การรับประทานสลัดผักที่อุดมไปด้วยผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและโพแทสเซียม เช่น ลูกเกด ลูกพรุน แครอท มะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่ง หัวปลี เห็ด แขนง ผักโขม ผักกาดขาว ยอดฟักแม้ว ข้าวโพด ฟักทอง อะโวคาโด ที่ช่วยกรองโซเดียมออกจากร่างกาย อาจช่วยรักษาความดันโลหิตให้เป็นปกติได้
โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Archivos Latinoamericanos de Nutrición เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558 ศึกษาเกี่ยวกับการบริโภคผักและผลไม้และความดันโลหิต โดยทดลองในผู้ใหญ่ 777 คน อายุระหว่าง 32-38 ปี แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกรับประทานผักและผลไม้ 200 กรัม กลุ่มที่สองรับประทานผักและผลไม้ 200-400 กรัม และกลุ่มที่สามรับประทานผักและผลไม้ 400 กรัม พบว่า การบริโภคผักและผลไม้ในปริมาณที่มากกว่า 400 กรัม/วัน ช่วยป้องกันการเพิ่มขึ้นของความดันโลหิตได้
-
อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
โรคหัวใจและหลอดเลือดอาจเกิดจากความผิดปกติของเมตาบอลิซึม ซึ่งเป็นระบบเผาผลาญในร่างกาย การอักเสบของเซลล์ และการสะสมของไขมันไม่ดีในหลอดเลือดมากเกินไป ซึ่งการรับประทานสลัดผักที่มีแคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยปรับความสมดุลของระบบเผาผลาญ ป้องกันการอักเสบของเซลล์ และยังช่วยลดการสะสมของไขมันไม่ดีในหลอดเลือดที่อาจนำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือด
โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Frontier in Nutrition เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ศึกษาเกี่ยวกับการบริโภคผักสดและผักที่ปรุงสุกกับความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด พบว่า การรับประทานผักเพิ่มมากขึ้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะสารต้านอนุมูลอิสระและโพแทสเซียมจากผักมีคุณสมบัติช่วยรักษาความดันโลหิต นอกจากนี้ เส้นใยในผักยังสามารถช่วยดูดซับไขมัน จึงช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย