backup og meta

RSV คือ ไวรัสอาร์เอสวี สาเหตุการติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็ก

RSV คือ ไวรัสอาร์เอสวี สาเหตุการติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็ก

RSV คือ เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนบริเวณจมูกและคอ และในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างบริเวณปอด มักแพร่ระบาดในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว หรือประมาณเดือนกรกฎาคม-มกราคม โดยทั่วไปแล้ว RSV จะทำให้เด็กมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ มีเสมหะ มีไข้ กินนมและอาหารได้น้อยลง หายใจลำบาก อาการแสดงจะปรากฏหลังได้รับเชื้อประมาณ 2-5 วัน และอาจมีอาการประมาณ 5-7 วัน ส่วนใหญ่สามารถหายได้เอง แต่หากเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หลอดลมฝอยอักเสบ ปอดอักเสบ (ปอดบวม) โดยเฉพาะในเด็กที่คลอดก่อนกำหนดซึ่งมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือในเด็กที่มีโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือปอด ก็อาจเสี่ยงเกิดภาวะหายใจล้มเหลวและถึงขั้นเสียชีวิตได้

[embed-health-tool-vaccination-tool]

RSV คือ อะไร

อาร์เอสวี หรือ RSV คือ Respiratory Syncytial Virus เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ พบได้บ่อยในเด็กเล็ก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกวัย เด็กส่วนใหญ่อาจติดเชื้อ RSV อย่างน้อย 1 ครั้งก่อนอายุถึง 2 ขวบ และอาจติดเชื้อซ้ำได้อีกในภายหลัง ส่วนใหญ่แล้วอาการจะรุนแรงที่สุดในช่วง 3-5 วันแรกที่มีอาการแสดง ก่อนอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปในที่สุด

ทั้งนี้ เด็กที่คลอดก่อนกำหนดหรือมีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคปอด มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ถือเป็นกลุ่มที่เสี่ยงเกิดอาการของการติดเชื้อ RSV รุนแรงกว่าคนทั่วไป และเสี่ยงเสียชีวิตได้ อีกทั้งการติดเชื้อ RSV ตอนเป็นทารกยังอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหอบหืดได้ในภายหลัง คุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัวที่มีเด็กเล็กในบ้านจึงควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสตัวเด็ก หลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กสัมผัสกับควันบุหรี่ และควรดูแลไม่ให้คนแปลกหน้าหรือคนในครอบครัวที่อาจนำเชื้อมาติดเด็กสัมผัสกับตัวเด็ก หรือจูบหอมเด็กเล็ก เพื่อลดความเสี่ยงที่เด็กจะติดเชื้อไวรัสชนิดนี้และโรคอื่น ๆ

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อ RSV

เชื้อ RSV เป็นเชื้อที่ติดต่อผ่านการสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ สามารถแพร่กระจายได้อย่างง่าย เนื่องจากเชื้อที่ปนเปื้อนมากับสารคัดหลั่งสามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวต่าง ๆ ต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง โดยจะมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวแข็ง เช่น โต๊ะ ราวเปลเด็ก ได้นานหลายชั่วโมง และอาจมีชีวิตสั้นกว่าหรือมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 30 นาทีเมื่ออยู่บนพื้นผิวที่อ่อนนุ่ม เช่น ทิชชู่ มือ เมื่อเด็กสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อแล้วสัมผัสกับตา ปาก จมูก หรือสูดหายใจรับละอองน้ำลายจากผู้ป่วยที่ไอหรือจามเข้าไป ก็อาจทำให้ติดเชื้อได้

ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้การติดเชื้อ RSV รุนแรงขึ้น มีดังนี้

ปัจจัยเสี่ยงในเด็ก

  • เด็กมีอายุน้อยกว่า 12 สัปดาห์
  • เด็กคลอดก่อนกำหนดหรือเด็กมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำ โดยเฉพาะเด็กที่เกิดก่อนอายุครรภ์ครบ 29 สัปดาห์
  • เด็กคลอดก่อนกำหนดและเป็นโรคปอดเรื้อรัง
  • เด็กเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิด
  • เด็กมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอจากการรักษาโรคหรือจากโรคที่เป็นอยู่
  • เด็กมีระบบประสาทและกล้ามเนื้อผิดปกติ
  • เด็กที่แม่สูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์
  • เด็กได้รับควันบุหรี่มือสอง
  • เด็กเป็นภูมิแพ้และโรคผิวหนังอักเสบ (Eczema)
  • เด็กไม่ได้กินนมแม่
  • เด็กใช้ชีวิตประจำวันในที่คนพลุกพล่านหรือมีเด็กจำนวนมาก เช่น สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียนเตรียมอนุบาล หรืออยู่ในสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด

ปัจจัยเสี่ยงในผู้ใหญ่

  • มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าปกติ
  • เป็นผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจหรือโรคปอด

สัญญาณของการติดเชื้อ RSV

อาการที่เป็นสัญญาณของการติดเชื้อ RSV อาจมีดังนี้

  • คัดจมูกหรือน้ำมูกไหล
  • ปวดศีรษะเล็กน้อย
  • เจ็บคอ
  • ไอ
  • มีไข้
  • มีเสมหะจำนวนมาก
  • ไม่สามารถกินหรือดื่มได้
  • รู้สึกไม่สบายตัว
  • หายใจมีเสียงหวีด
  • หายใจเร็วกว่าปกติ หรือหายใจเหนื่อยหอบ

ภาวะแทรกซ้อนของการติดเชื้อ RSV

การติดเชื้อ RSV อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี ดังต่อไปนี้

  • โรคหลอดลมฝอยอักเสบ (Bronchiolitis) เกิดจากการติดเชื้อที่หลอดลมฝอย พบได้บ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี อาจทำให้เด็กจาม น้ำมูกไหลหรือคัดจมูก ไอ หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด ร้องไห้งอแง โดยทั่วไปอาการมักไม่รุนแรงและสามารถรักษาให้หายได้เองที่บ้าน
  • โรคปอดบวม (Pneumonia) เกิดจากการติดเชื้อบริเวณปอดข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง เมื่อเชื้อลุกลามไปยังระบบทางเดินหายใจส่วนล่างจะทำให้เด็กมีอาการหายใจเร็วกว่าปกติ และอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้

วิธีรักษา RSV

การติดเชื้อ RSV เป็นการติดเชื้อไวรัสจึงไม่มียารักษาเฉพาะที่สามารถกำจัดไวรัสออกจากร่างกายได้ วิธีรักษา RSV โดยทั่วไปเป็นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ ดังนี้

  • ให้สารน้ำ ให้เด็กกินนมมากขึ้น สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ควรให้ดื่มน้ำมาก ๆ ด้วย เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไปและป้องกันการเกิดภาวะขาดน้ำ
  • กำจัดเสมหะ คุณพ่อคุณแม่สามารถดูดน้ำมูกในจมูกของเด็กออกได้ด้วยลูกยางชนิดนิ่มแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อช่วยให้ทางเดินหายใจของเด็กโล่งและเด็กหายใจได้สะดวกขึ้น
  • ให้ออกซิเจนและใช้เครื่องช่วยหายใจ ในกรณีอาการรุนแรง อาจจำเป็นต้องให้ออกซิเจนหรือใช้เครื่องช่วยหายใจเพื่อช่วยให้เด็กหายใจได้ตามปกติ

เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ

หากเด็กมีอาการคล้ายเป็นหวัดร่วมกับมีอาการดังต่อไปนี้ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ RSV ระดับรุนแรง ควรพาไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง

  • มีอาการของโรคหลอดลมฝอยอักเสบ เช่น หายใจเร็วกว่าปกติ รูจมูกบานและหันศีรษะไปมาขณะหายใจ หายใจมีเสียงหวีด
  • มีอาการของภาวะขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง ถ่ายปัสสาวะน้อย
  • หยุดหายใจหรือหายใจลำบาก
  • ผิวหนัง ริมฝีปาก หรือลิ้นขาวซีดหรือเปลี่ยนเป็นสีเทา
  • เซื่องซึมมากจนผิดสังเกต

นอกจากนี้ เด็กที่ติดเชื้อ RSV อย่างรุนแรงยังเสี่ยงติดเชื้ออื่น ๆ เช่น การติดเชื้อที่หู หากมีอาการต่อไปนี้ก็ควรรีบพาเด็กไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยอาการและรับการรักษาอย่างเหมาะสมเช่นกัน

  • อาการของการติดเชื้อ RSV แย่ลง หรือไม่ดีขึ้นหลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์
  • เด็กนอนไม่ค่อยหลับ มีอาการงอแง เจ็บบริเวณหน้าอก ดึงหูตัวเอง หรือมีน้ำไหลออกจากหู
  • เด็กอายุน้อยกว่า 12 สัปดาห์ (3 เดือน) มีไข้ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป
  • เด็กทุกช่วงวัยมีไข้ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไปบ่อยครั้ง

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Respiratory Syncytial Virus (RSV). https://www.webmd.com/lung/rsv-in-babies#:~:text=RSV%20Treatments-,What%20Is%20Respiratory%20Syncytial%20Virus%20(RSV)%3F,nothing%20more%20than%20a%20cold. Accessed January 9, 2023

RSV in Infants and Young Children. https://www.cdc.gov/rsv/high-risk/infants-young-children.html. Accessed January 9, 2023

Symptoms and Care. https://www.cdc.gov/rsv/about/symptoms.html. Accessed January 9, 2023

Respiratory Syncytial Virus (RSV) in Children. https://www.stanfordchildrens.org/en/topic/default?id=respiratory-syncytial-virus-rsv-90-P02409. Accessed January 9, 2023

Respiratory Syncytial Virus Infection (RSV). https://www.cdc.gov/rsv/about/transmission.html. Accessed January 9, 2023

RSV: When It’s More Than Just a Cold. https://www.healthychildren.org/English/health-issues/conditions/chest-lungs/Pages/RSV-When-Its-More-Than-Just-a-Cold.aspx. Accessed January 9, 2023

Bronchiolitis. https://www.nhs.uk/conditions/bronchiolitis/#:~:text=Bronchiolitis%20is%20a%20common%20chest,affect%20people%20of%20all%20ages. Accessed January 9, 2023

เวอร์ชันปัจจุบัน

02/03/2023

เขียนโดย ศุภานิช สุริโย

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงสุสิตา หวังจิรนิรันดร์

อัปเดตโดย: Duangkamon Junnet


บทความที่เกี่ยวข้อง

โรคติดเชื้อในเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่พึงระวัง

วัคซีน เด็ก ที่ควรได้รับ และเคล็ดลับไม่ให้ลูกงอแงตอนรับวัคซีน


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

แพทย์หญิงสุสิตา หวังจิรนิรันดร์

พ่อแม่เลี้ยงลูก · โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร


เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 02/03/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา