คุณแม่มือใหม่ต้องคอยสังเกตและดูลูกน้อยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกรณีที่ ลูกสำลักนม นับเป็นอันตรายใกล้ตัวที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากสำลักนมและได้รับการดูแลไม่ถูกวิธี อาจร้ายแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ คุณแม่ควรหาวิธีป้องกันและวิธีแก้ไขเพื่อไม่ให้ลูกน้อยสำลักนมบ่อยเกินไป
เรื่องน่ารู้ สำหรับคุณแม่ให้นม
- หลังคลอดลูก คุณแม่ควรให้นมลูกเร็วที่สุดภายใน 1 ชั่วโมง
- ให้นมลูกบ่อยๆ หรือทุก 2-3 ชั่วโมง หลังจากคลอดลูก เพื่อกระตุ้นให้ลูกชินกับเต้านม
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เน้นอาหารบำรุงน้ำนม เช่น หัวปลี ตำลึง
- หลังคลอดอย่าทำความสะอาดหัวนมมากจนเกินไปจะทำให้หัวนมแห้ง และไหลน้อย
- ใช้ลูกประคบอุ่นๆ นวดเต้านมเพื่อกระตุ้นการไหลของน้ำนม
- งดเว้นการอาบน้ำอุ่นเพราะจะทำให้หัวนมขาดความชุ่มชื้น และหัวนมแตกได้
สาเหตุที่ทำให้ลูกสำลักนม
สาเหตุที่ทำให้ลูกสำลักนมนั้นเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกันทั้งสาเหตุจากคุณแม่เองและตัวคุณลูก โดยสาเหตุจากคุณแม่นั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การให้นมที่ผิดท่า การที่คุณแม่ดึงเต้านมออกก่อนขณะที่ลูกกำลังดูดนม หรือการที่ให้ลูกน้อยกินนมมากจนเกินความต้องการ รวมถึงน้ำนมที่ไหลเร็วจนเกินไป ส่วนสาเหตุที่เกิดจากตัวลูกเอง เช่น ลูกน้อยมีอาจมีปัญหาเรื่องความผิดปกติภายในร่างกายอย่างปอดและหัวใจ หรืออาจมีพัฒนาการที่ช้า
สังเกตอาการลูกสำลักนมอย่างใกล้ชิด
- ลูกจะมีอาการไอ เหมือนขย้อนนมหรือคายออกมา
- หากมีอาการสำลักแบบรุนแรง หน้าลูกจะเริ่มเปลี่ยนสี
- ลูกมีอาการหายใจผิดปกติ
- ระหว่างที่คุณแม่ให้นมลูกควรปรับการไหลของปริมาณน้ำนมโดยการกดบริเวณลานหัวนมเพื่อไม่ให้น้ำนมไหลเข้าปากลูกเร็วจนเกินไป
- จับลูกน้อยนอนตะแคงระหว่างการให้นมเพื่อป้องกันการสำลัก
- อย่าให้นมลูกบ่อยจนเกินไป หากลูกน้อยร้องไห้ควรสังเกตอาการให้แน่ใจว่าลูกนั้นร้องไห้เพราะหิวจริงๆ หรือเพราะสาเหตุใด
รับมืออย่างไร เมื่อลูกสำลักนม
หากลูกมีอาการสำลักนม ไม่ควรจับลูกอุ้มขึ้นทันทีเมื่อเกิดอาการสำลัก ควรจับลูกนอนตะแคงให้ศีรษะต่ำลง เป็นการป้องกันนมที่อยู่ในปากลูกไหลย้อนกลับไปที่ปอด
ถึงแม้ว่าลูกสำลักนม อาจจะไม่ได้เป็นภาวะที่ร้ายแรงมากนัก แต่ย่อมดีกว่าหากคุณแม่ให้นมลูกอย่างถูกวิธี และรู้จักระมัดระวัง ดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของลูกรัก
[embed-health-tool-vaccination-tool]