไม่เพียงพอต่อการเผาผลาญจึงดึงเอาไขมันสะสมมาเผาผลาญเพื่อใช้เป็นพลังงานแทน ซึ่งเป็นการลดน้ำหนักอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เหนื่อยล้า ปวดหัว ท้องผูก ร่างกายขาดน้ำ
ประโยชน์ของการรับประทานอาหารแบบ Atkins diet
ประโยชน์ของการรับประทานอาหารแบบ Atkins diet อาจช่วยลดน้ำหนักได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน หรือตามความต้องการที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ยังคงมีข้อถกเถียงว่าการรับประทานในรูปแบบ Atkins diet ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน จากการโต้เถียงของหลายการศึกษาที่ระบุไว้ในวารสาร Annals of Saudi Medicine เมื่อปี พ.ศ. 2549 พบว่า การรับประทานคาร์โบไฮเดรตต่ำไม่อาจทำให้น้ำหนักลดลงในระยะยาว และอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่สำคัญ เช่น แร่ธาตุ วิตามิน ไฟเบอร์ อาจเพิ่มการผลิตอนุมูลอิสระ ที่อาจส่งผลให้อวัยวะต่าง ๆ เสื่อมสภาพมากขึ้น อีกทั้งยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งทางเดินอาหาร
นอกจากนี้ การรับประทานแบบ Atkins diet ที่รับประทานคาร์โบไฮเดรตต่ำเน้นโปรตีนสูง อาจนำไปสู่การเกิดภาวะกรดยูริกในเลือดสูง (Hyperuricemia) ที่ทำให้เกิดอาการปวดข้อ และเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกาต์ โรคกระดูกพรุน หรือนิ่วในไตได้ จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Kidney Diseases ปี พ.ศ. 2545 เกี่ยวกับผลของการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำและคาร์โบไฮเดรตสูง ต่อความสมดุลของความเป็นกรด-เบส ความเสี่ยงในการเกิดนิ่ว และการเผาผลาญแคลเซียม โดยทำการทดลองในอาสาสมัครจำนวน 10 คน ให้รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำอย่างเข้มงวดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และควบคุมการรับประทานคาร์โบไฮเดรตในระดับปานกลางอีก 4 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 6 สัปดาห์ พบว่า อาจมีระดับของกรดยูริกในไตเพิ่มขึ้นสูง ความเสี่ยงในการเกิดนิ่วเพิ่มขึ้น และความสมดุลของแคลเซียมลดลง ที่นำไปสู่การสูญเสียมวลกระดูกได้
ดังนั้น หากต้องการลดน้ำหนักแบบ Atkins diet จึงควรขอคำปรึกษาจากคุณหมอ เพื่อตรวจเช็กสุขภาพและรับแผนการลดน้ำหนักที่เหมาะสม
อาหารที่ควรรับประทานและควรหลีกเลี่ยงแบบ Atkins diet
อาหารที่ควรรับประทานและควรหลีกเลี่ยง มีดังนี้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย