backup og meta

ชาดำ ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 09/05/2022

    ชาดำ ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

    ชาดำ เป็นชาจากการนำใบชาสายพันธุ์ Camellia sinensis ไปหมักบ่มแล้วนำไปตากแห้งหรืออบแห้ง จนได้ชาที่มีลักษณะเป็นสีแดงเข้มไปจนถึงเกือบดำ และมีรสขมเล็กน้อย ชาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจและลำไส้ และอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด อย่างไรก็ตาม ชาดำอาจมีคาเฟอีนสูง การดื่มชาดำมากเกินไปจึงอาจส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หายใจเร็ว นอนหลับยาก เพื่อความปลอดภัยจึงควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม

    คุณค่าทางโภชนาการของชาดำ

    ชาดำมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) และฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยป้องกันการอักเสบจากอนุมูลอิสระที่อาจส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรัง นอกจากนี้ ยังอาจมีสารประกอบต่าง ๆ ดังนี้

    ประโยชน์ของชาดำ

    ชาดำมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนสรรพคุณของชาดำในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้

    • อาจช่วยเพิ่มสมาธิ

    ชาดำมีคาเฟอีนและกรดอะมิโนแอล-ธีอะนีน (L-Theanine) ที่อาจช่วยทำให้ร่างกายและสมองตื่นตัว ทำให้มีสมาธิมากยิ่งขึ้น จากการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบทางจิตของสารประกอบในชาอย่าง คาเฟอีนและแอล-ธีอะนีน ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrition Reviews ปี พ.ศ. 2551 พบว่า การดื่มชา หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อาจช่วยให้มีสมาธิ สามารถจดจ่อกับกิจกรรมที่อยู่ตรงหน้าได้มากขึ้น แต่ควรดื่มในปริมาณที่พอดี เพราะหากร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินไป อาจส่งผลให้นอนหลับยาก กระสับกระส่าย วิตกกังวล หัวใจเต้นเร็วได้

    • อาจช่วยลดความดันโลหิต

    ชาดำมีฟลาโวนอยด์ที่อาจช่วยลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง ที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่หลอดเลือดได้ จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients ปี พ.ศ. 2558 ที่ได้ทำการทดสอบในกลุ่มตัวอย่าง 19 คน โดยให้กลุ่มตัวอย่างส่วนหนึ่งดื่มชาดำ 129 มิลลิกรัม อีกส่วนหนึ่งได้รับยาหลอก วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 8 วัน พบว่า การบริโภคชาดำอาจช่วยลดความดันโลหิตตัวล่าง (Diastolic blood pressure) ที่เป็นแรงดันเลือดในขณะที่หัวใจคลายตัว และอาจช่วยลดความดันโลหิตตัวบน (Systolic blood pressure) ที่เป็นแรงดันเลือดในขณะที่หัวใจบีบตัว ดังนั้น การดื่มชาดำเป็นประจำจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

    • อาจช่วยลดคอเลสเตอรอล

    ชาดำเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีไขมันอิ่มตัว และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงอาจช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ซึ่งทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ และอาจช่วยลดความเข้มข้นของคอเลสเตอรอลในเลือด  การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Journal of Nutrition เมื่อปี พ.ศ. 2546 ที่ได้ทำการทดสอบในผู้ใหญ่จำนวน 15 คน แบ่งเป็นผู้หญิง 8 คน และผู้ชาย 7 คน ที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูง โดยทดสอบแบบสุ่มให้ดื่มชาดำ 5 มื้อ/วัน ในขณะที่รับประทานอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักร่วมด้วยเป็นเวลา 3 สัปดาห์ พบว่า การดื่มชาดำอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลโดยรวมและไขมันไม่ดีในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลให้ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้

    • ช่วยปรับปรุงการทำงานของลำไส้

    ภายในลำไส้จะมีแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส ที่อาจช่วยควบคุมความสมดุลการทำงานของลำไส้ การดื่มชาดำที่มีโพลีฟีนอลที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงอาจช่วยลดการอักเสบจากสารอนุมูลอิสระ และกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดีภายในลำไส้ได้ จากการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food Reviews international ปี พ.ศ.2554 ที่ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของโพลีฟีนอลในอาหารและจุลชีพในลำไส้ของมนุษย์ พบว่า โพลีฟีนอลอาจทำหน้าที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดี และอาจช่วยยับยั้งการขยายพันธุ์ของแบคทีเรียบางชนิด เช่น เชื้อซาลโมเนลล่า (Salmonella) และเอชไพโลไร (Helicobacter pylori; H. pylori) ที่ส่งผลให้อาเจียน กระเพาะอาหารอักเสบ และท้องร่วงได้

    • อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง

    ชาดำมีโพลีฟีนอลที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยยับยั้งเอนไซม์อะโรมาเทส (Aromatase enzyme) ซึ่งมีบทบาทกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้องอก จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร EJC European Journal of Cancer ปี พ.ศ. 2547 พบว่า โพลีฟีนอลในชาดำอาจช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์อะโรมาเทส ที่อาจนำไปสู่การเกิดฮอร์โมนดีเอชอีเอ (Dehydroepiandrosterone) และพัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็งเต้านมได้ อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ชาดำเพื่อช่วยในการรักษาเนื้องอกในเต้านม

    ข้อควรระวังในการบริโภคชาดำ

    เนื่องจากชาดำมีคาเฟอีนสูง การดื่มชาดำในปริมาณมากกว่า 4-5 ถ้วย/วัน อาจส่งผลให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินไป และส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ดังนี้

    • ปวดศีรษะ
    • คลื่นไส้ อาเจียน
    • หัวใจเต้นผิดปกติ
    • หายใจเร็ว
    • กระสับกระส่ายและนอนหลับยาก
    • ลำไส้แปรปรวน ท้องเสีย
    • ปัสสาวะบ่อยขึ้น
    • ความดันโลหิตสูง ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันตาสูงและต้อหิน
    • เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคโลหิตจาง โรคกระดูกพรุน และอาการชัก

    ชาดำอาจทำปฏิกิริยากับยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น คาร์บามาเซพีน (Carbamazepine) เอฟีดรีน (Ephedrine) และยาปฏิชีวนะ ซึ่งอาจส่งผลให้คาเฟอีนอยู่ในร่างกายนานกว่าปกติหรือลดประสิทธิภาพของยาลง เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาคุณหมอก่อน

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 09/05/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา