สุขภาพผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะภายนอกที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในร่างกาย ผิวหนังนั้นมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้งเป็นเกราะป้องกันจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือช่วยควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับการมี สุขภาพผิว ที่ดี และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย เพื่อการปกป้องดูแลผิวของคุณให้ดียิ่งขึ้น ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพผิว

รักษาสิวอย่างตรงจุด ด้วยนวัตกรรมเรตินอยเจนใหม่

“สิว” ไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด ยิ่งคนที่เคยเผชิญปัญหานี้ บอกเลยมีทั้งความกังวลใจ และความไม่มั่นใจ ถึงแม้สิวจะหายไป แต่ก็ยังคงส่งผลกระทบตามมา ทั้งรอยแผลเป็นจากสิว หลุมสิว รอยดำ รอยแดง และสำหรับคนที่เคยมีปัญหาสิว โดยเฉพาะในวัยรุ่น สิ่งที่ตามมาไม่ใช่แค่ปัญหาทางผิวหนังเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจ หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ กังวลทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับคนอื่น รู้สึกเหมือนถูกจับจ้อง หรือบางครั้งถึงกับหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ กัดกร่อนความมั่นใจในตัวเอง และทำให้หลายคนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น การปล่อยปละละเลยไม่รีบรักษาสิวตั้งแต่เนิ่นๆ อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิวที่เกิดจากหลุมสิว ยกตัวอย่างเช่น สิวที่หลัง ซึ่งมักถูกมองข้าม ทำให้ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม การรักษารอยแผลเป็นจากสิวเหล่านี้เป็นไปได้ยาก และในปัจจุบันก็สามารถดูแลได้เพียงทำให้หลุมสิวดีขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีจึงควรเริ่มรักษาสิวด้วยวิธีที่ถูกต้อง และเร็วที่สุด เพื่อลดความรุนแรงและรอยโรคที่จะเกิดขึ้นตามมา แน่นอนว่าปัญหาสิวไม่สามารถหายไปได้ง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นยังเกิดขึ้นในหลายส่วนของร่างกาย 64.6-89.3% ของคนที่เป็นสิวในระดับปานกลางมักจะต้องเจอกับสิวที่ใบหน้าและสิวที่หลัง จากการสำรวจพบว่ามีคนไทยที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 12-25 ปี มากถึง 85% ที่ต้องเผชิญกับปัญหาสิว ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 50% ที่เป็นสิวทั้งที่หน้าและสิวที่หลัง การรักษาสิวอย่างตรงจุด จึงจำเป็นที่จะต้องครอบคลุมทั้ง 2 บริเวณ และจะต้องช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความมั่นใจในระยะยาวอีกด้วย วิธีรักษาสิวมีได้หลากหลายรูปแบบ โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ยารักษาสิว ซึ่งสามารถทำได้เองทุกวัน ยาในกลุ่มเรตินอยจัดเป็นยารักษาสิวประสิทธิภาพดี ช่วยลดการอักเสบทั้งสิวเก่า และป้องกันสิวใหม่ไม่ให้เกิดขึ้น ทำให้ยาทาในกลุ่มเรตินอยได้ถูกระบุให้เป็นทางเลือกแรกในการรักษาสิวโดยสถาบันโรคผิวหนังแห่งอเมริกา […]

