สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

หนองในเทียม และ หนองในแท้ แตกต่างกันอย่างไร

บทความนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาดูข้อแตกต่างระหว่าง หนองในเทียม และ หนองในแท้ แบบเข้าใจง่าย กันค่ะ จะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันอย่างไร และจะมีวิธีการป้องกันอย่างไรบ้าง ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ เลยค่ะ หนองในเทียม และ หนองในแท้ แตกต่างกันอย่างไร หนองในเทียม และ หนองในแท้มีข้อแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้ สาเหตุ หนองในเทียม (Non Gonococcal Urethritis) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อเรียกว่า คลามัยเดีย ทราโคมาทิส (Chlamydia trachomatis) หนองในแท้ (Gonorrhoea) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อเรียกว่า ไนซ์ซีเรีย โกโนร์เรีย (Neisseria gonorrhea) ระยะการฟักตัว หนองในเทียม มีระยะการฟักตัวค่อนข้างนาน โดยส่วนใหญ่มักมีระยะการฟักตัวมากกว่า 1-3 สัปดาห์ หนองในแท้ มีระยะการฟักตัวค่อนข้างสั้น โดยส่วนใหญ่มักมีระยะการฟักตัวภายใน 1-5 วัน อาการของโรคหนองใน อาการโรคหนองในเทียมในเพศชาย ในระยะแรก ๆ ผู้ป่วยจะรู้สึกคันที่บริเวณท่อปัสสาวะ และมีน้ำสีใส ๆ หรือขุ่น ๆ ไหลออกมาจากปลายองคชาต อาการโรคหนองในแท้ในเพศชาย […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

ท่อปัสสาวะอักเสบ สาเหตุ อาการและการรักษา

ท่อปัสสาวะอักเสบ คือ ภาวะที่ส่งผลให้ท่อปัสสาวะมีอาการบวม รู้สึกเจ็บแสบขณะปัสสาวะและปัสสาวะลำบาก ที่อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน โดยสามารถเป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ดังนั้น หากสังเกตว่ามีอาการผิดปกติขณะปัสสาวะ ควรเข้าพบคุณหมออย่างรวดเร็วเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] สาเหตุที่ทำให้ท่อปัสสาวะอักเสบ สาเหตุที่ทำให้ท่อปัสสาวะอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ซึ่งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสจะเข้าไปยังท่อปัสสาวะภายในติดกับกระเพาะปัสสาวะและต่อมลูกหมายของผู้ชาย สำหรับผู้หญิงจะอยู่บริเวณใต้แคมเล็กใกล้กับปากช่องคลอดและทวารหนัก ที่อาจทำให้ติดเชื้อและเป็นภาวะท่อปัสสาวะอักเสบได้บ่อยกว่าผู้ชาย ซึ่งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคท่อปัสสาวะอักเสบนั้นอาจจะเป็นแบคทีเรียตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคหนองในเทียม โรคหนองในแท้ โรคเริม โรคพยาธิในช่องคลอด โรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ การอักเสบของอัณฑะ นอกจากนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอวัยวะเพศหรือสบู่ที่มีส่วนประกอบของน้ำหอม การผ่าตัดใส่สานสวนในท่อปัสสาวะ การทำกิจกรรมทางเพศอย่างรุนแรง ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ท่อปัสสาวะอักเสบ เพิ่มความเสี่ยงท่อปัสสาวะอักเสบได้เช่นเดียวกัน อาการของท่อปัสสาวะอักเสบ อาการของท่อปัสสาวะอักเสบ อาจมีดังนี้ อาการของท่อปัสสาวะอักเสบของผู้หญิง รู้สึกเจ็บแสบขณะปัสสาวะหรือเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ปัสสาวะบ่อย มีหนองไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ ตกขาวผิดปกติ เช่น ตกขาวสีเหลือง สีเขียว สีเทา สีขาวเป็นก้อน และช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น ปวดท้อง ปวดอุ้งเชิงกราน มีไข้สูงและหนาวสั่น อาการของท่อปัสสาวะอักเสบของผู้ชาย ปัสสาวะลำบาก มีหนองไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ มีเลือดปนกับอสุจิ น้ำหล่อลื่นและปัสสาวะ รู้สึกแสบร้อนขณะปัสสาวะและเจ็บปวดเมื่อมีเพศสัมพันธ์หรือมีการหลั่งอสุจิออกมา อวัยวะเพศบวม ปัสสาวะบ่อย ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโต การวินิจฉัย ท่อปัสสาวะอักเสบ คุณหมออาจสอบถามประวัติสุขภาพ ประวัติการมีเพศสัมพันธ์ และเริ่มตรวจอวัยวะเพศ ช่องท้อง และทวารหนัก […]


โรคซิฟิลิส

Vdrl (การตรวจหาเชื้อซิฟิลิส) คืออะไร และมีวิธีป้องกันอย่างไร

Vdrl ย่อมาจาก Venereal Disease Research Laboratory test เป็นการตรวจหาเชื้อซิฟิลิส ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียทรีโพนีมา แพลลิดัม (Treponema pallidum) ที่อาจได้รับผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันหรือผ่านทางผิวหนังที่มีแผลเปิด หากปล่อยเป็นเวลานาน ไม่เข้ารับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สูญเสียการได้ยิน สมองเสื่อม ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และตาบอดได้ [embed-health-tool-ovulation] Vdrl คืออะไร Vdrl (Venereal Disease Research Laboratory test) คือ การตรวจหาเชื้อซิฟิลิสในแอนติบอดีในเลือดซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ผลิตจากระบบภูมิคุ้มกันเพื่อช่วยต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม และดูว่าแอนติเจนหรือสารก่อภูมิต้านทานถูกทำลายโดยแบคทีเรียที่เสี่ยงก่อให้เกิดโรคซิฟิลิสหรือไม่ ปกติแล้วการตรวจ Vdrl อาจไม่จำเป็นต้องอดอาหารและการใช้ยา ยกเว้นกรณีที่คุณหมอจะแนะนำให้ทำ ซึ่งคุณหมอจะขอเจาะเลือดบริเวณบริเวณรอยพับข้อศอกหรือหลังมือและนำเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อซิฟิลิส หากผลลัพธ์เป็นลบอาจมีความหมายว่าไม่เสี่ยงติดเชื้อ แต่หากผลลัพธ์เป็นบวกอาจมีความหมายว่าติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องตรวจคอนเฟิร์มโดยวิธีอื่นเพื่อยืนยันผลอีกครั้งว่าติดเชื้อซิฟิลิสเช่น FTA-ABS หรือ TPHA เป็นต้น ผลลัพธ์ที่เป็นบวกก็อาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคอื่น ๆ ได้ เช่น เอชไอวี มาลาเรีย โรคปอดบวม โรคลูปัส โรคไลม์ ดังนั้น คุณหมออาจใช้วิธีการตรวจด้วยเทคนิคอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้ทราบสาเหตุอย่างแน่ชัดและรับการรักษาในลำดับถัดไป  อาการแบบไหนที่ควรตรวจด้วยวิธี […]


การคุมกำเนิด

ทําหมันแล้วท้องได้ไหม และวิธีป้องกันการตั้งท้องหลังจากทำหมัน

การทำหมัน เป็นวิธีการคุมกำเนิดอย่างถาวรที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการมีบุตร ซึ่งสามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงด้วยการผ่าตัดอวัยวะภายในของระบบสืบพันธุ์ หากสงสัยว่า ทําหมันแล้วท้องได้ไหม อาจจำเป็นต้องศึกษาวิธีการดูแลตัวเองหลังจากทำหมันหรือขอคำแนะนำจากคุณหมอ เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์และมีบุตร  [embed-health-tool-ovulation] การทำหมัน คืออะไร การทำหมัน คือ วิธีการคุมกำนิดในแบบถาวรด้วยการผ่าตัดอวัยวะภายในระบบสืบพันธุ์ ที่สามารถทำได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย เพื่อช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ โดยไม่ให้อสุจิเดินทางเข้าไปผสมกับไข่และช่วยให้ไข่ไม่ตกมาบริเวณท่อนำไข่รอการผสมกับอสุจิที่ก่อให้เกิดการปฏิสนธิ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการมีบุตร หรือมีบุตรจนพึงพอใจแล้วไม่ต้องการมีเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม การทำหมันไม่ได้มีส่วนทำให้อารมณ์ทางเพศลดลง ยังมีการมาของประจำเดือนได้ตามปกติ จึงไม่จำเป็นต้องกังวลใจ ทําหมันแล้วท้องได้ไหม หลังจากการทำหมันสำหรับผู้หญิงที่คุณหมอจะผ่าตัดท่อนำไข่บางส่วนออกและเย็บปิดแผลหรือผูกท่อนำไข่ เพื่อไม่ให้ไข่เคลื่อนตัวออกไปผสมกับอสุจิ ที่อาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม การตั้งครรภ์หลังจากทำหมันยังอาจเกิดขึ้นได้แต่พบได้น้อยมาก ดังนั้น จึงควรดูแลตัวเองหลังการทำหมันอย่างถูกวิธีตามที่คุณหมอแนะนำ อย่างไรก็ตามการทำหมันถึงแม้จะทำอย่างถูกวิธีก็สามารถตั้งครรภ์ได้ โดยในการทำหมันหญิงโอกาสการตั้งครรภ์ 3 ราย ใน 1000 ราย เนื่องจากการมาต่อกันเองของท่อนำไข่หลังจากที่คุณหมอตัดออกไปแล้ว สำหรับการทำหมันผู้ชายจะมีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ 1. การใช้มีดผ่าตัดกรีดผิวหนังบริเวณอัณฑะไปยังท่อนำอสุจิและตัดส่วนปลายท่อออก 2.การทำหมันด้วยการใช้อุปกรณ์เจาะรูเล็ก ๆ บนผิวหนังอัณฑะไปยังท่อนำอสุจิก่อนจะใช้อุปกรณ์คีบท่อนำอสุจิเพื่อตัดออกและเย็บปิดผนึก เพื่อช่วยขวางไม่ให้อสุจิเดินทางมายังท่อนำอสุจิไปยังท่อปัสสาวะและปล่อยเข้าสู่ช่องคลอดของผู้หญิงขณะมีเพศสัมพันธ์ แต่การทำหมันของผู้ชายนั้นยังไม่สามารถคุมกำเนิดได้ในทันที เนื่องจากอสุจิอาจหลงเหลืออยู่บริเวณท่อนำอสุจิที่อาจเคลื่อนตัวออกไปร่วมกับน้ำหล่อลื่นและผสมกับไข่ของผู้หญิงขณะมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยงให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ ดังนั้น หลังจากการทำหมัน ควรเข้ารับการติดตามอาการหลังจากการผ่าตัด เพื่อเช็กว่าสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติหรือมีอสุจิหลงเหลืออยู่ในท่อนำอสุจิหรือไม่ เพื่อลดความกังวลและลดโอกาสกาารตั้งครรภ์ ส่วนในการทำหมันชายนั้น โอกาสตั้งครรภ์หลังทำหมันอยู่ที่1-2 รายต่อ 1000 รายซึ่งเกิดจากสาเหตุเดียวกันคือการกลับมาต่อของท่ออสุจิ (re-anastomosis) หลังจากคุณหมอตัดออกไปแล้ว วิธีป้องกันการตั้งท้องหลังจากทำหมัน วิธีป้องกันการตั้งท้องหลังจากทำหมัน มีดังนี้ […]


สุขภาพทางเพศ

ไม่มีอาการคนท้อง แต่ประจําเดือนไม่มา เกิดจากอะไร และมีวิธีแก้อย่างไร

หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะไม่มีการหลั่งในหรือมีการหลั่งใน ที่ตรวจสอบแล้วว่าไม่ตั้งครรภ์ ไม่มีอาการคนท้อง แต่ประจําเดือนไม่มา อาจเป็นไปได้ว่าเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น มีความเครียดสูง ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ดังนั้น หากมีความกังวลควรเข้ารับการวินิจฉัยหาสาเหตุให้ชัดเจนโดยคุณหมอ เพื่อรับการรักษาที่ช่วยให้ประจำเดือนมาตามปกติ  [embed-health-tool-ovulation] ไม่มีอาการคนท้อง แต่ประจําเดือนไม่มา เกิดจากอะไร สำหรับผู้หญิงที่ไม่มีอาการคนท้องหลังจากมีเพศสัมพันธ์ทั้งในการหลั่งในและไม่มีการหลั่งใน อาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งควรตรวจครรภ์ด้วยที่ตรวจครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 12-14 วัน เพราะเป็นช่วงที่ไข่ตกหรือกำลังอยู่ในกระบวนการปฏิสนธิ การฝังตัวของไข่และอสุจิที่ทำให้ทราบว่ากำลังตั้งครรภ์ นอกจากนี้บางคนก็อาจไม่มีอาการตั้งท้องเกิดขึ้น ดังนั้น จึงต้องตรวจเพื่อให้ทราบผลลัพธ์ชัดเจน หากตรวจแล้วว่าไม่มีการตั้งครรภ์ แต่ประจำเดือนไม่มาตามรอบเดือน ก็ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้ดังนี้ ความเครียด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ที่อยู่บริเวณสมองส่วนหน้าทำหน้าที่ควบคุมการตกไข่ ส่งผลให้เกิดการทำงานผิดปกติและทำให้ประจำเดือนไม่มาหรือมาช้าโดยอาจมาหลังจากระดับความเครียดลดลง ยาคุมกำเนิด มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน ที่ช่วยชะลอการตกไข่ และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบาง เพื่อไม่ให้เกิดการปฏิสนธิและฝังตัวของไข่และอสุจิที่ส่งผลให้ประจำเดือนไม่มาหรือประจำเดือนมาช้ากว่าปกติได้ น้ำหนักตัว การมีน้ำหนักมากเกิน หรือน้ำหนักน้อยเกินไป อาจทำให้ร่างกายหยุดผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนที่จำเป็นต่อการตกไข่ หรือทำให้มีปริมาณมากเกินไปจนเสียความสมดุล และอาจทำให้ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน หรือนานกว่านั้น ฮอร์โมนไม่สมดุล ที่อาจเกิดจากกลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เนื้องอกต่อมใต้สมอง เพราะอาจส่งผลให้ฮอร์โมนที่ช่วยให้เกิดการตกไข่ไม่สมดุลกันจึงส่งผลให้ประจำเดือนไม่มา วัยหมดประจำเดือน พบได้มากในผู้หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป […]


การคุมกำเนิด

กินยาคุมแล้วประจําเดือนไม่มา ผิดปกติหรือไม่

กินยาคุมแล้วประจําเดือนไม่มา อาจเกิดได้จากฮอร์โมนในยาคุมเข้าไปยับยั้งการตกไข่ จึงส่งผลให้ประจำเดือนไม่มาหรือมาช้ากว่ากำหนด ที่ส่งผลให้กังวลถึงความผิดปกติหรือการตั้งครรภ์ ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการการตั้งครรภ์และการตรวจครรภ์ด้วยตัวเองร่วมด้วย หรืออาจเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยโดยตรง [embed-health-tool-ovulation] การทำงานของยาคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. ยาคุมฉุกเฉินประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตเจน (Progestogen) เพียงชนิดเดียว โดยใน 1 แผง จะมี 2 เม็ด แต่ละเม็ดจะมีตัวยา 0.75 มิลลิกรัม ที่ควรรับประทานภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกันและมีการหลั่งใน เหมาะสำหรับผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถุงยางแตก ลืมรับประทานยาคุมแบบรายเดือนมากกว่า 3 เม็ด 2. ยาคุมแบบรายเดือนที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน โดยใน 1 แผงจะมี 21-28 เม็ด รับประทานวันที่ประจำเดือนมา วันละ 1 ครั้ง ตามลูกศรบนแผงในช่วงเวลาเดียวกันและหยุดยา 7 วัน ในแบบแผง 21 เม็ด ก่อนเริ่มแผงใหม่ เพื่อให้ประจำเดือนมา ซึ่งปกติแล้วประจำเดือนจะมาหลังจากหยุดยาประมาณ 1-3 วัน 3. […]


การคุมกำเนิด

ที่ตรวจครรภ์ ขึ้น 2 ขีด จางๆ แบบจุ่ม ตั้งครรภ์หรือไม่ และควรทำอย่างไร

หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันและมีการหลั่งใน หากพบว่าตัวเองมีอาการที่เป็นสัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัวบ่อย อารมณ์แปรปรวน ประจำเดือนขาดนานกว่า 1 เดือน เต้านมคัดตึงและขยายใหญ่ สามารถซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจได้ด้วยตัวเอง และหากผลลัพธ์ของ ที่ตรวจครรภ์ ขึ้น 2 ขีด จางๆ แบบจุ่ม อาจซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจอีกครั้งในวันถัดไป หรือพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจ ตรวจเลือดเพื่อหาค่าฮอร์โมน HGC ซึ่งจะสามารถบอกได้แม่นยำกว่า [embed-health-tool-ovulation] การตั้งครรภ์เกิดจากอะไร การตั้งครรภ์เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่โดยไม่มีการป้องกันและหลั่งใน โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ผู้หญิงตกไข่ ปกติแล้วผู้หญิงจะมีกระบวนการตกไข่ทุกรอบเดือนและปล่อยไข่ไปยังท่อนำไข่เพื่อรอการปฏิสนธิกับอสุจิ ดังนั้น เมื่อผู้ชายหลั่งอสุจิเข้าไปในช่องคลอดจึงอาจทำเข้าไปผสมกับไข่และเกิดการปฏิสนธิที่พัฒนาเป็นตัวอ่อนก่อนจะฝังตัวบนผนังมดลูกของผู้หญิงและนำไปสู่การตั้งครรภ์ ที่ตรวจครรภ์ ขึ้น 2 ขีด จางๆ แบบจุ่มตั้งครรภ์หรือไม่ เมื่อสังเกตว่าประจำเดือนขาดนานกว่า 1 เดือน หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันและมีการหลั่งใน ควรซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจด้วยตัวเอง โดยควรตรวจปัสสาวะแรกของวันหรือตรวจในช่วงเช้า เนื่องจากจะมีฮอร์โมนฮอร์โมนเอชซีจี (Human Chorionic Gonadotropin) ที่เป็นฮอร์โมนการตั้งครรภ์ อีกทั้งไม่ควรดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารก่อนตรวจเพื่อป้องกันผลลัพธ์คลาดเคลื่อน จากนั้นรอผลลัพธ์ 5 นาที หากที่ตรวจครรภ์ ขึ้น 2 ขีด จางๆ อาจมีความหมายว่าเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือผลลัพธ์การตั้งครรภ์คลาดเคลื่อน ที่ควรตรวจใหม่ในวันถัดไป สิ่งที่ควรทำเมื่อที่ตรวจครรภ์ ขึ้น […]


สุขภาพทางเพศ

ประจําเดือนสีดำ สาเหตุ และอาการผิดปกติที่ควรพบคุณหมอ

ประจําเดือนสีดำ อาจเป็นเรื่องปกติในช่วงแรกที่ประจำเดือนมาหรือใกล้ประจำเดือนหมด แต่ในขณะเดียวกันก็อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในสุขภาพช่องคลอดได้ ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ช่องคลอดมีกลิ่น ปวดท้องล่างรุนแรง ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ และควรเข้าพบคุณหมออย่างรวดเร็ว เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และมะเร็งปากมดลูกได้ [embed-health-tool-ovulation] ประจําเดือนสีดำ มีสาเหตุมาจากอะไร ประจำเดือนเป็นสีดำ มีสาเหตุมาจากเลือดเก่าของประจำเดือนที่ตกค้างอยู่ภายในช่องคลอด เมื่อเลือดประจำเดือนสัมผัสกับอากาศหรือออกซิเจนจะเกิดการออกซิเดชันทำให้กลายเป็นสีดำได้ หรืออาจเป็นเลือดผสมกับตกขาวทำให้เลือดเปลี่ยนจากสีแดงหรือสีชมพูเป็นสีน้ำตาลหรือสีแดงเข้มจนถึงสีดำเข้มคล้ายกับกากกาแฟที่ไหลออกมาในช่วงระยะแรกของประจำเดือนหรือก่อนประจำเดือนหมดในรอบเดือนนั้น นอกจากนี้ประจำเดือนสีดำยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ดังนี้ วัตถุแปลกปลอมติดค้างอยู่ในช่องคลอด เช่น ห่วงคุมกำเนิด ผ้าอนามัยแบบสอด กระดูกเชิงกรานอักเสบ การติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม การฝังตัวของตัวอ่อนในมดลูกที่เตรียมการตั้งครรภ์ การแท้งบุตร น้ำคาวปลาหลังจากคลอดบุตร โรคมะเร็งปากมดลูก ประจําเดือนสีดำส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่ ประจําเดือนสีดำ มักไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่หากพบว่ามีเลือดหรือตกขาวสีดำไหลออกทางช่องคลอดหลังหมดประจำเดือนหรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ แสบช่องคลอด ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของสภาวะการติดเชื้อในช่องคลอด ที่เกิดจากสิ่งแปลกปลอมอุดตันภายในช่องคลอด เช่น อุปกรณ์คุมกำเนิด ถุงยางอนามัย ผ้าอนามัยแบบสอด ทำให้เยื่อบุช่องคลอดระคายเคืองจนเกิดการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่สังเกตได้จากอาการเจ็บปวดขณะปัสสาวะ คันช่องคลอด มีเลือดออกระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ปัสสาวะลำบาก สีตกขาวผิดปกติ ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น ผิวรอบ ๆ […]


การคุมกำเนิด

การตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้อย่างไร และวิธีป้องกันการตั้งครรภ์หากไม่พร้อมมีบุตร

หลายคนอาจสงสัยว่า การตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่หลั่งนอกหรือป้องกันด้วยการสวมถุงยางในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งการตั้งครรภ์นั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ หากยังไม่พร้อมมีบุตรจึงควรศึกษาการป้องกันการตั้งครรภ์ให้ถูกวิธีหรือขอคำปรึกษาจากคุณหมอเพื่อเลือกวิธีการคุมกำเนิดได้อย่างเหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] การตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้อย่างไร การตั้งครรภ์จะเกิดขึ้นต่อเมื่อร่างกายของผู้หญิงผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) เพื่อกระตุ้นการปล่อยไข่และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้นเพื่อเตรียมให้ตัวอ่อนฝังตัว ซึ่งกระบวนการตกไข่นี้จะเกิดขึ้นทุกรอบเดือน ประมาณ 28-35 วัน เดือนละ 1 ครั้ง โดยเริ่มนับวันแรกที่มีประจำเดือนมา และปล่อยไข่ไปยังท่อนำไข่เพื่อรอการปฏิสนธิกับอสุจิ  สำหรับผู้ชายภายในอัณฑะจะมีท่อเซมินิเฟอรัส (Seminiferous tubule) ที่มีหน้าที่สำคัญในการสร้างอสุจิ เมื่อผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ทำให้ไปถึงจุดสุดยอดจึงอาจเกิดการหลั่งอสุจิออกมาผ่านทางท่อนำส่งที่อยู่ภายในอวัยวะเพศหลังอัณฑะของแต่ละข้างเข้าสู่หลอดนำอสุจิไปยังท่อปัสสาวะและเข้าสู่ช่องคลอดเพื่อปฏิสนธิกับไข่ของผู้หญิง เมื่ออสุจิและไข่เกิดการปฏิสนธิขึ้นจึงเริ่มพัฒนากลายเป็นตัวอ่อนที่จะเข้าไปฝังตัวในโพรงมดลูกผู้หญิงภายใน 6-10 วันหลังจากปฏิสนธิและก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ซึ่งอาจรู้ผลชัดเจนประมาณ 14 วัน หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันที่มีการหลั่งใน จะรู้ได้อย่างไรว่าตั้งครรภ์ หลังจากมีเพศสัมพันธ์แบบไม่สวมถุงยางอนามัยหรือมีการหลั่งใน หากสังเกตว่าประจำเดือนไม่มานานกว่า 1 เดือน เต้านมคัด เต้านมขยาย มีเลือดออกจากช่องคลอดเล็กน้อยที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อนในมดลูก เหนื่อยล้าง่าย อารมณ์แปรปรวนและรู้สึกแพ้ท้อง ควรตรวจครรภ์ด้วยที่ตรวจครรภ์ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปหรือเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจครรภ์โดยตรง  วิธีป้องกันการตั้งครรภ์หากไม่พร้อมมีบุตร วิธีป้องกันการตั้งครรภ์หากไม่พร้อมมีบุตร อาจทำได้ดังนี้ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ โดยใช้วิธีอื่นแทน เช่น การช่วยตัวเอง การใช้เซ็กส์ทอย หรือการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก เพื่อลดความเสี่ยงการหลั่งในช่องคลอดที่นำไปสู่การตั้งครรภ์ ถุงยางอนามัย เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ใช้งานง่ายและสะดวก ที่มีในรูปแบบทั้งผู้ชายและผู้มีหญิงโดยควรเลือกขนาดให้เหมาะสมและศึกษาวิธีใช้ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันถุงยางแตก ถุงยางรั่ว ถุงยางหลุดที่ทำให้อสุจิเข้าไปในช่องคลอดนำไปสู่การตั้งครรภ์ได้ ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน หรือมีเพียงฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียว ซึ่งมีทั้งรูปแบบ 21 […]


การคุมกำเนิด

ไม่ใส่ถุงยางมีโอกาสท้องไหม และวิธีป้องกันตัวเองไม่ให้ท้อง

หลายคนอาจสงสัยว่า ไม่ใส่ถุงยางมีโอกาสท้องไหม อาจเป็นไปได้ว่าท้องและไม่ท้อง แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตรหรือไม่พร้อมตั้งครรภ์ ควรคำถึงความปลอดภัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ด้วยการสวมถุงยางอนามัยและการใช้ยาคุมกำเนิดให้ถูกวิธี เพราะอาจช่วยลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ [embed-health-tool-ovulation] ไม่ใส่ถุงยางมีโอกาสท้องไหม การไม่ใส่ถุงยางเมื่อมีเพศสัมพันธ์อาจมีโอกาสเสี่ยงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะหลั่งในเข้าสู่ช่องคลอดเมื่อถึงจุดสุดยอด นอกจากนี้การหลั่งนอกก็ยังอาจทำให้มีโอกาสการตั้งครรภ์ เพราะอสุจิอาจเล็ดลอดออกมาพร้อมกับน้ำหล่อลื่นของผู้ชายและเข้าสู่ช่องคลอดของผู้หญิง ตั้งแต่ก่อนช่วงหลั่งจริงๆ เพราะฉะนั้นการหลั่งข้างนอกในทางปฏิบัติ ถึงมีโอกาสตั้งครรภ์สูงได้ถึง 20% และถึงแม้ว่าจะรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหรือยาคุมรายเดือน หากรับประทานผิดวิธี เช่น ไม่รับประทานยาในช่วงเวลาที่กำหนด ลืมรับประทานยาคุม ลืมกินยาคุม 1-3 วัน ก็อาจเสี่ยงทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์จึงเป็นวิธีที่ช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตรและไม่พร้อมตั้งครรภ์อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกที่สุด อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเริม โรคหูดหงอนไก่ โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียมได้อีกด้วย คำแนะนำในการคุมกำเนิด คำแนะนำในการคุมกำเนิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ อาจมีดังต่อไปนี้ การใช้ยาคุม เช่น ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน การฝังยาคุม การใส่ห่วงคุมกำเนิด การแปะแผ่นคุมกำเนิด ที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเมือกบริเวณปากมดลูกให้หนาขึ้น ทำให้อสุจิเข้าไปผสมกับไข่ได้ยาก ควรรับประทานยาคุมให้ตรงเวลา สำหรับยาคุมในรูปแบบอื่น ๆ ควรถอดเปลี่ยนตามวันและเวลาที่คุณหมอกำหนด เพื่อให้การคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หลีกเลี่ยงการรับประทานยาคุมกำเนิดร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยารักษาต้านไวรัสเอชไอวี ยารักษาโรคลมชัก ยาสมุนไพร เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดลดลง และควรแจ้งให้คุณหมอทราบหากรับประทานยารักษาโรคประจำตัว รวมถึงวิตามิน สมุนไพรต่าง ๆ เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานยาคุมอย่างถูกวิธี […]


โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

Pid (Pelvic Inflammatory Disease) คือ โรคอะไร และมีวิธีการรักษาอย่างไร

Pid คือ โรค อะไร อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ซึ่ง Pid ย่อมาจาก Pelvic Inflammatory Disease หรือโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ ที่เกิดจากระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงส่วนบนติดเชื้อ ที่ควรเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องน้อย ไข้ ตกขาวผิดปกติ  เจ็บปวดช่องคลอดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ปัสสาวะลำบาก กลิ่นเหม็นในช่องคลอด ไข้ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ฝีที่ท่อรังไข่ ปวดอุ้งเชิงกรานเรื้อรัง [embed-health-tool-ovulation] Pid คือ โรค อะไร Pid คือ โรคอุ้งเชิงกรานอักเสบที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ที่มักติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ส่วนบนของผู้หญิง เช่น มดลูก รังไข่ ท่อ นำไข่ ส่งผลให้อุ้งเชิงกรานอักเสบ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจทำให้ผู้หญิงอุ้งเชิงกรานอักเสบ ดังนี้ มีคู่นอนหลายคน ไม่สวมถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์ การสวนล้างอวัยวะเพศผิดวิธี ที่ทำให้แบคทีเรียชนิดดีภายในช่องคลอดเสียสมดุลนำไปสู่การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน เคยมีประวัติเป็นโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน อาการของ Pid อาการของโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ อาจมีดังต่อไปนี้ ปวดท้องน้อยหรือรู้สึกเจ็บท้องน้อยเมื่อกด สีตกขาวผิดปกติที่อาจมีสีเหลืองหรือเขียว  ตกขาวไหลออกปริมาณมากและมีกลิ่นเหม็น มีเลือดออกจากช่องคลอด โดยเฉพาะระหว่างหรือหลังจากมีเพศสัมพันธ์ อาการเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน