งานดีชีวิตดี แต่บางครั้งงานที่ดี ก็มากด้วยภาระและหน้าที่ที่จะต้องจัดการให้เรียบร้อยในทุก ๆ วัน หลายคนต้องตื่นนอนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง กลับบ้านฟ้าก็ยังมืดเหมือนตอนที่ออกจากบ้านมาทำงาน เป็นวัฏจักรเช่นนี้อยู่นาน จนกระทั่งร่างกายเริ่มมีอาการที่ผิดปกติ สภาพจิตใจเริ่มอ่อนเพลียกับสิ่งที่เป็นอยู่ นั่นอาจเป็น สัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายควรต้องพัก ถึงเวลาที่คุณควรจะต้องเขียนใบลาพักร้อน ไปพักกายและพักใจสักที Hello คุณหมอ จะพาไปดูกันว่ามีสัญญาณทางสุขภาพแบบใดบ้างที่คุณต้องระวัง และหันมาใส่ใจกับการพักผ่อนให้มากขึ้น
ผลกระทบจากการทำงานที่มีต่อสุขภาพของคนเรา
ในปัจจุบัน สภาวะความเครียดจากการทำงานเป็นปัญหาของคนทั่วทั้งโลก จากปัจจัยต่าง ๆ ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน สภาพแวดล้อมในการทำงาน ระบบการทำงาน ทัศนคติของเพื่อนร่วมงานและผู้บริหาร การมีภาระงานที่หนักหนาจนเกินไป รวมถึงความทุ่มเทให้กับการแก้ไขปัญหาของระบบงานและเนื้องาน และถ้าหากปัจจัยดังกล่าวไม่ได้ส่งผลให้คุณมีความรู้สึกสนุกในการทำงาน ก็ย่อมมีผลตรงกันข้ามคือทำให้รู้สึกกดดัน เครียด เพราะต้องเจอสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการมีสุขภาพจิตที่ดีทุกวัน ซึ่งสามารถส่งผลกระทบทั้งทางกายและทางใจได้ดังนี้
ผลกระทบต่อสุขภาพกาย
- ความเมื่อยล้า
- กล้ามเนื้อตึง
- ปวดศีรษะ
- หัวใจสั่น
- มีปัญหาเกี่ยวกับการนอน เช่น นอนไม่หลับ
- มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก หรือท้องเสีย
ผลกระทบต่อสุขภาพจิต
- ซึมเศร้า
- วิตกกังวล
- ท้อแท้
- หงุดหงิดง่าย
- มองโลกในแง่ร้าย
- มีความรู้สึกว่าไร้ความสามารถในการจัดการกับความรู้สึกของตนเอง
- ไม่ค่อยมีสมาธิ
ลาพักร้อนดีอย่างไร ทำไมถึงควรลาพักร้อน
เมื่อถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกว่าตนเองเริ่มไม่ไหวกับการมาทำงาน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไม่ต้องการที่จะลาออก เนื่องด้วยปัจจัยต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพยังเป็นกรอบสำคัญที่ทำให้คุณไม่สามารถลาออกได้ การลาพักร้อน จึงถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้คุณได้พักตัวเองจากความเครียดและความยุ่งเหยิงทั้งหมดในที่ทำงาน และการหยุดพักชั่วคราว นอกจากจะเป็นการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าแล้ว ยังอาจจะช่วยให้คุณกลับมาสนุกและมีไฟกับการทำงานได้เหมือนเดิม
ลดความเครียด
อ้างอิงจาก สมาคมจิตวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (American Psychological Association) หรือ APA กล่าวว่า การลาหยุด หรือการพักร้อน ช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับความเครียดให้ลดลงได้ การเอาตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมที่กดดันในการทำงาน ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ไปท่องเที่ยว หรือแม้แต่การหยุดพักอยู่ที่บ้านเฉย ๆ ตื่นนอนสาย ๆ ทำอาหารรับประทานกับครอบครัว ก็มีส่วนช่วยให้ความเครียดลดลงได้เหมือนกัน และเมื่อความเครียดเริ่มลดลง ปัญหาอันเนื่องจากความเครียด อย่างอาการปวดหลัง ปวดศีรษะ ก็อาจจะทุเลาลง หรือหายดีขึ้นได้เช่นกัน
ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
ความเครียดก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจ จากผลวิจัยพบว่า การลาพักร้อน หรือการหยุดงานเพื่อการพักผ่อน มีความสัมพันธ์กับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ผู้ที่ไม่ลาพักร้อนหรือไม่หยุดงานเลย มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจมากกว่าผู้ที่ใช้วันลาพักร้อนมากกว่า 30% แม้ว่านี่อาจจะไม่ใช่ต้นเหตุทั้งหมดของการเกิดโรคหัวใจ แต่เหตุผลนี้มากเพียงพอที่จะทำให้คุณเห็นความสำคัญของการพักผ่อนไม่น้อยไปกว่าการเต็มที่ในการทำงาน
เพิ่มศักยภาพในการทำงาน
มีหลายครั้งที่เพื่อนร่วมงานดูเครียด ๆ ไม่มีความสุขในการทำงาน แต่หลังจากลาพักร้อนไปเที่ยว กลับมีสีหน้าที่สดใสขึ้น สนุกกับการทำงานมากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะ เมื่ออยู่ในช่วงของการพัก สมองก็ได้พักความเมื่อยล้าด้วยเช่นกัน เหมือนกับที่เรารู้สึกสดชื่นขึ้นหลังตื่นนอน หลังจากการพัก สภาพร่างกายก็พร้อมที่จะกลับมาทำงาน และอาจได้ประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
เพิ่มความคิดสร้างสรรค์
การพักผ่อน ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ได้ เพราะในช่วงเวลาการทำงานตลอดหลายเดือนที่สุดแสนจะเคร่งเครียด ตารางงานที่รัดตัว ทุกอย่างยุ่งเหยิงเกินกว่าที่จะสามารถคิดงานหรือโปรเจกต์ดี ๆ ออกมาได้ ควรหาเวลาไปพักผ่อน อยู่กับตัวเองมากขึ้น จากการวิจัยพบว่า มีส่วนช่วยให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ พร้อมที่จะกลับมาทำงานให้ดีได้มากขึ้นด้วย เช่นเดียวกับนักกีฬาที่จำเป็นต้องมีการพักหลังจากการซ้อมอันหนักหน่วง เพื่อให้ร่างกายสามารถพร้อมต่อการทำกิจกรรมต่อไป
นอนหลับได้ดีขึ้น
บางคนไม่จำเป็นต้องลาพักร้อนเพื่อไปเที่ยว แต่ลาพักร้อนเพื่อหยุดอยู่ที่บ้าน เนื่องจากการลาหยุด ช่วยให้คุณนอนหลับได้มากขึ้น เพราะไม่มีตารางชีวิตและกำหนดการต่าง ๆ มารุมเร้าให้คุณต้องตื่นเช้าเพื่อไปทำงาน เมื่อคุณนอนได้มากขึ้น สุขภาพของคุณก็สามารถที่จะดีขึ้นได้เพราะมีการพักผ่อนที่เพียงพอนั่นเอง
อะไรบ้างที่เป็น สัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายควรต้องพัก
มีหลายสัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณเริ่มไม่ไหวกับการทำงานแล้ว และถ้าหากฝืนต่อไปอีกเรื่อย ๆ อาจก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพที่เรื้อรัง และยากที่จะแก้ไขได้ ทุกคนสามารถที่จะสังเกตอาการทางสุขภาพของตนเองจากการทำงานได้ง่าย ๆ หากมีสัญญาณดังต่อไปนี้ ให้คิดถึงเรื่องลาพักร้อนรอไว้ได้เลย เพราะถึงเวลาที่คุณควรจะต้องพักบ้างแล้วจริง ๆ
รู้สึกได้ว่าพักผ่อนน้อย
ปัญหาที่ทุกคนสามารถรู้ตัวได้ทันทีเลยก็คือ ช่วงนี้เริ่มมีการนอนไม่พอ นอนไม่เต็มอิ่ม นอนแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น หรือดึกดื่นแล้วก็ยังต้องทำงานอยู่ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เป็นผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้น หากเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหว ให้เตรียมการลาหยุดไปพักผ่อนทันที
พฤติกรรมการกินเปลี่ยนไป
เปลี่ยนไปอย่างไร? คุณอาจรับประทานอาหารได้น้อยลง หรือลืมไปเลยว่าต้องกินอาหารในเวลาไหน หรือคุณอาจกินมากกว่าเดิม หิวตลอดทั้งวัน กินแล้วก็กินอีก นั่นอาจเป็นผลมาจากความเครียดในการทำงาน
หมดแรงบันดาลใจ
เมื่อทำงานไปสักพัก หลายคนจะเริ่มมีอาการที่เรียกว่า หมดไฟ ทำงานแค่เพียงเพื่อให้ผ่านไปในแต่ละวัน ไม่อยากออกความคิดใหม่ ๆ หรือคิดอะไรที่สร้างสรรค์กว่าที่เป็นอยู่ไม่ค่อยออก คุณอาจกำลังอยู่ในช่วงที่มีความเครียดสะสมสูงจนหมดไฟแล้วนั่นเอง
ป่วยบ่อยขึ้น
การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ส่งผลต่ออาการทางสุขภาพได้ คุณอาจเป็นหวัดบ่อย ปวดหัวมากขึ้น หรือไม่สบายเกือบทุกเดือน หากมีอาการเช่นนี้ นอกจากการลาหยุดไปหาคุณหมอ ก็ควรลาหยุดเพื่อพักผ่อนร่างกายและจิตใจจากการทำงานดูบ้างก็จะดีไม่น้อย
ไม่สนุกกับสิ่งที่ชอบอีกต่อไป
หลายคนเลือกมาทำงานในตำแหน่งปัจจุบันนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ใช่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณอาจเริ่มเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เคยบอกว่าชอบ ถึงเวลาที่คุณต้องกลับมาตั้งต้นใหม่ หาเวลาอยู่กับตัวเองสักพักจากความเหนื่อยล้า เพราะคุณอาจจะกำลังเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าจากการทำงานก็เป็นได้