โรคไข้หวัดนก (Bird Flu) จัดเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดหนึ่ง ที่แพร่ระบาดในกลุ่มสัตว์ปีก และสามารถคุกคามมนุษย์ได้ในหลายกรณี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ไข้หวัดนกเกิดการระบาดไปทั่วโลก และเป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ทำไมโรคไข้หวัดนกเกิดขึ้นในคน และมีข้อเท็จจริงอะไรบ้างที่ควรรู้เกี่ยวกับไข้หวัดนก
[embed-health-tool-bmi]
โรคไข้หวัดนก คืออะไร
ไข้หวัดนก มีอยู่หลายสายพันธุ์ และถือเป็นโรคระบาดชนิดหนึ่ง ถึงแม้ว่าสายพันธุ์ส่วนใหญ่จะไม่มีผลต่อมนุษย์ แต่ก็มีไข้หวัดนกอยู่ 2 สายพันธุ์ ที่สามารถสร้างปัญหาร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ได้ ซึ่งนั่นก็คือ ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 และ ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9
นอกจากนี้ ยังมีไข้หวัดนกสายพันธุ์อื่น ๆ อีก เช่น ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N7 และไข้หวัดนกสายพันธุ์ H9N2 หรือที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ อย่างสายพันธุ์ H6N1 H10N8 และ H5N6 แม้มนุษย์จะสามารถติดเชื้อได้ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพหรือนำไปสู่การเสียชีวิตแต่อย่างใด
สาเหตุของการติดเชื้อ ไข้หวัดนก
ไข้หวัดนก มักจะแพร่ระบาดในกลุ่มสัตว์ปีกทุกชนิด ได้แก่ ไก่ เป็ด และนกป่า มนุษย์ที่สัมผัสกับนกที่ติดเชื้อ มีโอกาสสูงที่จะได้รับเชื้ออันตรายนี้ การสัมผัสที่กล่าวถึงนี้ ประกอบด้วยการสัมผัสกับตัวนกที่ติดเชื้อ การสูดดมมูล หรือสารคัดหลั่งของนก รวมถึงการนำนกหรือไก่ที่ติดเชื้อมาปรุงเป็นอาหาร เป็นต้น
อาการของไข้หวัดนก
อาการของ ไข้หวัดนก มักมีความคล้ายคลึงกับอาการไข้หวัดทั่วไป เช่น
- ปวดหัว
- มีไข้
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล
และอาจมีอาการอื่น ๆ เช่น
- ท้องร่วง
- อาเจียน
- เจ็บหน้าอก
- เจ็บบริเวณช่องท้อง
- เลือดกำเดาไหล
- เลือดออกตามไรฟัน
ผู้ป่วยจากการติดเชื้อ ไข้หวัดนก จะแสดงสัญญาณและอาการเหล่านี้หลังการติดเชื้อ 3-5 วัน ในบางครั้ง ระยะฟักตัวอาจกินเวลานานได้ถึง 7 วันเลยทีเดียว เมื่อผู้ป่วยแสดงอาการเหล่านี้ ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่นตามมาได้ เช่น ปอดบวม อวัยวะภายในล้มเหลว ระบบทางเดินหายใจมีปัญหาอย่างรุนแรง
การรักษา โรคไข้หวัดนก
หากท่านใดสงสัยว่าตนเองป่วยเป็น ไข้หวัดนก โปรดทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- แยกตนเองออกจากคนที่มีสุขภาพดีด้วยการหยุดอยู่กับบ้าน หรือทางที่ดีที่สุดก็คือ ไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาจากมืออาชีพ
- รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์
- ดื่มน้ำเยอะๆ
- วางแผนการรับประทานอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ
ยาที่ผู้ป่วยต้องรับประทาน คือ ยาต้านไวรัส ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ไวรัสขยายตัวและแพร่กระจายไปยังทั่วร่างกายได้ส่วนผู้ที่สัมผัสกับคนที่ติดเชื้อ ก็ต้องใช้ยาต้านไวรัสเหล่านี้กันไว้ก่อนเช่นกัน
ส่วนในกรณีที่การรักษามีความซับซ้อน เนื่องจากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น ปอดบวม ผู้ป่วยก็ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะที่ช่วยจัดการแบคทีเรีย รวมถึงต้องใส่หน้ากากให้ออกซิเจน เพื่อช่วยการหายใจ