อาการนอนไม่หลับนั้นเป็นปัญหาที่ใครหลายต่อหลายคนประสบอยู่ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ยังไม่รู้สึกง่วงนอนเสียที รู้สึกตัวอีกทีก็เกือบจะตี 1 เข้าไปแล้ว วันนี้ Hello คุณหมอ มีอีกหนึ่งวิธีที่อาจจะช่วยให้คุณผู้อ่านนอนหลับได้ง่ายขึ้นมาฝาก นั่นคือการฟังเพลงก่อนนอน แต่การ ฟังเพลงก่อนนอนช่วยให้หลับง่ายขึ้น ได้อย่างไรนั้น ไปหาคำตอบกันในบทความนี้ได้เลย
ฟังเพลงก่อนนอนช่วยให้หลับง่ายขึ้น จริงหรือ?
ในเรื่องการฟังเพลงมีผลกับการนอนนั้น ด็อกเตอร์ไมเคิล บรูส์ (Michael Breus) ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับคลื่นสมองและการนอนหลับเจ้าของผลงานเขียนเรื่อง The Sleep Doctor’s Diet Plan:Simple Rules for Losing Weight While You Sleep กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องจริง เนื่องจากมีงานวิจัยและการค้นคว้ามากมายที่แสดงให้เห็นถึง ความสัมพันธ์ของเสียงเพลง หรือเสียงดนตรี กับคลื่นสมองและการนอนหลับ หากฟังเพลงจังหวะใด ความรู้สึกก็จะเปลี่ยนไปตามจังหวะของเพลง เช่น ฟังเพลงเศร้า ก็จะมีความรู้สึกเศร้าไปกับเพลง แต่หากฟังดนตรีที่มีจังหวะสนุกสนาน หรือจังหวะร็อค ก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างไป
การ ฟังเพลงก่อนนอนช่วยให้หลับง่ายขึ้น ได้อย่างไร
เสียงเพลง เสียงดนตรี และท่วงทำนอง มีผลกับอัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ ระดับความดันโลหิต รวมถึงมีผลต่อการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การฟังเพลงก่อนนอน ส่งผลต่อคลื่นสมองและร่างกาย แต่การเลือกฟังเพลงที่มีจังหวะดนตรีที่แตกต่างกันก็ให้ผลลัพธ์ทางร่างกายที่แตกต่างกันด้วย หากเลือกฟังเพลงคลาสสิค เพลงแจ๊ส หรือเพลงที่มีจังหวะ 60-80 บีทต่อนาที จะมีผลทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเริ่มช้าลง และรู้สึกง่วงในที่สุด ดังนั้น การเลือกเพลงที่มีจังหวะช้า เนิบ หรือเป็นจังหวะสบาย ๆ จะช่วยทำให้รู้สึกง่วงได้เร็วขึ้น ขณะที่ดนตรีจังหวะเร็ว มีผลให้รู้สึกกระฉับกระเฉง คึกคัก มีอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นตามจังหวะของเสียงเพลง
อันตรายของการเสียบหูฟังไว้ทั้งคืน
หลายคนเลือกที่จะเสียบหูฟังแล้วฟังเพลงไปด้วยมากกว่าที่จะเปิดเพลงจากคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเล่นเสียง เพื่อกระตุ้นให้ตัวเองเกิดอาการง่วงและหลับไป ซึ่งแม้การเสียบหูฟังจะให้ความรู้สึกเสมือนว่ามีนักร้องที่ชอบมายืนร้องเพลงอยู่ใกล้ ๆ หูก็ตาม แต่การปล่อยให้หูฟังเสียบอยู่ที่หูตลอดทั้งคืน อาจเป็นผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนี้
เซลล์ตายเฉพาะส่วน (Necrosis)
การใส่หูฟังไว้ทั้งคืน และมีการนอนในท่าตะแคงข้างร่วมด้วย ทำให้หูที่ใส่หูฟังไว้อีกข้างถูกกดทับ อาจทำให้เลือดไม่เดิน หรือระบบไหลเวียนเลือดในบริเวณนั้นมีปัญหา ซึ่งเสี่ยงต่อการที่จะทำให้เลือดไม่ถูกลำเลียงไปเลี้ยงเซลล์ในบริเวณนั้นจนกระทั่งทำให้เนื้อตายได้ในที่สุด
ขี้หูที่เพิ่มขึ้น
การสวมหูฟังไว้ตลอดเวลาเป็นการช่วยเพิ่มปริมาณของขี้หู หากลองสังเกตจะพบว่าหูฟังของเราจะมีขี้หูติดออกมาเสมอ และการเสียบหูฟังไว้เป็นระยะเวลานาน ๆ หรือตลอดทั้งคืน จะเป็นการไปปิดกั้นการหมุนเวียนถ่ายเทอากาศบริเวณหู และขัดขวางขี้หูให้ไม่สามารถออกมายังเยื่อแก้วหูได้
ภาวะหูชั้นนอกอักเสบ (Otitis Externa)
ภาวะหูชั้นนอกอักเสบ (Otitis Externa) เกิดจากความชื้นภายในหู หรือที่รู้จักกันในชื่อ อาการหูนักว่ายน้ำ เพราะเกิดจากการที่น้ำเข้าหู หรือหูมีความชื้นอยู่ภายใน ส่งผลให้เนื้อเยื่อในหูที่มีความบอบบางนั้นเกิดการระคายเคือง อักเสบ หรือติดเชื้อ และการใส่หูฟังสามารถก่อให้เกิดความชื้น หรือมีเหงื่อขึ้นในหูได้
เสี่ยงต่อการถูกสายหูฟังรัด
ขณะที่นอนหลับเรามักจะมีการเปลี่ยนแปลงท่าทางในการนอนเสมอ การขยับตัวไปมานี้ อาจเป็นการเสี่ยงต่อการถูกสายหูฟังรัดคอทำให้หายใจไม่ออก หรือถูกรัดจนเป็นรอยแดง ซึ่งโอกาสเช่นนี้เกิดขึ้นได้น้อย แต่ถึงแม้จะเกิดขึ้นได้น้อย การรู้จักระมัดระวังไว้ก่อนย่อมดีกว่าเสมอ
[embed-health-tool-bmi]