backup og meta

ลูกตัวร้อน ไข้ไม่ลด ควรรับมืออย่างไรบ้าง

ลูกตัวร้อน ไข้ไม่ลด ควรรับมืออย่างไรบ้าง

ลูกไม่สบายหรือมีไข้อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางชนิด หากพบว่า ลูกตัวร้อน ไข้ไม่ลด ควรดูแลเบื้องต้นที่บ้านด้วยการเช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย ดื่มน้ำและพักผ่อนให้มาก ๆ หรือบางรายอาจต้องใช้ยาลดไข้ตามคำสั่งแพทย์ วิธีเหล่านี้มักช่วยให้ลูกหายไข้ได้ภายใน 5-7 วัน แต่หากมีอาการต่อเนื่องหรืออาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบคุณหมอทันที

[embed-health-tool-vaccination-tool]

สาเหตุที่ทำให้ลูกเป็นไข้

โดยทั่วไป อุณหภูมิของเด็กเล็กและเด็กโตจะอยู่ที่ประมาณ 36.4 องศาเซลเซียส หากพบว่าลูกมีอุณหภูมิร่างกายเกิน 38 องศาเซลเซียส สัมผัสหน้าผากหรือแผ่นหลังแล้วรู้สึกว่าลูกตัวร้อนผ่าว มีเหงื่อออกเยอะ ดูเซื่องซึมกว่าปกติ แสดงว่าลูกกำลังมีไข้ ซึ่งเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายต่อการติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะเพิ่มอุณหภูมิเพื่อทำให้เชื้อโรคที่ก่อให้เกิดการติดเชื้ออยู่รอดได้ยากขึ้น การดูแลเบื้องต้นที่เหมาะสม อาจทำให้อาการไข้ของลูกหายไปเองภายใน 3-4 วัน

ภาวะที่อาจทำให้ลูกเป็นไข้ เช่น

  • โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (Respiratory tract infections หรือ RTI) เช่น โรคหวัด โรคปอดอักเสบ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย อาจทำให้เด็กมีไข้สูงหรือต่ำตามชนิดของเชื้อ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้
  • โรคหูติดเชื้อในเด็ก เป็นโรคที่พบมากในเด็กทารกและเด็กเล็ก เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในหู อาจทำให้เกิดอาการไข้ร่วมด้วย
  • โรคส่าไข้หรือหัดกุหลาบ (Roseola) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกับโรคเริม มักพบในทารกและเด็กเล็ก แพร่กระจายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย อาจทำให้เด็กตัวร้อนตลอดเวลาร่วมกับมีผื่นคันบนผิวหนัง
  • ต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้มีไข้สูง อ่อนเพลีย เจ็บคอ กลืนลำบาก
  • โรคติดเชื้อในไตหรือทางเดินปัสสาวะ (UTIs) เช่น โรคกรวยไตอักเสบ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาจทำให้เด็กตัวร้อน มีไข้สูง และร้องไห้งอแง
  • โรคทั่วไปในเด็ก เช่น โรคอีสุกอีใส โรคไอกรน อาจทำให้เด็กมีอาการไข้ ตัวร้อน
  • การฉีดวัคซีนป้องกันโรค เช่น วัคซีนคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน อาจทำให้เด็กมีไข้สูง ผิวหนังบริเวณที่ฉีดวัคซีนบวมแดง อ่อนเพลีย เป็นต้น

ลูกตัวร้อน ไข้ไม่ลด ควรดูแลอย่างไร

วิธีดูแลเมื่อลูกเป็นไข้ ตัวร้อน สามารถทำได้ดังนี้

  • ให้ลูกสวมใส่เสื้อผ้าที่สบายตัว ไม่รัดแน่นจนเกินไป และควรระบายอากาศได้ดี
  • ไม่ควรห่มผ้าห่มที่หนาเกินไปให้ลูก เนื่องจากอาจทำให้มีความร้อนสะสมในร่างกาย จนอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นได้
  • ให้ลูกดื่มน้ำและของเหลวบ่อย ๆ เช่น น้ำเปล่า นม น้ำผลไม้ไม่เติมน้ำตาล เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไปหรือเกิดภาวะขาดน้ำ หากเป็นทารกอายุไม่เกิน 6 เดือน ควรให้ดื่มน้ำนมแม่เท่านั้น
  • เช็ดตัวให้ลูกบ่อย ๆ เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต โดยใช้ผ้าชุบน้ำธรรมดาหรืออุ่นเล็กน้อยบิดหมาด เช็ดสวนรูขุมขนตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยเฉพาะซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ และอาจใช้ผ้าบิดหมาดซุกไว้ตามตำแหน่งดังกล่าวเพื่อช่วยลดอุณหภูมิได้เร็วขึ้น หลังจากนั้นใช้ผ้าแห้งอีกผืนซับน้ำออกจากตัวลูกให้แห้ง
  • ให้ลูกพักผ่อนในห้องที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป
  • ประคบเย็นที่หน้าผากด้วยน้ำชุบน้ำเย็นบิดหมาดหรือแผ่นเจลเย็น อาจช่วยให้อุณหภูมิลดลงได้
  • ให้ลูกรับประทานยาลดไข้ แต่ควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรเกี่ยวกับขนาดยาที่เหมาะสมกับอายุและน้ำหนักของลูกก่อนใช้ยา
  • หมั่นวัดอุณหภูมิร่างกายของลูกด้วยเทอร์โมมิเตอร์ โดยเฉพาะหากลูกดูเซื่องซึมมาก หรือเคยมีประวัติชักเมื่อเป็นไข้สูง หากอุณหภูมิร่างกายสูงควรเช็ดตัวให้บ่อยขึ้น
  • หากลูกอยู่ในวัยเรียน ควรให้หยุดอยู่บ้านเพื่อพักผ่อนให้เพียงพอและป้องกันการแพร่เชื้อไปให้ผู้อื่นที่โรงเรียน

เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ

หากลูกมีอาการต่อไปนี้ ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

  • ลูกอายุน้อยกว่า 3 เดือนและมีไข้สูง 38.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป อาจเป็นสัญญาณของภาวะติดเชื้อ
  • ลูกอายุน้อยกว่า 2 ปี และมีไข้สูง 38.5 องศาเซลเซียสขึ้นไปมากกว่า 1 วัน
  • ลูกอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป และมีไข้สูง 38.5 องศาเซลเซียสขึ้นไปมากกว่า 3 วัน
  • ลูกกลับมาเป็นไข้บ่อย ๆ และมีไข้สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
  • ลูกมีไข้ร่วมกับอาการผิดปกติ เช่น ชัก เจ็บคอรุนแรง ปวดหูหรือปวดศีรษะอย่างรุนแรง อาเจียนหรือท้องเสียซ้ำ ๆ ง่วงนอนหรือเซื่องซึมผิดปกติ ลูกร้องไห้งอแงและไม่สามารถปลอบให้สงบลงได้

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Fever treatment: Quick guide to treating a fever . https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/fever/in-depth/fever/art-20050997. Accessed September 5, 2022

High temperature (fever) in children. https://www.nhs.uk/conditions/fever-in-children/. Accessed September 5, 2022

Taking Care of Your Child’s Fever. https://www.webmd.com/children/features/fever-care-young-children. Accessed September 5, 2022

Fever in Children. https://www.stanfordchildrens.org/en/topic/default?id=fever-in-children-90-P02512. Accessed September 5, 2022

Not All Fevers Need Treatment. https://www.stanfordchildrens.org/en/topic/default?id=not-all-fevers-need-treatment-88-p11048. Accessed September 5, 2022

Fever in children. https://www.nhsinform.scot/illnesses-and-conditions/infections-and-poisoning/fever-in-children. Accessed September 5, 2022

เวอร์ชันปัจจุบัน

29/10/2022

เขียนโดย ศุภานิช สุริโย

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงสุสิตา หวังจิรนิรันดร์

อัปเดตโดย: Duangkamon Junnet


บทความที่เกี่ยวข้อง

ลูกเป็นไข้ คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลอย่างไร

วัดอุณหภูมิลูกได้ 36.7 องศา ถือว่า มีไข้ไหม ?


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

แพทย์หญิงสุสิตา หวังจิรนิรันดร์

พ่อแม่เลี้ยงลูก · โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร


เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 29/10/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา