คู่รักควรรู้ เมื่อมี ความสัมพันธ์ที่ดี สุขภาพกายใจก็จะดี

หากพูดถึง คู่รัก หลาย ๆ คนคงนึกถึง ความรัก ความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน แต่เรื่องของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนทั้งสองนั้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เหล่าคู่รักควรให้ความสำคัญอยู่เสมอ เพราะ ความสัมพันธ์ที่ดี นอกจากจะทำให้ความรักราบรื่นในระยะยาวแล้ว ในอีกด้าน ความสัมพันธ์ที่ดี ยังสามารถส่งผลต่อสุขภาพกายและใจของคนเราได้อีกด้วย แต่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีนั้น ควรทำอย่างไร และสามารถเริ่มต้นได้อย่างไรบ้าง บทความนี้ Hello คุณหมอ มีเรื่องนี้มาฝากกัน

การสร้าง ความสัมพันธ์ที่ดี สามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง

ปกติแล้ว ความรัก และการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีมักไม่ได้มีสูตรที่ตายตัว แต่ทั้งนี้ความสำเร็จของความรัก รวมไปถึงความสัมพันธ์ที่ดีนั้น มักจะขึ้นอยู่กับการร่วมมือกันของคู่รัก โดยเคล็ดลับในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีที่เรานำมาฝากเหล่านี้ คือสิ่งที่เหล่าคู่รักควรพึงกระทำและระมัดระวัง เพื่อความรักอันราบรื่น และสุขภาพกายใจที่จะตามมาในภายหลัง

เริ่มต้นความสัมพันธ์อย่างมีเป้าหมาย

คุณควรเริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยการนึกถึงสิ่งที่เราต้องการ อย่างเช่น คบกันเพื่อจะได้แต่งงานกัน เป็นต้น และพยายามหาคู่รักที่มีแนวโน้มที่สอดคล้องกับความต้องการของเรา เพื่อทำให้ความสัมพันธ์นั้นมีความสุข เนื่องจากบางครั้ง การเริ่มต้นความสัมพันธ์ โดยคิดเพียงแค่ว่าการคบไปนาน ๆ พฤติกรรมบางอย่างที่คุณรู้สึกไม่ชอบใจอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ มันอาจทำให้รักของคุณจบลงได้

พยายามสื่อสารกัน เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง

การสื่อสารที่เปิดกว้างถือเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างความสัมพันธ์และการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้ สำหรับความสัมพันธ์ในระยะยาว การสื่อสารอย่างเปิดเผยและสร้างสรรค์ถือเป็นเรื่องควรกระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้น สิ่งที่คู่รักควรทำคือ สื่อสารเพื่อแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพราะความเครียดสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อความสัมพันธ์มาถึงจุดที่ความพึงพอใจของทั้งคู่ไม่สอดคล้องกัน

ปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลไปถึงความโรแมนติกที่อาจจะลดลง นอกจากนั้นแล้ว ปัญหาทางด้านการเงิน การรับผิดชอบ และความหึงหวง ก็ถือเป็นความขัดแย้งที่ควรได้รับการแก้ไข เพื่อทำให้ความเครียดที่เกิดขึ้นนั้นคลี่คลายลง แต่หากคุณไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้ การปรึกษากับนักบำบัดมืออาชีพ อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

ไว้วางใจซึ่งกันและกัน

ความไว้วางใจในคู่ของตนเองนั้น ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพ โดยปกติแล้วความสัมพันธ์ในช่วงต้นของชีวิตมักถูกกำหนดด้วยความคาดหวังไปถึงความสัมพันธ์ในอนาคต ซึ่งถ้าความสัมพันธ์ของคุณมั่นคงและมีการไว้วางใจซึ่งกันและกัน ก็จะสามารถส่งผลไปยังอนาคตด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากความสัมพันธ์เริ่มต้นด้วยความไม่มั่นคงและคู่รักไม่สามารถพึ่งพาซึ่งกันและกันได้ ในอนาคตคุณอาจจะต้องมานั่งแก้ไขปัญหาความน่าเชื่อถือบางอย่างก็เป็นได้

วิธีการสร้างความไว้วางใจให้แก่กันและกันนั้น ต้องเริ่มจากการเปิดเผยตัวเอง ด้วยการแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวคุณให้คู่รักได้รับรู้ เมื่อความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลให้ความสัมพัน์ของคุณสะดวกสบายและมีความปลอดภัยมากขึ้น แต่หากคุณหรือคู่รักรู้สึกว่ามีบางอย่างยังถูกซ่อนอยู่ นั่นอาจจะทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจขึ้นมา ดังนั้น การไว้วางใจซึ่งกันและกันจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก

การเปิดกว้างและความซื่อสัตย์

ในความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพ การเป็นตัวของตัวเองนั้นถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด นอกจากนั้นแล้วคู่รักทุกคู่ต้องมีการเปิดเผยตัวเอง เพื่อไม่ให้ค่างคนต่างรู้สึกว่าต้องซ่อนแง่มุมหรือเปลี่ยนแปลงตัวเอง การเปิดกว้างซื่อสัตย์ต่อกันไม่เพียงแต่จะช่วยให้มีความรู้สึกผูกพันต่อกันมากขึ้น แต่ยังช่วยสร้างความไว้วางใจต่อกันอีกด้วย แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องบอกทุกอย่าง ทุกสิ่งแก่คู่ของคุณ เพราะแต่ละคนก็ยังต้องการความเป็นส่วนตัวอยู่ แต่การทำให้คู่รักรู้สึกสบายใจที่จะแบ่งปันความหวัง ความกลัว ความวิตกกังวล และความรู้สึกต่าง ๆ ได้ ถือเป็นเรื่องที่ดี

บางครั้งคู่รักที่มีสุขภาพดีก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา หรือต้องแบ่งปันทุกอย่างต่อกัน นอกจากนั้น ขอบเขตความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพ ยังช่วยให้คุณยังสามารถทำสิ่งที่สำคัญกับตัวเองได้ เช่น ออกไปเที่ยวกับเพื่อน รักษาความเป็นส่วนตัว ในขณะที่ยังคงแบ่งปันสิ่งสำคัญกับคู่ของคุณได้

เคารพซึ่งกันและกัน

สำหรับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน และมีสุขภาพที่ดี คู่รักต่างต้องเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ควรดูหมิ่นซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งควรจะต้องให้การสนับสนุนต่อกัน และทำให้คู่รักรู้สึกปลอดภัย มีหลายคู่ที่แสดงความเคารพซึ่งกันและกัน ด้วยวิธีเหล่านี้

• รับฟังซึ่งกันและกัน
• ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง เมื่อคู่ของคุณขอให้คุณทำบางสิ่งบางอย่าง
• มีความเข้าใจและให้อภัย เมื่อบุคคลหนึ่งทำผิด
• การให้ความสนใจในสิ่งที่คู่ของคุณมีความสุข
• การอนุญาตให้คู่ของคุณมีความเป็นตัวของตัวเอง
• สนับสนุนในสิ่งที่คู่ของคุณสนใจ
• แสดงความขอบคุณซึ่งกันและกัน
• มีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
• พยายามส่งเสริมกันและกัน

รักษาการเชื่อมต่อทางอารมณ์ที่มีความหมายซึ่งกันและกัน

คู่รักแต่ละคู่ต่างก็มีความรู้สึกรักและต้องการเติมเต็มความรู้สึกนั้นอยู่เสมอ ซึ่งแต่ละคู่ก็จะมีความรู้สึกถูกรักและรู้สึกรักที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเมื่อคุณรู้สึกถึงความรัก มันก็จะทำให้คุณรู้สึกว่าได้รับการยอมรับและมีคุณค่าจากคู่ของคุณ ความสัมพันธ์บางอย่างอาจจะขึ้นอยู่กับการอยู่ร่วมกันแล้วรู้สึกสงบสุข แต่ถ้าขาดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมร่วมกันบางอย่าง ๆ ต่อเนื่อง หรือ ขาดการเชื่อมต่อทางอารมณ์ ก็อาจจะทำให้มีระยะห่างระหว่างคน 2 คนเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

รักษาความสัมพันธ์และความสนใจภายนอกเอาไว้

ก่อนอื่นคุณควรเข้าใจก่อนว่า ไม่มีใครสามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้ทั้งหมด ดังนั้น การคาดหวังมากเกินไปจากคู่ของคุณก็สามารถสร้างแรงกดดันต่อความสัมพันธ์จนอาจส่งผลที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นและเพิ่มความสัมพันธ์ที่โรแมนติกของคุณ

การรักษาเอกลักษณ์ของคุณ รวมถึงความสนใจภายนอก อย่างเช่น งานอดิเรก หรือความสนใจอื่น ๆ ของคุณ จึงถือเป็นเรื่องที่ควรทำ ทั้งนี้ การรักษาความสนใจภายนอกเอาไว้ มันสามารถรักษาความสัมพันธ์ของคุณกับคู่รักได้ ทั้งยังสามารถรักษาความสัมพันธ์กับครอบครัว และเพื่อนๆ ได้อีกด้วย

ความอดทน

ไม่มีใครสามารถอดทนได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่เกิดปัจจัยต่าง ๆ ขึ้น เช่น การการนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียด หรือปัญหาด้านสุขภาพ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณตื่นตัวและขาดความอดทนได้ง่ายขึ้น แต่นั่นคือส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์

ในความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพและความรักนั้น ความอดทนถือเป็นตัวช่วยที่ทำให้เกิดความสงบสุข ความยืดหยุ่น และยังเป็นการสนับสนุนให้อีกคนเมื่อคน ๆ นั้นต้องเจอกับวันที่แย่ ๆ หรือวันที่ไม่ดีที่สุด เมื่อคู่รักมีความอดทนซึ่งกันและกัน ก็จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับอารมณ์และความรู้สึกของคู่รักแบบวันต่อวันได้ด้วยเหตุและผลนั่นเอง

เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ

บางครั้งในบางความสัมพันธ์ของคู่รักอาจจะต้องการความช่วยเหลือ หรือความสนับสนุนเพิ่มเติม ซึ่งคุณหรือคู่รักของคุณอาจจะต้องทำบทบาทในการเป็นผู้ดูแลมากขึ้นนั่นเอง การเป็นผู้ให้และผู้รับจะทำให้ทั้งคู่ต่างรู้สึกว่าตนเองยังได้รับการสนับสนุนจากคนที่เขาต้องการ ซึ่งนั่นจะทำให้เขายิ่งมีพลังเพิ่มขึ้นอีกด้วย

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด