กะหล่ำปลี เป็นพืชตระกูลกะหล่ำ โดยเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน เช่น บร็อคโคลี่ ผักบ็อกฉ่อย กะหล่ำดอก คะน้า กวางตุ้งดอก ซึ่งเป็นผักที่มีปริมาณสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ หลายชนิด อย่างวิตามิน เกลือแร่ และอุดมไปด้วยสารพฤกษเคมีทีมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ประโยชน์ที่โดดเด่นของกะหล่ำปลีคืออาจช่วยต้านมะเร็ง รวมทั้งอาจช่วยบำรุงระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
[embed-health-tool-bmi]
คุณค่าทางโภชนาการของกะหล่ำปลี
กะหล่ำปลีจำนวน 1 ถ้วย หรือประมาณ 89 กรัม ให้พลังงานประมา 22 กิโลแคลอรี่ นอกจากนั้น ยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินเค วิตามินซี โฟเลต แมงกานีส วิตามินบี6 แคลเซียม โพแทสเซียม และ แมกนีเซียม รวมถึงวิตามินเอ ธาตุเหล็ก และไรโบฟลาวิน
อาจช่วยต้านมะเร็ง
พืชตระกูลกะหล่ำ รวมถึงกะหล่ำปลี เป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์หลายชนิด รวมถึงสารประกอบในพืชที่เรียกว่า สารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านเซลล์โดยทำหน้าที่ยับยั้งเอนไซม์ Histone Deacetylase (HDAC) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ส่วนช่วยให้เซลล์มะเร็งมีการเจริญเติบโตมะเร็ง ดังนั้น การบริโภคกะหล่ำปีจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับ สารอินโดล-3-คาร์บินอล (Indole-3 Carbinol) ฮอร์โมนจากพืชที่อาจช่วยต่อสู้กับมะเร็ง เผยแพร่ในวารสาร F1000Research พ.ศ. 2561 สรุปว่า สารอินโดล-3-คาร์บินอล ในพืชตระกูลกะหล่ำ รวมทั้งกะหล่ำปลี อาจช่วยป้องกันมะเร็งเนื่องจากอุดมไปด้วยสารพฤกษเคมี (Phytochemicals) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์ในการดูแลสุขภาพร่างกายมนุษย์ โดยมีการทดลองในห้องปฏิบัติการเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของสารอินโดล-3-คาร์บินอลในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
นอกจากกะหล่ำปลีอาจช่วยต้านมะเร็งได้แล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ ดังนี้
อาจช่วยปรับปรุงระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย
สารอาหารต่าง ๆ ล้วนแต่มีส่วนสำคัญต่อการปรับปรุงการทำงานภายในของร่างกายโดยเฉพาะการเผาผลาญพลังงาน และการทำงานของระบบประสาท นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องร่างกาย จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ หากร่างกายมีปริมาณสารอนุมูลอิสระสูงเกินไป สารเหล่านี้จะเข้าไปทำลายเซลล์ในร่างกายทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ง่าย
อาจช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง
กะหล่ำปลีเป็นพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพในการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงการสูญเสียการมองเห็น และป้องกันโรคมะเร็ง อีกทั้งช่วยบำรุงสุขภาพและระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
ข้อควรระวังในการบริโภคกะหล่ำปลี
แม้ว่ากะหล่ำปลีจะมีวิตามิน และแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่บุคคลบางกลุ่มควรระมัดระวังการบริโภคกะหล่ำปลี ได้แก่
- ผู้ที่มีประวัติหรืออาการแพ้ผักที่มาจากพืชตระกูลกะหล่ำ อย่างเช่น บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก อาจแพ้กะหล่ำปลีได้เช่นกัน
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรระมัดระวังกาบริโภคกะหล่ำปลีในปริมาณมาก เพราะกะหล่ำปลีอาจส่งผลทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)
- ผู้ที่มีปัญหาในด้านการทำงานของต่อมไทรอยด์ ในกลุ่มไฮโปไทรอยด์ (hypothyroidism) ซึ่งเป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ การรับประทานกะหล่ำปลีดิบ อาจทำให้ได้รับสาร กอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งเป็นสารที่ขัดขวางการสร้างฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ ซึ่งอาจทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้ต่ำขึ้น อย่างไรก็ตาม หากกะหล่ำปลีผ่านความร้อน สารกอยโตรเจนที่มีในกะหล่ำปลีก็จะหายไป ดังนั้น จึงควรล้างทำความสะอาดและทำให้กะหล่ำปลีสุกก่อนบริโภคทุกครั้ง