น้ำวิตามินซี เป็นเครื่องดื่มผสมวิตามินซีซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน รักษาบาดแผล ช่วยสร้างคอลลาเจนในกระดูกและผิวหนัง แต่น้ำวิตามินซีบางชนิดอาจไม่มีส่วนผสมของวิตามินซีหรืออาจมีปริมาณไม่ตรงตามที่ระบุไว้ในฉลากข้างบรรจุภัณฑ์ ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกจากนี้ ยังอาจมีการเติมน้ำตาล สีและกลิ่น หากดื่มมากเกินไปอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนหรือโรคเบาหวานได้
[embed-health-tool-bmr]
วิตามินซี สำคัญต่อร่างกายอย่างไร
วิตามินซี เป็นสารอาหารรองที่มีความสำคัญต่อกระบวนการทำงานของร่างกาย มีส่วนช่วยในการสร้างหลอดเลือด กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ คอลลาเจนในกระดูกและผิวหนัง รวมถึงยังอาจช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการทำร้ายของสารอนุมูลอิสระ เช่น แสงแดด มลภาวะ ควัน ฝุ่น เชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดโรคหวัด โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคผิวหนัง
แม้วิตามินซีจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การได้รับวิตามินซีในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ ดังนี้
- คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว
- ท้องเสีย เสียดท้อง แน่นท้อง
- อ่อนเพลีย ง่วงนอน หรืออาจรบกวนการนอนหลับ
- ผิวแดง
ดังนั้น จึงควรรับประทานวิตามินซีไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
น้ำวิตามินซี ดีต่อร่างกายหรือไม่
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายรูปแบบออกมาวางขาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ซึ่ง น้ำวิตามินซี ก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีจำหน่ายอย่างแพร่หลายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ออกมาเผยผลการทดสอบปริมาณวิตามินซีในน้ำวิตามินซี จำนวน 47 ตัวอย่าง พบว่า มี 8 ตัวอย่างไม่พบส่วนผสมของวิตามินซี และตัวอย่างอื่น ๆ มีปริมาณวิตามินซีไม่ตรงตามที่แจ้งไว้บนฉลาก จึงอาจทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับวิตามินซีอย่างเหมาะสมจากน้ำวิตามินซี
นอกจากนี้ วิตามินซียังมีคุณสมบัติที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายหากสัมผัสกับแสงหรือความร้อน ดังนั้น การดื่มน้ำวิตามินซีโดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นทางเลือกในการเสริมวิตามินซีให้กับร่างกาย จึงอาจเป็นทางเลือกที่ไม่เหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้น น้ำวิตามินซีบางชนิดยังอาจมีการเติมกลิ่น สี และน้ำตาล เพื่อเสริมรสชาติให้ดื่มง่ายขึ้น จึงอาจทำให้ผู้บริโภคได้รับน้ำตาลมากเกินไปและอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน
ดังนั้น การหันมารับประทานผลิตภัณฑ์เสริมวิตามินและแร่ธาตุที่ผ่านการยืนยันแล้วว่ามีปริมาณวิตามินซีที่เหมาะสมต่อวัน หรือการบริโภคอาหารตามธรรมชาติที่อุดมไปด้วยวิตามินซี จึงอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเสริมวิตามินซีให้กับร่างกาย
แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี
การดื่มน้ำวิตามินซีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ดังนั้น เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินซีอย่างเหมาะสมจึงควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ดังนี้
- ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม ส้มโอ บลูเบอร์รี่ สตอรว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ สับปะรด แคนตาลูป ฝรั่ง มะขามป้อม กีวี่
- ผัก เช่น มันฝรั่ง มะเขือเทศ พริก กะหล่ำปลี กะหล่ำดาว บร็อคโคลี่ ผักปวยเล้ง