สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

HPV ในผู้หญิงตั้งครรภ์ ส่งผลกระทบต่อคุณแม่และลูกน้อยอย่างไร

HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยบางสายพันธุ์สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกและภาวะผิดปกติอื่น ๆ ในระบบสืบพันธุ์ สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ HPV มักกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของตัวเองและทารกในครรภ์ โดยเฉพาะการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การคลอดก่อนกำหนด และการถ่ายทอดไวรัสสู่ทารกในระหว่างคลอด ผลกระทบของ HPV ต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ ผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ การเกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศ (Genital Warts) การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการเกิดหูดในบริเวณอวัยวะเพศ หูดเหล่านี้อาจโตขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบไหลเวียนเลือด หากหูดมีขนาดใหญ่ อาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือขัดขวางการคลอดทางช่องคลอด การเปลี่ยนแปลงในปากมดลูก การติดเชื้อ HPV โดยเฉพาะสายพันธุ์ความเสี่ยงสูง อาจทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูกได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ ความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ในบางกรณี การติดเชื้อ HPV อาจเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะหากมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการอักเสบในระบบสืบพันธุ์ ซึ่งส่งผลต่อการคลอดก่อนกำหนด การคลอดก่อนกำหนดอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาวสำหรับทารก เช่น การเจริญเติบโตที่ช้ากว่าปกติ ผลกระทบต่อทารกในครรภ์และหลังคลอด การติดเชื้อในทารก แม้โอกาสที่ HPV จะส่งต่อถึงทารกในครรภ์มีน้อย แต่มีรายงานว่าการคลอดทางช่องคลอดในกรณีที่แม่มีหูดหรือการติดเชื้อ HPV […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

10ข้อ สาเหตุที่ผู้หญิงไม่ยอมให้ผู้ชายมีอะไรด้วย

10ข้อ สาเหตุที่ผู้หญิงไม่ยอมให้ผู้ชายมีอะไรด้วย อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ความเครียด ความเบื่อหน่าย รวมไปจนถึงปัญหาด้านสภาพจิตใจ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรฝืนบังคับให้ผู้หญิงมีอะไรด้วย เพราะการมีเพศสัมพันธ์ ควรได้รับความยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่าย และไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่ากำลังถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งอาจช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคนรักให้แน่นแฟ้น เข้าอกเข้าใจกัน และมีความสุขมากยิ่งขึ้น [embed-health-tool-ovulation] 10ข้อ สาเหตุที่ผู้หญิงไม่ยอมให้ผู้ชายมีอะไรด้วย 10ข้อ สาเหตุที่ผู้หญิงไม่ยอมให้ผู้ชายมีอะไรด้วย อาจมีดังต่อไปนี้ เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศมาก่อน ผู้หญิงที่เคยมีประวัติถูกล่วงละเมิดทางเพศมาก่อนอาจมีความทรงจำที่ไม่ดีเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ เกิดเป็นบาดแผลทางจิตใจ ทำให้รู้สึกกลัวการมีเพศสัมพันธ์และไม่อยากมีอะไรกับผู้ชาย ความเครียด ความเครียดจากการทำงานในแต่ละวัน หรือปัญหาเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว เช่น ด้านการเงิน ครอบครัว อาจก่อให้เกิดความเครียดสูง อาจส่งผลให้อารมณ์ทางเพศลดลงและทำให้ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ หากอยากให้ผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์ด้วยควรทำให้ผู้หญิงรู้สึกผ่อนคลายด้วยการพูดจาปลอบโยน รับฟังปัญหาและดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ความไม่พอใจต่อคนรัก ในบางครั้งหากผู้ชายอาจทำบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกไม่พอใจโดยที่ไม่รู้ตัว เช่น ลืมนัด หยอกล้อกับผู้หญิงคนอื่น ไม่ทำตามสัญญาต่าง ๆ อาจทำให้ผู้หญิงเกิดความไม่พอใจ อารมณ์ไม่ดี และไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ด้วย พลังงานหมดหรือเหนื่อยล้า ในระหว่างวันผู้หญิงอาจใช้พลังงานจนหมดในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยล้า หมดแรงและอยากพักผ่อน จึงทำให้ไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย ความนับถือในตัวเองต่ำหรือไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ผู้หญิงบางคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง จึงอาจรู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องมีเพศสัมพันธ์ […]


เคล็ดลับเรื่องบนเตียง

จุด จี สปอร์ต อยู่ ตรง ไหน กระตุ้นอย่างไรเพื่อสร้างความสุข

จี สปอร์ต (G-spot) เป็นส่วนหนึ่งของผนังช่องคลอดส่วนหน้า อาจมีความขรุขระกว่าบริเวณอื่น แต่ก็อาจจะยากที่จะบอกตำแหน่งของจุดที่แน่นอน ที่เมื่อถูกกระตุ้นด้วยการสัมผัสหรือเสียดสีแล้วมักทำให้ผู้หญิงมีอารมณ์ทางเพศหรือถึงจุดสุดยอดได้ หากถามว่า จุด จี สปอร์ต อยู่ ตรง ไหน ? คำตอบคืออยู่ลึกเข้าไปในช่องคลอดประมาณ 2-3 นิ้วบริเวณผนังช่องคลอดด้านหน้าส่วนบน [embed-health-tool-ovulation] จุด จี สปอร์ต คืออะไร จุดแกรเฟนแบร์ก (Gräfenberg Spot) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าจี สปอร์ต เป็นส่วนหนึ่งของช่องคลอด ซึ่งเชื่อมต่อกับคลิตอริส เมื่อถูกกระตุ้นบริเวณจี สปอร์ต ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีอารมณ์ทางเพศ แต่จะมีผู้หญิงประมาณร้อยละ 10 ที่อาจถึงจุดสุดยอดได้เมื่อถูกกระตุ้นบริเวณจี สปอร์ต อย่างไรก็ตาม การตอบสนองทางเพศบริเวณจี สปอร์ตของผู้หญิงแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป ผู้หญิงบางคนอาจไม่ทราบเกี่ยวกับความสำคัญและหน้าที่ของจีสปอร์ต รวมทั้งอาจไม่เคยสำรวจร่างกายตัวเองและไม่ทราบว่า จี สปอร์ต อยู่ ตรง ไหน งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับอิทธิพลของพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมต่อการทำความรู้จักจุดจี สปอร์ตในผู้หญิง ตีพิมพ์ในวารสาร The Journal of Sexual Medicine ปี พ.ศ. 2553 […]


สุขภาพทางเพศ

เลือดสีชมพู ออกจากช่องคลอด เกิดจากอะไร ผิดปกติหรือไม่

เลือดสีชมพู ออกจากช่องคลอด อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ประจำเดือน ช่องคลอดติดเชื้อ เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกหลังคลอดบุตร อย่างไรก็ตาม หากสังเกตพบอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ ที่ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยหาสาเหตุให้แน่ชัดและรับการรักษาอย่างรวดเร็ว [embed-health-tool-ovulation] เลือดสีชมพู ออกจากช่องคลอด เกิดจากอะไร เลือดสีชมพู ออกจากช่องคลอดอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้ ช่วงแรกเมื่อประจำเดือนมา เกิดจากเลือดประจำเดือนผสมกับตกขาวที่เป็นสารคัดหลั่งในช่องคลอดที่มีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกำจัดสิ่งสกปรกออกจากช่องคลอด ส่งผลให้เลือดประจำเดือนที่มีสีแดงสดดูจางลงจนกลายเป็นสีชมพู การมีเพศสัมพันธ์รุนแรง และการมีเพศสัมพันธ์บ่อยเกินไป อาจส่งผลให้ช่องคลอดระคายเคือง มีแผลในช่องคลอด และมีอาจมีเลือดสีชมพูออกจากช่องคลอดเล็กน้อย ช่องคลอดติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส เช่น ไวรัสเอชพีวี (HPV) ไวรัสเอชไอวี ไวรัสเริม แบคทีเรียคลาไมเดีย ที่อาจเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันหรือการดูแลสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศไม่เหมาะสม จึงนำไปสู่การติดเชื้อและมีเลือดสีชมพูออกจากช่องคลอด ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็นและอาการเจ็บแสบขณะปัสสาวะหรือระหว่างมีเพศสัมพันธ์ น้ำคาวปลา (Lochia) คือเยื่อบุโพรงมดลูกผสมกับเลือดและตกขาวจนกลายเป็นสีชมพูที่หลุดลอกและไหลออกมาทางช่องคลอดหลังจากคลอดบุตร 2-3 วันแรก ซึ่งมีอาจมีกลิ่นเหม็นเล็กน้อย บางคนอาจมีเลือดออกเป็นสีแดงสดหรือสีน้ำตาล และอาจมามากคล้ายกับการมีประจำเดือน โรคมะเร็งและเนื้องอก เช่น มะเร็งช่องคลอด มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส ที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งและพัฒนาเป็นเนื้องอกหรือเซลล์มะเร็งภายในมดลูกและปากมดลูก โดยสัญญาณเตือนที่พบบ่อยคือมีเลือดสีชมพูออกจากช่องคลอด เลือดสีชมพู ออกจากช่องคลอด ผิดปกติหรือไม่ เลือดสีชมพู ออกจากช่องคลอดอาจเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยในวันแรกที่ประจำเดือนมาและหลังคลอดบุตร แต่สำหรับผู้ที่มีเลือดสีชมพูออกจากช่องคลอดร่วมกับมีอาการผิดปกติอื่น ๆ […]


การคุมกำเนิด

ใส่ถุงยางท้องไหม ทำอย่างไรถึงจะไม่ตั้งท้อง

หากถามว่า ใส่ถุงยางท้องไหม? คำตอบคือมีโอกาสตั้งท้องแต่ค่อนข้างน้อย เพราะถุงยางอนามัยมีประสิทธิภาพคุมกำเนิดประมาณ 95-98 เปอร์เซ็นต์ แต่หากใช้ถุงยางอนามัยแบบไม่ถูกวิธีอาจมีโอกาสตั้งครรภ์ถึง 15% ปัจจัยเสี่ยงทำให้ท้องแม้สวมถุงยาง อนามัย ได้แก่ การใช้ถุงยางอนามัยผิดวิธี หรือการใช้ถุงยางอนามัยที่เสื่อมคุณภาพ เนื่องจากอาจทำให้ถุงยางแตกหรือขาดขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย [embed-health-tool-ovulation] ใส่ถุงยางท้องไหม สาเหตุเกิดจากอะไร ถุงยางอนามัยเป็นอุปกรณ์ป้องกันการตั้งครรภ์และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แบ่งเป็น ถุงยางอนามัยแบบสวมองคชาต และถุงยางอนามัยแบบสอดช่องคลอด หากใช้อย่างถูกวิธี ถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ราว 95-98 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม หากใช้ไม่ถูกวิธี หรือใช้ถุงยางอนามัยที่เสื่อมคุณภาพ หมดอายุ มีรอยรั่ว ฉีกหรือขาด จะเสี่ยงต่อการปริหรือแตกระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และทำให้ประสิทธิภาพคุมกำเนิดลดลง จนอาจทำให้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ได้ การใช้ถุงยางที่ถูกวิธีเป็นอย่างไร ใส่ถุงยางท้องไหม เมื่อใส่ถุงยาง โอกาสท้องค่อนข้างต่ำ หากต้องการใช้ถุงยางอนามัยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพคุมกำเนิดมากที่สุด ควรใช้ถุงยางอนามัยตามคำแนะนำต่อไปนี้ ใช้ถุงยางอนามัยให้ถูกขนาด เพราะการใช้ถุงยางอนามัยที่เล็กกว่าองคชาต จะเสี่ยงต่อการปริหรือแตกระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ ผู้ชายสามารถวัดเส้นรอบวงขององคชาตตัวเองขณะแข็งตัวเพื่อนำไปเลือกซื้อถุงยางที่มีขนาดเหมาะสม ในขณะที่ถุงยางอนามัยแบบสอดสำหรับผู้หญิง มีขายเพียงขนาดเดียวเท่านั้น ไม่ใช้ถุงยางอนามัยหมดอายุแล้ว เพราะถุงยางที่หมดอายุแล้วจะฉีกขาดง่ายกว่าถุงยางที่ยังไม่อายุ ทั้งนี้ วันหมดอายุของถุงยางอนามัยจะระบุอยู่บนบรรจุภัณฑ์ของถุงยาง ใช้ถุงยางอนามัยสภาพปกติ แม้จะยังไม่หมดอายุ แต่ถุงยางอนามัยที่เสียหาย รั่ว แตก เป็นรู หรือเหนียวเหนอะนั้นไม่ควรใช้ หากพบ ควรทิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่ สวมถุงยางอนามัยให้ถูกด้าน เมื่อสวมถุงยางอนามัยถูกด้าน […]


การคุมกำเนิด

วิธีวัดไซส์ถุงยาง และผลเสียของการสวมถุงยางผิดไซส์

ในการเลือกซื้อถุงยางอนามัย ไซส์หรือขนาดของถุงยางจัดเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะการใช้ถุงยางผิดไซส์อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของถุงยางอนามัยในการคุมกำเนิดและการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำหรับ วิธีวัดไซส์ถุงยาง นั้น สามารถทำได้ด้วยการวัดความยาวและความกว้างขององคชาตโดยใช้สายวัดหรือไม้บรรทัด แล้วนำค่าที่ได้ไปเปรียบกับความยาวและความกว้างสูงสุดของถุงยางอนามัยที่ระบุอยู่บนบรรจุภัณฑ์ของถุงแต่ละรุ่นตามท้องตลาด [embed-health-tool-ovulation] ไซส์ถุงยางอนามัยที่เหมาะสม มีความสำคัญอย่างไร ถุงยางอนามัยเป็นถุงขนาดเล็ก ทรงกระบอก ทำจากยางพาราหรือวัสดุสังเคราะห์ ใช้สวมครอบองคชาตระหว่างมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน ซิฟิลิส เอดส์ รวมถึงการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ ควรเลือกใช้ถุงยางอนามัยที่มีไซส์เหมาะสมกับองคชาตของตัวเอง เพราะการใช้ถุงยางอนามัยผิดไซส์อาจทำให้ถุงยางแตกหรือหลุดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพของถุงยางอนามัยในการป้องกันโรคติดต่อและการตั้งครรภ์ลดลง ในประเทศไทย ไซส์ของถุงยางอนามัยที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป คือ 49, 52 และ 56 มิลลิเมตร โดยไซส์ถุงยางอนามัยที่ชายไทยนิยมใช้ได้แก่ ขนาด 49 และ 52 เพราะเป็นไซส์ที่เหมาะสมกับไซส์องคชาตของชายไทยส่วนใหญ่มากที่สุด ขณะเดียวกัน ความกว้างของถุงอนามัยในท้องตลาดจะอยู่ระหว่าง 1.75 นิ้วถึง 2 นิ้วขึ้นไป วิธีวัดไซส์ถุงยาง ทำอย่างไร ผู้ชายควรเลือกซื้อถุงยางอนามัยที่มีไซส์เหมาะสมกับความยาวและความกว้างขององคชาตตัวเอง โดยควรวัดขนาดองคชาตตามวิธีการต่อไปนี้ ขนาดของถุงยางอนามัยที่ระบุข้างซองหมายถึงขนาดรอบวงขององคชาตในขณะแข็งตัว เพราะฉะนั้นการวัดขนาดจะต้องใช้สายวัดวัดรอบองคชาตในขณะแข็งตัวโดยมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ซึ่งจะมีขนาดของถุงยางอนามัยที่ขายโดยทั่วไปในประเทศไทยคือขนาด 49, 52,54 และ 56 มิลลิเมตร ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยระบุว่าของความยาวองคชาตของชายไทยนั้นอยู่ที่ประมาณ 4 นิ้ว หรือ 10.16 เซนติเมตร ตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับผลสำรวจไซส์องคชาตของผู้ชายหลาย ๆ ประเทศของเว็บไซต์ […]


สุขภาพทางเพศ

ซีสต์ในรังไข่ สาเหตุ อาการ และการรักษา

ซีสต์ในรังไข่ คือก้อนที่เกิดขึ้นภายในรังไข่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง ที่ไม่ใช่มะเร็งแต่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของรังไข่ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ปวดอุ้งเชิงกราน ขับถ่ายลำบาก รู้สึกมีแรงกดทับในท้อง ประจำเดือนมาไม่ปกติ หากไม่ทำการรักษาอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น เลือดออกในอุ้งเชิงกราน และซีสต์ในรังไข่แตก ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ [embed-health-tool-ovulation] คำจำกัดความ ซีสต์ในรังไข่ คืออะไร ซีสต์ในรังไข่ คือ ก้อนหรือถุงน้ำที่เต็มไปด้วยของเหลว ที่ก่อตัวขึ้นในรังไข่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง อาจมีขนาดตั้งแต่ 1 เซนติเมตร ไปจนถึง 10 เซนติเมตร ขึ้นไป อีกทั้งยังมักพบได้บ่อยในสตรีวัยเจริญพันธุ์ สตรีวัยหมดประจำเดือน และสตรีตั้งครรภ์ อาการ อาการของซีสต์ในรังไข่ อาการของซีสต์ในรังไข่ อาจมีดังต่อไปนี้ ท้องอืด ท้องมีขนาดโตขึ้น รู้สึกมีแรงกดทับภายในท้อง ปวดอุ้งเชิงกรานแบบเป็น ๆ หาย ๆ หรือปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ ปวดท้องน้อยเฉียบพลัน ขับถ่ายลำบาก ปัสสาวะบ่อย ประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนมามากหรืออาจมาน้อย มีไข้ อาเจียน อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หายใจถี่ หมดสติ [embed-health-tool-ovulation] สาเหตุ สาเหตุของซีสต์ในรังไข่ชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง สาเหตุของซีสต์ในรังไข่ อาจแบ่งออกตามประเภทของซีสต์ที่เกิดขึ้น ดังนี้ ซีสต์ฟอลลิเคิล หรือถุงน้ำรังไข่ […]


สุขภาพทางเพศ

การคุกคามทางเพศ คืออะไร หลีกเลี่ยงได้อย่างไร

การคุกคามทางเพศ เป็นพฤติกรรมที่คน ๆ หนึ่งแสดงหรือประสงค์ต่อคนอีกคนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องเพศ ไม่ว่าจะเป็นการแตะเนื้อต้องตัว การวิจารณ์รูปร่างทรวดทรง หรือการถามถึงประสบการณ์ทางเพศโดยที่ผู้ถูกถามไม่ยินยอม ทั้งนี้ การคุกคามทางเพศมักพบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ในที่ทำงาน สถานศึกษา และที่สาธารณะ สำหรับวิธีรับมือการคุกคามทางเพศที่ง่ายที่สุด คือการพูดคุยกับผู้คุกคามโดยตรง ว่าพฤติกรรมดังกล่าวนั้นไม่เหมาะสม และควรหยุดการกระทำนั้น ๆ [embed-health-tool-ovulation] การคุกคามทางเพศ คืออะไร การคุกคามทางเพศ คือ พฤติกรรมเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศที่คน ๆ หนึ่งปฏิบัติต่อคนอีกคนหนึ่ง โดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอม อาจเป็นการสัมผัสร่างกายหรือการใช้คำพูดเกี่ยวกับรูปร่างทรวดทรง การถามถึงประสบการณ์ทางเพศ ในประเทศไทย รายงานฉบับหนึ่งของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เผยแพร่ในปี พ.ศ. 2565 ระบุว่า หญิงไทยถูกละเมิดทางเพศ รวมถึงได้รับความรุนแรงทางกายหรือใจ ไม่น้อยกว่า 7 คน/วัน และมีสถิติผู้หญิงที่เข้ารับการบำบัดรักษาและแจ้งความร้องทุกข์ประมาณ 30,000 คน/ปี ในขณะเดียวกัน รายงานของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ เผยแพร่ในปีพ.ศ. 2565 ระบุว่า กว่าร้อยละ 87 ของคดีล่วงละเมิดทางเพศในประเทศไทยไม่เคยมีการแจ้งความกับตำรวจ นอกจากนี้ ผลการสำรวจชิ้นหนึ่ง เกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ โดยบริษัท YouGov บริษัทวิจัยการตลาดแบบครบวงจรนานาชาติของสหราชอาณาจักร เผยแพร่ในปี พ.ศ. 2562 ซึ่งได้สำรวจคนไทยจำนวน 1,107 […]


เคล็ดลับเรื่องบนเตียง

จุดเสียวของผู้ชาย อยู่ตรงไหนบ้าง กระตุ้นอย่างไร

จุดเสียวของผู้ชาย หมายถึง ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายผู้ชายที่ไวต่อความรู้สึก เมื่อสัมผัสโดนมักเร้าให้เกิดอารมณ์ทางเพศได้ เนื่องจากเป็นบริเวณที่เต็มไปด้วยจุดรับสัมผัสและเส้นประสาท เช่น ติ่งหู หัวนม องคชาต อัณฑะ [embed-health-tool-bmi] จุดเสียวคืออะไร จุดเสียว (Erogenous Zones) หมายถึง บริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ที่เมื่อถูกสัมผัสแล้วช่วยกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศได้ เนื่องจากมีจุดรับสัมผัส (Touch Receptors) ที่หนาแน่นกว่าบริเวณอื่น ๆ โดยจุดรับสัมผัสนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบประสาท มีคุณสมบัติตอบสนองต่อสัมผัส ด้วยการส่งข้อมูลผ่านระบบประสาทไปยังสมองส่วนที่เรียกว่า โซมาโตเซนเซอรี คอร์เทกซ์ (Somatosensory Cortex) ซึ่งคอยรับความรู้สึกต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ บริเวณจุดเสียวยังมีเส้นประสาทอยู่เป็นจำนวนมากจึงไวต่อสัมผัสต่าง ๆ มากกว่าบริเวณอื่นของร่างกาย จุดเสียวของผู้ชาย อยู่ตรงไหน จุดเสียวของผู้ชายนั้น หมายถึง ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายผู้ชาย ดังต่อไปนี้ ศีรษะ หนังศีรษะเต็มไปด้วยปลายประสาท การสัมผัสเบา ๆ อย่างการหวีผมอาจทำให้ผู้ชายบางคนรู้สึกเสียวแปลบตามร่างกายได้ สำหรับการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศบริเวณศีรษะนั้น อาจใช้นิ้วค่อย ๆ เกลี่ยไปตามเส้นผมและนวดคลึงเบา ๆ โดยเฉพาะตรงช่วงระหว่างคอกับใบหู และบริเวณหลังคอ หู ติ่งหูเป็นส่วนที่บางและไวต่อสัมผัสในทั้งผู้ชายและผู้หญิง […]


สุขภาพทางเพศ

ไบเซ็กชวล คืออะไร และข้อเท็จจริงที่ควรรู้

ไบเซ็กชวล คืออะไร? ไบเซ็กชวลเป็นรสนิยมทางเพศแบบหนึ่ง โดยผู้มีรสนิยมแบบนี้จะรู้สึกดึงดูดหรืออยากมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวทั้งกับเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม อย่างไรก็ตาม แม้สังคมจะเปิดกว้างและเข้าใจเกี่ยวกับไบเซ็กชวลมากขึ้น แต่ก็ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไบเซ็กชวลอยู่ไม่น้อย ที่สำคัญ ยังมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับไบเซ็กชวลอีกหลายประการที่สังคมควรทำความเข้าใจ [embed-health-tool-bmi] ไบเซ็กชวล คืออะไร ไบเซ็กชวล (Bisexual) เป็นรสนิยมทางเพศแบบหนึ่ง หมายถึง ผู้ที่รู้สึกดึงดูด มีความสัมพันธ์ รวมทั้งมีอารมณ์ทางเพศได้กับทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เรื่องรูปแบบการตื่นตัวทางเพศของผู้มีรสนิยมทางเพศแบบไบเซ็กชวล เผยแพร่ในวารสาร Biological Psychology ปี พ.ศ. 2554 นักวิจัยได้ศึกษาถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้ชายจำนวนหนึ่งที่นิยามตัวเองว่าเป็นไบเซ็กชวล โดยเน้นไปที่รูปแบบและวิธีการในการกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกทางเพศ จากการศึกษานี้ นักวิจัยพบว่ากลุ่มผู้ชายดังกล่าว มีความรู้สึกตื่นตัวทางเพศได้ทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง ทั้งในแง่ความรู้สึกและทางกายภาพ ทั้งนี้ ไบเซ็กชวลบางครั้งถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ที่มีรสนิยมทางเพศแบบเดียวกับแพนเซ็กชวล (Pansexual) ทั้ง ๆ ที่รสนิยมทางเพศทั้ง 2 แบบแตกต่างกัน โดยผู้ที่มีรสนิยมทางเพศแบบแพนเซ็กชวล จะรู้สึกดึงดูดได้กับทุกเพศ ไม่ว่าจะเพศเดียวกับตัวเอง เพศตรงข้าม หรือเพศทางเลือก ในขณะที่ผู้มีรสนิยมทางเพศแบบไบเซ็กชวลชื่นชอบเพียงบุคคลเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามเท่านั้น ข้อเท็จจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับ ไบเซ็กชวล ปัจจุบันนี้ แม้สังคมจะเปิดกว้างและมีความเข้าใจเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศที่หลากหลายมากขึ้น แต่ยังมีความเข้าใจผิดอื่น ๆ อีกเกี่ยวกับ ไบเซ็กชวล อยู่ไม่น้อย ได้แก่ ผู้ที่มีรสนิยมทางเพศแบบไบเซ็กชวล ชอบเพศตรงข้ามและมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันเพราะอยากรู้อยากลองเท่านั้น ความจริงแล้ว ไบเซ็กชวลจะมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ตนเองชื่นชอบซึ่งอาจเป็นเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกับกับตนเอง ไม่ใช่เพราะอยากรู้อยากลอง […]


สุขภาพทางเพศ

ประจําเดือนตกค้าง คืออะไร อันตรายหรือไม่

ประจําเดือนตกค้าง คืออะไร ? อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ประจำเดือนตกค้าง คือ เลือดและเยื่อบุโพรงมดลูกเก่าที่ตกค้างและออกมาช่องคลอดหลังจากที่ประจำเดือนหมด โดยอาจมีลักษณะเป็นก้อนเลือดสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ คล้ายกากกาแฟ ซึ่งมักจะไม่ส่งผลอันตรายใด ๆ อย่างไรก็ตาม หากสังเกตพบความผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีอาการคันช่องคลอด ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดและทำการรักษาในทันที [embed-health-tool-ovulation] ประจําเดือนตกค้าง คืออะไร ประจําเดือนตกค้าง คือ เลือดเก่าที่ตกค้างในมดลูก มีลักษณะเป็นก้อนเลือดสีดำหรือน้ำตาลเข้มคล้ายกากกาแฟ ที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ระหว่างเลือดประจำเดือนกับอากาศ ทำให้เลือดมีสีคล้ำขึ้น ประจําเดือนตกค้าง กี่วัน โดยทั่วไป ร่างกายมักจะขับประจำเดือนตกค้างออกมาภายใน 1-2 วัน หลังหมดประจำเดือนหรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล ประจําเดือนตกค้างอันตรายหรือไม่ ประจําเดือนตกค้างเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและมักจะไม่ส่งผลอันตรายใด ๆ แต่ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เนื้องอกมดลูก การแท้งบุตร ดังนั้น จึงควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและตรวจสุขภาพช่องคลอดอย่างละเอียด ประจำเดือนตกค้างที่ควรพบคุณหมอคืออะไร อาการประจำเดือนผิดปกติที่ควรพบคุณหมอ มีดังนี้ สีประจำเดือนผิดปกติ เช่น สีแดงปนดำ สีน้ำตาล สีชมพู สีส้ม สีเทา รวมถึงประจำเดือนมามากกว่าปกติจนจำเป็นต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง รอบเดือนสั้นกว่า 21 วัน […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน