ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป เป็นเรื่องที่ทุกคนควจะต้องรู้เอาไว้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัว ซึ่งเรื่องราวที่คุณจะอ่านเรารวบรวมเอาไว้ให้แล้ว

เรื่องเด่นประจำหมวด

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

โรคไวรัสตับอักเสบบี คือโรคอะไร ใครควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

โรคไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี และอี โดยไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เป็นชนิดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงยาที่ช่วยไม่ให้ตับถูกทำลาย โรคไวรัสตับอักเสบบี จึงเป็นโรคที่ควรตรวจคัดกรองเพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็ว และป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี  [embed-health-tool-vaccination-tool] โรคไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร ไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคตับอักเสบชนิดหนึ่ง หรือเกิดจากการอักเสบของเซลล์ตับ สาเหตุจากการ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) อาจทำให้เซลล์ตับตาย ความรุนแรงของโรคไวรัสตับอักเสบ บี เมื่อเป็นเรื้อรังจะเกิดพังผืด อาจกลายเป็นตับแข็ง นำสู่โรคมะเร็งตับได้  การติดต่อของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี  ส่วนใหญ่การติดต่อของโรคเกิดจากการถ่ายทอดจากแม่ที่ติดเชื้อสู่ทารก ไม่ติดต่อผ่านทางการสัมผัสภายนอก ไม่ติดต่อหลักทางน้ำลาย แต่ติดต่อได้ ดังนี้ สามารถเกิดได้จากการเจาะหรือสักผิวหนัง ด้วยเครื่องมือที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน เชื้อเข้าทางบาดแผล หรือการใช้ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน  สัมผัสกับเลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อ อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสตับอักเสบบีจะไม่แสดงอาการในทันที แต่จะใช้เวลาฟักตัว 2-3 เดือน จึงเริ่มมีอาการ เช่น เกิดการอ่อนเพลียคล้ายกับโรคหวัด คลื่นไส้ อาเจียน จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต  สีปัสสาวะเข้มขึ้น […]

สำรวจ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

กากกาแฟ กับประโยชน์ที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน

กากกาแฟ เป็นแหล่งของสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจเป็นประโยชน์ต่อผิวหนัง หนังศีรษะและเส้นผม อาจนำกากกาแฟมาใช้ขัดผิว รักษาสิว เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และปรับระดับ pH ให้สมดุล นอกจากนั้น ยังอาจนำมาใช้ประโยชน์ภายในบ้าน เช่น บำรุงดิน ทำปุ๋ยหมักจากธรรมชาติ ขับไล่แมลงและศัตรูพืช ได้อีกด้วย ประโยชน์ของกากกาแฟที่ควรรู้ กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่นิยมไปทั่วโลก เมื่อกาแฟถูกต้มเรียบร้อยแล้วก็จะเหลือกากกาแฟเอาไว้ ซึ่งกากกาแฟเหล่านี้มักจะถูกทิ้งไปอย่างไร้คุณค่า แต่ความจริงแล้ว กากกาแฟนั้นมีประโยชน์มากมายที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน และนี่ก็คือประโยชน์ของกากกาแฟ บำรุงดิน ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี ดินส่วนใหญ่ไม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช และเมื่อพืชเจริญเติบโตพวกมันก็จะดูดซับสารอาหารในดินจนหมด กากกาแฟนั้นมีแร่ธาตุที่สำคัญหลายชนิดที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช ไม่ว่าจะเป็น ไนโตรเจน แคลเซียม โพแทสเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโครเมียม (Chromium) นอกจากนั้นกากกาแฟยังช่วยดูดซับโลหะหนักที่ปนเปื้อนในดิน และยังดึงดูดหนอนที่มีประโยชน์ต่อสวน เพียงแค่นำกากกาแฟโรยลงบนดินรอบ ๆ พืชก็เพียงพอแล้ว ทำเป็นปุ๋ยหมักจากธรรมชาติ การทำปุ๋ยหมักเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่เปลี่ยนสารอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร และเศษหญ้า ให้กลายเป็นปุ๋ยด้วยการย่อยสลายตามธรรมชาติ การเพิ่มปุ๋ยหมักลงในดินจะช่วยให้ดินมีสารอาหารและน้ำมากขึ้น ซึ่งช่วยปรับปรุงสุขภาพของพืช จากการศึกษาหนึ่งพบว่า ปุ๋ยหมักที่ทำจากกากกาแฟและของเสียในครัวเรือน อุดมไปด้วยสารอาหารมากกว่าปุ๋ยหมักที่ทำจากขยะเพียงอย่างเดียว นอกจากนั้นปุ๋ยหมักที่มีกากกาแฟเป็นส่วนประกอบ 40% ยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุดและเป็นปุ๋ยหมักที่คุณภาพดีที่สุดอีกด้วย ขับไล่แมลงและศัตรูพืช สารบางชนิดที่พบในกาแฟ เช่น คาเฟอีน (Caffeine) และ ดีเทอเพนส์ (Diterpenes) […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

รู้หรือไม่ น้ำส้มสายชู มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าที่ทุกคนคิด

น้ำส้มสายชูเป็นเครื่องปรุงประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการนำมาประกอบอาหาร และเพิ่มรสชาติให้แก่อาหารประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารจีน หรือแม้แต่อาหารยุโรป อีกทั้งยังสามารถใช้เพื่อทำความสะอาดเครื่องใช้อื่นๆ ภายในครัวเรือนได้อีกด้วย แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า น้ำส้มสายชู นั้นให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าที่เราคิด ประโยชน์ต่อสุขภาพที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง หาคำตอบได้จากบทความนี้ [embed-health-tool-bmi] น้ำส้มสายชู คืออะไรกันแน่ น้ำส้มสายชู (Vinegar) คือของเหลวสีใส ที่ได้จากกระบวนการหมัก โดยปกติแล้วน้ำส้มสายชูปกติที่เรารับประทาน จะมีความเป็นกรดอยู่ที่ 4-8% ในขณะที่น้ำส้มสายชูที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อราหรือทำความสะอาด อาจจะมีความเป็นกรดมากถึง 20% องค์ประกอบหลักของน้ำส้มสายชูคือ กรดอะซิติก (Acetic acid) แต่ก็อาจจะพบกรดอื่น ๆ ได้เช่นกัน ในอดีต น้ำส้มสายชูจะได้จากการหมักอาหารประเภทต่าง ๆ เช่น มันฝรั่ง กากน้ำตาล หรือเวย์ (Whey) ที่ได้จากนม ขึ้นอยู่กับว่าวัตถุดิบชนิดไหน สามารถพบได้มากในเขตนั้น แต่ในปัจจุบัน น้ำส้มสายชูส่วนใหญ่มักจะได้มาจากการหมักเอทานอล (ethanol) โดยการเติมส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น ยีสต์ หรือฟอสเฟต เพื่อช่วยกระตุ้นกระบวนการหมัก เนื่องจากในเมทานอล (Methanol) นั้นแทบจะไม่มีสารอาหารอื่น ๆ อยู่เลย ประโยชน์สุขภาพของน้ำส้มสายชู น้ำส้มสายชูนั้นเป็นวัตถุดิบที่มีคุณค่าทางสารอาหารน้อยและมีแคลอรี่ต่ำ โดยปกติน้ำส้มสายชู 1 […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

Hyponatremia (โซเดียมในเลือดต่ำ) คือ อะไร สาเหตุ อาการ และการรักษา

Hyponatremia คือ ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปริมาณโซเดียมในร่างกายของคุณลดต่ำลงกว่าปกติ ซึ่งโซเดียมนั้น คือ แร่ธาตุอิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) ที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำบริเวณในและรอบ ๆ ของเซลล์ โดยมีความสำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต [embed-health-tool-bmi] คำจำกัดความ Hyponatremia คือ อะไร โซเดียมในเลือดต่ำ เกิดขึ้นเมื่อปริมาณโซเดียม (Sodium) ในร่างกายของคุณลดต่ำลงกว่าปกติ ซึ่งโซเดียมนั้น คือ แร่ธาตุอิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) ที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำบริเวณในและรอบๆของเซลล์ โดยมีความสำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต โดยมีความสำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต อย่างไรก็ตาม โดยปกติระดับโซเดียมจะต้องมีปริมาณระหว่าง 135-145 มิลลิอิควิวาเลนท์/ลิตร ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะ อาเจียน รู้สึกสับสน กล้ามเนื้ออ่อนล้าหมดแรง โซเดียมในเลือดต่ำ พบได้บ่อยเพียงใด ผู้ที่ป่วยเป็นภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ  พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ กินอาหารที่มีโซเดียมต่ำ รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ เป็นต้น อาการ อาการของ Hyponatremia คือ อะไร อาการโซเดียมในเลือดต่ำอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล หากระดับโซเดียมในร่างกาย ค่อย ๆ ลดระดับลง อาจยังไม่มีอาการใด ๆ แต่หากลดลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้คุณหมดสติได้ โดยอาการทั่วไปจะมีลักษณะ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

กินคีโตแล้วปวดหัว เกิดจากอะไร แก้ไขได้ยังไงบ้าง

หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า “คีโต” หรือ “การกินอาหารแบบคีโต” (Keto Diet) กันมาบ้างแล้ว  การกินแบบคีโตได้รับความนิยมมากในหมู่คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่บางคนก็อาจประสบปัญหา กินคีโตแล้วปวดหัว ได้เช่นกัน อย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าปัญหานี้เกิดจากอะไร แล้วจะมีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง การกินอาหารแบบคีโต คืออะไร การกินอาหารแบบคีโต คือ การกินอาหารโดยเน้นกินอาหารไขมันสูง กินโปรตีนในปริมาณปานกลาง และกินคาร์โบไฮเดรตน้อยมาก เมื่อเรากินคาร์โบไฮเดรตน้อยลง ร่างกายก็จะเข้าสู่ภาวะคีโตซิส (Ketosis) และดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานแทน ซึ่งเป็นการกินอาหารที่ช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีอีกวิธีหนึ่ง สาเหตุที่คุณ กินคีโตแล้วปวดหัว การที่คุณ กินคีโต แล้วปวดหัวสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และคนที่ประสบปัญหานี้ส่วนใหญ่มักจะเจอปัญหานี้ในช่วงเริ่มกินคีโต ว่าแต่สาเหตุที่ว่าจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย ภาวะขาดน้ำ การขาดน้ำเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของการ กินคีโต แล้วปวดหัว เนื่องจากเมื่อร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซิส มักทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น จนร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น หากคุณไม่ดื่มน้ำเพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายเสียไป ก็สามารถนำไปสู่ภาวะขาดน้ำได้ เมื่อร่างกายขาดน้ำ ก็มักจะทำให้เกิดอาการปวดหัว และมักมีอาการอื่น ๆ เหล่านี้ร่วมด้วย เช่น วิงเวียนศีรษะ ปากแห้ง มีปัญหาในการมองเห็น ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ เมื่อ กินคีโต แล้วเข้าสู่ภาวะคีโตซิส ร่างกายจะเริ่มพึ่งพาคีโตนบอดี้ (Ketone bodies) แทนกลูโคส (Glucose) คีโตนบอดี้คือสารประกอบที่ได้จากการที่ร่างกายสลายไขมันเป็นพลังงาน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณลดลง จนนำไปสู่ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ เมื่อเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ก็อาจทำให้สมองของคุณเครียด […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

สัญญาณควรรู้ คุณอาจกำลังเป็นโรคขาดสารไอโอดีน

ไอโอดีน เป็นสารอาหารที่ดีต่อสมองและดีต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ด้วย ถ้าหากร่างกายขาดสารไอโอดีนก็จะมีผลกระทบต่อสุขภาพ เสี่ยงที่จะเป็น โรคขาดสารไอโอดีน แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายเรากำลังขาดสารไอโอดีน วันนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ สัญญาณของโรคขาดสารไอโอดีน มาฝากคุณผู้อ่านค่ะ โรคขาดสารไอโอดีน เป็นอย่างไร ไอโอดีน (Iodine) เป็นสารอาหารสำหรับร่างกายที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง ซึ่งถ้าร่างกายขาดสารไอโอดีนก็จะมีอาการตั้งแต่โรคคอพอก ปัญหาที่เกี่ยวกับไทรอยด์ รวมถึงมีผลต่อพัฒนาการทางการเรียนรู้ด้วย หากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ไม่รับประทานไอโอดีนในปริมาณที่เพียงพอทั้งต่อแม่และเด็ก ทารกที่เกิดมาก็เสี่ยงที่จะมีภาวะขาดไอโอดีนตั้งแต่กำเนิด ไปจนถึงมีพัฒนาการที่ช้า หรือเป็นโรคเอ๋อ อาการโดยรวมต่างๆ เหล่านี้อยู่ในหมวดหมู่ของอาการทางสุขภาพที่เรียกว่า โรคขาดสารไอโอดีน สัญญาณของโรคขาดสารไอโอดีน มีอะไรบ้าง มีอาการคอบวม หากร่างกายขาดสารไอโอดีน อาการแรกๆ ที่มักจะเกิดขึ้นก็คือคอมีอาการบวมหรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ โรคคอพอก (Goiter) ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายมีสารไอโอดีนไม่เพียงพอที่จะผลิตไทรอยด์ฮอร์โมน และเมื่อต่อมไทรอยด์ไม่สามารถผลิตไทรอยด์ฮอร์โมนได้เพียงพอ ต่อมไทรอยด์ก็จำเป็นจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ให้ทันต่อความต้องการของร่างกาย จนกระทั่งต่อมไทรอยด์เกิดอาการบวมโตขึ้นจากการทำงานหนัก จึงส่งผลให้บริเวณคอเกิดอาการบวมออกมาในที่สุด น้ำหนักขึ้นและลงอย่างผิดปกติ อาการขาดสารไอโอดีนนั้นมีผลโดยตรงต่อต่อมไทรอยด์ และเมื่อต่อมไทรอยด์มีปัญหา ระบบเผาผลาญก็จะเกิดปัญหาตามมาด้วย เนื่องจากฮอร์โมนไทรอยด์ทำหน้าที่ในการควบคุมระบบเผาผลาญ หากฮอร์โมนไทรอยด์อยู่ในระดับต่ำ ระบบเผาผลาญของร่างกายก็จะลดต่ำลงตามไปด้วย ทำให้ปริมาณแคลอรี่ในร่างกายเผาผลาญออกไปไม่หมดและกลายเป็นไขมันที่จะมีผลต่อการขึ้นลงของน้ำหนัก ผมร่วง ฮอร์โมนไทรอยด์ทำหน้าที่สำคัญหลายหน้าที่ต่อร่างกายอีกหนึ่งหน้าที่ก็คือการควบคุมการเจริญเติบโตของเส้นขน หากร่างกายมีฮอร์โมนไทรอยด์ในระดับต่ำ และเป็น โรคขาดสารไอโอดีน ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาผมร่วงและยังส่งผลให้อัตราการงอกใหม่ของเส้นผมน้อยลงด้วยเหมือนกัน รู้สึกหนาวมากกว่าปกติ ร่างกายจะมีอาการไวต่อความเย็นมากขึ้นหากมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ลดต่ำลงเนื่องจากการมีสารไอโอดีนในร่างกายไม่เพียงพอ ทั้งนี้เพราะร่างกายเผาผลาญได้น้อยลง เมื่อเผาผลาญได้น้อยลง การผลิตความร้อนในร่างกายที่ได้จากการเผาผลาญก็ลดลงด้วย จึงทำให้เมื่อสัมผัสอากาศเย็นจะรู้สึกหนาวกว่าปกตินั่นเอง อัตราการเต้นของหัวใจเกิดการเปลี่ยนแปลง การขาดสารไอโอดีนของร่างกาย จะส่งผลให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นไปได้ช้าลง หรือหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย และเป็นลมได้ง่ายขึ้นด้วย มีปัญหาในเรื่องความจำ ไอโอดีนเป็นสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้และความจำ มีผลการวิจัยพบว่าผู้ที่มีระดับของไทรอยด์ฮอร์โมนในปริมาณที่สูง จะมีทักษะในการทำแบบทดสอบ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

6 ท่า กายบริหารสำหรับผู้ป่วยติดเตียง

หาก ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ต้องนอนพักรักษาตัวเป็นเวลานานไม่ได้ขยับเขยื้อนร่างกายเลย อาจส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก กล้ามเนื้ออ่อนแอลงหรือสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ จนสุขภาพอ่อนแอและต้องพักรักษาตัว หรือพักฟื้นนานขึ้น และบางครั้งอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น แผลกดทับ ได้ด้วย ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ผู้ป่วยติดเตียงออกกำลังกายเป็นประจำด้วยท่า กายบริหารสำหรับผู้ป่วยติดเตียง เหล่านี้ [embed-health-tool-heart-rate] กายบริหารสำหรับผู้ป่วยติดเตียง 1. ท่ายืดเหยียดนิ้วและฝ่ามือ ท่ายืดเหยียดนิ้วและฝ่ามือจัดเป็นท่ากายบริหารสำหรับ ผู้ป่วยติดเตียง ที่ทำได้ง่ายที่สุดท่าหนึ่ง โดยคุณสามารถยืดเหยียดนิ้วและฝ่ามือได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้ ยื่นมือไปข้างหน้า หันฝ่ามือออกนอกลำตัว กางนิ้วทั้ง 5 นิ้วให้ได้มากที่สุดแล้วค้างไว้ 2-3 วินาที ให้ปลายนิ้วแต่ละนิ้วแตะกับปลายนิ้วโป้ง ไล่ไปตั้งแต่นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย สลับข้างแล้วทำซ้ำ ทำซ้ำข้างละ 2-3 ครั้ง 2. ท่าหมุนข้อมือ การฝึกท่าหมุนข้อมือบ่อย ๆ จะช่วยให้ ผู้ป่วยติดเตียง มีข้อมือที่แข็งแรง และสามารถเคลื่อนไหวได้เป็นปกติ โดยคุณสามารถออกกำลังกายในท่าหมุนข้อมือได้ ตามขั้นตอนต่อไปนี้ นอนแขนแนบลำตัว ให้ฝ่ามือแตะอยู่บนเตียง หมุนข้อมือข้างหนึ่งทวนเข็มนาฬิกาช้า ๆ ทำซ้ำประมาณ 10-15 วินาที สลับข้างแล้วทำซ้ำ ทำซ้ำข้างละ 2-3 ครั้ง 3. ท่ายกแขน ท่ายกแขนเป็นการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสำหรับ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย ส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

เมื่อพูดถึง แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย หลายคนคงเคยได้ยินว่าสิ่งเหล่านี้มีไว้ในเพื่อการสลายการชุมนุม แต่ในบางครั้งผู้หญิงบางคนก็อาจจะพกสเปรย์พริกไทย เพื่อเอาไว้ป้องกันตัวจากพวกมิจฉาชีพ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทย สามารถส่งผลต่อร่างกายได้ด้วย แต่สองสิ่งนี้จะส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ลองมาติดตามข้อมูลจาก Hello คุณหมอ กันเลย ทำความรู้จักกับ แก๊สน้ำตา แก๊สน้ำตา (Tear Gas) มีส่วนผสมของสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ตา และระบบทางเดินหายใจ แก๊สน้ำตาถูกใช้เป็นอาวุธเคมีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และถูกห้ามไม่ให้ใช้ในช่วงสงครามในสมัยต่อมา แต่ตอนนี้มีการใช้งานโดยผู้บังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก เพื่อควบคุมฝูงชนและการจลาจล สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณสูดดม แก๊สน้ำตา แก๊สน้ำตาทำให้น้ำตาไหล สร้างความแสบร้อนในจมูกและเยื่อจมูกอย่างเฉียบพลัน หากสูดดมแก๊สน้ำตาเข้าไป อาจทำให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุปอดและทางเดินหายใจส่วนบน ส่งผลให้หายใจเสียงดังฮืด ๆ ไอ หายใจไม่ออก และกลั้นหายใจได้ลำบาก การกลืนแก๊สน้ำตาเข้าไปอาจทำให้ท้องเสีย คลื่นไส้และอาเจียน โดยทั่วไปแล้วผลกระทบต่อร่างกายจะเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาทีหลังจากที่ได้รับสารและสามารถอยู่ได้นานถึง 1 ชั่วโมง โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่ที่สัมผัสกับแก๊สน้ำตามักจะมีอาการไม่รุนแรง แต่ประมาณ 1 ใน 15 คนอาจมีอาการรุนแรง โดยความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับปริมาณแก๊สที่ได้รับ ตำแหน่งที่สัมผัส และระยะเวลาที่การสัมผัส จากหลักฐานที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ผู้คนที่สัมผัสกับแก๊สน้ำตาในพื้นที่ปิดล้อม มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและมีปัญหาระบบทางเดินหายใจที่รุนแรง ยิ่งหากคุณเป็นโรคหอบหืด ก็ยิ่งทำให้เสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพจากการได้รับแก๊สน้ำตามากขึ้น โดยผู้ที่เป็นโรคหอบหืดอาจมีอาการหลอดลมหดเกร็งอยางรุนแรง จนหายใจลำบากได้ นอกจากนี้ แก๊สน้ำตายังอาจทำให้เกิดโรคหอบหืดและนำไปสู่ภาวะการหายใจล้มเหลว จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ด้วย […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ไขข้อสงสัย ผู้ชาย มี หัวนม เอาไว้ทำอะไรกัน ?

ทุกคนเคยแอบคิดกันเล่น ๆ บ้างหรือไม่คะ ว่าทำไมผู้ชายจึงต้องมีหน้าอก ซึ่งบางคนนั้นหน้าอกดันใหญ่กว่าผู้หญิงอย่างเรา ๆ เสียอีก ที่สำคัญหน้าอก หรือ หัวนม ของ ผู้ชาย ก็ไม่ได้เอาไว้ทำหน้าที่อะไรเหมือนกับผู้หญิงซักนิดด้วยซ้ำ บทความของ Hello คุณหมอ วันนี้จึงมาคลายข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นข้างต้น ให้ทุกคนได้ทราบอย่างแน่ชัดกันค่ะ ทำไม ผู้ชาย จึงต้องมี หัวนม จริง ๆ หัวนมของผู้ชาย ถูกพัฒนาตั้งแต่ที่พวกเขายังเป็นตัวอ่อนอยู่ในครรภ์ของมารดา ด้วยโครโมโซม X ตัวแรก ซึ่งในเพศหญิงก็เช่นเดียวกัน จึงทำให้ถูกมีการกล่าวขานว่า ผู้ชายทุกคนล้วนเคยเป็นผู้หญิงมาก่อน เมื่อมีการเจริญเติบโตขึ้น โครโมโซมตัวที่สองก็เริ่มทำงานโดยเปลี่ยนแปลงจากโครโมโซม X เป็นโครโมโซม Y ในเฉพาะเพศชาย รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะต่าง ๆ ที่บ่งบอกให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับรู้ถึงเพศจากการอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เช่น หัวนม เต้านม อวัยวะเพศ เป็นต้น นอกจากนี้หัวนมของผู้ชายยังสามารถกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ เพราะเป็นอวัยวะที่ค่อนข้างไวต่อการสัมผัส ในงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า การกระตุ้นหัวนมในผู้ชาย อาจช่วยเพิ่มอารมณ์ให้เกิดความรู้สึกอยากมีเพศสัมพันธ์ได้ถึง 52% ผู้ชายมี หัวนม ไว้คอยให้ นมบุตร […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ต้นไม้ที่ไม่ควรปลูกในบ้าน เป็นอันตรายกับเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

การปลูกต้นไม้ในรั้วบ้าน ภายในบ้าน หรือแม้แต่ในห้องนอน กลายเป็นกิจกรรมคลายเครียด และกิจกรรมรักษ์โลกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ระบาด ซึ่งหลาย ๆ คนต้องกักตัวอยู่บ้าน หรือทำงานที่บ้าน การปลูกต้นไม้ในบ้านยิ่งฮอตฮิตเข้าไปใหญ่ เพราะนอกจากจะเพิ่มความสวยงาม ทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นแล้ว ต้นไม้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย แต่คุณก็ควรเลือกต้นไม้มาปลูกในรั้วบ้านให้เหมาะสม โดยเฉพาะหากที่บ้านคุณมีเด็ก เพราะต้นไม้บางชนิดเป็น ต้นไม้ที่ไม่ควรปลูกในบ้าน บ้างก็มีพิษ และเป็นต้นไม้ที่เป็นอันตรายกับเด็กอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรนำมาปลูกในบ้าน ทาง Hello คุณหมอ มีข้อมูลมาฝากกันในบทความนี้ ต้นไม้ที่ไม่ควรปลูกในบ้าน และต้นไม้ที่เป็นอันตรายกับเด็ก ทองหลาง (Coral tree) ใบ เปลือก และเมล็ดทองหลางนั้นมีพิษ ยิ่งหากเป็นพิษจากเมล็ดทองหลางยิ่งเป็นอันตรายกับเด็ก เพราะอาจทำให้เด็กมีปัญหาสุขภาพ เช่น อาการหายใจลำบาก หรือหายใจไม่อิ่ม (Shortness of breath) อาการตัวเขียว (Cyanosis) คือ อาการที่เนื้อเยื่อเปลี่ยนสีหรือมีสีคล้ำลง เนื่องจากขาดออกซิเจนในเลือด อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ยี่โถ ต้นยี่โถ (Oleander) เป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกตามหน้าบ้าน เพราะลำต้นไม่สูงมากและมีดอกใหญ่ สวยงาม ทั้งยังมีหลากหลายสีสัน เช่น สีชมพูเข้ม สีชมพูอ่อน สีเหลือง สีขาว แต่รู้หรือไม่ว่าต้นยี่โถนี้ก็เป็นต้นไม้ที่เป็นอันตรายกับเด็กมากเช่นกัน เนื่องจากทุกส่วนของยี่โถล้วนแต่มีสารพิษทั้งสิ้น […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ทำความสะอาดแว่นสายตา ของคุณให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ

แว่นสายตาถือเป็นสิ่งของจำเป็นสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้น สายตายาว และสายตาที่ไม่ปกติต่าง ๆ นอกจากการถะนุถนอมไม่ให้แว่นเป็นรอยแล้ว การ ทำความสะอาดแว่นสายตา ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรใส่ใจ เพราะถ้าทำความสะอาดไม่ถูกวิธีอาจทำให้เลนส์ของแว่นเป็นรอยได้ แต่จะทำความสะอาดอย่าไรถึงจะถูกวิธี ทาง Hello คุณหมอ มีเรื่องนี้มาฝากกัน วิธี ทำความสะอาดแว่นสายตา ให้เหมือนใหม่ การทำความสะแว่นสายตา คือการทำความสะอาดเลนส์และกรอบแว่น โดยที่ไม่เสี่ยงต่อการขูดขีดหรือทำให้เกิดความเสียหายต่อแว่นตา ซึ่งวิธีการ ทำความสะอาดแว่นสายตา สามารถทำได้ดังนี้ 1. ล้างมือให้สะอาดและเช็ดมือให้แห้ง ก่อนที่จะทำความสะอาดแว่นตาควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า มือของคุณปราศจากสิ่งสกปรก โลชั่น และสิ่งอื่น ๆ ที่สามารถไปโดนเลนส์แว่นได้ จากนั้นใช้สบู่หรือน้ำยาล้างจานทำความสะอาดมืออีกครั้งให้สะอาด 2. ล้างเลนส์ด้วยน้ำก๊อก วิธีนี้จะเป็นการช่วยกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกอื่น ๆ นอกจากนั้นยังช่วยหลีกเลี่ยงการขูดเลนส์เมื่อคุณทำความสะอาดอีกด้วย พยายามหลีกเลี่ยงน้ำร้อน เพราะมันอาจทำให้สิ่งที่เคลือบเลนส์แว่นอยู่เกิดความเสียหาย 3. ใช้น้ำยาล้างจานที่ไม่มีส่วนผสมของโลชั่นหยดลงบนเลนส์แต่ละข้างเพียง 1 หยด น้ำยาล้างจานส่วนใหญ่มีความเข้มข้นสูง ดังนั้น ควรใช้ในปริมาณที่เล็กน้อยเท่านั้น ใช้เพียง 1-2 หยด ก็เพียงพอแล้ว และต้องเลือกใช้น้ำยาล้างจานที่ไม่มีส่วนผสมของโลชั่นด้วย 4. ค่อยๆ ถูกเลนส์แต่ละข้างและส่วนต่างๆ ของกรอบแว่นเป็นเวลา 2-3 วินาที ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณทำความสะอาดทุกส่วน รวมถึงแผ่นรองจมูก และปลายของขาแว่นที่ต้องสัมผัสกับหลังหูอยู่ตลอด นอกจากนี้ควรทำความสะอาดบริเวณที่ของของเลนส์กับตรงกรอบแว่นด้วย เพราะส่วนนี้มักจะเป็นส่วนที่สัมผัสกับผิวซึ่งมีน้ำมันบ่อย […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน