เด็กวัยเรียน

เด็กวัยเรียน (7-15 ปี) เป็นช่วงวัยที่มีความสำคัญมาก เพราะเด็กจะต้องเริ่มใช้ชีวิตในสังคมใหม่ นั่นก็คือ สังคมโรงเรียน แถมการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา ก็อาจทำให้พวกเขาไม่รู้ว่าจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างไรดี แต่เรามีคำตอบมาให้แล้ว

เรื่องเด่นประจำหมวด

เด็กวัยเรียน

เด็กเครียด สังเกตยังไง สัญญาณและวิธีป้องกัน

ความเครียด เป็นปัญหาที่เกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย รวมไปจนถึงวัยเด็ก การที่ 'เด็กเครียด' อาจเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งเรื่องครอบครัว เพื่อน การเรียน และความต้องการบางอย่างที่ไม่เป็นดังหวัง ซึ่งหากสะสมไว้มากเข้าอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและการเรียนได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงคอยสังเกตสัญญาณความเครียดในเด็กและหาแนวทางป้องกันที่เหมาะสม [embed-health-tool-vaccination-tool] เด็กเครียด สังเกตยังไง อาการที่อาจบ่งบอกความเครียดในเด็ก มีดังนี้  อาการทางกาย เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ไม่มีแรง คลื่นไส้  ปวดหัว นอนไม่หลับ วิงเวียนศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หัวใจเต้นแรง น้ำหนักตัวลดหรือขึ้นจากพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนแปลงไป อาการทางใจ อารมณ์แปรรวน หงุดหงิดง่าย หรือร้องไห้บ่อยขึ้น แสดงอาการก้าวร้าว ไม่เชื่อฟัง วิตกกังวล ติดผู้ปกครองมากขึ้น ไม่ยอมอยู่ห่างจากพ่อแม่ ไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งกับครอบครัวและในโรงเรียน อย่างไรก็ตาม เด็กแต่ละคนอาจมีวิธีการแสดงออกถึงความเครียดในวัยเรียนที่แตกต่างกัน ผู้ปกครองควรรู้จักสังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูก และพูดคุยกับลูกบ่อย ๆ เพื่อจะได้ตรวจพบสัญญาณความเครียดของลูกได้ สาเหตุที่ทำให้เด็กเครียด ความเครียดในเด็ก อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ดังนี้ ความเครียดเรื่องการเรียน การบ้าน คุณครู และการถูกลงโทษ ความเครียดจากการย้ายที่อยู่ หรือต้องปรับตัวเข้ากับเพื่อนและสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ความเครียดจากครอบครัว ความขัดแย้ง การทะเลาะเบาะแว้ง การหย่าร้าง […]

หมวดหมู่ เด็กวัยเรียน เพิ่มเติม

ช่วงวัยเรียน

สำรวจ เด็กวัยเรียน

โภชนาการเด็กวัยเรียน

โปรไบโอติก มีความสำคัญต่อเด็กอย่างไร

โปรไบโอติก (Probiotics) คือ แบคทีเรียดีที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร และระบบอื่น ๆ ของร่างกาย ซึ่งหากแบคทีเรียดีมีความสมดุลอาจช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและการดูดซึมอาหารทำงานได้ดีขึ้น แต่หากแบคทีเรียดีเกิดความไม่สมดุลอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น เกิดการติดเชื้อ มีอาการเจ็บป่วย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรให้เด็กรรับประทานอาหารที่อุดมด้วยโปรไบโอติก เพื่อส่งเสริมสุขภาพของเด็กให้สมบูรณ์แข็งแรง โปรไบโอติก คืออะไร โปรไบโอติกหรือแบคทีเรียดี คือ แบคทีเรียดีหรือยีสต์ที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร และระบบอื่น ๆ ของร่างกาย โดยภายในร่างกายจะมีแหล่งรวมของเชื้อโรคที่เรียกว่า ไมโครไบโอม ซึ่งประกอบด้วยทั้งแบคทีเรียดี แบคทีเรียไม่ดี ไวรัส และเชื้อรา ซึ่งมันจะอาศัยอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่ว่าจะเป็น ผิวหนัง ลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ และน้ำลาย เมื่อแบคทีเรียดีและแบคทีเรียที่ไม่ดีในร่างกายเกิดความไม่สมดุล อาจทำให้ร่างกายเกิดการติดเชื้อ มีอาการเจ็บป่วย เมื่อเกิดการเจ็บป่วยและต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ ยาที่รับประทานเข้าไปอาจทำลายแบคทีเรียดีบางตัวในร่างกาย ซึ่งส่งผลทำให้แบคทีเรียเกิดความไม่สมดุลได้ ดังนั้น จึงควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติกเพื่อช่วยทำให้แบคทีเรียในร่างกายเกิดความสมดุล แหล่งอาหารที่อุดมด้วยโปรไบโอติก โปรไบโอติกไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะกับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วยส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหารและภูมิคุ้มกัน ทั้งยังช่วยเรื่องท้องผูกและกรดไหลย้อนได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรเลือกแหล่งอาหารที่เด็กต้องการเป็นส่วนใหญ่ สำหรับทารกอาจได้รับโปรไปโอติกจากนมแม่อยู่แล้ว แต่หากเด็กโตพอที่จะรับประทานอาหารได้แหล่งอาหารเหล่านี้ อาจเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโปรไปโอติก โยเกิร์ต โยเกิร์ตเป็นหนึ่งในแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติก ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพ โดยโยเกิร์ตที่ทำมาจากนมที่หมักด้วยแบคทีเรียที่ดี ส่วนใหญ่อาจอุดมด้วยกรดแลคติก (Lactic […]


โภชนาการเด็กวัยเรียน

โอเมก้า สารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กที่พ่อแม่ควรรู้

โอเมก้า เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วยลดความเสี่ยงองการเป็นโรคสมาธิสั้น ช่วยป้องกันโรคหอบหืด ทั้งยังช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างสมอง โดยโอเมกานั้นส่วยใหญ่อาจพบได้ในปลา ได้แก่ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาเทราต์ ปลาทูน่า คุณประโยชน์ของโอเมก้าต่อเด็ก ๆ  วัยเด็กจำเป็นที่จะต้องได้รับสารอาหารต่าง ๆ อย่างเพียงพอเพื่อประโยชน์ในการเจริญเติบโตของทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะโอเมก้าซึ่งมีคุณค่าประโยชน์ ดังนี้ ลดความเสี่ยงของโรคสมาธิสั้นหรือ Attention-Deficit Hyperactivity Disorder (ADHD) โอเมก้ามีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง เสริมความจำ กระตุ้นสมาธิ ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดอาการสมาธิสั้นที่มักจะเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ได้ ช่วยป้องกันโรคหอบหืด เด็กที่มีอาการหอบหืดตั้งแต่ยังเล็ก ๆ พ่อแม่ควรใส่ใจกับอาหาร หมั่นเลือกอาหารที่มีประโยชน์ และช่วยให้สุขภาพดี หนึ่งในนั้น คือ อาหารจำพวกปลา เพราะโอเมก้าช่วยป้องกันอาการหอบหืดได้ เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่า ผู้ที่รับประทานปลา น้ำมันตับปลา มีแนวโน้มของอาการหอบหืดน้อยลง ช่วยในการนอนหลับ มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หลายคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอน การรับประทานอาหารที่ให้สารอาหารประเภทโอเมก้า ช่วยลดการรบกวนการนอนหลับได้ เสริมสร้างสมอง โอเมก้ามีส่วนช่วยในการทำงานของระบบสมอง การรับประทานสารอาหารจำพวกโอเมก้าเป็นประจำ มีส่วนในการเสริมความจำ ทักษะการเรียนรู้ และบำรุงสมอง โอเมก้ากับปริมาณที่เด็กควรได้รับ สำหรับปริมาณที่ร่างกายต้องการโอเมก้านั้น จะถูกแบ่งตามช่วงอายุต่าง ๆ ดังนี้ อายุ […]


โภชนาการเด็กวัยเรียน

วิตามินเด็ก จากอาหารใกล้ตัว เพื่อพัฒนาการที่ดีของลูก

วิตามินเด็ก เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ลูกน้อยเจริญเติบโตสมวัยและมีพัฒนาการที่ดีตามเกณฑ์ ซึ่งแหล่งวิตามินสำหรับเด็กชั้นดีไม่ใช่จากอาหารเสริม แต่อยู่ในพืชผักและผลไม้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรส่งเสริมให้ลูกน้อยได้รับประทานผักและผลไม้อย่างเพียงพอและหลากหลายในแต่ละวัน [embed-health-tool-vaccination-tool] วิตามินเด็ก หาได้จากอาหารใดบ้าง เนื่องด้วยวิตามินมีหลายประเภท และมักอยู่ในอาหารที่บริโภคกันทุกวัน คุณพ่อคุรแม่จึงควรให้ลูกกินอาหารให้หลากหลาย เพื่อจะได้รับวิตามินอย่างครบถ้วนและช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งวิตามินสำหรับเด็กชนิดต่าง ๆ อาจมีดังนี้ 1. วิตามินเอ ประโยชน์ของวิตามินเอ คือ ช่วยดูแลได้ทั้งผิวและสายตา ที่สำคัญยังช่วยในเรื่องของระบบภูมิคุ้มกัน โดยวิตามินเอ พบได้จากอาหารเหล่านี้ นม ชีส ไข่ ผัก 2. วิตามินบี วิตามินบี ส่วนใหญ่จะช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างพลังงานให้กับร่างกาย ซึ่งแหล่งอาหารที่มีวิตามินบีมากที่สุด นั่นก็คือ เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ถั่วเหลือง ปลา 3. วิตามินซี (Vitamin C) วิตามินซี ช่วยบำรุงผิวและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ปัจจุบัน วิตามินซีมักมาในรูปแบบอาหารเสริมทั้งแบบเม็ดอม และแบบเยลลี่ กินง่ายและมีรูปทรงน่ารัก มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานจากการแต่งกลิ่นผลไม้สังเคราะห์ เช่น กลิ่นองุ่น  สับปะรด ทำให้เด็ก ๆ ชอบกินวิตามินซีที่เป็นอาหารเสริมเพราะคิดว่าเป็นลูกอมหรือขนม ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกน้อยกินอาหารที่มีวิตามินสำหรับเด็กจากอาหารมากกว่า สำหรับอาหารที่มีวิตามินซี ได้แก่ ผัก เช่น ผักคะน้า บร็อคโคลี่ […]


เด็กวัยเรียน

เรียนหนัก มากเกินไป ส่งผลต่อเด็กอย่างไรบ้าง

ในปัจจุบันนี้การทุ่มเทเวลาอยู่กับการเรียนตลอดทั้งวันและทุกวัน แทบจะเป็นเรื่องปกติที่เด็ก ๆ วัยเรียนจะต้องเจอ นอกจากการเรียนที่โรงเรียนตลอดทั้งวันแล้ว ยังมีเรียนพิเศษหลังเลิกเรียน เรียนเสริมในวันหยุดสุดสัปดาห์ และติวเข้มในช่วงใกล้สอบ แม้ว่าการตั้งใจเรียนจะเป็นสิ่งที่ดีและส่งผลที่น่าชื่นชมในอนาคต แต่การที่ เรียนหนัก มากจนเกินไปอาจให้โทษร้ายที่คาดไม่ถึง [embed-health-tool-bmi] เรียนหนัก มีข้อดีอย่างไรบ้าง แน่นอนว่าการทุ่มเทให้กับการเรียน ย่อมส่งผลดีต่อตัวเด็ก เด็กจะได้รับประโยชน์มากมาย ได้แก่ เป็นการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ให้กับเด็ก ช่วยพัฒนาทักษะที่จำและสำคัญในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นความรับผิดชอบ การจัดการตารางเวลา ความมีวินัย เป็นการเพิ่มโอกาสในการพบปะผู้คน และเสริมสร้างความมีมนุษยสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่น รู้จักการเข้าสังคม ป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น จากการใช้เวลาว่างไม่เป็นประโยชน์ เช่น การเสพยา เล่นการพนัน ได้รับผลคะแนนที่ดีเป็นที่น่าพอใจ มีโอกาสที่จะได้รับโอกาสดีๆ ที่เข้ามา เช่น ทุนการศึกษา ทุนเรียนต่อต่างประเทศ เพราะมีการเตรียมพร้อมทางด้านวิชาการเป็นอย่างดี เรียนหนักมากเกินไปก็มีข้อเสีย สิ่งใดที่มากไปย่อมไม่ดี การเรียนที่มากจนเกินไปก็ส่งผลเสียต่อเด็กเช่นกัน ทำให้เด็กเกิดความเครียดและความวิตกกังวล และสามารถที่จะกลายเป็นภาวะซึมเศร้าได้ ไม่มีเวลาส่วนตัวในการที่จะใช้ชีวิต สามารถที่จะทำให้เด็กไม่ได้มีการพัฒนาทักษะทางด้านอารมณ์ ไม่มีเวลาอยู่ร่วมกับครอบครัว มีอาการเก็บกด รู้สึกอึดอัด อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้ หากเด็กมีภาวะเครียดหนัก พ่อแม่รู้ได้อย่างไรว่าลูกเริ่มเรียนหนักมากเกินไป ป่วยง่ายมากกว่าเมื่อก่อน ไม่ค่อยมีความกระตือรือร้น ไม่ได้ทำกิจกรรมเหมือนเด็กปกติ เช่น ไปเที่ยว ดูหนัง หรือกิจกรรมอื่นๆ เริ่มมีความผิดปกติทางด้านของความคิด เก็บตัว […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน