การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะสำคัญที่ช่วยปกป้องเราจากฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมอันตรายต่าง ๆ ภายนอก การดูแลและทำความสะอาดผิว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรละเลย มาเรียนรู้เทคนิคเกี่ยวกับ การดูแลและทำความสะอาดผิว พร้อมกันกับ Hello คุณหมอ สิคะ

เรื่องเด่นประจำหมวด

การดูแลและทำความสะอาดผิว

รูขุมขนกว้าง รักษา อย่างไร สาเหตุของรูขุมขนกว้าง

ปัญหาผิวหน้าที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะคนผิวมัน คือ รูขุมขนกว้าง สาเหตุเกิดจากอะไร รูขุมขนกว้าง รักษา อย่างไรให้ได้ผล [embed-health-tool-bmi] รูขุมขนกว้างเกิดจากอะไร รูขุมขนกว้างเกิดจาก การทำงานของต่อมไขมันที่ผลิตไขมันมากเกินไป เมื่อต่อมผลิตไขมันใต้ผิวหนังเกิดการขยายใหญ่ขึ้น ก็จะส่งผลให้น้ำมันออกมามากขึ้น นอกจากรูขุมขนกว้างแล้ว จึงมีปัญหาหน้ามันร่วมด้วย โดยน้ำมันที่อุดตันรูขุมขนยิ่งทำให้เห็นรูขุมขนกว้างชัดขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างอาจมาจากกรรมพันธุ์ ประวัติของคนในครอบครัวผิวมัน เป็นสิว ถ่ายทอดมาทางยีน รูขุมขนกว้างยังอาจเกิดได้จากโครงสร้างของการเกิดเส้นขนใต้ผิวหนังมีปัญหา ทำให้รูขุมขนกว้าง โดยจะสังเกตปัญหารูขุมขนกว้างได้อย่างชัดเจนบริเวณใบหน้า ได้แก่ บริเวณ T-zone จมูก หน้าแก้ม หว่างคิ้ว บริเวณหน้าผาก เหนือปาก  สิ่งสำคัญที่ทำให้รูขุมขนกว้าง อาจเกิดได้จากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะระดับฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจน ที่ไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของต่อมไขมัน ซึ่งจะมีระดับสูงขึ้นในช่วงวัยรุ่น ฮอร์โมนตัวนี้จะกระตุ้นต่อมไขมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อสร้างไขมันมากขึ้นสู่ปากรูขุมขน จะเข้าไปผสมกับแบคทีเรีย รวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จนอุดตันกลายเป็นสิว ปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดรูขุมขนกว้าง อายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวพรรณไม่กระชับ สารสำคัญใต้ผิวค่อย ๆ เสื่อมลง เช่น คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว แสงแดดและอากาศร้อน ทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และส่งผลต่ออีลาสติน  รูขุมขนกว้าง รักษา อย่างไร หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ไปกระตุ้นหรือรบกวนรูขุมขน ได้แก่ ล้างหน้าอย่างเบามือ ไม่ควรถูหน้าอย่างรุนแรง ไม่ควรนวดหน้าหรือขัดหน้าบ่อยเกินไป ควรเลือกใช้การสครับที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า […]

สำรวจ การดูแลและทำความสะอาดผิว

การดูแลและทำความสะอาดผิว

ยาทาแก้คัน ผิวหนังอักเสบ ชนิดต่าง ๆ

ยาทาแก้คัน ผิวหนังอักเสบ เป็นยาใช้เฉพาะที่กับผิวหนังบริเวณที่มีอาการคัน ผื่นแดง และระคายเคืองจากโรคผิวหนังอักเสบ เช่น กลาก โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคสะเก็ดเงิน เพื่อช่วยบรรเทาอาการคัน แบ่งเป็นคอร์ติโคสเตียรอยด์ ยาทากลุ่ม Calcineurin inhibitor และครีมด็อกเซปิน เอชซีแอล (Doxepin HCL Cream) อย่างไรก็ตาม ตัวยาบางชนิดอาจมีฤทธิ์รุนแรง จำเป็นต้องให้คุณหมอสั่งจ่ายยาและใช้ตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด [embed-health-tool-bmi] ยาทาแก้คัน ผิวหนังอักเสบ การรักษาอาการคันผิวหนังที่เกิดจากผิวหนังอักเสบ มีด้วยกันหลายวิธี และวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมก็คือ การใช้ยาทาแก้คัน ผิวหนังอักเสบ ซึ่งเป็นยาใช้เฉพาะที่กับผิวหนังบริเวณที่มีอาการคัน เพื่อลดสาเหตุของอาการคัน บรรเทาอาการให้ดีขึ้น ยาบางชนิดสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่บางชนิดอาจต้องให้คุณหมอสั่งจ่ายเท่านั้น เนื่องจากตัวยาอาจมีฤทธิ์รุนแรงกว่า จึงต้องได้รับการควบคุมเป็นพิเศษ ดังนี้ 1. คอร์ติโคสเตียรอยด์ เป็นยาสเตียรอยด์ชนิดหนึ่งที่ใช้ทาผิวหนังโดยตรง เพื่อลดการอักเสบและการระคายเคือง โดยยาคอร์ติโคสเตียรอยด์มีด้วยกันหลายรูปแบบทั้งชนิดครีม โลชั่น เจล มูส ขี้ผึ้ง แผ่นแปะ และสารละลาย (Solutions) ซึ่งอาจแบ่งความรุนแรงของฤทธิ์ยาออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับอ่อน ปานกลาง รุนแรง และรุนแรงมาก ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ระดับอ่อนมักหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เช่น โคลเบทาโซน […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ยาทาเชื้อรา มีอะไรบ้าง และวิธีป้องกันผิวหนังติดเชื้อรา

เชื้อรา เป็นอีกสาเหตุที่ทำลายสุขภาพผิวจนนำไปสู่การเกิดโรคต่าง ๆ เช่น กลาก เกลื้อน การติดเชื้อราที่เล็บ ทั้งยังส่งผลทำให้เกิดผื่น รอยแดง อาการคัน เป็นแผล ผิวไม่เรียบเนียน การใช้ ยาทาเชื้อรา อาจสามารถช่วยรักษาและฟื้นฟูให้ผิวกลับมาสุขภาพดีได้ อย่างไรก็ตามควรขอคำปรึกษาและรับการตรวจปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากคุณหมอก่อนใช้ยาเสียก่อนเพื่อความปลอดภัย โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา  โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา ที่พบบ่อย มีดังนี้ กลาก เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา Trichophyton Microsporum และ Epidermophyton ซึ่งอาศัยอยู่ในเซลล์ชั้นนอกของผิวหนัง โดยผ่านการสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงจากคน สัตว์ ดิน และสิ่งรอบตัว เช่น ผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอน แปรงหวีผมเมื่อใช้ร่วมกันกับผู้ที่ติดเชื้อ กลากสามารถสังเกตได้จากรอยสะเก็ดที่เป็นวงแหวนบริเวณแขน ขา ลำตัว ก้น บางคนอาจมีรอยกลากสีแดง น้ำตาล ม่วงหรือขาวกระจายทั่วร่างกายและมีอาการคันร่วมด้วย เกลื้อน เกิดจากเชื้อรามาลาสซีเซีย (Malassezia) พบได้บ่อยในบริเวณผิวหนัง เช่น ใบหน้า คอ หน้าอก หลัง เกลื้อนมักปรากฏเป็นจุดเล็ก ๆ มีขนาดตั้งแต่ 1 มิลลิเมตร รอบรูขุมขนหรืออาจรวมตัวกันเป็นปื้นขนาดใหญ่ที่มีสีซีด […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ฉีดวิตามินผิวดีอย่างไรและเสี่ยงหรือไม่

ฉีดวิตามินผิว เป็นวิธีเติมเต็มผิวด้วยวิตามินต่าง ๆ ที่อาจช่วยให้ผิวขาวใส สร้างภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ หรือลดริ้วรอย โดยฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดดำโดยตรงทำให้ดูดซึมได้เร็วและเห็นผลไวยิ่งขึ้น แต่ผลลัพธ์อาจปรากฏอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น นอกจากนี้ การฉีดวิตามินผิวอาจมีผลข้างเคียงทำให้เสี่ยงติดเชื้อที่ผิวหนังหรือทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรงได้ หากต้องการฉีดวิตามินผิวจึงควรอยู่ในการควบคุมของคุณหมอเพื่อความปลอดภัย [embed-health-tool-bmi] ฉีดวิตามินผิว คืออะไร ฉีดวิตามินผิว คือ การฉีดตัวยาที่มีส่วนผสมของวิตามินซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวขาว ลดริ้วรอย ต้านอนุมูลอิสระ สร้างคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย และลดรอยแผลเป็น ทำให้ผิวแข็งแรงและดูสุขภาพดีขึ้น โดยคุณหมออาจพิจารณาฉีดวิตามินผิวมากกว่าหนึ่งชนิด ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและสุขภาพของบุคคลด้วย ข้อดีของการฉีดวิตามินผิวคือการดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังค่อนข้างเร็ว เนื่องจากเป็นการฉีดเข้าเส้นเลือดดำโดยตรง ทำให้อาจเห็นผลไวกว่าการทาหรือการรับประทานวิตามิน แต่โครงสร้างของสีผิวถูกกำหนดจากพันธุกรรม ผลลัพธ์จากกาฉีดวิตามินผิวมักปรากฏอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น ประโยชน์ของการฉีดวิตามินผิว ประโยชน์ของการฉีดวิตามินผิวมีหลายประการ ดังนี้ การฉีดวิตามินผิว เช่น วิตามินซี วิตามินอี หรือกลูตาไธโอน (Glutathione) อาจช่วยป้องกันความเสียหายของระบบประสาท เสริมภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ล้างสารพิษในผิว ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอย และอาจทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น การฉีดวิตามินผิวเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวเร่งด่วนแต่ไม่สามารถรับประทานยาเม็ดได้  หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องการดูดซึม เพราะการฉีดวิตามินผิวจะช่วยให้ดูดซึมเร็วขึ้น วิตามินสำหรับฉีดวิตามินผิว มีอะไรบ้าง การฉีดวิตามินผิวมักแตกต่างกันไปในแต่ละราย ขึ้นอยู่กับประเภทและวัตถุประสงค์ในการฉีด ดังรายละเอียดต่อไปนี้ วิตามินซี วัตถุประสงค์และประโยชน์ ช่วยรักษาภาวะขาดวิตามินซี ช่วยรักษาบาดแผลร้ายแรงจากการบาดเจ็บหรือไฟไหม้ การฉีดวิตามินซีในปริมาณสูงเข้าเส้นเลือดดำร่วมกับยารักษามะเร็ง อาจช่วยรักษาโรคมะเร็งได้ การฉีดวิตามินซีอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพทั่วไปและปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การฉีดวิตามินซีอาจช่วยลดน้ำหนักได้ ข้อควรระวัง […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ตาตุ่มด้าน เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร

ตาตุ่มด้าน เป็นปัญหาผิวหนังที่แข็งและด้าน ซึ่งอาจเกิดจากร่างกายสร้างเซลล์ผิวเพิ่มมากขึ้น เพื่อปกป้องผิวชั้นในจากแรงเสียดสี แรงกดทับ หรือความระคายเคืองที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนอาจส่งผลให้ผิวบริเวณตาตุ่มมีสีเปลี่ยนไป แห้งเป็นขุย แข็งกระด้าง แต่ในบางกรณี อาจมีอาการเจ็บปวดหรือไวต่อการสัมผัสมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ อาจขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ อย่างไรก็ตาม การรักษาและป้องกันที่เหมาะสมอาจช่วยลดปัญหาตาตุ่มด้านได้ [embed-health-tool-heart-rate] คำจำกัดความ ตาตุ่มด้าน คืออะไร ตาตุ่มด้าน คือ ภาวะที่ผิวหนังบริเวณตาตุ่มมีลักษณะหนาและแข็งขึ้น เนื่องจากแรงกดทับ แรงเสียดสี หรือความระคายเคือง มักไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด หรือทำให้ไวต่อการสัมผัสน้อยลง แต่ในบางคน ผิวบริเวณตาตุ่มอาจไวต่อความรู้สึกหรือเจ็บปวดมากขึ้นได้ ทั้งนี้ ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อหาสาเหตุของอาการ จะได้รักษาได้ตรงจุดขึ้น อาการ อาการตาตุ่มด้าน อาการตาตุ่มด้าน อาจมีดังนี้ ผิวหนังบริเวณตาตุ่มแห้งเป็นขุย หยาบกร้าน หนา และแข็งขึ้น อาจไวต่อความรู้สึกมากขึ้นหรือน้อยลง และอาจเจ็บปวดที่ผิวหนัง ผิวหนังบริเวณตาตุ่มอาจเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล สีแดง หรือหมองคล้ำลง อาจมีแผลพุพอง สาเหตุ สาเหตุตาตุ่มด้าน สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดปัญหาตาตุ่มด้าน คือ แรงกดทับ แรงเสียดสี และความระคายเคืองที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ส่งผลให้ร่างกายปกป้องผิวชั้นในด้วยการสร้างผิวหนังให้แข็งและหนาขึ้น เพื่อรองรับแรงเสียดสีที่กระทบผิวหนัง นอกจากผิวหนังแข็งและหน้าขึ้นแล้ว ยังอาจหยาบกร้านมากขึ้นด้วย ซึ่งแรงกดทับ แรงเสียดสี และการระคายเคืองที่ทำให้ตาตุ่มด้าน อาจเกิดจากพฤติกรรมดังต่อไปนี้ การใส่รองเท้าไม่พอดี หลวมหรือคับแน่นเกินไป ไม่ใส่ถุงเท้าป้องกัน จนสร้างอาจแรงกดและแรงเสียดสีบริเวณตาตุ่ม […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

หน้าแห้ง สาเหตุ และวิธีดูแลผิวหน้าแห้งที่เหมาะสม

หน้าแห้ง เป็นปัญหาผิวที่อาจเกิดจากปัจจัยรอบตัว เช่น สภาพอากาศร้อน หรือเย็นเกินไป ความชื้นในอากาศต่ำ ถึงแม้จะเป็นปัญหาที่ไม่ส่งผลรุนแรง แต่ก็อาจทำให้ผิวระคายเคือง จนนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ เพื่อผิวหน้าสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ควรดูแลผิวหน้าด้วยวิธีที่ถูกต้อง หน้าแห้ง มีลักษณะอย่างไร ปกติผิวหน้าจะผลิตน้ำมันที่เรียกว่าซีบัม ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และปกป้องเซลล์จากการติดเชื้อ แต่หากผลิตน้ำมันออกมากไป ก็อาจส่งผลให้เกิดสิว และความมันบนใบหน้าจากน้ำมันส่วนเกิน แต่ในทางกลับกัน หากต่อมไขมันใต้ผิวผลิตน้ำมันไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้ผิวหน้าแห้งได้ โดยสัญญาณของปัญหาผิวหน้าแห้งที่สังเกตได้ เช่น ผิวตึงหลังล้างหน้า รู้สึกว่าผิวหน้าแห้งกร้าน หมองคล้ำ บางครั้งอาจรู้สึกระคายเคือง มีอาการคัน ผิวลอกเป็นขุยและผิวแตกร่วมด้วย สาเหตุของปัญหาหน้าแห้ง สาเหตุของปัญหาหน้าแห้ง มีดังนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารเคมีรุนแรง เช่น สบู่ แชมพู อาจมีสารที่ดึงความชื้นออกจากผิว เพราะส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ขจัดความมัน การล้างหน้านาน หากล้างหน้านานเกินไป โดยเฉพาะเมื่อล้างหน้าด้วยน้ำร้อน อาจทำให้ผิวแห้งได้ สภาพอากาศที่หนาวเย็น เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น อาจทำให้ระดับความชื้นลดลง โรคอื่น ๆ เช่น โรคผิวหนังภูมิแพ้ โรคสะเก็ดเงิน โรคเบาหวาน อาจส่งผลให้ผิวแห้งจากอาการแทรกซ้อนของโรค ปัจจัยเสี่ยงทำให้ผิวแห้ง ปัจจัยเสี่ยงที่อาจยิ่งทำให้ผิวแห้งได้ง่ายขึ้น ได้แก่ อายุที่มากขึ้น […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

สะดือเหม็น สาเหตุและวิธีการดูแล

สะดือเหม็น เป็นภาวะที่พบได้ในคนทุกวัย อาจเกิดจากการติดเชื้อโรค เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเกิดจากการดูแลผิวหนังบริเวณสะดือที่ไม่เหมาะสม ทำให้มีสิ่งสกปรกซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็นสะสมอยู่ การทราบสาเหตุและวิธีดูแลความสะอาดของสะดือที่ถูกต้อง จึงอาจช่วยลดปัญหาสะดือเหม็นได้ [embed-health-tool-bmr] สะดือเหม็น เกิดจากสาเหตุใด สะดือเหม็น อาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้ สุขอนามัยที่ไม่เหมาะสม สะดืออาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคหลายชนิด เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) ที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ การติดเชื้อที่ผิวหนัง ฝี การติดเชื้อในกระแสเลือด เชื้อแบคทีเรียคอรีนแบคเตอเรีย (Corynebacteria) ที่ทำให้เกิดโรคคอตีบ เชื้อโรคเหล่านี้อาจเข้าไปในสะดือเพื่อกินเศษผิวหนังที่ตายแล้ว เมื่อมีเชื้อโรค เหงื่อ สิ่งสกปรก น้ำมันสะสมอยู่ที่ผิวหนังบริเวณสะดือมาก ๆ และทำความสะอาดผิวหนังไม่ถูกวิธี เช่น ไม่เช็ดให้สะดือให้แห้งหลังอาบน้ำ อาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นบริเวณสะดือได้ การติดเชื้อยีสต์แคนดิดา (Candida) ยีสต์แคนดิดาเป็นยีสต์ที่พบได้บนผิวหนัง โดยปกติไม่เป็นอันตราย แต่หากปล่อยให้ผิวหนังอับชื้นเป็นเวลานาน ยีสต์แคนดิดาอาจเพิ่มจำนวนและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ โดยเฉพาะบริเวณปาก ลำคอ ช่องคลอด รักแร้ และสะดือ เมื่อติดเชื้อยีสต์แคนดิดา จะทำให้ผิวหนังมีตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด บวมแดง หากเป็นโรคเบาหวานหรือโรคอ้วน อาจเสี่ยงติดเชื้อนี้ได้มากขึ้น ซีสต์ ซีสต์ คือ ตุ่มหรือก้อนของเหลวใต้ชั้นผิวหนัง ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย ไม่ทำให้เจ็บปวด และอาจหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ข้อศอกด้าน สาเหตุ การดูแลและการป้องกัน

ข้อศอกด้าน เป็นปัญหาผิวบริเวณข้อศอกที่แห้ง หยาบกร้านและดำ อาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต สภาพแวดล้อม สภาพอากาศ หรือโรคบางชนิด ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบริเวณข้อศอก ดังนั้นจึงควรรู้วิธีดูแลและป้องกันเพื่อลดปัญหาที่อาจสร้างความระคายเคือง และความเจ็บปวดให้กับผิว [embed-health-tool-heart-rate] สาเหตุของข้อศอกด้าน ข้อศอกด้าน อาจเกิดจากหลายสาเหตุที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้ผิวสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) เพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้ผิวมีสีเข้มขึ้น นอกจากนี้การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น และการลดลงของเหงื่อและต่อมไขมันตามอายุที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้ผิวบริเวณข้อศอกเกิดความด้านและหมองคล้ำ สาเหตุที่อาจส่งผลทำให้ข้อศอกด้าน แห้ง และดำ มีดังนี้ การอาบน้ำนานหรือว่ายน้ำบ่อย คลอรีนในน้ำอาจทำให้ผิวแห้ง ส่วนการอาบน้ำร้อนก็อาจทำให้ผิวแห้งได้เนื่องจากน้ำร้อนจะดึงเอาความชุ่มชื้นในผิวออกมาส่งผลให้ผิวแห้ง สภาพอากาศ สภาพอากาศที่แห้ง หนาวเย็น ส่งผลทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ภาวะขาดน้ำ การดื่มน้ำไม่เพียงพอ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก หรือมีเหงื่อออกมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำที่ส่งผลทำให้ผิวแห้ง การสูบบุหรี่ สารเคมีในควันบุหรี่อาจลดปริมาณออกซิเจนในผิว เร่งการเสื่อมสภาพของผิวทำให้ผิวแห้งและหยาบกร้าน การเสียดสีที่ผิวหนัง การเสียดสีที่มากเกินไปจากการใส่เสื้อผ้าที่คับแน่น หรือการเท้าข้อศอกบนพื้นแข็ง อาจส่งผลทำให้ข้อศอกแห้งและระคายเคือง และทำให้ข้อศอกด้านได้ แผลต่าง ๆ ข้อศอกด้านอาจเกิดจากแผลเป็นที่เกิดจาก แผลไฟไหม้ แมลงกัดต่อย หรืออื่น ๆ ที่รักษาไม่หาย สีผิวเข้ม ผู้ที่มีสีผิวปานกลางหรือเข้มมีแนวโน้มที่ข้อศอกจะด้านมากกว่าคนผิวขาว แสงแดด การเผชิญกับแสงแดดมากเกินไป การสะสมของผิวหนังที่ตายแล้ว หรือจุดด่างดำ กระ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อผิวเสื่อมสภาพตามอายุ อาจทำให้ข้อศอกคล้ำและด้านได้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การผันผวนของฮอร์โมน เช่น ช่วงขณะตั้งครรภ์ ช่วงวัยหมดประจำเดือน อาจส่งผลให้ผิวมีการเปลี่ยนแปลง […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

หน้าดำ สาเหตุและการดูแล

หน้าดำ เป็นปัญหาผิวที่อาจเกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีผิว หรืออาจเกิดจากสภาพแวดล้อมที่ส่งผลทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ การดูแลผิวหน้าให้สะอาด สดใส จึงอาจเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้สุขภาพผิวดีขึ้น และอาจลดปัญหาผิวหมองคล้ำบนใบหน้า สาเหตุที่ทำให้หน้าดำ หน้าดำหรือหน้าหมองคล้ำ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัจจัยทางด้านสภาพแวดล้อม ที่สามารถส่งผลกระทบต่อผิวโดยตรง และทำให้ผิวหมองคล้ำลงได้ นอกจากนี้ ยังอาจมีสาเหตุอื่น ๆ ดังนี้ แสงแดด แสงแดดยามเช้าอาจเป็นตัวกระตุ้นการสังเคราะห์วิตามินดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่แสงอัลตราไวเลต (UV) จากดวงอาทิตย์ก็อาจสร้างอันตรายให้กับผิวหนังได้ ร่างกายจึงผลิตเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ขึ้นเพื่อช่วยปกป้องผิวจากอันตรายของแสงอาทิตย์ เมื่อมีเม็ดสีเมลานินบนผิวหนังมากขึ้นจึงทำให้ผิวหน้าดำ ดูหมองคล้ำลง ดื่มน้ำไม่เพียงพอ การดื่มน้ำส่งผลต่อสุขภาพผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง มีสุขภาพที่ดี และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว แต่ถ้าหากดื่มน้ำไม่เพียงพออาจส่งผลทำให้ผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ ผิวหน้าดำ ไม่สดใสได้ การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบต่อผิวหนังอย่างมาก เช่น ทำให้ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ผิวหน้าดำ เนื่องจากควันบุรี่อาจเข้าทำลายออกซิเจนในผิวและทำให้ผิวลดการผลิตคอลลาเจน ส่งผลต่อเนื้อเยื่อและความยืดหยุ่นของผิวหนัง ทำให้ผิวดูแก่กว่าวัย อายุ อายุที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลทำให้ผิวเสื่อมสภาพลง ผิวหนังขาดความกระชับ หย่อนคล้อย มีริ้วรอย รวมทั้งผิวหน้าดำ หมองคล้ำลงด้วย การผลัดเซลล์ผิว ผิวหนังจะสร้างเซลล์ผิวใหม่มาแทนที่เซลล์ผิวที่ตายแล้วตามธรรมชาติ แต่ในบางครั้งเมื่อกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าเกิดขึ้นช้าอาจส่งผลทำให้ผิวแห้ง ผิวแตกเป็นขุย และหน้าดำ หมองคล้ำได้ ความผิดปกติของเม็ดสีผิว เกิดจากเซลล์ผิวหนังผลิตเมลานินเสียหายหรือไม่แข็งแรง จนอาจส่งผลให้ผลิตเมลานินมากหรือน้อยเกินไป ซึ่งหากร่างกายผลิตเมลานินมากขึ้นจะทำให้สีผิวเข้มขึ้น  หน้าดำ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

รักแร้ดำ แก้ได้ ด้วยวิธีรักษาผิวหมองคล้ำใต้วงแขน

รักแร้ดำ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจเกิดจากโรคผิวหนังบางชนิด หรืออาจเกิดจากวิธีการกำจัดขน และการดูแลผิวใต้วงแขนที่ผิดวิธี ดังนั้นการรู้วิธีรักษา และการป้องกันรักแร้ดำ อาจช่วยให้ผิวใต้วงแขนกลับมากระจ่างใสได้อีกครั้ง สาเหตุของ รักแร้ดำ รักแร้ดำ เป็นอาการที่อาจเกิดจากโรคผิวหนังช้าง (Acanthosis nigricans) เป็นโรคผิวหนังที่มักเกิดขึ้นในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคอ้วน นอกจากนี้ ผิวหมองคล้ำใต้วงแขน อาจเกิดขึ้นจาก เซลล์เม็ดสีขยายตัวเร็วกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากวิธีการกำจัดขนบ่อยครั้ง เช่น การโกนขนรักแร้ อาจเพิ่มการผลิตเซลล์เม็ดสีมากเกินไป ปัจจัยเหล่านี้อาจเพิ่มโอกาสการเกิดโรคผิวหนังช้าง ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการรักแร้ดำ ได้แก่ ภาวะดื้อต่ออินซูลิน คือ ภาวะที่ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินน้อยลง ซึ่งสามารถนำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคอ้วน จากการวิจัยพบว่าผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักตัวมากกว่ามาตรฐาน มักมีโอกาสเป็น โรคผิวหนังช้าง และมี ผิวหมองคล้ำใต้วงแขน รวมถึงส่วนอื่น ๆ ด้วย ความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น ผู้มีปัญหาไทรอยด์ โรคถุงน้ำหลายใบ (Polycystic Ovary Syndrome หรือ PCOS) หรือความผิดปกติของฮอร์โมนอื่น ๆ พันธุกรรม หากคนในครอบครัวเป็น โรคผิวหนังช้าง […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

การดูแลมือ ชะลอความเหี่ยวย่น ที่ควรรู้

ผิวบริเวณมือที่เหี่ยวย่นอาจเป็นปัญหากวนใจของหลาย ๆ คน การดูแลมือ จึงอาจเป็นอีกหนึ่งที่วิธีจะช่วยชะลอความเหี่ยวย่น หรือปัญหาผิวอื่น ๆ ได้ วันนี้เราทำความรู้จักกับวิธี การดูแลมือ ให้ดูสุขภาพดีแล่ะอ่อนกว่าวัย เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับทุกคนกันค่ะ สาเหตุของมือเหี่ยวย่นก่อนวัย เมื่อคุณอายุมากขึ้นผิวจะเริ่มสูญเสียไขมันและความยืดหยุ่น ส่งผลให้ในบางคนผิวมีความเหี่ยวย่น ผิวบาง ผิวแห้งเป็นขุย เล็บเปราะ ผิวหมองคล้ำ และมีจุดสีเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ผิวบริเวณอื่น ๆ อย่างผิวบนใบหน้า และผิวกาย มักได้รับการดูแลเป็นประจำทุกวัน จึงอาจไม่ใช่ปัญหาที่สร้างความกังวลเท่าไรนัก เว้นแต่ผิวบริเวณมือที่อาจมีความหยาบกระด้าง เหี่ยวย่น เพราะมีการสัมผัสกับแสงแดดและสารเคมีอื่น ๆ อยู่เป็นประจำ หรืออาจเกิดจากการได้รับสารเคมีจากการทำงานบ้าน การล้างมือบ่อยครั้งจนไปขจัดน้ำมันตามธรรมชาติบนผิวหนังส่งผลทำให้มือของคุณแห้งกร้านและแตกได้ วิธี การดูแลมือ ด้วยตัวเอง ผิวทุกส่วนบนร่างกายมีความสำคัญ การดูแลผิวอย่างถูกวิธีอาจสามารถช่วยชะลอผิวแก่ก่อนวัยได้ มาดูกันว่ามีวิธี การดูแลมือ อย่างไรบ้าง ให้ความชุ่มชื้น พยายามให้ความชุ่มชื้นกับมือของคุณบ่อยครั้ง อย่าปล่อยให้มือแห้ง โดยใช้โลชั่นทาบนมือทุกครั้งหลังล้างมือ หรือระหว่างวันเมื่อรู้สึกว่ามือของคุณเริ่มแห้ง เพื่อให้ผิวบริเวณมือมีความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ปกป้องผิวและเล็บ เมื่อต้องทำงานบ้านหรือต้องใช้มือสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ ควรสวมถุงมือทุกครั้ง เพื่อป้องกันสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อมือของคุณ และอาจทำให้ผิวแห้งกร้านได้ อีกทั้งควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างมือที่มีค่า pH อ่อน ๆ เพื่อคงความชุ่มชื้นให้กับผิวของคุณไว้ ขัดผิว ทุกครั้งที่ขัดผิวตามร่างกายอย่าลืมที่จะขัดผิวบริเวณมือด้วย คุณอาจใช้ใยบวบ ผลิตภัณฑ์ขัดผิว หรือใช้วิธีธรรมชาติด้วยการผสมน้ำตาล มะนาว […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน