นอกจากอาหารและเครื่องดื่มแล้วยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ เคลือบฟันสึกกร่อน ด้วย เช่น
- นอนกัดฟัน
- โรคกรดไหลย้อน
- ปากแห้งเนื่องจากน้ำลายน้อย หรือภาวะที่ต่อมน้ำลายไม่สามารถผลิตน้ำลาย เพื่อให้ความชุ่มชื้นในปากได้ (Xerostomia)
- การใช้ยาบางชนิดเป็นประจำ เช่น ยาแก้แพ้และยาแอสไพริน
- ภาวะความผิดปกติในการรับประทานอาหาร เช่น โรคบูลิเมีย (bulimia) ซึ่งเป็นโรคที่เมื่อรับประทานอาหารเข้าไปมาก ๆ แล้ว พยายามทำให้ตัวเองอาเจียนออกมา ทำให้กรดจากกระเพาะอาหารที่อาเจียนออกมาสัมผัสกับฟัน
ป้องกันไม่ให้ เคลือบฟันกร่อน ได้ไหมนะ
การป้องกันไม่ให้ เคลือบฟันสึกกร่อน สามารถทำได้ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร และการแปรงฟัน ดูแลสุขภาพช่องปากให้ดี ซึ่งวิธีเหล่านี้ ถือเป็นวิธีที่ช่วยป้องกัน เคลือบฟันสึกกร่อน ได้
- ลดเครื่องดื่มและอาหารที่เป็นกรด เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว น้ำผลไม้ และโซดา
- บ้วนปากด้วยน้ำหลังมื้ออาหารเมื่อรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด
- ใช้หลอดเมื่อต้องบริโภคน้ำที่มีโซดาหรือน้ำผลไม้ เพื่อลดไม่ให้กรดในน้ำเหล่านั้นสัมผัสกับฟันโดยตรง
- เคี้ยวหมากฝรั่ง ที่สำคัญต้องเลือกสูตรที่ปราศจากน้ำตาล การเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยสร้างน้ำลาย ซึ่งมีส่วนช่วยปรับสมดุลของกรดในปากให้เป็นกลาง
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อลดอาการปากแห้ง
- ใช้แปรงสีฟันที่ขนนุ่ม เหมาะสำหรับฟัน และไม่แปรงฟันแรงเกินไป
- หลังจากรับประทานอาหารที่เป็นกรด ควรรออย่างน้อย 1 ชั่วโมงแล้วค่อยแปรงฟัน หากแปรงฟันในทันที เคลือบฟันที่อ่อนลงจากกรดที่รับประทานเข้าไป มีแนวโน้มที่ฟันจะเกิดความเสียหายจากแปรงฟันมากขึ้น
- ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์และน้ำยาบ้วนปาก
หากอาการฟันกร่อนนั้นเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ นอกจากการบริโภคอาหาร ควรเข้ารับการรักษาสาเหตุนั้น ๆ รับการรักษาโรคเหล่านั้น เช่น โรคบูลิเมีย โรคพิษสุราเรื้อรัง หรือโรคกรดไหลย้อน หากเกิดจากอาการนอนกัดฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวขณะหลับ ควรปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำในการรักษาและบรรเทาอาการ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย