ยาสตรี ยาขับเลือด หรือ ยาขับประจําเดือน เป็นยาสมุนไพรแผนโบราณที่นิยมใช้เพื่อการบำรุงเลือด บรรเทาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือใช้บำรุงสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงอยู่ไฟ อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาเกี่ยวกับส่วนผสมและข้อควรระวังของยาขับประจำเดือนก่อนใช้ อีกทั้งยังควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรเสมอก่อนใช้ยา
[embed-health-tool-ovulation]
ยาขับประจําเดือน หรือยาสตรี มีส่วนผสมอะไร
ส่วนใหญ่แล้ว ยาขับประจำเดือนหรือยาขับเลือดจะมีสมุนไพรหลายชนิดเป็นส่วนประกอบ ส่วนใหญ่แล้วยาสตรีจะมีหลายตำรับ ใช้ในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น
- การใช้ยาสตรีเพื่อบำรุงร่างกาย ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงโลหิต อาจกระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนดี ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
- การใช้ยาสตรีเพื่อทดแทนการอยู่ไฟ จึงช่วยขับน้ำคาวปลาหลังคลอด ช่วยฟอกโลหิต อาจช่วยให้มดลูกของแม่หลังคลอดกลับมาสู่สภาพปกติ
- การใช้ยาสตรีเพื่อแก้ปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ ให้รอบเดือนมาได้อย่างปกติเป็นประจำ อาจบรรเทาอาการตกขาว
ส่วนประกอบสำคัญของยาสตรี
ยาสำหรับสตรีมักจะมีตัวยาสมุนไพรที่มีรสร้อนตามศาสตร์ของยาแผนไทย แต่ละตำรับยาก็แตกต่างกันไปตามสูตร โดยส่วนประกอบสำคัญของยาสตรี จะมีสมุนไพรที่ออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิงหรือฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นสารประกอบที่ได้จากพืช ชื่อว่า ไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ช่วยปรับฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุล โดยเฉพาะยาขับประจําเดือน ที่จะช่วยให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้น ลอกออกมาเป็นประจำเดือน ทำให้รอบเดือนมาปกติ ตัวอย่างสมุนไพร เช่น
- กวาวเครือขาว
- ว่านชักมดลูก
- โกฏเชียง
- โกฏหัว
- บัว
- ตานเซียม
- กิ่งอบเชย
- บักดี้
- ขิง
- ดีปลี
- พริกไทย
- น้ำมันสะระแหน่
- ดอกคำฝอย
- ชะเอม
ข้อควรระวังยาขับประจําเดือน
ยาบำรุงเลือดสำหรับสตรีหรือยาขับประจําเดือน มีทั้งรูปแบบยาเม็ดและยาน้ำ ซึ่งในยาน้ำมักจะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ช่วยสกัดเอาสารสำคัญออกมาจากพืชสมุนไพร หากรับประทาน ยาน้ำบำรุงเลือดสำหรับสตรี ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จะมีข้อควรระวัง ดังนี้
- ไม่แนะนำให้กินยาสตรีหรือยาขับประจําเดือนติดต่อกันนาน ๆ อาจส่งผลให้เกิดพิษที่ตับจากแอลกอฮอล์ได้
- ไม่แนะนำให้กินยาสตรีหรือยาขับประจําเดือนขณะตั้งครรภ์ เพราะมีแอลกอฮอล์ และสมุนไพรบางชนิด เช่น รากเจตมูลเพลิงแดง ส่งผลต่อทารกในครรภ์ เสี่ยงต่อความพิการ อาจทำให้ทารกเจริญผิดรูปได้ ซึ่งสามารถอ่านได้จากฉลากยาที่ระบุว่า “สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน”
- ไม่แนะนำให้กินยาสตรีหรือยาขับประจําเดือน ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ในแม่ที่ให้นมลูก เพราะแอลกอฮอล์ส่งผ่านน้ำนมสู่ทารกได้
แม้ว่าการกินยาสตรีหรือ ยาขับประจําเดือน จะมีผลต่อทารกในครรภ์ แต่ไม่สามารถทำให้เกิดการแท้งได้ เพราะยาสตรี ยาขับเลือด หรือยาขับประจำเดือน ไม่ใช่ยาทำแท้งหรือยายุติการตั้งครรภ์ แต่อาจส่งผลต่อร่างกายของแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ได้
สมุนไพรไทยช่วยขับโลหิต บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
สำหรับผู้ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ นอกจากยาสตรี ยาขับเลือด หรือยาขับประจําเดือน ยังมีตำรับยาไทยที่ช่วยบำรุงสุขภาพและบำรุงเลือด อีกทั้งบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ด้วย
ขณะที่มีประจำเดือน มักจะเกิดอาการปวดประจำเดือน (Dysmenorrhea) มีผลมาจากฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโลน ทำให้เกิดอาการปวดหน่วงหรือปวดเกร็งบริเวณท้องน้อย ส่วนอาการอื่น ๆ ที่อาจมีร่วมด้วย ได้แก่ ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดกระดูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนหรือปวดศีรษะ เหงื่อออก ผิวหนังบวมแดง เกิดสิว ฝ้า มีอารมณ์ฉุนเฉียว และหงุดหงิด ซึ่งการแพทย์แผนไทยจะเรียกว่า โรคโลหิตปกติโทษ และใช้ยาขับโลหิตรักษากลุ่มอาการดังกล่าว เช่น
- ตำรับยาประสะไพล ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ส่วนประกอบในตำรับมีสมุนไพรฤทธิ์ร้อน เช่น เหง้าไพล ดีปลี ผิวมะกรูด พริกไทย กระเทียม จึงช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก และช่วยขับลม
- ยาหอมอินทจักร์ ใช้ละลายในน้ำอุ่นรับประทานระหว่างมีประจำเดือน บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ วิงเวียน ช่วยให้เกิดอารมณ์ผ่อนคลาย
- ยาบำรุงโลหิต ใช้เมื่อประจำเดือนหยุด เพื่อบำรุงโลหิตให้บริบูรณ์ ดีต่อสุขภาพและผิวพรรณ
ตำรับยาจากการแพทย์แผนไทย จะช่วยให้ประจําเดือนมาปกติ บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยบำรุงร่างกายได้ดี เช่นเดียวกับยาสตรี อย่างไรก็ตาม ก่อนใช้ยาควรปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์ทุกครั้ง