การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะสำคัญที่ช่วยปกป้องเราจากฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมอันตรายต่าง ๆ ภายนอก การดูแลและทำความสะอาดผิว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรละเลย มาเรียนรู้เทคนิคเกี่ยวกับ การดูแลและทำความสะอาดผิว พร้อมกันกับ Hello คุณหมอ สิคะ

เรื่องเด่นประจำหมวด

การดูแลและทำความสะอาดผิว

รูขุมขนกว้าง รักษา อย่างไร สาเหตุของรูขุมขนกว้าง

ปัญหาผิวหน้าที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะคนผิวมัน คือ รูขุมขนกว้าง สาเหตุเกิดจากอะไร รูขุมขนกว้าง รักษา อย่างไรให้ได้ผล [embed-health-tool-bmi] รูขุมขนกว้างเกิดจากอะไร รูขุมขนกว้างเกิดจาก การทำงานของต่อมไขมันที่ผลิตไขมันมากเกินไป เมื่อต่อมผลิตไขมันใต้ผิวหนังเกิดการขยายใหญ่ขึ้น ก็จะส่งผลให้น้ำมันออกมามากขึ้น นอกจากรูขุมขนกว้างแล้ว จึงมีปัญหาหน้ามันร่วมด้วย โดยน้ำมันที่อุดตันรูขุมขนยิ่งทำให้เห็นรูขุมขนกว้างชัดขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างอาจมาจากกรรมพันธุ์ ประวัติของคนในครอบครัวผิวมัน เป็นสิว ถ่ายทอดมาทางยีน รูขุมขนกว้างยังอาจเกิดได้จากโครงสร้างของการเกิดเส้นขนใต้ผิวหนังมีปัญหา ทำให้รูขุมขนกว้าง โดยจะสังเกตปัญหารูขุมขนกว้างได้อย่างชัดเจนบริเวณใบหน้า ได้แก่ บริเวณ T-zone จมูก หน้าแก้ม หว่างคิ้ว บริเวณหน้าผาก เหนือปาก  สิ่งสำคัญที่ทำให้รูขุมขนกว้าง อาจเกิดได้จากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะระดับฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจน ที่ไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของต่อมไขมัน ซึ่งจะมีระดับสูงขึ้นในช่วงวัยรุ่น ฮอร์โมนตัวนี้จะกระตุ้นต่อมไขมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อสร้างไขมันมากขึ้นสู่ปากรูขุมขน จะเข้าไปผสมกับแบคทีเรีย รวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จนอุดตันกลายเป็นสิว ปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดรูขุมขนกว้าง อายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวพรรณไม่กระชับ สารสำคัญใต้ผิวค่อย ๆ เสื่อมลง เช่น คอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว แสงแดดและอากาศร้อน ทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และส่งผลต่ออีลาสติน  รูขุมขนกว้าง รักษา อย่างไร หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ไปกระตุ้นหรือรบกวนรูขุมขน ได้แก่ ล้างหน้าอย่างเบามือ ไม่ควรถูหน้าอย่างรุนแรง ไม่ควรนวดหน้าหรือขัดหน้าบ่อยเกินไป ควรเลือกใช้การสครับที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า […]

