ช่วงเวลาตอนเช้านั้นอาจจะเป็นช่วงเวลาที่เร่งรีบสำหรับใครหลายๆ คน ทั้งเด็กๆ ที่จะต้องรีบแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียน หรือผู้ใหญ่ที่จะต้องออกไปทำงาน จนทำให้หลายคนไม่มีเวลาที่จะออกกำลังกาย หรือเลือกที่จะไปออกกำลังกายในตอนเย็นแทน เพราะมีเวลามากกว่า แต่จริงๆ แล้ว การ ออกกำลังกายตอนเช้า นั้นมีก็มีข้อดีมากกว่าที่ทุกคนคิด ข้อดีที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง หาคำตอบได้จากบทความนี้ไปกับ Hello คุณหมอ
ประโยชน์ดีๆ จากการ ออกกำลังกายตอนเช้า
ไม่ค่อยมีสิ่งรบกวน
ในช่วงเวลาเช้าตรู่ เป็นช่วงเวลาที่หลายคนอาจจะใช้เวลาไปกับการเตรียมตัวเพื่อไปเรียนหรือไปทำงาน หรือบางคนก็อาจจะยังคงนอนอยู่ ทำให้ในบริเวณสวนสาธารณะ หรือจุดออกกำลังกายอื่นๆ นั้นบางตา เทียบกับช่วงเวลาที่มีคนเยอะอย่างตอนเย็น จึงทำให้คุณสามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องมีสิ่งอื่นมารบกวนสมาธิของคุณ
อากาศเย็นกว่า
เมืองไทยนั้นเป็นเมืองร้อน ทำให้การออกกำลังกายในช่วงเวลาอื่นๆ อาจจะเป็นเรื่องที่ลำบาก ยิ่งโดยเฉพาะแสงแดดที่ร้อนแรงในตอนกลางวัน อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่ออกกำลังกาย ทำให้เสียน้ำได้มากกว่าที่ควร และอาจเสี่ยงเป็นลมแดดได้ การเลือกออกกำลังกายในช่วงเช้าตรู่ ก่อนที่แดดจะแรง จะทำให้เราได้ออกกำลังกายในอุณหภูมิที่พอเหมาะ อีกทั้งยังทำให้เราได้รับวิตามินดีจากแสงแดดในตอนเช้าอีกด้วย
เพิ่มความสดชื่น
เรามักจะรู้สึกง่วงงุน งัวเงีย และไม่สดชื่นหลังจากที่ตื่นนอน การที่เราได้ออกแรงเบาๆ ในตอนเช้า จะช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อและสมอง ทำให้เรารู้สึกสดชื่น กระฉับกระเฉง และมีพลังงานมากพอที่จะใช้ชีวิตอย่างสดชื่นในแต่ละวัน แต่ควรระมัดระวังไม่ออกกำลังกายอย่างหนักเกินไปในตอนเช้า เพราะจะทำให้เราหมดแรง และกลายเป็นรู้สึกง่วงในตอนกลางวันได้
มีสมาธิมากขึ้น
มีงานวิจัยที่พบว่า การออกกำลังกายนั้นสามารถช่วยให้เรามีสมาธิมากขึ้น ให้ความสนใจกับสิ่งต่างๆ ได้นานขึ้น สามารถเรียนรู้ได้ดีขึ้น และสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น ดังนั้น หากเรา ออกกำลังกายตอนเช้า ก็จะทำให้เรามีสมาธิในการเรียน หรือการทำงานมากขึ้น ทำให้ผลงานที่ออกมาก็มีประสิทธิภาพมากกว่าด้วยเช่นกัน
ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 1 นั้น จะต้องระมัดระวังการออกกำลังกาย เพราะอาจมีความเสี่ยงในการเกิด ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ได้มากกว่าปกติ แต่มีงานวิจัยที่พบว่า การออกกำลังกายในช่วงเช้านั้น จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ของผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 1 ได้ เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายในช่วงเวลาอื่น
ออกกำลังกาย เวลาไหนดีที่สุด
ความจริงแล้ว ช่วงเวลาการออกกำลังกายที่ดีที่สุดนั้น จะขึ้นอยู่กับความชอบ และความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น หากคุณเป็นคนที่จะต้องออกไปทำงานแต่เช้ามืด คุณก็อาจจะไม่มีเวลาที่จะ ออกกำลังกายตอนเช้า จึงต้องไปหาเวลาออกกำลังกายในตอนกลางวันหรือตอนเย็นแทน ในทางกลับกัน หากคุณต้องทำงานจนถึงเวลาดึก การออกกำลังกายในตอนเช้าก็อาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าสำหรับคุณ
หากคุณกำลังมองหาช่วงเวลาการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณที่สุด คุณก็อาจเปลี่ยนช่วงเวลาการออกกำลังกายไปมา เช่น ออกตอนเช้าสัก 2 สัปดาห์ แล้วลองเปลี่ยนไปออกกำลังกายตอนเย็นอีกสัก 2 สัปดาห์ เพื่อดูว่าช่วงเวลาไหนที่คุณสะดวกที่สุด และเหมาะกับคุณที่สุด แล้วก็เลือกช่วงการออกกำลังกายเวลานั้น
ช่วงเวลาที่คุณไม่ควรใช้ ออกกำลังกาย
มีบางช่วงเวลาที่คุณไม่ควรที่จะออกกำลังกาย นั่นคือช่วงเวลาก่อนนอน และช่วงเวลาหลังจากเพิ่งรับประทานอาหาร
ช่วงเวลาก่อนนอน เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของคุณจะเริ่มผ่อนคลาย และมีอุณหภูมิร่างกายลดลง ทำให้คุณรู้สึกง่วง และสามารถนอนหลับได้ แต่หากคุณออกกำลังกายก่อนนอน จะกลายเป็นการกระตุ้นร่างกายของคุณ ทำให้คุณกระสับกระส่าย และไม่สามารถข่มตาลงนอนได้เมื่อถึงเวลานอน คุณไม่ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนเวลานอน หรือหากต้องการออกกำลังกาย อาจเลือกเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยให้รู้สึกสงบ เช่น โยคะ จะดีกว่า
นอกจากนี้ คุณก็ไม่ควรที่จะออกกำลังกายทันทีหลังจากรับประทานอาหาร เพราะร่างกายนั้นต้องการพลังงานที่จะไปใช้ในการย่อยอาหาร หากคุณออกกำลังกายในขณะที่ยังมีอาหารอยู่เต็มท้อง อาจทำให้รู้สึกคลื่นไส้ อยากอาเจียน หรือท้องอืดเพราะอาหารไม่ย่อยได้
[embed-health-tool-bmi]