สำหรับรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย อาจใช้ยาปฏิชีวนะในรูปแบบรับประทาน ทาเฉพาะที่ และฉีดผ่านทางหลอดเลือดดำ ตามดุลพินิจของคุณหมอ เช่น มิวพิโรซิน (Mupirocin) คลินดามัยซิน (Clindamycin) เตตราไซคลีน (Tetracycline) อิริโทรมัยซิน (Erythromycin) เพื่อช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย สำหรับรักษาการติดเชื้อไวรัส เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคงูสวัด โรคเริม คุณหมออาจกำหนดยาต้านไวรัส เช่น อะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) วาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir) แฟมไซโคลเวียร์ (Famciclovir) สำหรับรักษาการติดเชื้อราอาจฟื้นฟูสภาพผิวหนังด้วยการใช้ครีม ขี้ผึ้งทาเฉพาะที่ หรือยาต้านเชื้อรารูปแบบรับประทาน เช่น โคลไตรมาโซล (Clotrimazole) เทอร์บินาฟีน (Terbinafine) คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) ฟลูโคนาโคล (Fluconazole) อิทราโคนาโซล (Itraconazole) 3. การตั้งครรภ์
อาจส่งผลให้คันนม คันหัวนมได้ เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) ซึ่งเป็นฮอร์โมนการตั้งครรภ์อาจสูงขึ้น ทำให้เต้านมและผิวหนังบริเวณเต้านมขยาย มีรอยแตก นำไปสู่อาการคัน แสบร้อน เจ็บปวด บริเวณผิวหนังเต้านม บางรายอาจมีตุ่มนูน ผิวแห้ง ผิวเป็นรอยแดง หรือกลากขึ้นด้วย
วิธีบรรเทาอาการคันนมสำหรับสตรีตั้งครรภ์
ควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังด้วยการใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันลาโนลิน (Lanolin) รูปแบบโลชั่น ครีม ขี้ผึ้ง หากอาการคันนมไม่ดีขึ้นหรือมีสัญญาณของการติดเชื้อรา เช่น มีผื่นแดง ผิวหนังเปื่อย ระคายเคือง คัน หรือแสบ ควรไปหาคุณหมอเพื่อรับการรักษาทันที
4. ท่อน้ำนมอุดตัน
อาจเกิดจากมีน้ำนมแม่ตกค้างในท่อน้ำนม ส่งผลให้ท่อน้ำนมอุดตัน จนอาจทำให้ทารกมีปัญหาในการดูดนม หรือทารกอาจดูดนมแรงขึ้นจนคุณแม่รู้สึกเจ็บหัวนม ระคายเคือง และคันนมได้
วิธีรักษาภาวะท่อน้ำนมอุดตัน
ควรทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ เต้านม หัวนม และหมั่นปั๊มนม เพื่อป้องกันน้ำนมค้างในท่อน้ำนมจนท่อน้ำนมอุดตัน อีกทั้งควรแปะแผ่นซิลิโคนแช่เย็น หรือทาครีมลาโนลินบริเวณที่ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาอาการคัน ระคายเคือง
5. เข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือน
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย