อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะในนักกีฬา ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจเสี่ยงเป็น โรคเข่าปูด โดยไม่รู้ตัว บทความนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับโรคเข่าปูดให้มากขึ้น จะมีสาเหตุ อาการ และวิธีการป้องกันอย่างไร ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลยค่ะ
ทำความรู้จักโรคเข่าปูด (Osgood-Schlatter’s Disease)
โรคเข่าปูด (Osgood-Schlatter’s Disease) เป็นภาวะที่ทำให้ใต้หัวเข่ามีอาการปวด บวม ซึ่งเกิดจากแรงดึงของเส้นเอ็นกระดูกที่ยึดติดกับสะบ้าหัวเข่าและด้านบนของกระดูกหน้าแข้ง ส่งผลให้กระดูกหน้าแข้งอักเสบ
อย่างไรก็ตาม เข่าปูด มักพบในเด็กผู้ชาย ที่มีอายุระหว่าง 10-15 ปี ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องวิ่งและกระโดดเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว เช่น กีฬาวิ่ง ฟุตบอล บาสเก็ตบอล บัลเลต์ เป็นต้น
โรคเข่าปูด มีสาเหตุและอาการอย่างไรบ้าง?
เข่าปูด มักเกิดขึ้นขณะเล่นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการวิ่ง การกระโดด การงอ เป็นต้น ขณะที่เรากำลังวิ่ง กล้ามเนื้อขาจะหดตัว ส่งผลให้เอ็นตรงที่ยึดติดกับลูกสะบ้าหัวเข่าตึงรั้งกระดูกใต้เข่า ทำให้กระดูกบริเวณนั้นเกิดการแตกร้าวขึ้น รวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- อายุ เพศชายอายุระหว่าง 12-14 ปี เพศหญิงอายุ 10-13 ปี
- เพศ พบได้บ่อยในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง
- กีฬา ภาวะนี้มักเกิดขึ้นกับกีฬาที่เกี่ยวข้องกับการวิ่ง การกระโดด
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงข้างต้น มักส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดเข่า เข่าบวม และมักรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่คุกเข่า วิ่ง กระโดด รวมถึงการเดินขึ้นในที่สูงอย่างการขึ้นเขา หรือขึ้นบันได
นักกีฬาควรรู้! เป็นโรคเข่าปูดสามารถเล่นกีฬาได้หรือไม่
โรคเข่าปูดไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา หรือผ่าตัด อาการปวดจะค่อย ๆ หายไปเองเมื่อกระดูกหยุดการเจริญเติบโต สำหรับนักกีฬาที่เป็นโรคเข่าปูดไม่ต้องกังวลใจไป เพราะสามารถทำกิจกรรมเล่นกีฬาได้อย่างปกติ โดยมีเคล็ดลับดังต่อไปนี้