สำรวจ การดูแลและทำความสะอาดผิว

การดูแลและทำความสะอาดผิว

ห้อเลือด ส่งผลต่อสุขภาพผิวอย่างไร

ห้อเลือด เกิดจากการสะสมของเลือดภายนอกหลอดเลือด โดยมีสาเหตุมาจากการที่ผนังหลอดเลือดหรือหลอดเลือดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ รวมถึงเส้นเลือดฝอย ได้รับความเสียหายจากการกระแทกหรืออุบัติเหตุ เช่น หกล้ม รถชน การผ่าตัด ส่งผลให้เลือดออกบริเวณเนื้อเยื่อรอบ ๆ ทำให้ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน สีดำ สีแดง เกิดการอักเสบ บวมแดง และเจ็บปวด นอกจากนี้ ห้อเลือดยังอาจบ่งบอกถึงภาวะที่ร้ายแรง เช่น เลือดคั่งในสมอง เลือดออกในช่องท้อง เลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง ซึ่งอาจส่งผลให้ช็อกหรือเสียชีวิตได้ [embed-health-tool-bmr] ห้อเลือด คืออะไร ห้อเลือด คือ อาการเลือดออกภายนอกหลอดเลือด เนื่องจากผนังหลอดเลือดหรือหลอดเลือดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ รวมถึงเส้นเลือดฝอยได้รับความเสียหาย ส่งผลให้เลือดออกบริเวณเนื้อเยื่อรอบ ๆ โดยเลือดที่ไหลออกมาจะจับตัวกัน ทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้อบริเวณใต้ผิวหนัง มีลักษณะแน่นและนุ่ม ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของอวัยวะทั้งภายในและภายนอกที่ได้รับการบาดเจ็บ เช่น ใต้ผิวหนัง บนศีรษะ จมูก หู ใต้เล็บ หากเม็ดเลือดก่อตัวใกล้ผิวหนังอาการห้อเลือดจะปรากฏเป็นก้อนสีแดง สีดำหรือสีน้ำเงินร่วมกับอาการเจ็บปวด เมื่อเวลาผ่านไปผิวหนังจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง น้ำตาลและกลับเป็นปกติ ห้อเลือดอาจมีความแตกต่างจากรอยฟกช้ำ โดยห้อเลือดจะเกิดจากเลือดรั่วไหลออกจากหลอดเลือดและเกิดลึกเข้าไปในร่างกายจนอาจมองไม่เห็นความเสียหาย แต่รอยช้ำจะสามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนกว่าและหายได้เองง่ายกว่า […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

รอยแตกลาย สาเหตุและการรักษา

รอยแตกลาย เป็นริ้วรอยบนผิวหนังที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างของคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin) ในผิวหนังอย่างเฉียบพลัน มักเกิดบริเวณหน้าท้อง ต้นขา สะโพก ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การตั้งครรภ์และเกิดรอยแตกลายบริเวณหน้าท้อง กรรมพันธุ์ น้ำหนักตัวที่เพิ่มอย่างรวดเร็วจนผิวหนังไม่สามารถยืดออกได้เพียงพอ แม้รอยแตกลายอาจจางหายได้เองตามกาลเวลาและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็อาจสร้างความกังวลใจ หรือทำให้เสียความมั่นใจได้ คำจำกัดความรอยแตกลาย คืออะไร รอยแตกลาย คือ รอยบนผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อผิวหนังยืดและหดตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ส่งผลให้โครงสร้างของคอลลาเจนและอีลาสติน ที่ช่วยส่งเสริมความยืดหยุ่นและการสมานตัวของผิวเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลัน จึงทำให้เกิดรอยแตกลายบนผิวขึ้น อย่างไรก็ตาม รอยแตกลายอาจไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่ในผู้ที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนผันผวน ในระหว่างตั้งครรภ์หรือมีบุคคลในครอบครัวที่เคยมีรอยแตกลาย อาจเพิ่มโอกาสที่จะมีรอยแตกลายได้สูง อาการอาการของรอยแตกลาย อาการของรอยแตกลายอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เกิดขึ้น สาเหตุ ตำแหน่งและประเภทของผิว ดังนี้ มีลายเส้นยาวบนหน้าท้อง หน้าอก สะโพก ก้น ต้นขา รอยแตกลายอาจเกิดขึ้นเป็นรอยริ้วสีอ่อน รอยแตกลายเป็นริ้วกระจายเป็นวงกว้างบนผิวหนัง รอยแตกลายมีสีแดง ชมพู ม่วง ดำ หรือน้ำเงิน หากรอยแตกลายส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ความมั่นใจ และความสวยงามบนผิวหนัง ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อระบุสาเหตุของรอยแตกลายและหาแนวทางในการรักษา สาเหตุสาเหตุของรอยแตกลาย รอยแตกลายมักมีสาเหตุมาจากการยืดและหดของผิวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้ พันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีประวัติผิวแตกลายอาจมีโอกาสที่คนในครอบครัวจะมีรอยแตกลายด้วยเช่นกัน สุขภาพผิวหรือการยืดและหดของผิวหนังอย่างรวดเร็ว สุขภาพผิวที่อ่อนแอ ขาดความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่น เมื่อผิวขยายตัวอาจส่งผลให้เกิดรอยแตกลายได้ ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียด เป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากต่อมหมวกไต อาจส่งผลให้เส้นใยและความยืดหยุ่นของผิวหนังอ่อนแอลง ปัจจัยเสี่ยงปัจจัยเสี่ยงของรอยแตกลาย ปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดรอยแตกลาย มีดังนี้ การตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในผู้ที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การเจริญเติบโตของร่างกายอย่างรวดเร็วในช่วงวัยแรกรุ่น น้ำหนักที่เพิ่มและลดลงอย่างรวดเร็ว การออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อที่เติบโตอย่างรวดเร็ว การใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) กับผิวหนังเป็นเวลานาน การผ่าตัดเสริมหน้าอก ความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการคุชชิง […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวแข็งแรง เป็นอย่างไร และ 5 เคล็ดลับในการดูแลผิว

ผิวแข็งแรง คือ ผิวที่มีสุขภาพดีไม่ติดเชื้อ ไม่มีอาการคัน แห้ง แตก หรือปัญหาสภาพผิวอื่น ๆ และเป็นผิวที่ไม่แพ้หรือระคายเคืองง่าย การดูแลและปกป้องผิวให้สุขภาพดี ชุ่มชื้นจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ผิวแข็งแรง และสามารถทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น [embed-health-tool-bmr] สิ่งที่ทำลายสุขภาพผิว ให้ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย ผิวทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย รักษาสมดุลของเหลว และเป็นเกราะป้องกันอวัยวะภายใน ซึ่งต้องเผชิญกับการคุกคามจากสภาพแวดล้อมที่ทำร้ายผิวมากมาย โดยปัจจัยที่อาจทำให้ผิวเสียหายและเสื่อมสภาพไวขึ้น ดังนี้ สภาพแวดล้อมที่ชื้นเกินไปหรือแห้งเกินไป ผิวสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไปโดยที่ไม่ได้รับการป้องกัน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสเตียรอยด์ เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือยาแต้มสิวที่ไม่ผ่านการรับรอง การขัดผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดผิวมากเกินไป อุปกรณ์และน้ำยาทำความสะอาดในบ้าน เช่น ผงซักฟอก สบู่ น้ำยาล้างห้องน้ำ สารก่อภูมิแพ้ สารระคายเคืองและมลพิษ เช่น ควันรถ ฝุ่น การสัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรงจากที่ทำงานหรือโรงงานอุตสาหกรรม เช่น สีย้อมผ้า ยาฆ่าแมลง ความเครียดหรือความวิตกกังวล ปัจจัยทางพันธุกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อสภาพผิว เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคสะเก็ดเงิน ผิวไม่แข็งแรง เป็นอย่างไร การหมั่นสังเกตผิวของตนเอง และคอยสังเกตสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพผิวที่ไม่แข็งแรง อาจช่วยให้สามารถปกป้องและดูแลผิวได้เหมาะสมมากขึ้น โดยสัญญาณอาจมีดังนี้ ผิวแห้ง แตก เป็นขุย มีอาการคัน ระคายเคืองง่าย เมื่อมีการเปลี่ยนสภาพแวดล้อม เช่น […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

โลชั่นทาผิว เลือกอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว

แต่ละคนมีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน การใช้ โลชั่นทาผิว ที่เหมาะกับสภาพผิวเป็นประจำทุกวัน จึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ การศึกษาวิธีเลือกและวิธีใช้โลชั่นทาผิวให้เหมาะกับผิวที่สุดอาจช่วยให้แก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ปลอดภัย และไม่เสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้ ส่วนผสมที่ควรมองหาใน โลชั่นทาผิว ส่วนผสมที่อาจช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น บำรุงสุขภาพผิวให้แข็งแรง และลดปัญหาผิวได้ อาจมีดังนี้ กรดอัลฟาไฮดรอกซี หรือเอเอชเอ (Alpha-hydroxy acids หรือ AHAs) มีสารประกอบกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) กรดแล็กทิก (Lactic acid) กรดทาร์ทาริก (Tartaric acid) และกรดซิตริก (Citric acid) ที่อาจช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยกระชับรูขุมขน และช่วยให้ริ้วรอยดูจางลงได้ ทั้งนี้ ควรใช้โลชั่นทาผิวที่มีเอเอชเอความเข้มข้นไม่เกิน 15% โดยอาจเริ่มทาทุก 2-3 วัน เพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือไม่ หากไม่พบอาการแพ้ใด ๆ จึงค่อยปรับไปใช้โลชั่นทาผิวที่มีเอเอชเอทุกวัน กรดโพลีไฮดรอกซี (Polyhydroxy acids หรือ PHAs) มีคุณสมบัติที่คล้ายกรดอัลฟาไฮดรอกซีหรือเอเอชเอ (Alpha-hydroxy acids) อาจช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดอาการแสบหรือระคายผิว […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

เจาะจมูก การดูแลแผล และความเสี่ยงต่อสุขภาพ

เจาะจมูก เป็นการใช้อุปกรณ์เฉพาะเจาะลงบนผิวหนังบริเวณปีกจมูกและใส่เครื่องประดับที่มีลักษณะเป็นห่วง หมุด หรือตุ้มลงไปบนผิวหนัง การเจาะจมูกอาจทำให้มีเลือดออก ผิวหนังบวมและแดง หากอุปกรณ์เจาะไม่ได้คุณภาพหรือรักษาความสะอาดได้ไม่ดีอาจทำให้แผลติดเชื้อ เส้นประสาทเสียหายหรือเกิดแผลเป็นนูนได้ ก่อนเจาะจมูกจึงควรศึกษาถึงวิธีดูแลตนเอง ความเสี่ยงสุขภาพ และข้อมูลเกี่ยวกับร้านเจาะที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพและผิวหนัง [embed-health-tool-bmi] เจาะจมูก คืออะไร เจาะจมูก คือ การใช้อุปกรณ์เฉพาะเจาะลงบนผิวหนังบริเวณจมูกและใส่เครื่องประดับเข้าไปเพื่อเพิ่มความสวยงาม เมื่อแผลบริเวณที่เจาะหายดีบางคนอาจขยายขนาดรูเพื่อสวมใส่เครื่องประดับบางประเภทที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ การขยายขนาดรูควรค่อย ๆ ทำทีละน้อยเพื่อไม่ให้แผลฉีกขาดและเกิดแผลเป็น สำหรับผู้มีปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น โรคเบาหวาน โรคฮีโมฟีเลีย โรคภูมิแพ้ตัวเอง ปัญหาหัวใจ ปัญหาผิวหนังหรือการติดเชื้อที่จมูก ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ควรเจาะจมูกเนื่องจากอาจก่อให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมาได้ เจาะจมูก และความเสี่ยงต่อสุขภาพ การเจาะจมูกอาจเพิ่มความเสียหายให้กับผิวหนังและอาจเพิ่มความเสี่ยงอื่น ๆ ต่อสขภาพ ดังต่อไปนี้ เลือดออก การเจาะเครื่องประดับบนผิวหนังทำให้มีเลือดออกได้ และอาจทำให้ผิวหนังบริเวณจมูกมีอาการห้อเลือด ฟกช้ำ บวม ติดเชื้อหรืออาจลุกลามไปยังผิวหนังรอบ ๆ จนทำให้เกิดความเสียหายบริเวณใบหน้าได้ ปฏิกิริยาแพ้ เครื่องประดับหรืออุปกรณ์เจาะส่วนใหญ่อาจมีส่วนประกอบของนิกเกิลที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ อาจทำให้มีอาการคัน ผิวแดง พุพอง ผิวแห้งและหนา ผิวเปลี่ยนสี จึงควรเลือกวัสดุเครื่องประดับที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ทอง 18 หรือ 24 กะรัต สแตนเลส ไทเทเนียม […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

