คุณน่าจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “การหัวเราะเป็นยาวิเศษ” มาบ้างแล้ว และ Hello คุณหมอ ก็อยากบอกคุณว่า คำกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด เพราะผู้เชี่ยวชาญต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า การหัวเราะสามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตของเราได้จริง และต่อไปนี้คือ ประโยชน์ของการหัวเราะ ที่คุณรู้แล้วจะต้องอยากหัวเราะให้มากขึ้นแน่นอน
ประโยชน์ของการหัวเราะ
ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
งานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งของมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ให้กลุ่มตัวอย่างกลุ่มหนึ่งดูรายการตลก และอีกกลุ่มดูละครดราม่า พบว่า หลังจากแต่ละกลุ่มดูรายการทีวีตามประเภทที่กำหนดแล้ว หลอดเลือดของกลุ่มที่ดูรายการตลกนั้นยืดและหดตัวได้ง่าย ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ส่วนกลุ่มที่ดูละครดราม่านั้น หลอดเลือดกลับมีแนวโน้มตึงขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก
เมื่อเลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น เลือดก็จะสามารถลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะหัวใจ ฉะนั้น หากคุณอยากสุขภาพหัวใจแข็งแรงก็ต้องหัวเราะเข้าไว้
ช่วยคลายกล้ามเนื้อ และบรรเทาปวด
เมื่อคุณหัวเราะ ความตึงเครียดทางกายจะหายไป และช่วยให้กล้ามเนื้อของคุณผ่อนคลายได้นานถึง 45 นาที นอกจากนี้ การหัวเราะยังทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารเคมีตามธรรมชาติที่ช่วยทำให้เรารู้สึกดี มีความสุข ทั้งยังช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้ด้วย
ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ควบคุมการหลั่งฮอร์โมน
การหัวเราะจะช่วยลดการหลั่งฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล (Cortisol) อะดรีนาลีน (Adrenaline) อิพิเนฟริน (Epinephrine) และกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ดีต่อร่างกาย เช่น เอนดอร์ฟิน อีกทั้งการหัวเราะยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน เช่น เซลล์เม็ดเลือดขาว เซลล์ที (T cell) ได้มากขึ้น และช่วยให้เซลล์เหล่านั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วย
หัวเราะเท่ากับออกกำลังกาย
การหัวเราะเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกขนาดย่อม ช่วยให้เราได้บริหารและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณกะบังลม หน้าท้อง และหัวไหล่ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราการหายใจ ทำให้รับออกซิเจนได้ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ผลการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังพบว่า การหัวเราะเป็นเวลา 10-15 นาที สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณ 10-40 กิโลแคลอรี่ และยิ่งถ้าคุณหัวเราะหนัก หรือที่เรียกว่าหัวเราะจนท้องแข็ง ก็จะยิ่งเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้นด้วย
ยิ่งหัวเราะ สุขภาพจิตยิ่งดี
การหัวเราะไม่ได้แค่ช่วยผ่อนคลายความเครียด แต่งานศึกษาวิจัยหลายชิ้นเผยว่า การหัวเราะยังช่วยลดอาการวิตกกังวล อารมณ์ฉุนเฉียว และอาการซึมเศร้า อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้คุณมองโลกในแง่ดีขึ้น และสามารถรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้ดีขึ้นด้วย
การหัวเราะช่วยสานสัมพันธ์
น้ำใจ รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ จะช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้ง่ายขึ้น ทั้งยังส่วนเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือคนแปลกหน้า และเมื่อเราหัวเราะ คนรอบข้างก็อาจหัวเราะตามไปด้วย ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นอย่างถ้วนหน้า
เคล็ดลับเพิ่มเสียงหัวเราะ
สำหรับคนที่เส้นลึก หรือหัวเราะยาก เคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้อาจช่วยให้คุณหัวเราะมากขึ้นได้
หัวเราะกับเพื่อนๆ
การออกไปพบปะสังสรรค์และใช้เวลาว่างกับเพื่อนๆ ของคุณบ้าง ไม่ว่าจะไปกินข้าว ดูหนัง หรือแค่นั่งพูดคุยกันเฉยๆ ก็สามารถช่วยให้คุณหัวเราะมากขึ้นได้แล้ว เพราะการหัวเราะก็คล้ายกับโรคติดต่อ คือพอเราเห็นคนอื่นหัวเราะ โดยเฉพาะเมื่อได้เจอสถานการณ์สุดฮา เช่น เวลาดูหนังตลก เราก็มักจะอดขำหรือหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้ หรือถ้าใครไม่อยากออกนอกบ้าน คุณกับเพื่อนๆ ก็สามารถจัดปาร์ตี้เล่นเกมสนุกๆ ด้วยกันได้ แต่อย่าลืมนะว่า ปาร์ตี้ที่จัดขึ้นต้องช่วยเพิ่มเสียงหัวเราะ ส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่ปาร์ตี้ดื่มหนักจนกลายเป็นสุขภาพพังกว่าเดิม
เสพสื่อเรียกเสียงฮาให้บ่อยขึ้น
หากสภาพอากาศแย่ๆ และการจราจรอันแสนติดขัดทำให้คุณไม่อยากออกนอกบ้าน คุณก็สามารถเพิ่มเสียงหัวเราะให้ตัวเองตอนอยู่บ้านได้ง่ายๆ เพียงแค่ดูรายการทีวี หรือคลิปวิดีโอตลกๆ สักรายการ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีบริการวิดีโอสตรีมมิ่งหลากหลายเจ้าให้คุณเลือกรับชม การหาหนังตลกมาดูแก้เครียด และเพิ่มเสียงหัวเราะให้ตัวเองจึงสามารถทำได้ง่ายมากเพียงแค่ใช้ปลายนิ้วคลิก หากใครกลัวเหงา ก็สามารถชวนเพื่อนมาดูด้วยกันได้ นอกจากจะได้เพิ่มเสียงหัวเราะแล้ว ยังช่วยให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้นด้วย
มองโลกในแง่ดีเข้าไว้
ต่อให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันจะเหนื่อยยาก หรือเครียดแค่ไหน คุณก็ไม่ควรเอาแต่บ่นหรือมองโลกในแง่ร้าย แต่ต้องมองโลกในแง่ดี และพยายามหัวเราะไปกับมันให้ได้ บางเหตุการณ์อาจทำให้คุณหัวเราะไม่ออกในตอนแรก แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะต้องจมอยู่กับความรู้สึกนั้นไปตลอด หากคุณปล่อยวางได้ คุณก็จะหัวเราะให้กับมันได้ในภายหลัง การฝึกมองโลกในแง่ดี คิดบวกอยู่เสมอ จะช่วยให้คุณมีความสุขและหัวเราะได้มากขึ้น ไม่ทำให้คุณเสียสุขภาพแบบการมองโลกในแง่ร้าย
ฝืนหัวเราะไปให้ชิน
ผลการวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า การหัวเราะไม่ว่าจะแบบจริงใจหรือแกล้งทำ ล้วนแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพของเราได้ทั้งสิ้น ฉะนั้น ต่อให้ต้องฝืนหรือแกล้งทำ คุณก็ควรหัวเราะเข้าไว้ เพราะไม่แน่ว่า การฝืนหัวเราะของคุณ อาจเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะที่มาจากใจจริง และทำให้คุณหัวเราะและยิ้มบ่อยขึ้นจนเป็นนิสัยก็ได้
แม้เราจะสนับสนุนให้คุณหัวเราะและยิ้มให้มากๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะหัวเราะที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะยังไงคุณก็ควรแสดงออกทางอารมณ์โดยดูตามกาลเทศะด้วย เพราะหากอยู่ในเหตุการณ์เศร้าสลด หรืออยู่กลางการประชุมที่ทุกคนกำลังระดมความคิดเพื่อแก้ไขปัญหา แล้วคุณดันหัวเราะโพล่งขึ้นมา จากที่หัวเราะแล้วได้ประโยชน์อาจกลับกลายเป็นให้โทษได้