หมวดหมู่ สุขภาพผิว เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพผิว

สิว

สิวที่คอ เกิดจากอะไร รักษาและป้องกันได้อย่างไร

สิวเป็นปัญหาทางด้านผิวหนัง อาจเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน แบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว โดยสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกายไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า หลัง ไหล่ หน้าอก รวมไปถึงสิวที่คอ ซึ่งสามารถเกิดได้ทุกเพศทุกวัยด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น การรับประทานอาหาร การใช้ยา ความเครียด แม้ว่าสิวจะไม่ส่งผลต่อสุขภาพที่ร้ายแรง แต่ก็อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น และส่งผลกระทบต่อความมั่นใจได้ [embed-health-tool-bmi] สิวที่คอ เกิดจากอะไร สิวเกิดจากรูขุมขนอุดตัน จึงอาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่สิวจะเกิดขึ้นที่คอ โดยเฉพาะบริเวณท้ายทอย ซึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวที่คออาจมีดังนี้ การนำมือที่สกปรกไปสัมผัสกับบริเวณลำคอ การเกา หรือสครับผิวรุนแรงเกินไป การปล่อยผมลงมาประบ่า ทำให้สิ่งสกปรกจากเส้นผมอุดตันรูขุมขนบริเวณคอ การสวมเครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ อาจทำให้เกิดการเสียดสีที่คอ หรือการแพ้เครื่องประดับก็อาจทำให้เกิดสิวได้ การไม่ทำความสะอาดคอหลังออกกำลังกาย หรือหลังทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก แชมพู ครีมนวดผม สบู่อาบน้ำที่ใช้อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง การใช้เครื่องสำอาง โลชั่น ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำมันก็อาจส่งผลทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้ ฮอร์โมนแปรปรวน เช่น ช่วงวัยเจริญพันธุ์ มีประจำเดือน อาจทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรนเพิ่มขึ้น แล้วไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันส่งผลให้ผลิตไขมันเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดสิวที่คอ ความเครียด ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียด อาจไปกระตุ้นการผลิตไขมันเพิ่มขึ้น และส่งผลทำให้เกิดสิวที่คอได้ […]


การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

รังแคเกิดจาก อะไร มีวิธีรักษาอย่างไร

รังแค คือ เกล็ดสีขาวซึ่งเกิดจากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วบนหนังศีรษะหลุดร่วง เป็นอีกภาวะหนึ่งของหนังศีรษะที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย รังแคเกิดจาก สาเหตุหลายปัจจัยด้วยกันแต่โดยปกติแล้วรังแคอาจไม่มีอาการรุนแรงใด ๆ และอาจรักษาได้ด้วยการใช้แชมพูขจัดรังแค แต่สำหรับผู้ที่มีอาการรังแคแย่ลง คันหนังศีรษะรุนแรง ควรรับการรักษาโดยคุณหมอผิวหนัง [embed-health-tool-bmi] รังแคเกิดจาก อะไร รังแคเกิดจากการผลิตเซลล์ผิวหนังมากกว่าปกติ ทำให้จำเป็นต้องผลัดเซลล์ผิวเก่าออกส่งผลทำให้เกิดรังแค ซึ่งอาจสังเกตได้จากสะเก็ดสีขาวที่ร่วงติดอยู่ตามเสื้อผ้าบริเวณไหล่ โดยปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการผลิตเซลล์ผิว มีดังนี้ ติดเชื้อยีสต์ มาลาสซีเซีย (Malassezia) เป็นเชื้อยีสต์ที่พบได้บนผิวหนังที่คอยกินน้ำมันบนหนังศีรษะที่หลั่งออกมาจากรูขุมขนส่งผลให้หนังศีรษะระคายเคืองและผลิตเซลล์ผิวหนัง ต่อมไขมันอักเสบ พบได้บ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ในเด็กทารกมักจะมีสะเก็ดหนาสีเหลืองบนหนังศีรษะ คิ้ว และบนผิวหนังที่ถูกห่อด้วยผ้าอ้อม อาจส่งผลให้หนังศีรษะมัน ซึ่งเกิดจากการผลิตไขมันมากเกินไป สะเก็ดเงินบนหนังศีรษะ เกิดจากเซลล์ผิวหนังใหม่สร้างตัวขึ้นเร็วกว่าปกติเพื่อแทนที่เซลล์ผิวเก่า สาเหตุมาจากความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกันเกี่ยวกับเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ส่งผลให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์ เช่น แชมพูสระผม สเปรย์จัดแต่งทรงผม ยาย้อมผม เพราะอาจมีสารเคมีที่ส่งผลให้หนังศีรษะระคายเคือง อักเสบ แดง เป็นสะเก็ด สัญญาณเตือนของรังแค สัญญาณของรังแค อาจสังเกตได้จากอาการ ดังต่อไปนี้ คันหนังศีรษะ สะเก็ดผิวหนังสีขาวบนหนังศีรษะ และบริเวณอื่น ๆ เช่น เส้นผม คิ้ว เครา คาง หนังศีรษะลอกเป็นขุย อาจตกลงบนเสื้อผ้าบริเวณช่วงบ่าและไหล่ สำหรับทารกอาจมีสะเก็ดผิวหนังครอบคลุมทั่วหนังศีรษะ และหน้าผาก วิธีรักษารังแค วิธีรักษารังแคอาจทำได้โดยการเลือกใช้ แชมพูที่มีส่วนประกอบ […]


โรคผิวหนังอักเสบ

น้ำเหลืองไม่ดี สาเหตุ อาการ และการรักษา

น้ำเหลืองไม่ดี เป็นการติดเชื้อที่ผิวหนัง ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยเชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผลบนผิวหนัง ทำให้มีอาการบวมแดง เป็นตุ่ม คัน เจ็บปวด ผู้ป่วยมักติดเชื้อจากการสัมผัสกับเชื้อโรคที่อยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น พื้นดิน พงหญ้า หนองน้ำหรือจากแมลงกัดต่อย นอกจากนี้ น้ำเหลืองไม่ดียังอาจหมายถึงภาวะบวมน้ำเหลืองที่เกิดจากเนื้อเยื่ออุดตันขัดขวางการระบายน้ำเหลืองในร่างกาย อาจทำให้มีอาการบวม เคลื่อนไหวยาก ผิวหนังแข็งตัว [embed-health-tool-bmi] คำจำกัดความ น้ำเหลืองไม่ดี คืออะไร น้ำเหลืองไม่ดี คือ ภาวะติดเชื้อที่ผิวหนัง มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) และสเตรปโตคอคคัส ไพโอจิเนส (Streptococcus pyogenes) เป็นการติดเชื้อที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน พบบ่อยในเด็กที่พัฒนาระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับการติดเชื้อ  เช่น โรคภูมิแพ้ตัวเอง ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ผู้ป่วยอาจได้รับเชื้อจากการสัมผัสสิ่งของ ทราย พงหญ้า หรือแมลงกัดต่อย และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลหรือรอยแตกบนผิวหนัง ทำให้มีอาการบวมแดง เป็นตุ่ม คัน เจ็บปวด และอาจมีของเหลวไหลออกจากแผล นอกจากนี้ ยังมีภาวะบวมน้ำเหลือง (Lymphedema) ซึ่งเป็นภาวะเนื้อเยื่ออุดตันที่ขัดขวางการระบายของน้ำเหลืองในร่างกาย อาจเกิดจากเซลล์มะเร็งอุดตันหลอดเลือด การฉายรังสีที่ทำให้เกิดแผลเป็นอุดตัน หรือการผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองออก ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นบริเวณขา แขน หน้าอก […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

ไฟลามทุ่ง อาการ สาเหตุและการรักษา

ไฟลามทุ่ง (Erysipelas) เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังชั้นหนังแท้ มักเกิดขึ้นบริเวณขาและเท้า ซึ่งอาจสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็ว อาจทำให้มีไข้ หนาวสั่น แสบร้อน ปวด บวมและแดงที่ผิวหนัง ในบางกรณีอาจลุกลามกลายเป็นโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ทำให้เนื้อตาย การรักษาที่เหมาะสมอาจทำได้ด้วยการช่วยประคับประคองอาการไม่ให้ลุกลาม [embed-health-tool-bmr] คำจำกัดความ ไฟลามทุ่ง คืออะไร ไฟลามทุ่ง คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเสตร็ปโตคอสคัสชนิดเอ (group A streptococcus) บริเวณชั้นผิวหนังแท้และชั้นใต้ผิวหนัง ผู้ป่วยมักมีอาการปวด บวม แดง และแสบร้อนที่ผิวหนังบริเวณเท้าและขา อาจมีอาการรุนแรงกลายเป็นการติดเชื้อลุกลามไปที่กล้ามเนื้อ หรือเรียกว่า โรคแบคทีเรียกินเนื้อ ทำให้เนื้อเริ่มตาย มีลักษณะเป็นผื่นสีดำคล้ำ ตุ่มน้ำ และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้หากเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือด อาการ อาการไฟลามทุ่ง เมื่อเป็นโรคไฟลามทุ่ง ผู้ป่วยมักมีไข้ หนาวสั่น ซึ่งเป็นสัญญาณเบื้องต้นก่อนเกิดอาการอื่น ๆ ตามมา ดังนี้ ผิวหนังอักเสบ บวม แดง  และผิวลื่น ผิวเป็นริ้วสีแดง อาจเปลี่ยนเป็นสีม่วง เขียว หรือดำในกรณีรุนแรง แสบร้อนและเจ็บปวด ผิวบริเวณที่เป็นโรคไฟลามทุ่งแข็งขึ้น อาจเกิดแผลพุพองในกรณีที่รุนแรง อาการของไฟลามทุ่งอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจลุกลามภายในไม่กี่ชั่วโมง จึงควรพบคุณหมอโดยด่วนเพื่อทำการรักษา สาเหตุ สาเหตุไฟลามทุ่ง ไฟลามทุ่ง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบนชั้นผิวหนังแท้และชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อเสตร็ปโตคอสคัสชนิดเอ นอกจากนี้ อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ  […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

ขี้กลาก อาการ สาเหตุ การรักษา

ขี้กลาก เป็นโรคผิวหนังทั่วไปที่เกิดจากการติดเชื้อรา โดยอาการที่เกิดขึ้น ได้แก่ เป็นผื่นวงกลมสีแดง รู้สึกคัน ผิวหนังลอกเป็นหย่อม ๆ บริเวณขอบผื่นมีลักษณะเป็นขุย ๆ พบได้ทั้งบริเวณผิวหนัง ผม เล็บ ขาหนีบ อาจติดต่อได้จากการสัมผัส ขี้กลากสามารถเป็นได้ทั้งในคนและสัตว์ ขี้กลากที่ไม่รุนแรงอาจรักษาได้ด้วยยาทา แต่หากเกิดการติดเชื้อรุนแรงอาจต้องรับประทานยาต้านเชื้อรา [embed-health-tool-bmi] ขี้กลาก คืออะไร  ขี้กลาก คือ โรคผิวหนังทั่วไปที่เกิดจากการติดเชื้อรา โดยจะมีผื่นขึ้นเป็นวงกลมสีแดงและมีตุ่มใสอยู่ตรงกลาง รวมถึงอาจมีอาการคัน ขี้กลากสามารถเกิดขึ้นได้ตามผิวหนังทุกส่วนของร่างกาย เช่น ใบหน้า หนังศีรษะ แขน ขาหนีบ เท้า โดยโรคขี้กลากนั้นแตกต่างจากโรคเกลื้อนที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเหมือนกัน เนื่องจากขี้กลากเป็นโรคติดต่อ แต่โรคเกลื้อนไม่ได้เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการสัมผัสผิวหนังของผู้ที่ติดเชื้อ   ขี้กลากแสดงอาการอย่างไรบ้าง ขี้กลากอาจขึ้นตามผิวหนังทุกส่วนของร่างกาย โดยแสดงอาการระหว่าง 4-14 วันหลังจากสัมผัสกับเชื้อราที่ก่อให้เกิดขี้กลาก ซึ่งขี้กลากที่เกิดขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอาจมีอาการแตกต่างกันไป เช่น ขี้กลากบริเวณใบหน้า เป็นผื่น รอยแดง บวมและเป็นสะเก็ด มีขอบไม่ชัด ขี้กลากบริเวณหนังศีรษะ มักมีลักษณะเป็นสะเก็ด คัน แดง เจ็บเมื่อสัมผัส เส้นผมร่วงเป็นหย่อม ๆ หนังศีรษะมักแห้งเป็นขุยขาว ๆ คล้ายรังแค […]


สิว

สิวเกิดจากอะไร

สิวเป็นหนึ่งในปัญหาทางด้านผิวหนัง สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ผู้ที่เป็นสิวบ่อย ๆ หรือเป็น ๆ หาย ๆ อาจสงสัยว่า สิวเกิดจากอะไร การรู้สาเหตุของการเกิดสิว และประเภทของสิว อาจช่วยให้ดูแลรักษาได้อย่างถูกวิธี [embed-health-tool-ovulation] สิวเกิดจากอะไร ยังไม่ทราบถึงปัจจัยที่แน่ชัดว่า สิวเกิดจากอะไร แต่อาจเกิดจากการอุดตันของระบบต่อมไขมันในรูขุมขน ซึ่งได้รับการกระตุ้นจากฮอร์โมนเพศโดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชาย หากร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายจากต่อมหมวกไตมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายหลั่งไขมันมากผิดปกติ และไปกระตุ้นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในผิวหนัง ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังจนก่อให้เกิดสิวได้ โดยบริเวณที่มักพบสิว ได้แก่ ใบหน้า ลำคอ หน้าอก ไหล่ หลัง สาเหตุของการเกิดสิว  การเกิดสิวอาจเกิดจากหลายสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้  กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีพ่อ แม่ หรือญาติเป็นสิว อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวได้มากกว่าปกติ   ระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น วัยเจริญพันธ์ุ มีประจำเดือนตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน อาจทำให้ระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน เทสโทสเทอโรน เอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้นไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามาก ซึ่งอาจทำให้เกิดสิว รับประทานอาหารที่มีแป้ง ไขมัน และน้ำตาลสูงเป็นประจำ รวมถึงของทอด ของมัน ผลิตภัณฑ์จากนม ช็อกโกแลต ซึ่งอาหารเหล่านี้อาจไปกระตุ้นการเกิดสิวในบางคน มลพิษทางอากาศ เช่น […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ลบรอยสัก ทำได้อย่างไร มีอันตรายอะไรบ้าง

ลบรอยสัก เป็นขั้นตอนลบรอยสักที่ไม่ต้องการบนผิวหนัง อาจแบ่งเป็นหลายเทคนิค ได้แก่ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ การผ่าตัดเอาออก และการขัดผิวหนัง ซึ่งแต่ละวิธีก็อาจมีข้อจำกัดและขั้นตอนการรักษาที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ การลบรอยสักอาจทำให้เกิดความเสี่ยงเกิดรอยแผลเป็น เจ็บปวด คัน รอยดำ และอาจไม่สามารถลบออกได้ทั้งหมดหรือเสี่ยงเป็นมะเร็งได้ ดังนั้น ก่อนทำการสักหรือลบรอยสักจึงควรศึกษาข้อดีและข้อเสีย พร้อมทั้งปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น [embed-health-tool-bmi] ประเภทของการลบรอยสัก การลบรอยสักอาจมีหลายวิธีการ ได้แก่ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ การลบรอยสักด้วยเลเซอร์ Q-switched เป็นที่นิยม สามารถใช้รักษารอยแผลเป็น ฝ้า กระ ปานได้ ไม่มีผลข้างเคียงระยะยาว โดยเลเซอร์ Q-switched เป็นการปล่อยพลังงานแสงเพื่อทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัว หลังจากนั้นเม็ดเลือดขาวจะดูดซึมหรือย่อยสลายเม็ดสีที่ผิดปกติ แล้วจะถูกกำจัดโดยการขับเป็นของเสียออกจากร่างกาย หลังจากยิงเลเซอร์บริเวณที่ต้องการลบรอยสัก ผิวบริเวณนั้นจะมีสีเข้มขึ้น และเมื่อร่างกายกำจัดเม็ดสีออกไปหมดแล้ว ผิวจะเริ่มตกสะเก็ดและหลุดออกไป จากนั้นผิวจะค่อย ๆ กระจ่างใสขึ้นและกลับมาเป็นปกติ ก่อนทำเลเซอร์คุณหมอจะฉีดยาชา จากนั้นจะเริ่มกระบวนการยิงเลเซอร์ ซึ่งรอยสักแต่ละแบบอาจต้องใช้พลังงานและความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน หลังจากการลบรอยสักด้วยเลเซอร์อาจทำให้มีอาการบวม แสบร้อน หรือมีเลือดออกเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การลบรอยสักด้วยเลเซอร์อาจช่วยให้รอยสักจางลง แต่อาจไม่สามารถลบรอยสักออกได้ทั้งหมด การผ่าตัด ก่อนเริ่มผ่าตัด คุณหมอจะฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการรักษา จากนั้นคุณหมอจะตัดส่วนที่เป็นรอยสักออกแล้วเย็บขอบของผิวหนังเข้าด้วยกัน หลังจากการผ่าตัด คุณหมออาจสั่งจ่ายยาต้านเชื้อแบคทีเรียเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่ทั้งนี้ การผ่าตัดลบรอยสักช่วยลบรอยสักบนผิวหนังได้จริง แต่อาจทิ้งรอยแผลเป็นและสามารถทำได้เฉพาะรอยสักขนาดเล็กเท่านั้น การขัดผิวหนัง (Dermabrasion) ก่อนเริ่มขั้นตอน คุณหมอจะฉีดบริเวณที่รักษาด้วยยาชา จากนั้นจะเริ่มขัดบริเวณรอยสักให้ลึกลงไปใต้ผิวหนังด้วยอุปกรณ์เฉพาะที่มีล้อหรือแปรงขัด วิธีนี้จะทำให้หมึกสักซึมออกจากผิวหนัง […]


สุขภาพผิว

เจาะสะดือ ความปลอดภัยและการดูแล

เจาะสะดือ เป็นการเสริมความงามที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น โดยใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและเครื่องประดับหลายรูปแบบเจาะไปบนผิวหนังบริเวณสะดือ แต่การเจาะสะดืออาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รอยแผล อาการแพ้ หากอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่มีการดูแลแผลอย่างเหมาะสม [embed-health-tool-bmi] เจาะสะดือ คืออะไร การเจาะสะดือ คือ การนำเครื่องประดับหลายรูปทรงมาเจาะเข้าผิวหนังบริเวณสะดือ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเจาะเพียงไม่กี่นาที แต่อาจต้องใช้เวลานานในการรักษาแผลบริเวณที่เจาะให้หายดี ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ความปลอดภัยของการเจาะสะดือ ก่อนตัดสินใจเจาะสะดืออาจจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการเจาะ พิจารณาร้านและช่างเจาะที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานความสะอาด โดยอาจตรวจเช็คใบอนุญาตและประสบการณ์ของช่างเจาะ ตรวจสอบเข็มเจาะว่าสะอาดหรือไม่ เข็มควรอยู่ในถุงที่ปิดสนิท ปลอดเชื้อ และควรเป็นเข็มที่ใช้แล้วทิ้ง เลือกเครื่องประดับให้เหมาะสม  ควรทำจากวัสดุที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ เช่น ทองคำ 14 หรือ 18K ไทเทเนียม (Titanium) ไนโอเบียม (Niobium) สแตนเลสเกรดเครื่องมือแพทย์ (Surgical Steel) ทองคำขาว (Platinum) วัสดุชนิดแก้ว เช่น แก้วควอตซ์ผสม (Fused quartz glass) แก้วบอโรซิลิเกตไร้สารตะกั่ว (Lead-free borosilicate) แก้วโซดาไลม์ไร้สารตะกั่ว (Lead-free soda-lime glass) พลาสติกยืดหยุ่นไบโอเฟล็กซ์ (Bioflex) นอกจากนั้น ควรเลือกเครื่องประดับที่มันเงา ไม่เป็นสนิม […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ขาหนีบดำ สาเหตุและการรักษา

ขาหนีบดำ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยอาจมีสาเหตุจากพฤติกรรมการเสียดสีของผิวหนังภายนอก ฮอร์โมน การใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด ซึ่งขาหนีบดำสามารถรักษาได้ด้วยตนเอง แต่อาจต้องใช้เวลา เช่น การใช้สครับน้ำตาล เจลว่านหางจระเข้ หรือสามารถรักษาได้ด้วยยาที่ควรได้รับคำแนะนำจากคุณหมอก่อนใช้เสมอ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ [embed-health-tool-bmi] สาเหตุของขาหนีบดํา ขาหนีบดำ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ ความผิดปกติของฮอร์โมน มักเกิดในผู้ที่มีความผิดปกติ เช่น ถุงน้ำในรังไข่ ไทรอยด์ทำงานน้อย หรือมีปัญหากับต่อมหมวกไต ยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น ไนอาซินขนาดสูง (High-dose niacin) ยาคุมกำเนิด เพรดนิโซน (Prednisone) และคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) มะเร็ง ขาหนีบดำอาจเกิดในผู้ที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือเมื่อเนื้องอกมะเร็งเริ่มเติบโตในอวัยวะภายใน เช่น กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ หรือตับ การเสียดสี อาจเกิดขึ้นจากการเสียดสีของผิวหนังบริเวณขาหนีบ หรือเสียดสีกับเสื้อผ้า ทำให้ผิวหนังบาง คัน และเปลี่ยนสีได้ โรคบางชนิด เช่น โรคผิวหนังช้าง โรคเบาหวาน ผิวแห้ง ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดปัญหาขาหนีบดำ มีดังนี้ โรคอ้วน ยิ่งมีน้ำหนักตัวมากจะยิ่งเพิ่มแรงเสียดสีของผิวหนังบริเวณขาหนีบทำให้ขาหนีบดำได้ ประวัติครอบครัว สีผิวอาจขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ รวมถึงโรคหนังช้างที่ทำให้ผิวหนังเป็นสีดำเช่นกัน การเสียดสี […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

ฝีเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรักษาและป้องกันฝี

ฝีเกิดจากอะไร อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ความจริงแล้ว ฝี เป็นกลุ่มหนองที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อการติดเชื้อหรือสิ่งแปลกปลอม โดยส่วนใหญ่อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยฝีแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ ฝีที่ผิวหนัง มักพบที่หน้าอก แผ่นหลัง ก้น ใบหน้า รักแร้ ลักษณะเป็นตุ่มหนองหรือตุ่มแดงคล้ายสิว อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บ บวม แดง มีไข้ หนาวสั่น และ ฝีในร่างกาย ที่เกิดขึ้นในอวัยวะหรือช่องว่างระหว่างอวัยวะภายใน เช่น ฝีในช่องท้อง ฝีในสมอง ซึ่งอาจทำให้อวัยวะนั้น ๆ ถูกทำลายได้ ดังนั้น การทราบว่าฝีเกิดจากอะไรอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดฝี และช่วยให้สามารถดูแลรักษาฝีได้เหมาะสมขึ้น [embed-health-tool-heart-rate] ฝีเกิดจากอะไร เมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เนื้อเยื่อในบริเวณใดบริเวณหนึ่งติดเชื้อและเสียหาย ระบบภูมิคุ้มกันจะตอบสนองต่อการติดเชื้อด้วยการส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวไปต่อสู้กับการติดเชื้อในบริเวณนั้น ๆ กระบวนการนี้จะก่อให้เกิด ฝี (Abscess) ซึ่งเป็นกลุ่มหนองที่มีของเหลวในร่างกาย เช่น เลือด น้ำเหลือง ผสมรวมกับเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว เซลล์เม็ดเลือดขาวที่ตายแล้วและที่ยังมีชีวิต เชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย หรือสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อจนนำไปสู่การเกิดฝี คือ เชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน