เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ไม่ว่าคุณจะตั้งเป้าหมายเพื่อลดน้ำหนัก เพิ่มน้ำหนัก หรือรักษาค่าดัชนีมวลกาย (ฺBMI) ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ก็ล้วนแล้วแต่ต้องใช้ความมุ่งมั่นทั้งสิ้น รับคำแนะนำเกี่ยวกับ เคล็ดลับโภชนาการที่ดี เพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้อย่างปลอดภัยและมั่นคงยิ่งขึ้น ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ข้าว 10 ปี กินได้อยู่ไหม? อันตรายรึเปล่า?

ข้าว เป็นหนึ่งในอาหารหลักของคนไทย ซึ่งมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง ข้าวเสาไห้ และอื่น ๆ หลายบ้านมักจะมีข้าวสารเก็บติดบ้านไว้เสมอ แต่ข้าวสารนั้นเก็บไว้ได้กี่ปี ข้าว 10 ปี ยังกินได้อยู่หรือไม่ หาคำตอบได้ในบทความนี้ [embed-health-tool-bmi] ข้าวสาร เก็บได้กี่ปี  ข้าวสารสามารถเก็บไว้ได้นานกี่ปีถึงจะยังนำมารับประทานได้โดยไม่เกิดอันตราย จากข้อมูลของเว็บไซต์ Think Rice เว็บไซต์เกี่ยวกับข้าวแหล่งสหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ข้าวเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสีอย่าง ‘ข้าวกล้อง’ สามารถเก็บไว้ได้นานสูงสุดประมาณ 6 เดือน ส่วนข้าวที่ผ่านการขัดสีแล้วอย่าง ‘ข้าวขาว’ อาจสามารถเก็บไว้ได้นาน ไม่มีวันหมดอายุ หากเก็บรักษาไว้อย่างถูกต้อง โดยเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด และเก็บไว้ในที่แห้ง ปราศจากความชื้น  อย่างไรก็ตาม การเก็บรักษาข้าวอย่างไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้คุณภาพของเมล็ดข้าวลดลง หรือเกิดความผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็นหืน สีเปลี่ยนไป หรือมีเชื้อราขึ้น ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้หากรับประทาน ข้าว 10 ปี กินได้ไหม จากข้างต้น ข้าวขาวที่เก็บไว้อย่างถูกต้องยังคงสามารถนำมาหุงรับประทานได้ เพียงแค่กลิ่นอาจจะไม่หอมเท่าและรสสัมผัสอาจจะแตกต่างจากข้าวใหม่  อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังหากข้าวมีความผิดปกติ หรือมีการปนเปื้อนของสารพิษ โดยเฉพาะ อะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารพิษจากเชื้อราที่พบได้ในอาหารต่าง ๆ เช่น ถั่วลิสง […]

สำรวจ เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

วิตามิน ควรกินเวลาไหน เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

เวลาที่ดีที่สุดในการกิน วิตามิน ขึ้นอยู่กับวิตามินแต่ละชนิด โดยวิตามินบางชนิดควรกินหลังอาหาร ในขณะที่บางชนิดควรกินในเวลาที่ท้องว่าง นอกจากนี้คุณควรกินวิตามินในช่วงเวลาเดียวกัน เป็นประจำทุกวัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ และยังช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากอาหารเสริมวิตามินด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาคุณผู้อ่านทุกท่านมาดูกันว่า วิตามินแต่ละชนิดกินเวลาไหนจึงจะดีที่สุด วิตามินที่ละลายในไขมัน เวลาที่เหมาะสมกับการรับประทานวิตามินที่ละลายในไขมันก็คือ ช่วงอาหารมื้อเย็น โดยวิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินเค วิตามินอี และวิตามินดี ซึ่งวิตามินเหล่านี้จะละลายในไขมัน ก่อนจะถูกลำเลียงเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อให้ร่างกายได้นำไปใช้ นอกจากนี้ หากร่างกายได้รับวิตามินที่ละลายในไขมันเกินกว่าที่ต้องการ ร่างกายจะเก็บวิตามินเหล่านี้ในตับ ดังนั้น วิตามินที่ละลายในไขมัน จึงควรกินพร้อมอาหารที่มีไขมันหรือน้ำมัน เพื่อช่วยในการดูดซึม วิตามิน ที่ละลายในน้ำ วิตามินที่ละลายในน้ำมักจะดูดซึมได้ดีที่สุด ในตอนที่ท้องว่าง ดังนั้นการกินวิตามินเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า รับประทานก่อนรับประทานอาหารเช้า 30 นาที หรือ 2 ชั่วโมงหลังจากมื้ออาหาร ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะกับการกินวิตามินชนิดที่ละลายในน้ำได้ โดยวิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินซี วิตามินบีรวม และโฟเลต (กรดโฟลิก) โดยร่างกายจะนำวิตามินเหล่านี้ไปใช้อย่างเพียงพอ จากนั้นจะมีการกำจัดวิตามินส่วนที่เหลือออกทางปัสสาวะ และเนื่องจากร่างกายไม่ได้เก็บวิตามินเหล่านี้ไว้ จึงควรรับประทานวิตามินชนิดนี้เป็นอาหารเสริม เพื่อป้องกันการขาดวิตามิน วิตามินบี วิตามินบีจัดอยู่ในกลุ่มวิตามินที่ละลายในน้ำ ที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มพลัง ทำให้คุณมีพลังมากขึ้น และช่วยบรรเทาความเครียด รวมถึงทำให้อารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย โดยวิตามินบีที่คนนิยมกินได้แก่ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ไขข้อข้องใจ กินโปรตีนมากขึ้น จะยิ่งดีต่อกล้ามเนื้อจริงหรือ?

โปรตีนมีส่วนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ หลายคนจึงเข้าใจว่า หาก กินโปรตีน เพิ่มจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อ ความจริงแล้ว ยิ่งกินโปรตีนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีต่อกล้ามเนื้อจริงหรือ แล้วถ้ากินโปรตีนมากกว่าปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน จะเป็นอันตรายไหม กินโปรตีนมากขึ้น จะยิ่งดีต่อกล้ามเนื้อจริงหรือ ความจริงแล้ว งานวิจัยทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่า การบริโภคโปรตีนมากเกินไป คือมากกว่า 30% ของปริมาณแคลอรี่ที่ควรได้รับต่อวัน อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ นอกจากนี้ ดร.เกล บัตเตอร์ฟีลด์ ผู้อำนวยการการศึกษาด้านโภชนาการที่ Palo Alto Veterans’ Administration Medical Center และอาจารย์ด้านโภชนาการที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้ให้ข้อมูลว่า อาหารที่มีโปรตีนสูง อาจมีผลต่อสุขภาพดังต่อไปนี้ กินโปรตีนมากขึ้น แต่ไม่เพิ่มสารอาหารประเภทอื่น การบริโภคโปรตีนมากขึ้น แต่ไม่เพิ่มสารอาหารอื่นและไม่ออกกำลังกายเพิ่ม อาจไม่ช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ และอาจทำให้ระบบร่างกายอื่นๆ ของคุณอยู่ภายใต้ความเครียดเสียด้วยซ้ำ กินโปรตีนมากขึ้น และเพิ่มสารอาหารประเภทอื่นด้วย งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารวิชาการ Journal of the American Geriatrics Society ให้ข้อมูลว่า การกินโปรตีนเพิ่มขึ้น และเพิ่มปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับต่อวัน ขณะที่รักษาการออกกำลังกายในระดับเท่าเดิม สามารถเพิ่มระดับไขมันและกล้ามเนื้อในร่างกายในปริมาณเท่ากัน นอกจากนี้ งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารวิชาการ JAMA Internal Medicine ได้ทดลองในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ชาย 92 คน ในช่วงอายุ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

เกลือหิมาลัย กับประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ

เกลือหิมาลัย หรือเกลือหิมาลายัน มีสีชมพูเพราะมีไอเอิร์นออกไซด์เป็นส่วนประกอบ เป็นเกลือธรรมชาติซึ่งอาจมีประโยชน์สุขภาพมากมาย เพราะมีแร่ธาตุและสารอาหารรองมากถึง 84 ชนิด มีปริมาณโปแตสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม และเหล็กมากกว่าเกลือทั่วไป ทั้งยังช่วยรักษาระดับของเหลวในร่างกาย ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และป้องกันไม่ให้เป็นตะคริว เป็นต้น ทำความรู้จักกับเกลือหิมาลัย เกลือหิมาลัย หรือเกลือหิมาลายัน มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่เทือกเขาหิมาลัยในประเทศปากีสถาน มีสีชมพูเพราะมีไอเอิร์นออกไซด์ (Iron oxide) เป็นส่วนประกอบ เกลือหิมาลัยจัดว่าเป็นเกลือบริสุทธิ์ เชื่อกันว่าเกิดจากการระเหยและตกผลึกของน้ำทะเลยุคโบราณเมื่อหลายล้านปีก่อน ผ่านการสกัดด้วยมือและไม่มีการเติมสารเคมีหรือสารปรุงแต่งใด ๆ จึงเป็นธรรมชาติและมีแร่ธาตุมากกว่าเกลือที่ใช้กันอยู่ทั่วไป นอกจากจะใช้ประกอบอาหารแล้ว เกลือหิมาลัยยังนิยมนำมาทำเป็นโคมไฟหรือสร้างเป็นถ้ำเกลือหิมาลัยเพื่อช่วยขจัดเชื้อโรคในอากาศ ทำให้ปอดมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ประโยชน์ของเกลือหิมาลัย หลายคนเชื่อว่าการบริโภคเกลือหิมาลัยเป็นประจำจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น เพราะมีประโยชน์มากมาย ดังนี้ ช่วยรักษาระดับของเหลวในร่างกาย ช่วยปรับสมดุลค่าความเป็นกรดด่าง (pH balance) ในเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์สมอง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และชะลอวัย ช่วยดูดซึมอนุภาคอาหาร (Food Particles) ในลำไส้ ช่วยให้สมอง กล้ามเนื้อ และระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจ รวมถึงสุขภาพไซนัสดีขึ้น ช่วยควบคุมความดันโลหิต ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันไม่ให้เป็นตะคริว กระตุ้นความต้องการทางเพศ ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ช่วยให้นอนหลับสนิท แม้ประโยชน์บางข้อจะยังไม่มีผลการศึกษาวิจัยที่ออกมายืนยันว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่ก็ทำให้เกลือหิมาลัยได้รับความนิยมแพร่หลายขึ้นในปัจจุบัน เกลือหิมาลัยดีกว่าเกลือบริโภคทั่วไปจริงหรือ หลายคนเชื่อว่า เกลือหิมาลัยอาจมีประโยชน์สุขภาพมากมาย เพราะมีแร่ธาตุและสารอาหารรองมากถึง 84 ชนิด มีปริมาณโปแตสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม และเหล็กมากกว่าเกลือทั่วไป แต่มีปริมาณโซเดียมน้อยกว่า คือ ในปริมาณ 1 กรัมเท่ากัน […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ตะคริวกิน! ต้องเลือกกิน เพื่อ ป้องกันตะคริว

โดยปกติ ตะคริว (Muscle cramp) มักเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อเกิดการหดตัวอย่างแรง และทำให้รู้สึกเจ็บปวดบริเวณกล้ามเนื้อเป็นอย่างมาก สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกายของเรา ความเจ็บปวดและไม่สบายนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นเรื่องธรรมดาพื้นฐานของนักกีฬาเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้กระทั่งตอนนอนหลับ ซึ่งอาการอาจกินเวลานานหลายวินาทีจนถึงหลายนาที นอกจากการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่จะช่วยบรรเทาอาการตะคริวแล้ว การเลือกรับประทานอาหารบางอย่าง ก็มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดตะคริวได้เหมือนกัน ดังนั้น Hello คุณหมอ ได้รวบรวมอาหารที่ช่วยต้านอาการตะคริวมาฝากกันในบทความนี้ อาการ ตะคริว ขึ้น เกิดขึ้นได้อย่างไร มีคำอธิบายทางการแพทย์ว่าทำไมถึงเกิดอาการตะคริวขึ้นโดย ดร.ริซาล โมดห์ ราซมาน (Dr Rizal Mohd Razman) อาจารย์ผู้บรรยายอาวุโสของศูนย์กีฬาของมหาวิทยาลัยแห่งมาเลเซีย กล่าวว่า การขาด โพแทสเซียม (Potassium) และ แมกนีเซียม (Magnesium) เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดตะคริว การขาดสารทั้งสองอย่างนี้เกิดขึ้นได้เมื่อเราเหงื่อออกมากและร่างกายขาดน้ำ ซึ่งทำให้เกิดตะคริวที่กล้ามเนื้อได้ โพแทสเซียมทำหน้าที่เป็นอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งเป็นสารนำไฟฟ้าและช่วยสนับสนุนการทำงานตามธรรมชาติของร่างกาย เช่น การรักษาสมดุลของความดันโลหิต ในขณะที่ข้อมูลจากการวิจัยจำนวนหนึ่งแสดงให้เห็นว่า แมกนีเซียมจะลดการเกิดตะคริวที่กล้ามเนื้อได้โดยทางอ้อม แมกนีเซียมมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด อยาก ป้องกันตะคริว ที่อาจเกิดขึ้น อาหารเหล่านี้ช่วยคุณได้ สำหรับอาหารป้องกันตะคริวนั้นมีราคาไม่แพง หารับประทานได้ง่าย แถมยังอุดมไปด้วย โพแทสเซียม และ แมกนีเซียม อาจมีส่วนช่วยในการควบคุมอาการตะคริวด้วย และอาจช่วยลดโอกาสในการเกิดอาการตะคริวซ้ำ […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

แครอทบำรุงสายตา ได้จริงหรือ?

สมัยคุณยังเด็ก คุณเคยถูกพ่อแม่บังคับให้รับประทาน แครอท บ้างหรือเปล่า? พ่อแม่มักให้เหตุผลว่า กินแครอทเยอะๆ จะได้สายตาดี  บางท่านอาจสงสัยว่าจริงๆ แล้ว แครอทบำรุงสายตา ได้จริงหรือ? แล้วทำไมแครอทถึงถูกจัดว่าเป็นอาหารบำรุงสายตาของคนทุกยุคทุกสมัย ประโยชน์ของ แครอทบำรุงสายตา แครอทอุดมไปด้วยลูทีน แครอท อุดมไปด้วยลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาหารที่มีลูทีนสูงจะช่วยกระตุ้นเม็ดสีที่มีอยู่ในจุดภาพชัด ซึ่งเป็นพื้นที่สีเหลืองรูปไข่ล้อมรอบโฟเวียอยู่และอยู่ใกล้กับศูนย์กลางของจอตาของดวงตา เมื่อความหนาแน่นของเม็ดสีเพิ่มขึ้น จอตาจะได้รับการปกป้องที่ดีขึ้นด้วยและความเสี่ยงของอาการจอตาเสื่อมจะลดลง แครอทมีแคโรทีนอยด์ คุณควรบริโภคแคโรทีนอยด์ หรือ เบตาแคโรทีน เพื่อสุขภาพตาที่ดี เมื่อรับประทานเข้าไป แคโรทีนอยด์จะถูกเปลี่ยนไปอยู่ในรูปวิตามินเอที่สามารถนำไปใช้ได้ ที่รู้จักกันในชื่อ เรตินอล (retinol) ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับร่างกายในการย่อย เนื่องจากเบตาแคโรทีนสำคัญต่อร่างกายในการผลิตวิตามินเอ การขาดสารนี้จะค่อยๆ นำไปสู่ปัญหาการมองเห็นในที่มืด  ด้วยเหตุผลนี้เองที่เรามักเห็นผู้ใหญ่คะยั้นคะยอ หรือบังคับให้เด็กรับประทาน แครอท มาก ๆ เมื่อรับประทานแครอทในปริมาณมาก ร่างกายจะได้รับเบตาแคโรทีนในปริมาณสูงตามไปด้วย และสารนี้จะเข้าสู่ตับทันทีเพื่อเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ แคโรทีนมีประโยชน์ต่อสายตามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยชน์ต่างๆ ต่อการทำงานของสารสีม่วงแดงชื่อ โรดอปซิน (rhodopsin) ที่อยู่ในเซลล์รูปแท่งซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกลไกการมองเห็นของคนเรา แครอท ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับสายตา แครอท ประกอบไปด้วยวิตามินและสารอาหารหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเอ ประโยชน์มากมายเหล่านี้เป็นเหตุผลที่เราควรรับประทานแครอทให้มากขึ้น เนื่องจากมันช่วยลดปัญหาของอาการเกี่ยวกับโรคตา เช่น ต้อกระจก และการเสื่อมของจอตาเนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้แล้ว […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ข้อควรรู้เกี่ยวกับอาหาร และการ ดูแลสุขภาพลำไส้

การ ดูแลสุขภาพลำไส้ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับลำไส้อื่น ๆ อาจเริ่มต้นได้จากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เนื่องจากการมีสุขภาพลำไส้ที่ดีอาจส่งผลให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรง พร้อมที่จะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่าสมบูรณ์ [embed-health-tool-bmr] ข้อควรรู้เกี่ยวกับอาหารและการ ดูแลสุขภาพลำไส้ สำหรับข้อรู้เกี่ยวกับการกินอาหารและการดูแลลำไส้ อาจมีดังนี้ ไขมันในอาหาร ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ คือ ไขมันจากอาหาร การบริโภคไขมันในปริมาณมาก อาจทำให้กรดจากน้ำดีหลั่งออกมาย่อยไขมันมากขึ้นตามไปด้วย และเมื่อมีไขมันเข้าสู่ลำไส้เพิ่มขึ้นก็จะสะสมจนหนา ส่งผลทำให้เกิดการเติบโตของก้อนเนื้อมะเร็งในลำไส้ได้ ดังนั้น ควรจำกัดปริมาณไขมันจากเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์จากนม สารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบต้าแคโรทีน ลูทีน อาจช่วยในการต่อต้านมะเร็งลำไส้ เนื่องจากทำหน้าที่ต่อสู้กับสารที่เป็นอันตรายภายในร่างกายและปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย ซึ่งแหล่งอาหารที่สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ผลไม้ ผัก ข้าว ถั่ว เนื้อสัตว์บางประเภท เช่น เป็ด ไก่ ปลา วิตามินและแร่ธาตุ วิตามินและแร่ธาตุที่มีบทบาทสำคัญในการต้านมะเร็ง มีดังนี้ กรดโฟลิค อาจมีประโยชน์ในสร้างเซลล์ใหม่และทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแข็งแรง พบได้ในผลไม้รสเปรี้ยวและผักใบเขียวเข้ม เช่น อะโวคาโด มะละกอ มะม่วง ผักโขม บร็อคโคลี่ อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม เช่น นม ชีส โยเกิร์ต ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และผักใบเขียวเข้ม เช่น เคล […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ล้างลำไส้ ด้วยวิธีธรรมชาติ อาหารเหล่านี้ช่วยคุณได้

ในปัจจุบัน อาหารส่วนใหญ่ที่เรารับประทาน มักมีส่วนผสมของ สารประกอบ สารกันบูด และสารเคมีต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการสะสมสารพิษในร่างกาย และทำให้สุขภาพแย่ลง การ ล้างลำไส้ ด้วยวิธีธรรมชาติ คือ การเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติที่ช่วยทำความสะอาดลำไส้ บทความนี้ Hello คุณหมอ มีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการบำบัดลำไส้ของคุณให้สุขภาพดีขึ้นได้ด้วยอาหาร มาฝากกัน ล้างลำไส้ สำคัญไฉน? เพราะสุขภาพลำไส้ที่ดีช่วยให้ร่างกายแข็งแรงจากภายใน โดยวิธีการบำบัดลำไส้หรือการล้างลำไส้ด้วยการรับประทานอาหารนั้นเกิดขึ้นมานานนับศตวรรษแล้ว จุดประสงค์ของการบำบัดนี้ คือ การล้างลำไส้จากสารพิษที่สะสมอยู่ในผนังลำไส้ และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้อีกด้วย การรับประทานอาหารจากธรรมชาติ จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งและโรคภัยไข้เจ็บ ส่วนอาหารที่ใช้ในการบำบัดนี้ ได้แก่ อาหารเสริมชนิดผงและชนิดน้ำ การบำบัดวิธีนี้ คุณสามารถทำได้ทั้งวิธีการรับประทานอาหารเสริม และขับสารพิษออกทางทวารหนักเพื่อล้างลำไส้ อาหารเสริมสำหรับล้างลำไส้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปและ ซูเปอร์มาร์เก็ต ประกอบด้วย ยาสวนทวาร (Enemas) ยาระบายทั้งชนิดออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของลำไส้และไม่กระตุ้น ชาสมุนไพร เอ็นไซม์ แมกนีเซียม การรักษานี้ใช้สำหรับ การ ล้างลำไส้ แต่สำหรับหลายคน วิธีการที่ดีที่สุดคือการดูแลรักษาเบื้องต้นด้วยตนเองที่บ้านด้วยวิธีธรรมชาติ อาหารที่มีกากใยสูง อาหารที่มีกากใยที่ไม่ละลายน้ำ สามารถช่วยให้ผนังลำไส้เรียบขึ้น และเร่งการเคลื่อนที่ของอุจจาระในลำไส้ และทำให้การขับถ่ายดีขึ้น อาหารที่อุดมไปด้วยกากใย ได้แก่ ผักและผลไม้สด เช่น เบอร์รี่ ลูกแพร์ แอปเปิ้ล และผักต่าง ๆ เช่น อาร์ติโชก และบร็อคโคลี ธัญพืช ถั่วและเมล็ดพืชก็อุดมไปด้วยกากใยเช่นกัน ผลิตภัณฑ์หรืออาหารที่มีส่วนผสมของโปรไบโอติก ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของโปรไบโอติก (Probiotics) […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

ขมิ้นกับข้ออักเสบ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร

หลายคนอาจสงสัยว่า ขมิ้นกับข้ออักเสบ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร โดยขมิ้นเป็นพืชล้มลุกที่มีเหง้าสีเหลืองสด มีรสชาติเผ็ดร้อนอ่อน ๆ ผสมกับความขม มักถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพร และใช้ส่วนประกอบของอาหาร ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ รวมถึงมีส่วนประกอบของสารทางเคมีที่มีชื่อว่า เคอร์คูมิน (Cur-cumin) ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบได้ [embed-health-tool-bmr] ขมิ้น คืออะไร ขมิ้น เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการนำไปใช้ประกอบอาหาร มีรสชาติเผ็ดร้อนอ่อน ๆ ผสมกับความขม ส่วนใหญ่ขมิ้นมักใช้เป็นส่วนผสมหลักในแกงต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบ เนื่องจากขมิ้นมีส่วนประกอบของสารทางเคมีที่มีชื่อว่า เคอร์คูมิน (Cur-cumin) และสารอื่น ๆ ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหรืออักเสบ ดังนั้น ขมิ้นจึงอาจใช้ประโยชน์จากขมิ้นในการรักษาโรคต่าง ๆที่มีอาการอักเสบได้ ขมิ้นกับข้ออักเสบ สัมพันธ์กันอย่างไร ในขมิ้นมีสารเคอร์คูมินซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ ซึ่งสารเคอร์คูมินอาจช่วยปิดกั้นกระบวนการทางชีวภาพที่ก่อให้เกิดการอักเสบได้ รวมถึงอาจมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันมีการตอบสนองที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ขมิ้นยังอาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันการอักเสบของข้อต่อมากกว่าลดการอักเสบของข้อต่อ และอาจช่วยบรรเทาอาการปวดข้อเข่าได้ในระยะยาว สำหรับปริมาณของขมิ้นที่ควรได้รับในแต่ละวันอยู่ที่ 500-2000 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีการรับรองอย่างเป็นทางการถึงปริมาณของขมิ้นหรือเคอร์คูมินที่ควรใช้อย่างแน่ชัด แต่ปริมาณขมิ้นที่ได้รับการศึกษาเพื่อช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ อาจมีดังนี้ โรคข้อเข่าอักเสบควรได้รับสารสกัดจากขมิ้น 500 มิลลิกรัม จำนวน 2 ครั้ง/วัน เป็นเวลา 2-3 เดือน ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลสูง ควรได้รับสารสกัดจากขมิ้น […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

10 ข้อดีของการ งดคาเฟอีน

คาเฟอีน พบได้ในชา กาแฟ น้ำอัดลม ไอศกรีม ช็อกโกแลต เป็นต้น เมื่อร่างกายได้รับคาเฟอีนจะทำให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีพลังงาน และตื่นตัว แม้จะมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า คาเฟอีนช่วยเพิ่มความจำ ลดการเกิดนิ่วในไต ช่วยในการลดน้ำหนัก แต่ก็ใช่ว่าคาเฟอีนจะมีแต่ประโยชน์ เพราะถ้าหากร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินไปก็ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน ใครที่ติดคาเฟอีนชนิดที่ว่าต้องดื่มชา ดื่มกาแฟทุกวัน Hello คุณหมออยากลองชวนคุณมา งดคาเฟอีน ดูบ้าง แล้วจะรู้ว่าข้อดีเพียบ ข้อดีของการ งดคาเฟอีน 1. งดคาเฟอีน ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น งานศึกษาวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะคนที่ดื่มกาแฟไปไม่ถึง 6 ชั่วโมงก่อนนอน จะไปรบกวนวงจรการนอนหลับ หรือรอบการนอน (sleep cycle) ส่งผลให้นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ และง่วงซึมในตอนกลางวัน คนที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่างน้ำอัดลม ชา กาแฟต่างๆ นอกจากจะนอนหลับพักผ่อนได้มากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้หลับเร็วขึ้นด้วย 2. วิตกกังวลน้อยลง ข้อดีอย่างหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ชอบดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ก็คือ คาเฟอีนช่วยทำให้กระปรี้กระเปร่า และตื่นตัว มีพลังงานทำกิจกรรมต่างๆ ต่อได้ทันที แต่ข้อเสียก็คืออาจไปกระตุ้นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาสู้หรือหนี (Fight or Flight) จนทำให้เกิดอาการวิตกกังวล ตื่นตระหนก […]


เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

10 เคล็ดลับ กินข้าวนอกบ้าน แบบสุขภาพดีที่ใช้ได้จริง

ปัจจุบันผู้ที่ห่วงใยสุขภาพ หรือกำลังควบคุมน้ำหนัก มักเลือกที่จะทำอาหารกินเองที่บ้าน เพราะสามารถควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารเองได้ ทั้งยังมั่นใจได้ด้วยว่า อาหาร ที่เรากินเข้าไปแต่ละมื้อ มีคุณค่าทางอาหารเหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการ การกินข้าวนอกบ้านจึงกลายเป็นกิจกรรมที่ผู้รักสุขภาพทั้งหลายหลีกเลี่ยง เพราะกลัวจะทำให้เสียสุขภาพ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนบางกลุ่ม เช่น พนักงานออฟฟิศ การกินข้าวนอกบ้านอาจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น เราก็สามารถ กินข้าวนอกบ้าน เพื่อสังสรรค์กับเพื่อนฝูงแบบสุขภาพดีได้ง่ายๆ เพียงทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ เคล็ดลับ กินข้าวนอกบ้าน ให้ดีต่อสุขภาพ 1. รองท้องด้วยของกินเล่นเพื่อสุขภาพ หากคุณไปถึงร้านอาหารโดยไม่กินอะไรรองท้องเลย อาจทำให้คุณหิวจัด จนเผลอสั่ง อาหาร มามากจนเกินไป ทางที่ดีคุณควรรองท้องด้วยของกินเล่นแคลอรี่ต่ำ โปรตีนสูง เช่น ผลไม้ นมพร่องมันเนย โยเกิร์ต สัก 1 ชั่วโมงก่อนถึงมื้ออาหารนอกบ้าน เพราะจะช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้นและไม่กินมากเกินไป 2. เลือกร้านอาหารที่มีเมนูหลากหลาย หากต้องไปกินข้าวนอกบ้าน คุณควรเลือกร้านอาหารที่เมนูให้เลือกหลากหลาย หรือทางที่ดีควรมีเมนูเพื่อสุขภาพ หรือเมนูแคลอรี่ต่ำให้เลือกด้วย และควรศึกษาข้อมูลร้าน หรือเมนูต่างๆ ในร้านไปล่วงหน้าผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือโทรถามทางร้านหากทำได้ 3. สั่งอาหารก่อนเพื่อนร่วมโต๊ะ โดยธรรมชาติของมนุษย์นั้น เมื่ออยู่รวมกันเป็นกลุ่ม มักจะเผลอเลียนแบบพฤติกรรมของคนอื่นโดยไม่รู้ตัว พฤติกรรมนี้สามารถเกิดขึ้นได้แทบทุกสถานการณ์ ไม่เว้นแม้กระทั่งการเลือกเมนู อาหาร การตัดสินใจของเพื่อนร่วมโต๊ะมักมีอิทธิพลกับคุณ ทำให้คุณสั่งอาหาร และมีพฤติกรรมการกินคล้ายกับคนอื่นในโต๊ะโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้น […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน