สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

HPV ในผู้หญิงตั้งครรภ์ ส่งผลกระทบต่อคุณแม่และลูกน้อยอย่างไร

HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยบางสายพันธุ์สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกและภาวะผิดปกติอื่น ๆ ในระบบสืบพันธุ์ สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ HPV มักกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของตัวเองและทารกในครรภ์ โดยเฉพาะการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การคลอดก่อนกำหนด และการถ่ายทอดไวรัสสู่ทารกในระหว่างคลอด ผลกระทบของ HPV ต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ ผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ การเกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศ (Genital Warts) การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการเกิดหูดในบริเวณอวัยวะเพศ หูดเหล่านี้อาจโตขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบไหลเวียนเลือด หากหูดมีขนาดใหญ่ อาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือขัดขวางการคลอดทางช่องคลอด การเปลี่ยนแปลงในปากมดลูก การติดเชื้อ HPV โดยเฉพาะสายพันธุ์ความเสี่ยงสูง อาจทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูกได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ ความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ในบางกรณี การติดเชื้อ HPV อาจเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะหากมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการอักเสบในระบบสืบพันธุ์ ซึ่งส่งผลต่อการคลอดก่อนกำหนด การคลอดก่อนกำหนดอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาวสำหรับทารก เช่น การเจริญเติบโตที่ช้ากว่าปกติ ผลกระทบต่อทารกในครรภ์และหลังคลอด การติดเชื้อในทารก แม้โอกาสที่ HPV จะส่งต่อถึงทารกในครรภ์มีน้อย แต่มีรายงานว่าการคลอดทางช่องคลอดในกรณีที่แม่มีหูดหรือการติดเชื้อ HPV […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

Pansexual คือ อะไร และมีอะไรที่ควรรู้บ้าง

Pansexual คือ รสนิยมทางเพศที่บุคคลมีความรู้สึกดึงดูดทางอารมณ์ ชื่นชอบหรือเกิดความรักต่อตัวบุคคลนั้น ๆ โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นเพศอะไร อาจเกิดขึ้นนอกเหนือจากเพศหญิงและเพศชายก็ได้ เช่น เลสเบี้ยน เกย์ กะเทย ไบเซ็กชวล [embed-health-tool-vaccination-tool] Pansexual คือ อะไร Pansexual หรือ แพนเซ็กชวล เป็นรสนิยมทางเพศรูปแบบหนึ่ง ที่ชาว LGBTQ+ กำหนดคำศัพท์มาเพื่ออธิบายความเป็นตนเอง ซึ่ง Pansexual แสดงถึงความสนใจ ความชื่นชอบ ความรู้สึกดึงดูดทางอารมณ์ และการเกิดความรักต่อตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเพศอะไร ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับเพศชาย เพศหญิง เลสเบี้ยน เกย์ กะเทย ไบเซ็กชวลหรือเพศอื่น ๆ ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความรู้สึกดึงดูดต่อบุคคลนั้น ๆ สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Pansexual ปัจจุบันอาจมีการกำหนดคำศัพท์มากมายมาเพื่อระบุความเป็นตัวเอง โดยความแตกต่างของรสนิยมทางเพศในแต่ละรูปแบบ อาจมีดังนี้ ความแตกต่างของ Pansexual กับ Bisexual เป็นอย่างไร Bisexual หรือ ไบเซ็กชวล อาจมีความคล้ายคลึงกับ Pansexual แต่ไบเซ็กชวลอาจมีความหมายที่แคบกว่า เพราะเป็นรสนิยมทางเพศที่เกิดขึ้นเพียง 2 เพศ คือ บุคคลนั้นสามารถเกิดความรู้สึกดึงดูดทางอารมณ์และเกิดความรักได้ทั้งชายและหญิง ความแตกต่างของ Pansexual กับ […]


สุขภาพทางเพศ

ตกขาวสีเขียว หายเองได้ไหม และควรดูแลตัวเองอย่างไร

ตกขาว คือ สารคัดหลั่งที่ไหลออกจากช่องคลอด ปกติจะมีลักษณะเป็นเมือกลื่น คล้ายไข่ขาว มีสีใสหรือขาวขุ่น  ไม่มีกลิ่น แต่บางครั้งสีของตกขาวก็อาจเปลี่ยนสีได้ เช่น กลายเป็นสีเขียว และคนที่มีอาการดังกล่าวอาจสงสัยว่า ตกขาวสีเขียว หายเองได้ไหม การมีตกขาวผิดปกติร่วมกับมีอาการอื่น ๆ อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติบริเวณช่องคลอดบางประการ ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสม ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจลุกลามและทำให้เสี่ยงติดเชื้ออื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น [embed-health-tool-ovulation] ตกขาวสีเขียว เกิดจากอะไร ตกขาวมีหน้าที่ให้ความชุ่มชื้น ช่วยหล่อลื่น และลดการระคายเคืองในช่องคลอด ตกขาวในสภาวะจะเป็นกรดเล็กน้อยเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากภายนอก และประกอบไปด้วยเซลล์ที่ตายแล้วและแบคทีเรียธรรมชาติในช่องคลอด ทั้งนี้ ตกขาวปกติจะไม่ส่งกลิ่นและไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง หากมีตกขาวสีเขียว อาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพบางประการ เช่น ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial vaginosis หรือ BV) เกิดจากภาวะไม่สมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด โดยแบคทีเรียชนิดก่อโรคมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่แบคทีเรียชนิดแลคโตบาซิลไล  (Latobacilli) ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรคมีจำนวนน้อยลง เมื่อปริมาณแบคทีเรียชนิดดีและไม่ดีเสียสมดุลจึงทำให้ช่องคลอดอักเสบ สาเหตุที่ทำให้ปริมาณแบคทีเรียไม่สมดุล เช่น การสวนล้างช่องคลอด การไม่สวมถุงยางอนามัย การมีคู่นอนหลายคน ซึ่งกระทบต่อความสมดุลของเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องคลอด จนทำให้เกิดตกขาวสีเขียวหรือสีเหลือง ตกขาวเป็นฟอง หรือส่งกลิ่นเหม็นคาว ร่วมกับมีอาการคันบริเวณช่องคลอดและเจ็บขณะถ่ายปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อแบคทีเรียอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและเสี่ยงติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น จึงควรรักษาให้หายโดยเร็ว โรคพยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis) โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มักเกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวทริโคโมแนส วาจินาลิส (Trichomonas […]


สุขภาพทางเพศ

BPH คือ โรคต่อมลูกหมากโต อาการ สาเหตุ วิธีรักษา

BPH คือ โรคต่อมลูกหมากโต พบได้บ่อยในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป เกิดจากต่อมลูกหมากที่หุ้มรอบท่อปัสสาวะส่วนต้นเจริญเติบโตผิดปกติ เมื่อต่อมลูกหมากขยายตัวมากเกินไป อาจไปเบียดท่อปัสสาวะและทำให้การไหลของปัสสาวะติดขัด ส่งผลให้มีอาการถ่ายปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะไหลอ่อน กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ต้องเข้าห้องน้ำทันทีที่ปวดปัสสาวะ ซึ่งกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก โดยทั่วไป คุณหมอจะรักษาโรคนี้ด้วยการใช้ยารักษาและการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อเยื่อที่เบียดท่อปัสสาวะออกไป [embed-health-tool-bmi] BPH คือ อะไร Benign Prostatic Hyperplasia หรือ  BPH คือ โรคต่อมลูกหมากโต เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่อมีอายุมากขึ้น จึงเป็นโรคที่ไม่มีวิธีป้องกัน ตำแหน่งของต่อมลูกหมากจะอยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะโดยจะล้อมรอบท่อปัสสาวะที่ลำเลียงปัสสาวะและน้ำอสุจิออกจากองคชาต แต่บางครั้งเมื่อต่อมลูกหมากขยายใหญ่ขึ้น อาจไปกดทับกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ บีบให้ท่อปัสสสาวะแคบลงจนปัสสาวะไหลออกไม่สะดวก ส่งผลให้มีปัญหาในการถ่ายปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะไหลอ่อน ต้องลุกไปถ่ายปัสสาวะบ่อยขึ้นในตอนกลางคืน ไม่สามารถถ่ายปัสสาวะจนหมดในครั้งเดียวได้ อย่างไรก็ตาม BPH ไม่ใช่สัญญาณของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer) และไม่ได้เป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง แม้ว่าจะมีอาการของโรคใกล้เคียงกัน สาเหตุของ BPH คือ อะไร ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่า สาเหตุของ BPH คือ อะไร แต่อาจเป็นโรคที่เกิดขึ้นตามวัยที่มากขึ้น ตามปกติขนาดอวัยวะเพศชายจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิมประมาณ 2 เท่าเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น […]


สุขภาพทางเพศ

ตกขาวคันแก้ยังไง และเมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ

ตกขาวเป็นสารคัดหลั่งบริเวณช่องคลอดที่ทำหน้าที่หล่อลื่น รักษาความชุ่มชื้น ทำความสะอาด และป้องกันการติดเชื้อภายในช่องคลอด ตกขาวโดยปกติจะเป็นสีใสหรือขาวขุ่นและไม่มีกลิ่น แต่บางครั้ง ตกขาวก็อาจมีลักษณะผิดปกติ เช่น มีตกขาวแล้วเกิดอาการคัน ทำให้ไม่สบายตัวและกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จนต้องรีบหาวิธีว่า ว่า ตกขาวคันแก้ยังไง โดยทั่วไป การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การดูแลความสะอาดของช่องคลอด อาจช่วยบรรเทาอาการคันได้ แต่หากอาการคันไม่ดีขึ้นและมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ตกขาวเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว สีเหลือง ตกขาวมีกลิ่น ตกขาวเป็นก้อนแป้ง ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม [embed-health-tool-bmi] ตกขาวคัน เกิดจากสาเหตุใด ตกขาวเป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ แต่หากมีตกขาวพร้อมกับมีอาการคันอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การมีพฤติกรรมหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ช่องคลอดระคายเคือง เช่น การใช้ผ้าอนามัยแบบสอด การสวมกางเกงชั้นในเนื้อหยาบ การซักกางเกงชั้นในด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีน้ำหอมหรือเป็นสูตรเข้มข้น การใช้ครีม โลชั่น สบู่ โดยเฉพาะยี่ห้อที่แต่งเติมกลิ่น บริเวณอวัยวะเพศ การใช้ถุงยางอนามัย การสวนล้างช่องคลอดหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น โดยทั่วไปอาการคันจะบรรเทาลงเมื่อหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคันและระคายเคือง การมีภาวะสุขภาพ อย่างภาวะช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) เนื่องจากติดเชื้อ เช่น รา (ยีสต์) แบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว ส่งผลให้ตกขาวเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล สีเขียว สีเหลือง มีกลิ่นเหม็นคาว และเกิดอาการคันและระคายเคือง โดยการติดเชื้อบริเวณช่องคลอดชนิดที่พบบ่อยและควรรีบเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสมจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ อาจมีดังนี้ โรคช่องคลอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย […]


การคุมกำเนิด

ฉีดยา คุมแบบ 1 เดือน ปล่อยในได้ไหม และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง

ผู้ที่ต้องการเลือกวิธีการคุมกำเนิดแบบฉีดอาจมีคำถามว่า ฉีดยา คุมแบบ 1 เดือน ปล่อยในได้ไหม และจะก่อให้เกิดการตั้งครรภ์หรือมีข้อควรระวังอะไรบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปหากฉีดยาคุมกำเนิดเกิน 7 วัน สามารถมีเพศสัมพันธ์และปล่อยในได้โดยไม่ทำให้ตั้งครรภ์ แต่การปล่อยในก็ยังอาจมีความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเสี่ยงตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจได้ โดยเฉพาะหากเข้ารับการฉีดยาคุมรอบใหม่ไม่ตรงเวลา ดังนั้น ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งหากไม่ต้องการตั้งครรภ์ และเพื่อป้องกันการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ [embed-health-tool-vaccination-tool] ฉีดยาคุมกำเนิดอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ยาคุมกำเนิดแบบฉีดมีด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียว (Progestin-only Injectable Contraceptives) ส่วนใหญ่ฉีดบริเวณชั้นกล้ามเนื้อ ทุก ๆ 12 สัปดาห์ ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Injectable Contraceptives) ที่ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสตินและฮอร์โมนเอสโตรเจน ระยะเวลาในการฉีดประมาณทุก ๆ 1 เดือน จนกว่าจะเลิกคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิดอย่างถูกต้องและตรงเวลาตามที่คุณหมอกำหนด อาจมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดได้ถึง 99% โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดที่ดีมากขึ้น อาจมีดังนี้ หากยังไม่ได้ตั้งครรภ์ สามารถเริ่มฉีดยาคุมกำเนิดเมื่อไหร่ก็ได้ การคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่องด้วยยาคุมกำเนิดแบบฉีด ควรเข้ารับการฉีดยาคุมกำเนิดภายใน 1 สัปดาห์หลังครบกำหนด เพื่อประสิทธิภาพการคุมกำเนิดที่ต่อเนื่อง การฉีดยาคุมกำเนิดหลังคลอด สามารถทำได้ทันทีโดยคุณหมออาจแนะนำให้ฉีดหลังคลอดประมาณ 6 สัปดาห์ แต่หากฉีดยาคุมกำเนิดหลังคลอดเกิน […]


สุขภาพทางเพศ

Open Relationship คือ อะไร มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร

Open Relationship คือ ความสัมพันธ์แบบเปิดที่เกิดขึ้นภายใต้ข้อตกลงระหว่างคู่รัก ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้ง 2 ฝ่ายสามารถมีเพศสัมพันธ์ ออกเดทหรือผูกมัดทางอารมณ์กับผู้อื่นได้อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งความสัมพันธ์รูปแบบนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่อาจไม่เหมาะกับทุกคน จึงควรพิจารณาถึงความเหมาะสมก่อนเริ่มความสัมพันธ์ [embed-health-tool-vaccination-tool] Open Relationship คือ อะไร Open Relationship หรือความสัมพันธ์แบบเปิด เป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับคู่รักที่ยังไม่แต่งงานหรือแต่งงานแล้ว โดยที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้ง 2 ฝ่ายสามารถมีเพศสัมพันธ์หรือสามารถผูกมัดทางอารมณ์กับผู้อื่นได้เมื่อรู้สึกพิเศษกับคน ๆ นั้น ซึ่งความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ต้องเป็นข้อตกลงที่ทั้ง 2 ฝ่ายยินยอม โดยมีข้อแม้ว่ายังเป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ โดยความสัมพันธ์แบบ Open Relationship อาจแตกต่างกับความสัมพันธ์แบบสวิงกิ้ง (Swinging) และการมีภรรยาหรือสามีหลายคน เนื่องจากความสัมพันธ์แบบสวิงกิ้งเป็นความสัมพันธ์ที่มีเป้าหมายเพื่อมีเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว ส่วนการมีภรรยาหรือสามีหลายคนเป็นความสัมพันธ์รูปแบบคู่รักลึกซึ้งที่เกิดขึ้นกับหลายคน ประเภทของ Open Relationship ความสัมพันธ์แบบเปิดอาจแบ่งได้หลายประเภท ดังนี้ ออกเดทกับคนที่ไม่ใช่คู่สมรสหรือแฟนอย่างไม่เป็นทางการ อยู่ในความสัมพันธ์แบบคู่รักกับคนที่ไม่ใช่คู่สมรสหรือแฟน มีความสัมพันธ์ทางกายกับคนที่ไม่ใช่คู่สมรสหรือแฟน ข้อดีของ Open Relationship ความสัมพันธ์แบบเปิดอาจมีข้อดีสำหรับคนบางกลุ่มที่สนใจในความสัมพันธ์รูปแบบนี้ ดังนี้ อาจเกิดการสื่อสารที่มากขึ้นเกี่ยวกับความต้องการและความจำเป็นกับบางเรื่องในความสัมพันธ์ อาจให้ประสบการณ์ทางเพศที่แตกต่างจากคู่รักและมีความน่าตื่นเต้นขึ้น อาจได้ค้นหาประสบการณ์และความสนใจใหม่ ๆ อาจมีอิสระในการแสดงตัวตนในด้านต่าง ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น พฤติกรรมหรือนิสัยบางอย่างอาจไม่สามารถแสดงกับคู่รักได้ แต่สามารถแสดงกับผู้ที่มีความสัมพันธ์แบบเปิดได้ อาจไม่ทำให้คนใดคนหนึ่งเกิดความกดดันในการตอบสนองความต้องการ ความสนใจทางอารมณ์และทางเพศทั้งหมด ข้อเสียของ Open Relationship นอกจากข้อดีบางประการแล้ว […]


หนองในเทียม

Chlamydia คืออะไร มีอาการอย่างไร และรักษาได้อย่างไร

Chlamydia (คลาไมเดีย) คือ เชื้อแบคทีเรียที่พบได้ทั้งในอสุจิของผู้ชายหรือในช่องคลอดของผู้หญิง ที่สามารถติดต่อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ได้หากไม่มีการป้องกัน โดยบางคนอาจไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ แต่หากสังเกตว่ามีอาการแสบร้อนอวัยวะเพศขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น สีตกขาวผิดปกติ ปวดอัณฑะ หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างรวดเร็ว [embed-health-tool-ovulation] Chlamydia คือ Chlamydia (คลาไมเดีย) คือ เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุนำไปสู่การเกิดโรคหนองในเทียม ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยที่สุดและพบได้ในสารคัดหลั่งหรืออสุจิของผู้ชายและภายในช่องคลอดผู้หญิง ที่อาจได้รับเชื้อแบคทีเรียผ่านการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทางปาก และทวารหนักโดยไม่ป้องกัน นอกจากนี้ สตรีตั้งครรภ์ที่เป็นหนองในเทียมยังเสี่ยงต่อการแพร่กระจายไปยังทารกในระหว่างการคลอดบุตรผ่านทางช่องคลอดที่ทำให้ทารกเกิดการติดเชื้อที่ตา เป็นโรคปอดบวมอย่างรุนแรงได้ อาการของการติดเชื้อ Chlamydia อาการของการติดเชื้อ Chlamydia ในระยะแรกอาจไม่แสดงอาการใด ๆ แต่หลังจากร่างกายได้รับเชื้อประมาณ 1-3 สัปดาห์ อาจทำให้มีอาการต่าง ๆ ดังนี้ อาการติดเชื้อคลาไมเดียในผู้หญิง รู้สึกแสบร้อนและคันในช่องคลอดและรอบนอกช่องคลอด ปวดท้องเกร็งและอาจมีเลือดออกทางช่องคลอด ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น สีตกขาวผิดปกติ เช่น ตกขาวสีเหลือง ตกขาวสีเทา ตกขาวสีเขียว หรือตกขาวสีใสและสีขาวแต่ไหลปริมาณมาก ปัสสาวะมีสีขุ่น ปัสสาวะแสบขัด มีเลือดออกกระปริบกระปอย เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ ปวดท้องน้อยเรื้อรัง อาการติดเชื้อคลาไมเดียในผู้ชาย มีของเหลวใสหรือขุ่น คล้ายหนองไหลออกจากปลายองคชาต เจ็บแสบองคชาตระหว่างปัสสาวะและมีเพศสัมพันธ์ ปัสสาวะขัด หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศอักเสบ ปวดอัณฑะและอัณฑะบวม อันตรายจาก Chlamydia เชื้อแบคทีเรีย […]


สุขภาพทางเพศ

ประจําเดือนขาด มีสาเหตุมาจากอะไร และวิธีช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ

ประจําเดือนขาด เป็นภาวะของประจำเดือนมาไม่ปกติตามรอบเดือน ซึ่งบางคนอาจประจำเดือนขาดนานกว่า 1 เดือนขึ้นไป ที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น การตั้งครรภ์ กินยาคุมกำเนิด ดังนั้น หากมีความกังวลใจควรเข้าพบคุณหมออย่างรวดเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัยหาสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนขาดและรักษาในทันที [embed-health-tool-ovulation] ประจําเดือนขาด มีสาเหตุจากอะไร ประจําเดือนขาด ส่วนใหญ่อาจเกิดจากการตั้งครรภ์โดยไม่รู้ตัวที่มีสาเหตุมาจากมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน เพราะการตั้งครรภ์จะทำให้ร่างกายหยุดกระบวนการตกไข่ส่งผลให้ประจำเดือนขาดและจำกลับมามีประจำเดือนอีกครั้งหลังคลอดประมาณ 6-24 สัปดาห์ นอกจากนี้ ประจำเดือนขาดยังอาจเกิดปัจจัยเสี่ยง ดังต่อไปนี้ ยาคุมกำเนิด การใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนกลุ่มเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนกลุ่มโปรเจสเตอโรน (Progesterone) เช่น ยาคุมแบบรับประทานรายเดือน ยาคุมฉุกเฉิน ยาคุมแบบแผ่นแปะผิวหนัง อาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางส่งผลให้ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้ และอาจชะลอการตกไข่ที่ทำให้ประจำเดือนขาดด้วยเช่นกัน  ความเครียด อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ที่อยู่บริเวณสมองส่วนหน้า ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการตกไข่ นำไปสู่การชะลอการตกไข่ ที่ทำให้ประจำเดือนมาช้ากว่าวันที่กำหนดหรืออาจส่งผลให้ประจำเดือนขาดในรอบเดือนนั้น การออกกำลังกายมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายเกิดความเครียด และส่งผลกระทบต่อกระบวนการตกไข่ ที่อาจทำให้ประจำเดือนขาดหรือมาช้ากว่าปกติ น้ำหนักตัว การมีน้ำหนักมากหรือน้อยเกินไป อาจทำให้ร่างกายมีฮอร์โมนไม่สมดุลและหยุดผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนที่จำเป็นต่อการตกไข่ ส่งผลให้รอบเดือนนั้นประจำเดือนไม่มา กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ อาจส่งผลให้ฮอร์โมนแปรปรวน และรบกวนการตกไข่ จึงส่งผลให้ประจำเดือนขาด วัยหมดประจำเดือน อาจส่งผลให้ระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ทำให้การตกไข่น้อยลง นำไปสู่ประจำเดือนขาดหรืออาจหยุดลงโดยสมบูรณ์ ที่พบได้มากในผู้หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป  วิธีรักษาอาการประจำเดือนขาด วิธีรักษาอาการประจำเดือนขาด […]


สุขภาพทางเพศ

ตกขาวก่อนประจําเดือน เกิดจากอะไร และอาการแบบไหนที่ควรเข้าพบคุณหมอ

ตกขาวก่อนประจําเดือน อาจเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น เพราะตกขาว คือ สารคัดหลั่งที่ไหลออกจากช่องคลอดซึ่งเป็นระบวนการทำความสะอาดของระบบสืบพันธุ์ ซึ่งจริงๆแล้วตกขาวสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งเดือนไม่ใช่เฉพาะช่วงก่อนมีประจำเดือน เพื่อช่วยขจัดสิ่งสกปรกภายในช่องคลอดและป้องกันช่องคลอดแห้ง แต่อาจจะทำให้มีปริมาณมากเมื่อประจำเดือนใกล้มาเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อย่างไรก็ตาม หากตกขาวสีขาวใสเปลี่ยนเป็นสีเขียว เหลือง น้ำตาล หรือปนเลือด หรือมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นมีอาการคันหรือมีกลิ่นผิดปกติ ควรเข้าพบคุณหมออย่างรวดเร็วเพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง [embed-health-tool-ovulation] ตกขาวก่อนประจําเดือน เกิดจากอะไร ตกขาวก่อนประจําเดือน อาจเกิดจากการระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้น โดยเฉพาะช่วงตกไข่ ที่อาจทำให้มีตกขาวไหลอกจากช่องคลอด ซึ่งมีลักษณะเป็นน้ำใส แต่ถ้าตกขาวมีลักษณะหนาและเหนียว อาจเป็นสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกได้ว่าใกล้เข้าสู่ช่วงเวลาที่ประจำเดือนจะมา อย่างไรก็ตาม ตกขาวอาจไหลออกมาหากช่องคลอดแห้งและมีสิ่งสกปรกสะสม เพราะตกขาวจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ช่องคลอด ดังนั้น จึงควรสังเกตอาการประจำเดือนอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้องเกร็ง เจ็บนม อารมณ์แปรปรวน คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกเหนื่อยล้าง่ายและอยากอาหารมากขึ้น อาการตกขาวก่อนประจําเดือนแบบไหนที่ควรเข้าพบคุณหมอ อาการตกขาวก่อนเป็นประจำเดือนที่ควรเข้าพบคุณหมอ อาจสังเกตได้ดังนี้ ตกขาวเปลี่ยนสี เช่น ตกขาวสีเขียว เหลือง เทา ฟ้า ชมพู น้ำตาล ดำ และอาจปนเลือด ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา ปรสิต จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือเชื้อเจริญเติบโตมากเกินไป รวมถึงแพ้สบู่ ผงซักฟอก […]


สุขภาพทางเพศ

วิธีแก้ปวดท้องประจําเดือน และอาการผิดปกติที่ควรสังเกต

อาการปวดท้องประจำเดือน เป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงนั้นมักพบเจอ โดยเฉพาะช่วงก่อนหรือระหว่างที่เป็นประจำเดือน และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันส่งผลให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ไม่สะดวก ดังนั้น จึงควรศึกษา วิธีแก้ปวดท้องประจําเดือน เพื่อช่วยบรรเทาอาการหรือเข้าพบคุณหมออย่างรวดเร็วหากมีอาการที่รุนแรงขึ้นเพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะแทรกซ้อน เช่น เนื้องอก มะเร็งมดลูก กลุ่มอาการถุงน้ำในรังไข่หลายใบ [embed-health-tool-ovulation] สาเหตุที่ทำให้ปวดท้องประจําเดือน สาเหตุที่ทำให้ปวดท้องประจำเดือนเกิดจากกล้ามเนื้อผนังมดลูกบีบตัว ส่งผลให้ขวางการไหลเวียนของออกซิเจนที่ส่งไปยังมดลูกชั่วคราว และเมื่อไม่มีออกซิเจนเนื้อเยื่อมดลูกจะปล่อยสารเคมีที่เรียกว่าสารพรอสตาแกลนดินส์ (Prostaglandins) ซึ่งออกฤทธิ์กระตุ้นให้กล้ามเนื้อมดลูกบีบตัวมากขึ้นเพื่อขับเยื่อบุโพรงมดลูกออกมาเป็นประจำเดือนและส่งผลให้รู้สึกปวดท้องเกร็งรู้สึกปวดท้องโดยเฉพาะบริเวณท้องน้อย และยิ่งมีสารพรอสตาแกลนดินส์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้มดลูกบีบตัวเพิ่มขึ้นที่นำไปสู่อาการปวดท้องประจำเดือนมาก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจทำให้มีอาการปวดท้องประจำเดือน ดังนี้ การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่และเนื้องอกในมดลูก พบได้มากบริเวณรังไข่ ท่อนำไข่ และเนื้อเยื่อบริเวณอุ้งเชิงกราน ที่อาจส่งผลให้มีอาการปวดท้องเกร็งบริเวณท้องน้อยมาก ภาวะปากมดลูกตีบ (Cervical Stenosis) เพราะอาจทำให้ประจำเดือนไหลออกจากช่องคลอดยาก ส่งผลให้ความดันภายในมดลูกเพิ่มสูง จนนำไปสู่การอาการปวดท้องประจำเดือน อุ้งเชิงกรานอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จนนำไปสู่อาการปวดท้องประจำเดือน ห่วงคุมกำเนิด เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดที่ใช้ใส่ในโพรงมดลูกเพื่อช่วยคุมกำเนิด โดยอาจส่งผลให้มีอาการปวดท้องเมนส์เล็กน้อยโดยเฉพาะช่วงแรกของการใส่ วิธีแก้ปวดท้องประจําเดือน วิธีแก้ปวดท้องประจําเดือน อาจทำได้ดังนี้ ประคบร้อน ใช้ถุงน้ำร้อนหรือขวดใส่น้ำร้อนและห่อด้วยผ้า วางไว้บนหน้าท้องส่วนล่าง เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน ยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) นาพรอกเซน โซเดียม (Naproxen sodium) ใช้เพื่อช่วยลดระดับของสารพรอสตาแกลนดินส์ ที่เป็นสาเหตุทำให้มดลูกบีบตัวจนนำไปสู่อาการปวดท้องประจำเดือน ที่สามารถรับประทานจนกว่าอาการจะหายไปหรือตามคำแนะนำของคุณหมอ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและไต ควรรับประทานยาพร้อมอาหารเพื่อป้องกันอาการปวดท้อง ออกกำลังกาย เช่น […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน