กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

การออกกำลังกายนั้นมีหลากหลายรูปแบบ หากคุณอยากอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกาย และกำลังมองหาวิธีออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวเองอยู่ หมวดหมู่ กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น ของเราช่วยคุณได้!

เรื่องเด่นประจำหมวด

กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

ท่าออกกำลังกาย บรรเทาอาการปวดหลังช่วงล่าง แบบใดช่วยได้บ้างนะ

อาการปวดหลังส่วนล่าง (Lower back pain) เป็นอาการปวดหลังที่เกิดจากการบาดเจ็บ เคล็ดขัดยอกของกล้ามเนื้อ หรืออาจจะเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวที่ผิดท่าทาง การเปลี่ยนท่านอนช่วยให้อาการปวดหลังล่างดีขึ้นได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกาย บรรเทาอาการปวดหลังล่าง และช่วยป้องกันอาการปวดหลังช่วงล่างได้ วันนี้ Hello คุณหมอ มี ท่าออกกำลังกาย บรรเทาอาการปวดหลังช่วงล่าง มาให้ได้ลองทำตามกันค่ะ อาการปวดหลังช่วงล่าง คืออะไร อาการปวดหลังล่าง (Lower back pain) คืออาการปวดที่บริเวณเอว สะโพก โดยจะมีอาการปวดหลังล่างเมื่อมีการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เคลื่อนไหวหรือยืนตัวตรงได้ยาก อาการปวดหลังล่างเกิดขึ้นจากการบาดเจ็บ กล้ามเนื้ออักเสบ เคล็ดขัดยอก ซึ่งอาการปวดหลังล่างสามารถบรรเทาได้ด้วยการ เปลี่ยนท่านอนหรือการออกกำลังกาย อาการปวดหลังช่วงล่าง เกิดจากอะไรได้บ้าง เคล็ดขัดยอก กล้ามเนื้อและเอ็นด้านหลังสามารถยืดหรือเกิดอาการฉีกขาดได้หากทำกิจกรรมมากไป ทำให้เกิดอาการปวด ตึงบริเวณหลังส่วนล่าง รวมถึงทำให้กล้ามเนื้อกระตุกได้ การพักผ่อนหรือการทำกายภาพบำบัดสามารถลดอาการเหล่านี้ได้ หมอนรองกระดูกบาดเจ็บ เมื่อหมอนรองกระดูกได้รับบาดเจ็บ หมอนรองกระดูกเคลื่อน จนกระดูกอ่อนรอบ ๆ ไปกดทับไขสันหรือรากประสาทถูกกด ถึงสาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังช่วงล่างได้ ปวดร้าวจากสะโพกร้าวลงขา อาการปวดร้าวจากสะโพกนั้น อาจเกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนจนไปกดทับเส้นประสาทที่เชื่อมระหว่างกระดูกสันหลังกับขา ส่งผลทำให้เกิดอาการปวดสะโพก เกิดการบาดเจ็บ เมื่อได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าจะหกล้ม อาการบาดเจ็บจากกีฬา หรือได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนทำให้กระดูกสันหลังเสียหาย กระดูกสันหลังหัก หมอนรองกระดูกแตก จะทำให้เกิดอาการปวดหลังจากการได้รับบาดเจ็บในทันที […]

สำรวจ กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

ลดต้นขา ทำอย่างไรให้ได้ผลแบบไม่ต้องขายฝัน

เป้าหมายในการออกกำลังกายของคุณผู้หญิงหลายคน โดยเฉพาะสำหรับสาวๆที่กำลังพยายามลดต้นขา คือ ความต้องการให้ขาเล็ก เรียวสวย เพื่อเสริมบุคลิกภาพและเวลาแต่งตัวก็ชวนมอง สาวๆหลายท่านอาจสงสัยว่า การลดไขมันเฉพาะส่วนทำได้จริงหรือไม่ แล้ววิธีลดต้นขาที่ได้ผลควรทำอย่างไร Hello คุณหมอ มีข้อมูลเกี่ยวกับการ ลดต้นขา มาฝากไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ ไขมันที่ขา มาได้อย่างไร สถาบัน  American Council on Exercise (ACE) ให้ข้อมูลว่า ผู้ชายที่มีน้ำหนักปกติจะมีปริมาณไขมันในร่างกาย (body fat) โดยเฉลี่ยร้อยละ 18-24 ขณะที่ผู้หญิงจะมีปริมาณไขมันในร่างกายโดยเฉลี่ยร้อยละ 25-31 โดยปกติแล้วไขมันในร่างกายจะกระจายอยู่ในทุกส่วนของร่างกาย แต่คุณอาจจะมีบางจุดที่มีไขมันสะสมมาก เนื่องจากพันธุกรรมที่ทำให้แต่ละคนมีรูปร่างแตกต่างกัน นอกจากนี้ไขมันที่บริเวณขา จะประกอบด้วยเซลล์ไขมันที่ต่างกัน ได้แก่ ไขมันใต้ผิวหนัง ส่วนมากจะอยู่ในบริเวณต้นขา และอยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ไขมันในกล้ามเนื้อ ไขมันกระจายตัวภายในกล้ามเนื้อ ที่มีลักษณะเหมือนกับลายหินอ่อนที่อยู่บนเนื้อสัตว์ ไขมันส่วนใหญ่ที่อยู่บริเวณต้นขาจะเป็นไขมันใต้ผิวหนัง หากคุณมีไขมันสะสมในร่างกายมาก ก็จะทำให้ทุกส่วนในร่างกายมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ด้วยการออกกำลังกาย และกินอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ไขมันในร่างกายก็จะลดลง รวมถึงไขมันที่สะสมบริเวณขาของคุณด้วย ลดไขมันเฉพาะจุดมีจริงหรือไม่ การลดไขมันในร่างกาย ทำได้โดยการเผาผลาญพลังงานจากแคลอรี่ ให้มากกว่าปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับเข้าไปในร่างกาย เมื่อร่างกายใช้พลังงานมากกว่าพลังงานที่ได้รับ น้ำหนักและไขมันก็จะลดลง แต่ร่างกายจะใช้พลังงานจากเซลล์ทั่วทั้งร่างกาย จึงหมายความว่าการลดไขมันเฉพาะจุดไม่สามารถทำได้ ยกตัวอย่างการลดไขมันเฉพาะจุดให้เห็นภาพชัดเจนก็คือ ถ้าการลดไขมันเฉพาะจุดมีจริง นิ้วมือของคุณคงไร้ไขมันและผอมบาง เนื่องจากคุณใช้นิ้วมือพิมพ์งานทั้งวัน ดังนั้น หากคุณต้องการลดไขมันเฉพาะส่วน เช่น ลดต้นขา […]


กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

การออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวาน เพื่อควบคุมอาการและทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น

หลังจากที่กระจ่างชัดแล้วว่า การออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวาน เป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเบาหวานชนิดที่หนึ่ง ชนิดที่สอง เบาหวานขณะตั้งครรภ์ แม้กระทั่งผู้เสี่ยงต่อภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) โดยในบทความนี้ของ Hello คุณหมอ จะกล่าวถึง ประเภทของ การออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยแบ่งตามแนวทางเวชปฏิบัติ ประเภทของ การออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน การออกกำลังกายแบบแอโรบิค ไม่ว่าจะเป็นเดิน วิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน การออกกำลังกายประเภทนี้ จะทำให้เพิ่มการหายใจระดับเซลล์ ซึ่งจะทำให้ได้พลังงานออกมา พลังงานพวกนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ ทั้งคาร์โบไฮเดรตและไขมัน ร่างกายจะใช้น้ำตาลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นเป็นผลให้เซลล์ร่างกายไวต่ออินซูลิน (Insulin) มากขึ้นไปด้วย หมายความว่าการออกกำลังกายนั้น ช่วยทำให้โรคเบาหวานของคุณดีขึ้น และถือเป็นการรักษาที่ต้นเหตุ เพราะว่าเบาหวานชนิดที่สองนั้น เกิดจากเซลล์ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายนำน้ำตาลไปใช้ไม่ได้เต็มที่ การใช้กล้ามเนื้อโดยรวม จากการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหรือแม้กระทั่งหลอดเลือดแข็งแรง ยืดหยุ่นมากขึ้น ผลลัพธ์ทั้งสองประการนี้ทำให้ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ การเผาผลาญที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดน้ำตาลสะสม (Hemoglobin A1C) ลดไขมัน ลดความดันโลหิต การออกกำลังกายแบบแอโรบิค จึงเป็นกิจกรรมที่แนะนำในผู้ป่วยเบาหวานทุกประเภท เพียงขอให้การออกกำลังนั้นเป็นไปอย่างพอดี เพราะหากคุณรับประทานยารักษาโรคเบาหวานอยู่ ร่วมกับการควบคุมอาหารอย่างยิ่งยวด และออกกำลังอย่างหักโหม จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขณะหลังออกกำลังกายต่ำเกินไป จนมีอาการเวียนศีรษะหรือหมดสติได้เลยทีเดียว การออกกำลังกายแบบการเกร็งกล้ามเนื้อ เช่น การออกแรงเกร็งกล้ามเนื้อกับตุ้มถ่วงน้ำหนัก หรือการออกแรงยกของ จะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ (Muscle […]


กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

การออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ที่เป็นประโยชน์ต่อโรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน เป็นโรคที่พบได้มากขึ้นเรื่อย ๆ และพบได้ในผู้ที่อายุน้อยลง สาเหตุสำคัญก็คือภาวะดื้อต่ออินซูลิน โดย ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นมา จนเป็น โรคเบาหวาน ได้ มีงานวิจัยและหลักฐานทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องที่ว่า การออกกำลังกาย จะสามารถลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งหมายความว่า ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ แต่หากท่านเป็น โรคเบาหวาน แล้วล่ะ? การออกกำลังกาย จะมีประโยชน์หรือไม่ในเมื่อเป็น โรคเบาหวาน ต้องกินยาลดน้ำตาลหรือกระทั่งฉีดอินซูลินแล้วด้วยซ้ำ? Hello คุณหมอ จะชวนมาอ่านบทความนี้ ซึ่งจะช่วยอธิบายความสัมพันธ์และความสำคัญของ การออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ว่าควรออกกำลังกายแบบใด การออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ทำได้อย่างไรบ้าง ตามแนวทางเวชปฏิบัติของ สมาคมโรคเบาหวาน สหรัฐอเมริกา ได้บรรยายถึง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เพื่อลดน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานอย่างชัดเจนว่า การออกกำลังกาย ถือเป็นหนึ่งในการรักษาหลัก และมีความสำคัญ ไม่แตกต่างจากการรับประทานยาลดน้ำตาล หรือฉีดอินซูลิน (Insulin) หากกล่าวโดยภาพรวม ผู้ป่วยเบาหวานทั้งชนิดที่ 1 และ 2 ควรออกกำลังกาย ไม่น้อยกว่า 150 นาที ต่อสัปดาห์ โดยเมื่อมีการออกกำลังกายดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ กอปรกับการควบคุมอาหาร ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ มีความแตกต่างจากผู้ป่วยเบาหวาน […]


กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

7 เคล็ดลับการลดน้ำหนัก ง่ายๆ ที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน

เราได้ยิน เคล็ดลับการลดน้ำหนัก กันมาแล้วมากมาย แต่หลายวิธีการก็อาจไม่ได้ผล หรือซ้ำร้ายอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ด้วย Hello คุณหมอ จึงได้ไปหาเคล็ดลับการลดน้ำหนักที่ทำได้ไม่ยาก แถมยังมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รับรองด้วยว่า สามารถช่วยให้คุณหุ่นฟิต ผอมเพรียวได้ดังใจ โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย เคล็ดลับการลดน้ำหนัก ง่ายๆ แต่ได้ผลจริง 1. ลดแป้งและน้ำตาล งานวิจัยชี้ว่า การลดปริมาณแป้งและน้ำตาลในมื้ออาหาร จะทำให้ไม่หิวบ่อย และกินได้น้อยลง อีกทั้งการลดแป้งและน้ำตาลยังช่วยลดระดับอินซูลินในร่างกายได้ด้วย เมื่อร่างกายมีอินซูลินต่ำ จะทำให้เผาผลาญไขมันได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่เปรียบเทียบการควบคุมน้ำหนักด้วยกินอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำกับการกินอาหารไขมันต่ำ พบว่า กลุ่มที่กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก คือกินอาหารที่แทบจะไม่มีส่วนประกอบของแป้งและน้ำตาลเลย สามารถลดน้ำหนักได้มากกว่ากลุ่มที่กินอาหารไขมันต่ำ 2. กินโปรตีน งานวิจัยพบว่า การกินอาหารที่มีโปรตีนสูง สามารถเพิ่มการเผาผลาญได้ 80-100 กิโลแคลอรีต่อวัน อีกทั้งอาหารที่มีโปรตีนสูงยังช่วยลดความอยากอาหารลงได้ 60% และลดความอยากกินของหวานตอนกลางคืนได้ 50% โปรตีนจะควบคุมการทำงานของฮอร์โมนความหิว หรือฮอร์โมนเกรลิน ทำให้เราอิ่มไว ไม่หิวบ่อย และยังมีงานวิจัยเพิ่มเติมที่ให้ข้อมูลว่า ในวัยผู้ใหญ่ วัยทำงาน การกินอาหารที่มีโปรตีนสูงในตอนเช้า จะทำให้อิ่มนานหลายชั่วโมง และไม่กินจุบจิบในระหว่างวัน ทำให้ได้รับแคลอรี่น้อยลง ซึ่งส่งผลต่อการลดน้ำหนักของเราด้วย 3. กินผักที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ผักที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เช่น บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก ปวยเล้ง มะเขือเทศ ผักคะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดขาว เป็นทั้งอาหารที่ดีต่อสุขภาพ […]


กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

ป่วยเป็นพาร์กินสัน ออกกำลังกายอย่างไรให้เหมาะสม

ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันหลายคน คงกังวลกับการออกกำลังกายว่า สามารถทำได้จริงหรือ จะทำให้อาการเลวร้ายลงไปได้หรือเปล่า ผู้ป่วย พาร์กินสัน ออกกำลังกาย ยังไงจึงจะเหมาะสม ? ความจริงแล้ว การออกกำลังกายมีความสำคัญต่อผู้ป่วยโรคนี้อย่างมาก ดังนั้น มาศึกษาวิธีการและข้อควรระวังต่อไปนี้กันค่ะ  การออกกำลังกายสำคัญกับโรคพาร์กินสันอย่างไร ข้อมูลทางการแพทย์พบว่า การที่ผู้ป่วยพาร์กินสันออกกำลังกายอย่างเป็นประจำมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะสามารถช่วยลดอาการเกร็ง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย อีกทั้งยังช่วยในการช่วยการเคลื่อนไหว ท่าทาง การทรงตัว และการเดิน นอกจากนี้การออกกำลังกาย ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบหัวใจ ระบบหลอดเลือด ระบบการหายใจ และระบบสมอง ทั้งนี้ การออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายทั่วไป หรือการออกกำลังกายที่เน้นการเพิ่มทักษะการเรียนรู้และความจำ ล้วนเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยพาร์กินสัน การตอบสนองต่อการออกกำลังกายของผู้ป่วย ถึงการออกกำลังกายส่งผลต่อดีต่อผู้ป่วยพาร์กินสันเป็นอย่างมาก แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง การตอบสนองต่อการออกกำลังกาย เป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่ง ที่อาจทำให้คนป่วยถอดใจไปเสียก่อน เนื่องจากผู้ป่วยพาร์กินสัน มักจะมีการตอบสนองต่อการออกกำลังกายที่ไม่มีรูปแบบชัดเจน ด้วยอาการของโรค ซึ่งเป็นความผิดปกติของการทำงานระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้ผู้ป่วยพาร์กินสันมีปัญหาในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ในขณะออกกำลังกายจึงมีปัญหาในการระบายความร้อน ไม่มีเหงื่อ นอกจากนี้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อ อาจทำให้ผู้ป่วย พาร์กินสัน ออกกำลังกาย ได้ลำบากเพราะความยากลำบากในการเคลื่อนไหว และใช้พลังงานในการเคลื่อนไหวมาก จึงเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และการใช้ออกซิเจนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายของผู้ป่วยพาร์กินสันลดลง  ปัจจัยที่ส่งผลในการออกกำลังกาย การออกกำลังกายในผู้ป่วยพาร์กินสัน มีปัจจัยต่างๆ มากมาย ซึ่งโดยทั่วสามารถแบ่งออกได้ 2 ลักษณะ […]


กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

ปัญหาหัวเข่า เกิดจากอะไรได้บ้าง และป้องกันได้อย่างไร

หัวเข่า เป็นข้อต่อในบริเวณที่กระดูกขาส่วนบน เชื่อมต่อกับกระดูกขาส่วนล่าง หัวเข่ามีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความยืดหยุ่น ความแข็งแรง และการทรงตัว สำหรับการยืน การเดิน การย่อตัว การกระโดด และการวิ่ง อย่างไรก็ดี มีปัญหาเกี่ยวกับหัวเข่าหลายประการที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน Hello คุณหมอมีบทความเกี่ยวกับ หัวเข่า มาให้อ่านกันค่ะ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับประเภทของ ปัญหาหัวเข่า และวิธีป้องกัน เพื่อประโยชน์ในการดูแลตัวเอง และรักษาสุขภาพของหัวเข่าให้แข็งแรงกันค่ะ ประเภทของ ปัญหาหัวเข่า คุณรู้มากน้อยแค่ไหน ปัญหาหัวเข่า มักพบได้บ่อยมาก ซึ่งเกิดขึ้นได้ในกับคนทุกวัย โดยปกติแล้ว ปัญหาเกี่ยวกับหัวเข่าเกิดจากโรคหรืออาการบาดเจ็บบางอย่าง เช่น โรคที่ทำให้หัวเข่าบาดเจ็บ ข้ออักเสบ เช่น ข้อเสื่อม ข้ออักเสบรูมาตอยด์ เกาต์ โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบยึดติด โรคสะเก็ดเงินข้ออักเสบ ข้ออักเสบรีแอคทีฟ (reactive arthritis) โรคคอนโดรมาลาเชีย (chondromalacia) เช่น โรคคอนโดรมาลาเชียของกระดูกสะบ้า (chondromalacia patellae) โรคกระดูกหัวเข่าปูด (Osgood-Schlatter) กลุ่มอาการเจ็บเส้นเอ็นรอบนอกหัวเข่า (iliotibial band syndrome) โรคออสติโอคอนไดรติส ดีสซิแคนส์ (Osteochondritis dissecans) กลุ่มอาการพลิกา (plica syndrome) อาการบาดเจ็บเรื้อรัง เป็นอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ในระยะเวลานาน ประเภทของอาการบาดเจ็บ ได้แก่ […]


กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

ประโยชน์สุขภาพทั้งกายและใจที่ได้จาก การชกมวย

มวย ไม่ว่าจะเป็นมวยสากลหรือมวยไทย เป็นการออกกำลังกายที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน แม้แต่กระทั่งในหมู่ผู้หญิง เราก็ได้เห็นซูเปอร์โมเดลหลายคน อย่างเช่น คาร์ลี่ คลอส จีจี้ ฮาดิด ต่างก็หันมาชกมวยเพื่อเป็นการออกกำลังกาย แน่นอนว่ามันมีเหตุผลดีๆ หลายอย่างที่ทำให้การออกกำลังกายชนิดนี้ได้รับความนิยม และอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณต้องกันมาออกกำลังกายด้วยวิธีนี้กันด้วย ทำความรู้จักกับ “มวย” มวยเป็นศิลปะการต่อสู้อย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับคาราเต้หรือยูโด ซึ่งต่อมาต่างก็ได้รับการพัฒนามาเป็นกีฬา จนกระทั่งได้รับการบรรจุเข้าเป็นชนิดกีฬาในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และในปัจจุบัน มวยก็ถูกนำมาใช้เป็นรูปแบบการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ที่ดูจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ การชกมวยในรูปแบบของการออกกำลังกาย มีทั้งการชกมวยแบบ “มวยสากล” ที่ใช้เพียงแค่หมัด และมวยในรูปแบบที่เรียกว่า “คิกบ็อกซิ่ง (Kickboxing)” หรือมวยที่ใช้ทั้งมือและเท้าประกอบกัน รวมถึง “มวยไทย” ที่เป็นมวยอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งใช้มือและเท้า และในขณะเดียวกันก็ใช้ส่วนอื่นของร่างกาย เช่น เข่า ศอก ร่วมด้วย ซึ่งดูเหมือนว่า ในขณะนี้ การชกมวยในรูปแบบของคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย กำลังหลายมาเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ด้วยประโยชน์สุขภาพในหลายๆ ด้าน “มวย” เหมาะกับใคร การออกกำลังกายด้วยการชกมวย หรือคิกบ็อกซิ่ง ไม่ใช่การต่อสู้ ซึ่งสามารถทำให้เกิดความเจ็บปวดและการบาดเจ็บ แต่เป็นการเอาท่าทางแบบต่างๆ ของมวย มาปรับใช้เป็นท่าทางในการออกกำลังกาย เช่น การใช้หมัดแบบต่างๆ อย่างการแย็บ อัพเปอร์คัท หรือฮุค […]


กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

วิ่ง ยังไงให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อกระดูกของคุณ

การ วิ่ง ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ให้ประโยชน์แก่สุขภาพอย่างกว้างขวาง และหนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญที่สุดก็คือ การสร้างความแข็งแรงให้แก่กระดูก สำหรับในบทความนี้ Hello คุณหมอ จะมาอธิบายรายละเอียดในเรื่องนี้กัน ว่าการวิ่งช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร การวิ่งทำให้กระดูกของคุณแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร เหตุผลที่ถือว่า การวิ่งเป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง ก็เพราะแรงกดที่เกิดกับกระดูกและข้อต่อของเราในขณะวิ่งนั้นมากกว่าการออกกำลังกายอย่างอื่นเป็นอย่างมาก ทุกย่างก้าวในการวิ่งของคุณ เป็นการสร้างแรงกดอย่างมหาศาลต่อกระดูกของคุณทุกครั้งที่เท้าของคุณกระทบกับพื้น และกระดูกนั้นเป็นเซลล์ที่มีชีวิต จึงสามารถตอบสนองต่อแรงกดได้ ด้วยการทำตัวเองให้แข็งแรงขึ้น เพื่อที่จะได้สามารถรองรับร่างกายทั้งหมดของเราได้ อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งหมายความว่าการวิ่งนั้นก็เป็นวิธีในการทำให้กระดูกของคุณแข็งแรงขึ้นเช่นกัน การวิ่งเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก แรงกระแทกจากการวิ่ง ยังส่งผลต่อความหนาแน่นของมวลกระดูก ซึ่งความหนาแน่นนี้จะขึ้นอยู่กับแร่ธาตุ ที่มีอยู่ในกระดูกของคุณ ผู้ที่มีความหนาแน่นของมวลกระดูกต่ำ เสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุน หรือกระดูกบาง ซึ่งเป็นอาการที่กระดูกสูญเสียความแข็งแรง และอาจเกิดการแตกหักได้ง่าย ในขณะที่กิจกรรมที่มีแรงกระแทกต่ำ เช่น การเดิน มีผลน้อยมากต่อความหนาแน่นของมวลกระดูก (อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าจะไม่มีผลเลย หากคุณออกกำลังกายด้วยการเดิน ทำต่อไป แต่อาจจะสลับด้วยการวิ่งเพิ่มขึ้นมา) แต่การวิ่งกลับสามารถเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกได้ อย่างมีนัยสำคัญ การเริ่มต้นวิ่งตั้งแต่อายุยังน้อย จึงเป็นวิธีการที่ดี ในการกระตุ้นการสร้างมวลกระดูก ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุนได้ในอนาคต ระยะทางที่เหมาะสมสำหรับการวิ่ง ระยะทางสำหรับการวิ่งที่แนะนำว่าดีต่อมวลกระดูก คือ 20-30 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ ไม่แนะนำให้วิ่งมากกว่านี้ เนื่องจากการออกกำลังหนักหรือมากเกินไป อาจเพิ่มระดับคอร์ติซอล (Cortisol) ในเลือด ซึ่งระดับคอร์ติซอลที่มากเกินไปนี้ สามารถทำลายเนื้อเยื่อกระดูกได้ ผลจากการศึกษายืนยันด้วยว่า นักวิ่งที่วิ่งมากถึงสัปดาห์ละ 90 กิโลเมตรแท้ที่จริงแล้ว […]


กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

วิ่งตอนเช้า กับหลากหลายข้อดีที่คุ้มค่าสำหรับการตื่นเช้า

การวิ่ง..เป็นหนึ่งในรูปแบบการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก ไม่เพียงแต่จะเป็นวิธีการละลายไขมันในร่างกายได้ดีแล้ว ยังช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง และทำให้คุณสุขภาพดีอยู่เสมอ ถึงแม้คุณจะได้รับประโยชน์จากการวิ่งออกกำลังกายได้ทุกที่ทุกเวลา แต่การ วิ่งตอนเช้า ก็อาจจะมีประโยชน์เพิ่มเติมขึ้นมาเล็กน้อย โดยเฉพาะในเรื่องของจิตใจ และนี่คือข้อดีของการวิ่งตอนเช้าที่ Hello คุณหมอคัดสรรมาฝากกัน วิ่งตอนเช้า ช่วยลดความดันเลือด การวิ่งในตอนเช้า เป็นวิธีในการสร้างเรื่องดีๆ ต่อความดันเลือดของคุณได้ การศึกษาวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ โดย ดร.สก็อต คอลเลียร์ ได้แสดงให้เห็นถึง การลดลงของความดันเลือดอย่างมีนัยสำคัญ ในกลุ่มผู้สูงอายุที่ออกกำลังกายในตอนเช้า เทียบกับกลุ่มที่ออกกำลังกายในตอนเย็น ผลกระทบนี้เชื่อกันว่า เป็นผลที่เกิดขึ้นในระยะยาว ตราบเท่าที่คนๆนั้น ยังคงออกกำลังกายอย่างเป็นกิจวัตรต่อเนื่องไปเรื่อยๆ วิ่งตอนเช้าสร้างความสดชื่นไปตลอดวัน การวิ่งเพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ก็ถือเป็นวิธีดีๆ ในการเริ่มต้นวันใหม่ของเราแล้ว แต่ถ้าคุณค่อนข้างมีความเครียดสูง จากการทำงานและชีวิตส่วนตัว การวิ่งก็ยิ่งให้ประโยชน์กับคุณเป็นอย่างมาก ด้วยการทำให้จิตใจคุณได้ผ่อนคลาย ทำให้รู้สึกมีพลังในแง่บวก และบรรเทาความเครียดได้เป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าคุณหันมาวิ่งในตอนเช้า คุณก็จะได้ประโยชน์ดีๆ เหล่านี้ เพื่อเริ่มต้นวันใหม่ของคุณไปเต็มๆ แทนที่จะแบกความเครียดไปเริ่มต้นวันใหม่ มีผลวิจัยที่รายงานว่า การวิ่งในตอนเช้านั้น ทำให้คนเรามองโลกในแง่ดีมากขึ้น และมีสมาธิที่จะมุ่งมั่นกับเป้าหมายได้มากกว่า นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่า อากาศเย็นสบายในยามเช้า ทำให้เรารู้สึกสดชื่นไปได้ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะถ้าเราวิ่งในสวนสาธารณะ ที่ปราศจากฝุ่นควันและไอเสียจากรถยนต์ ร่างกายก็จะได้รับออกซิเจน ซึ่งเป็นที่ต้องการในระหว่างการวิ่งได้อย่างเต็มที่ การหายใจเอาอากาศที่สดชื่นเข้าไปอย่างเต็มปอด เป็นสิ่งดีๆ ที่ร่างกายจะต้องขอบคุณเรา และถ้าแถวบ้านคุณไม่มีสวนสาธารณะ การออกวิ่งบนถนนในยามเช้าตรู่ […]


กิจกรรมออกกำลังกายแบบอื่น

ความเสี่ยงต่อสุขภาพของ การวิ่งออกกำลังกาย ที่คุณต้องระวัง

ในขณะที่คนจำนวนมากเลือกที่จะออกกำลังกายด้วย การวิ่ง เพราะมีประโยชน์สุขภาพมากมาย แต่มีคนอีก 1 จำพวก ที่รู้ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการวิ่ง ซึ่งทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นถ้าคุณชอบ การวิ่งออกกำลังกาย ก็ไม่ควรลืมคิดถึงความเสี่ยงเหล่านี้เอาไว้ด้วย ความเสี่ยงต่อสุขภาพของ การวิ่งออกกำลังกาย การวิ่งออกกำลังกาย กับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน มีการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การวิ่งอาจส่งผลต่อฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพทางเพศของผู้ชายเป็นอย่างมาก โดยการวิ่งอาจทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเพิ่มมากขึ้นจนเสียสมดุล โดยอาจส่งผลต่ออวัยวะเกือบทุกส่วนในร่างกายของเรา การวิ่งแบบเบา ๆ ในระยะไม่ยาวนักในแต่ละสัปดาห์ เป็นเรื่องดีต่อสุขภาพของเรา แต่ถ้ามากกว่านั้น ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ แต่ทุกคนนั่นมีสภาพร่างกายไม่เหมือนกัน จึงไม่อาจกำหนดแน่ชัดได้ว่า การวิ่งเท่าไหร่ถึงจะถือว่ามากเกินไปสำหรับแต่ละคน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณควรสังเกตถึงข้อจำกัดของตัวเอง และอย่ากดดันร่างกายตัวเองมากจนเกินไป ในอีกทางหนึ่ง โภชนาการที่เหมาะสม รวมถึงการใช้อาหารเสริม ก็อาจจะช่วยคุณในการสร้างสมดุลให้แก่ร่างกายได้ การวิ่ง ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ การศึกษาที่นำโดย ดร.เซน พี.หลิน แห่งมหาวิทยาลัย Mingdao ในไต้หวัน ได้เชื่อมโยงการวิ่งกับระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง โดยเขาระบุว่าการวิ่งในระยะสั้น ช่วยเพิ่มการทำงานของภูมิคุ้มกัน แต่การวิ่งระยะยาว อาจรบกวนการทำงานหลายอย่างของระบบภูมิคุ้มกันได้ ผลจากการศึกษาชิ้นนี้ชี้ว่า คนที่วิ่งมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคต่าง ๆ เพิ่มขึ้น แต่นักวิ่งอาชีพมักไม่ได้รับผลกระทบนี้ เนื่องจากพวกเขาใช้ตารางการวิ่งที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ รวมถึงอาการการกิน ที่เหมาะกับความต้องการของร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเรานักวิ่งมือสมัครเล่นส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้ ท่าวิ่งที่ผิดทำให้เกิดอันตรายได้ การวิ่งด้วยเทคนิคที่ผิดแค่หนึ่งหรือสองครั้ง อาจไม่ทำให้ร่างกายคุณเสียหายในทันทีทันใด แต่ตรงนั้นแหละที่ทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม