อนุมูลอิสระ เป็นอีกหนึ่งตัวการทำลายเซลล์ ทำให้เราแก่ลงทุกวัน ยิ่งร่างกายเรามีอนุมูลอิสระมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งแก่เร็วขึ้น และเสี่ยงเกิดโรคต่างๆ มากขึ้นเท่านั้น แต่วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราสามารถป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกายได้ ก็คือ การบริโภคสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ฟลาโวนอยด์” ที่พบได้ในพืชผักผลไม้หลากหลายชนิด และได้ชื่อว่าเป็น สารต้านอนุมูลอิสระ หรือ แอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) ชั้นเลิศ
ฟลาโวนอยด์ สารจากพืชชั้นเลิศ
ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) เป็นสารพฤกษเคมีในกลุ่มสารประกอบโพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ มีอยู่ด้วยกันมากกว่า 6,000 ชนิด และสามารถแบ่งเป็นกลุ่มย่อยได้ 6 กลุ่ม ได้แก่
- ฟลาโวนอล (Flavonols)
- ฟลาวานอล (Flavanols) หรือ ฟลาวาน-3-ออล (Flavan-3-ols)
- ฟลาวาโนน (Flavanones)
- ฟลาโวน (Flavones)
- ไอโซฟลาโวน (Isoflavones)
- แอนโทไซยานิดิน (Anthocyanidin)
ฟลาโวนอยด์สามารถพบได้ในผักและผลไม้หลายชนิด ทั้งยังพบในไวน์ ชา ผงโกโก้ และช็อกโกแลตด้วย โดยอาหารแต่ละอย่างก็จะมีฟลาโวนอยด์แต่ละชนิดในความเข้มข้นแตกต่างกันออกไป
แหล่งฟลาโวนอยด์ที่คุณหาได้ง่ายๆ
คุณสามารถเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระอย่างฟลาโวนอยด์ให้กับร่างกายได้ ด้วยการกินอาหารต่อไปนี้
แอปเปิ้ล
ในแอปเปิ้ลอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ที่ชื่อว่า เควอซิทิน (Quercetin) ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ภาวะหัวใจวาย โรคต้อกระจก ช่วยป้องกันการเกิดโรคเกาต์ซ้ำ ช่วยควบคุมอาการหอบหืด ทั้งยังบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้ด้วย
ชาเขียว
ชาเขียวมีสารฟลาโวนอยด์สำคัญที่ชื่อว่า เอพิกัลโลคาเทชิน กัลเลต (Epigallocatechin gallate หรือ ECGC) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังกว่าวิตามินซี และวิตามินเอถึง 100 เท่าและ 25 เท่าตามลำดับ ฟลาโวนอยด์ตัวนี้มีคุณสมบัติเด่นในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สามารถต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้ในทุกระยะ ตั้งแต่ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง หรือคาร์ซิโนเจน (Carcinogen) ไปจนถึงช่วยลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
ช็อกโกแลต และผงโกโก้
ผงโกโก้และช็อกโกแลต โดยเฉพาะชนิดเข้มข้น หรือดาร์กช็อกโกแลตอุดมไปด้วยฟลาวานอยด์หลากหลายชนิด ยิ่งช็อกโกแลตเข้มข้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีฟลาโวนอยด์สูงขึ้นเท่านั้น หากคุณอยากกินช็อกโกแลตแบบดีต่อสุขภาพ ได้ฟลาโวนอยด์เต็มที่จริงๆ เราแนะนำให้คุณทำช็อกโกแลตกินเอง ทั้งในรูปแบบช็อกโกแลตแท่ง และช็อกโกแลตร้อน เพราะจะได้ควบคุมปริมาณส่วนประกอบอื่นๆ เช่น น้ำตาล นม ได้เอง ทั้งมีฟลาโวนอยด์มากกว่าและดีต่อสุขภาพกว่าด้วย หรือหากจะเลือกซื้อแบบสำเร็จรูปที่วางขายทั่วไปในท้องตลาด ก็ต้องไม่ลืมอ่านฉลากอาหารให้ดีก่อนซื้อ
ไวน์แดง
ประเทศฝรั่งเศสมีอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดต่ำกว่าประเทศอื่นที่นิยมบริโภคชีส นม เนย และไขมันอิ่มตัวเหมือนกัน ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าที่เป็นเช่นนี้ เพราะชาวฝรั่งเศสนิยมบริโภคไวน์แดงที่อุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์ โดยเฉพาะสารในกลุ่มฟลาวานอลและแอนโทไซยานิดิน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ แต่หากใครไม่สะดวกดื่มไวน์แดง การดื่มน้ำองุ่นแท้ 100% ก็ให้ฟลาโวนอยด์กับคุณได้เช่นกัน
ทับทิม
ทับทิมอุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์หลากหลายชนิด เช่น แอนโทไซยานิน ( Anthocyanins) ฟลาโวนอล (Flavonols) ฟลาวาน-3-ออล (Flavan-3-ols) และหากเป็นน้ำทับทิมและเปลือกทับทิม ก็จะมีแคทิชิน (Catechin) ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้อย่างดี สามารถช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่าชาเขียวและไวน์แดงถึง 3 เท่า
นอกจากอาหารข้างต้นแล้ว คุณยังสามารถหาฟลาโวนอยด์ได้จากพืช และผลิตภัณฑ์จากพืชอื่นๆ ได้ด้วย เช่น หอมหัวใหญ่ ผักคะน้า มะเขือเทศ ผักกาดขาว ต้นหอม บร็อคโคลี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ คาโมมายล์ พืชตระกูลส้ม (ส้ม มะนาว เลมอน เกรปฟรุต) รวมถึงธัญพืช และถั่วชนิดต่างๆ (ถั่วเหลือง ถั่วปากอ้า)
ประโยชน์สุขภาพจากฟลาโวนอยด์
ฟลาโวนอยด์ได้ชื่อว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง ช่วยไม่ให้เลือดจับตัวเป็นก้อนหรือเป็นลิ่ม ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาท จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพเรื้อรังได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะความดันโลหิตสูง โรคที่เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาท (เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์) โรคหอบหืด โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคมะเร็งบางชนิด (เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก) อีกทั้งฟลาโวนอยด์ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการเมตาบอลิซึม การย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหารด้วย
นอกจากนี้ งานวิจัยชิ้นใหม่ยังพบว่า ฟลาโวนอยด์ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถควบคุมอาการของโรคได้ดีขึ้นด้วย เนื่องจากช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ในอยู่ในเกณฑ์ปกติ และช่วยลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin resistance) แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังต้องศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ด้านนี้เพิ่มเติม
แต่ถึงฟลาโวนอยด์จะขึ้นชื่อว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีประโยชน์ต่อร่างกาย เราก็ควรบริโภคอาหารที่มีฟลาโวนอยด์ในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะอาหารที่เป็นแหล่งฟลาโวนอยด์บางชนิดก็อาจมีแคลอรี่สูง เช่น ไวน์แดง ช็อกโกแลต หากกินมากไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ และคุณก็ต้องไม่ลืมกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพอื่นๆ ให้หลากหลาย ออกกำลังกายเป็นประจำด้วย หากใครอยากบริโภคฟลาโวนอยด์ในรูปแบบอาหารเสริม ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกรจะปลอดภัยที่สุด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]