เลเซอร์ สำหรับผิวหนัง ประโยชน์และความเสี่ยง

เลเซอร์ เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีประโยชน์ต่อการรักษาปัญหาผิวหนัง เช่น จุดด่างดำ แผลเป็น ไฝ ริ้วรอย รอยสัก ทั้งยังช่วยปรับผิวให้สม่ำเสมอ เรียบเนียนและกระชับมากขึ้น ใช้เวลาในการรักษาน้อย แผลหายเร็วกว่าการรักษาแบบผ่าตัด ลดความเจ็บปวดและอาจลดโอกาสเกิดแผลเป็น เลเซอร์ผิวหนัง คืออะไร เลเซอร์ผิวหนัง คือ การใช้ลำแสงสั้น ๆ และเข้มข้นส่องไปที่ผิวหนังที่มีปัญหา ปัจจุบันมีการใช้เลเซอร์เพื่อลดปัญหาริ้วรอยหรือรอยแผลเป็น ลดการสร้างเม็ดสีในผิวใหม่ทำให้ผิวดูสม่ำเสมอขึ้น นอกจากนี้ การเลเซอร์ยังช่วยกระชับผิวและขจัดรอยโรค เช่น มะเร็ง เนื้องอกที่ไม่เป็นมะเร็ง โดยกลไกการรักษาด้วยเลเซอร์มีหลากหลาย เช่น ลำแสงจากเลเซอร์ที่ขจัดผิวออกทีละชั้นตั้งแต่ผิวชั้นนอก หนังกำพร้าไปจนถึงชั้นหนังแท้ พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ส่งผลให้ผิวใหม่เรียบเนียนและกระชับขึ้น ประเภทของการทำเลเซอร์ เลเซอร์ มีหลายประเภทซึ่งแต่ละประเภทมีความเหมาะสมต่อการรักษาและปรับปรุงสุขภาพผิวที่แตกต่างกัน ดังนี้ เลเซอร์ชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Laser) เป็นเลเซอร์ลอกผิวที่ใช้รักษารอยแผลเป็น หูด ริ้วรอย และจุดบกพร่องอื่น ๆ ของผิวหนังที่อยู่ลึกลงไป เลเซอร์เออร์เบียม (Erbium YAG Laser) ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่ นิยมในการรักษาริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของผิวหนัง และจุดด่างดำที่เกิดจากอายุ เลเซอร์เพาซ์ดายด์ (Pulsed-Dye Lasers หรือ PDL) เป็นเลเซอร์ที่ดูดซับเม็ดสีเพื่อลดรอยแดง […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

โลชั่น วิธีเลือกและเคล็ดลับการใช้

โลชั่น มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและบำรุงผิวให้มีสุขภาพดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยกักเก็บและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว นอกจากนี้ ยังอาจช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใสและอ่อนนุ่ม ซึ่งการเลือกโลชั่นให้เหมาะกับสภาพผิวและใช้ให้ถูกวิธีอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวให้ดีมากขึ้น แนวทางการเลือกโลชั่นให้เหมาะกับผิว การเลือกโลชั่นให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนอาจช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น ดังนี้ ผิวมันหรือเป็นสิวง่าย หากมีแนวโน้มเป็นสิวง่ายอาจเลือกโลชั่นที่ไม่ก่อให้เกิดสิว (Non-comedogenic) และไม่อุดตันรูขุมขน เช่น มีส่วนผสมของกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids หรือ AHA) ผิวแห้ง อาจเลือกโลชั่นที่เข้มข้น โดยอาจมีส่วนประกอบดังต่อไปนี้ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) และไดเมทิโคน (Dimethicone) ซึ่งช่วยให้ผิวชุ่มชื้น กลีเซอรีน (Glycerin) โพรพิลีนไกลคอล (Propylene Glycol) โปรตีน (Proteins) และยูเรีย (Urea) ช่วยเติมเต็มน้ำเข้าสู่ผิว ลาโนลิน (Lanolin) มิเนอรัล ออยล์ (Mineral Oil) และน้ำมันปิโตรเลียม ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ผิวแพ้ง่าย อาจเลือกโลชั่นที่ปราศจากสารก่อภูมิแพ้และปราศจากน้ำหอม โดยควรเลือกโลชั่นหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีน้อยกว่า 10 ส่วนผสมในขวดเดียว อาจประกอบด้วยเซราไมด์ (Ceramide) บิซาโบลอล (Bisabolol) เลซิติน […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

วิธีแก้ขาแตกลาย ทำได้อย่างไรบ้าง

ขาลาย หรือขาแตกลาย เป็นหนึ่งในปัญหาทางผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ตั้งครรภ์ ลดน้ำหนักกะทันหันจนเกิดเนื้อส่วนเกิน และมีรอยแตกลายเนื่องจากผิวหนังขยายตัวมาก ๆ ขาแตกลายอาจไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่อาจส่งผลทำให้วิตกกังวล ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น หรือชุดว่ายน้ำ ซึ่งรอยแตกที่ขามักจางลงแต่ไม่หายสนิท หากรักษาด้วย วิธีแก้ขาลาย หรือขาแตกลายเองแล้ว รอยยังไม่บรรเทาลง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อรักษาตามขั้นตอน   สาเหตุการเกิดขาแตกลาย  ขาลายหรือขาแตกลายอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้  ลดน้ำหนัก หรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป อาจทำให้ผิวหนังยืด หรือหดไม่ทัน อาจส่งผลให้เกิดขาแตกลาย หรือเกิดผิวเปลือกส้มได้ เพาะกาย อาจทำให้กล้ามเนื้อนูนขึ้น และทำให้เกิดขาแตกลาย การตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้หญิงที่ตั้งครรภ์อาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังยืดไม่ทัน และอาจทำให้ขาแตกลายได้  การใช้สเตียรอยด์ ยาสเตียรอยด์อาจทำให้การผลิตคอลลาเจนผิวหนังลดลง และสูญเสียความชุ่มชื้น ส่งผลให้ขาแตกลายได้  ปัญหาทางด้านสุขภาพ เช่น คุชชิ่งซินโดรม (Cushing’s Syndrome) เกิดจากร่างกายมีฮอร์โมนคอลติซอล (Cortisol) มากเกินไป อาจทำให้เกิดการกินจุ กินบ่อย และส่งผลทำให้เกิดภาวะอ้วน ผิวหนังและกล้ามเนื้อยืด จนขาแตกลาย วิธีแก้ขาลาย หรือขาแตกลาย ขาลายหรือขาแตกลายอาจรักษาได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้  หลีกเลี่ยงการเพิ่มน้ำหนักเร็วเกินไป เนื่องจากอาจทำให้ผิวหนังยืดไม่ทัน […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ลบรอยสัก ทำได้อย่างไร มีอันตรายอะไรบ้าง

ลบรอยสัก เป็นขั้นตอนลบรอยสักที่ไม่ต้องการบนผิวหนัง อาจแบ่งเป็นหลายเทคนิค ได้แก่ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ การผ่าตัดเอาออก และการขัดผิวหนัง ซึ่งแต่ละวิธีก็อาจมีข้อจำกัดและขั้นตอนการรักษาที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ การลบรอยสักอาจทำให้เกิดความเสี่ยงเกิดรอยแผลเป็น เจ็บปวด คัน รอยดำ และอาจไม่สามารถลบออกได้ทั้งหมดหรือเสี่ยงเป็นมะเร็งได้ ดังนั้น ก่อนทำการสักหรือลบรอยสักจึงควรศึกษาข้อดีและข้อเสีย พร้อมทั้งปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น [embed-health-tool-bmi] ประเภทของการลบรอยสัก การลบรอยสักอาจมีหลายวิธีการ ได้แก่ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ Q-switched เป็นที่นิยม สามารถใช้รักษารอยแผลเป็น ฝ้า กระ ปานได้ ไม่มีผลข้างเคียงระยะยาว โดยเลเซอร์ Q-switched เป็นการปล่อยพลังงานแสงเพื่อทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัว หลังจากนั้นเม็ดเลือดขาวจะดูดซึมหรือย่อยสลายเม็ดสีที่ผิดปกติ แล้วจะถูกกำจัดโดยการขับเป็นของเสียออกจากร่างกาย หลังจากยิงเลเซอร์บริเวณที่ต้องการลบรอยสัก ผิวบริเวณนั้นจะมีสีเข้มขึ้น และเมื่อร่างกายกำจัดเม็ดสีออกไปหมดแล้ว ผิวจะเริ่มตกสะเก็ดและหลุดออกไป จากนั้นผิวจะค่อย ๆ กระจ่างใสขึ้นและกลับมาเป็นปกติ ก่อนทำเลเซอร์คุณหมอจะฉีดยาชา จากนั้นจะเริ่มกระบวนการยิงเลเซอร์ ซึ่งรอยสักแต่ละแบบอาจต้องใช้พลังงานและความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน หลังจากการลบรอยสักด้วยเลเซอร์อาจทำให้มีอาการบวม แสบร้อน หรือมีเลือดออกเล็กน้อย คุณหมออาจสั่งจ่ายยาต้านเชื้อแบคทีเรียเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ โดยการลบรอยสักด้วยวิธีนี้อาจจำเป็นต้องทำเลเซอร์หลายครั้งและอาจไม่สามารถลบรอยสักออกได้ทั้งหมด การผ่าตัด ก่อนเริ่มผ่าตัด คุณหมอจะฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการรักษา จากนั้นคุณหมอจะตัดส่วนที่เป็นรอยสักออกแล้วเย็บขอบของผิวหนังเข้าด้วยกัน หลังจากการผ่าตัด คุณหมออาจสั่งจ่ายยาต้านเชื้อแบคทีเรียเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่ทั้งนี้ การผ่าตัดลบรอยสักช่วยลบรอยสักบนผิวหนังได้จริง แต่อาจทิ้งรอยแผลเป็นและสามารถทำได้เฉพาะรอยสักขนาดเล็กเท่านั้น การขัดผิวหนัง (Dermabrasion) ก่อนเริ่มขั้นตอน คุณหมอจะฉีดบริเวณที่รักษาด้วยยาชา จากนั้นจะเริ่มขัดบริเวณรอยสักให้ลึกลงไปใต้ผิวหนังด้วยอุปกรณ์เฉพาะที่มีล้อหรือแปรงขัด วิธีนี้จะทำให้หมึกสักซึมออกจากผิวหนัง […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ขาหนีบดำ สาเหตุและการรักษา

ขาหนีบดำ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยอาจมีสาเหตุจากพฤติกรรมการเสียดสีของผิวหนังภายนอก ฮอร์โมน การใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด ซึ่งขาหนีบดำสามารถรักษาได้ด้วยตนเอง แต่อาจต้องใช้เวลา เช่น การใช้สครับน้ำตาล เจลว่านหางจระเข้ หรือสามารถรักษาได้ด้วยยาที่ควรได้รับคำแนะนำจากคุณหมอก่อนใช้เสมอ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ [embed-health-tool-bmi] สาเหตุของขาหนีบดํา ขาหนีบดำ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ ความผิดปกติของฮอร์โมน มักเกิดในผู้ที่มีความผิดปกติ เช่น ถุงน้ำในรังไข่ ไทรอยด์ทำงานน้อย หรือมีปัญหากับต่อมหมวกไต ยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น ไนอาซินขนาดสูง (High-dose niacin) ยาคุมกำเนิด เพรดนิโซน (Prednisone) และคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) มะเร็ง ขาหนีบดำอาจเกิดในผู้ที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือเมื่อเนื้องอกมะเร็งเริ่มเติบโตในอวัยวะภายใน เช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ หรือตับ การเสียดสี อาจเกิดขึ้นจากการเสียดสีของผิวหนังบริเวณขาหนีบ หรือเสียดสีกับเสื้อผ้า ทำให้ผิวหนังบาง คัน และเปลี่ยนสีได้ โรคบางชนิด เช่น โรคผิวหนังช้าง โรคเบาหวาน ผิวแห้ง ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดปัญหาขาหนีบดำ มีดังนี้ โรคอ้วน ยิ่งมีน้ำหนักตัวมากจะยิ่งเพิ่มแรงเสียดสีของผิวหนังบริเวณขาหนีบทำให้ขาหนีบดำได้ ประวัติครอบครัว สีผิวอาจขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ รวมถึงโรคหนังช้างที่ทำให้ผิวหนังเป็นสีดำเช่นกัน การเสียดสี […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน