อาการคนเป็นเบาหวาน อาจสังเกตได้จากมีอาการปัสสาวะบ่อย หิวน้ำบ่อย รู้สึกอ่อนเพลีย หากไม่รีบมาพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาหรือควบคุมระดับน้ำตาลให้ดีอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น เบาหวานขึ้นตา เส้นประสาทเสื่อม ไตวาย โรคหัวใจและหลอดเลือด ที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงควรหมั่นสังเกตสุขภาพของตนเอง หากมีความเสี่ยงหรืออาการที่เข้าข่ายว่าอาจจะเป็นสัญญานของโรคเบาหวาน ควรรีบเข้ารับการตรวจคัดกรอง เเละพบคุณหมอเพื่อให้การรักษาควบคุมโรครเบาหวานและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต
[embed-health-tool-bmi]
เบาหวานเกิดจากอะไร
โรคเบาหวานมีสาเหตุหลัก ๆ 2 ประการ คือ ตับอ่อนผลิดฮอร์โมนอินซูลินได้ลดลง ซึ่งฮอร์โมนอินซุลินนี้มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล เมื่อตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ลดลง จึงเกิดเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 สำหรับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เกิดจากเซลล์ในร่างกายมีภาวะดื้อต่ออินซูลินจึงทำให้เเม้ตับอ่อนจะสามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอแต่ร่างกายไม่สามารถใช้งานอินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงตามมานอกจากนี้ สำหรับคุณเเม่ตั้งครรภ์ รกจะผลิตหลาย ๆ ชนิดเพิ่มมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการเจริยเติบโตของทารก เเต่ฮอร์โมนกลุ่มนี้มีผลต้านกับอินซูลินของคุณเเม่จึงส่งผลให้คุณเเม่บางท่านมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นและเกิดเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
อาการคนเป็นเบาหวาน มีอะไรบ้าง
อาการคนเป็นเบาหวาน คือ อาการที่เกิดจากการที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง รวมทั้งอาจเป็นอาการที่เกิดจากภาวะเเทรกซ้อนที่เกิดตามมาเนื่องจากปล่อยให้มีระดับน้ำตาลสูงเป็นระยะเวลานาน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเเรกที่เริ่มเป็นเบาหวาน หรือ มีระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงนัก จะไม่มีอาการเเสดงใด ๆ ให้สังเกตอาการของโรคทั้งเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 ดังนี้
- รู้สึกเหนื่อยล้า เนื่องจากไม่สามารถใช้พลังงานจากน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงส่งผลให้ร่างกายขาดพลังงาน เหนื่อยล้า และอ่อนเพลีย
- กระหายน้ำมากและปัสสาวะบ่อย เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินเกณฑ์ ไตจะขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ จึงส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยขึ้นและกระหายน้ำมากขึ้นตามมา
- ตาพร่ามัว หากปล่อยให้มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานอาจเกิดภาวะเบาหวานขึ้นตา ทำให้จอประสาทตาเสือม การมองเห็นภาพจึงผิดปกติไป
- ริมฝีปากแห้ง ผิวแห้ง เนื่องจากร่างกายเสียน้ำไปทางปัสสวะเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้นจึงทำให้ริมฝีปากแห้ง ผิวแห้ง เกิดอาการคันเเละผิวระคายเคืองได้ง่ายปัญหาผื่นเชื้อรา มักพบในบริเวณที่อับชื้นเช่น ซอกรอยพับใต้หน้าอก ซอกนิ้ว ขาหนีบ อวัยวะเพศ เพราะเนื่องจากเบาหวานที่ควบคุมไม่ดีจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เชื้อที่บริเวณผิวหนังเจริญเติบโตได้ดี
- แผลหายช้า เมื่อมีน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน จะส่งผลให้เส้นเลือดเเละเส้นประสาทเสียหาย ทำให้การไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะส่วนปลายบกพร่องไป ส่งผลให้การฟื้นฟูเซลล์บริเวณแผลช้าลง ชาโดยเฉพาะบริเวณปลายมือและเท้า เกิดจากเมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานจะทำให้เส้นประสาทเสื่อมลง โดยมักเกิดกับเส้นประสาทบริเวณส่วนปลายก่อน เช่น ปลายเท้า ปลายมื้อ จึงทำให้เกิดอาการชาที่บริเวณดังเกล่า
- น้ำหนักลด เมื่อปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ จะส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดเป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากกระบวนการตอบสนองเเละหลั่งอินซูลินบกพร่องไป ร่างกายจึงจำเป็นต้องเผาผลาญไขมันรวมไปถึงกล้ามเนือเพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานแทน ส่งผลให้มีน้ำหนักลดลงอย่างกะทันหันได้
อาการภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ คือ ภาวะที่ผู้ที่เป็นเบาหวานมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร เป็นภาวะที่อาจพบได้หากรับประทานยาหรือฉีดอินซูลินไม่สัมพันธ์กับปริมาณอาหาร เช่นรับประทานอาหารผิดเวลา รับประทานอาหารน้อยกว่าปกติ มีกิจกรรมที่ต้องออกเเรง หรือ ออกกำลังกายหนักกว่าปกติ รับประทานยา/ฉีดอินซูลินเกินขนาด โดยอาจสังเกตอาการได้ดังนี้
- เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ
- รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเเรงา
- เหงื่อออกมาก มือสั่น ตัวเย็น รู้สึกกระวนกระวาย
- รู้สึกหิว/โหยมากผิดปกติ
- มีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว
- รู้สึกเสียวซ่าและชาบริเวณริมฝีปาก ลิ้น และแก้ม
- ตาพร่า มองเห็นภาพเบลอ หรือ คล้ายจะเป็นลม
- ซึม หมดสติ ชัก
อาการของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (ควบคุมเบาหวานไม่ดี)
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เกิดขึ้นเมื่อได้รับน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายมากเกินกว่ากระบวนการจัดการของเซลล์และอินซูลินในร่างกายที่จะจัดการได้ทัน ซึ่งอาจมาจากการใช้อินซูลินหรือรับประทานยาลดน้ำตาลในเลือดไม่ถูกวิธี ขาดการออกกำลังกาย บริโภคอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตมาก/บ่อย เช่น ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอาจเริ่มแสดงอาการเมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร โดยอาจมีอาการดังนี้
- กระหายน้ำบ่อย
- ปัสสาวะบ่อย
- ตาพร่ามัว
- น้ำหนักลด
- หิวบ่อย
- รุ้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเเรง
- แผลหายช้า อาจมีการติดเชื้อราได้ง่ายขึ้น เช่น ผื่นเชื้อราที่ผิวหนัง ตกขาวจากติดเชื้อราที่ช่องคลอด
อาการคนเป็นเบาหวาน ในระดับโคม่า
อาการคนเป็นเบาหวานในระดับโคม่า มีสาเหตุมาจากผู้ป่วยปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานโดยไม่เข้ารับการรักษาหรือไม่ปฏบัติตามแผนการรักษาของคุณหมอ ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายมากที่สุด และควรสังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้น ดังต่อไปนี้
- ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 600 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- มีไข้สูงเกินกว่า 38 องศาเซลเซียส
- ปากแห้ง
- กระหายน้ำมาก
- ผิวแห้ง ไม่มีเหงื่อออก
- สูญเสียการมองเห็น
- ลมหายใจมีกลิ่นเหมือนน้ำยาล้างเล็บ
- หายใจหอบ หายใจเร็ว
- อาการชัก เป็นลมหมดสติ
วิธีดูแลตัวเองสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน
เมื่อเป็นเบาหวานสามารถดูแลตนเองเบื้องต้นได้ดังนี้
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น ใช้ยารักษาเบาหวานหรือฉีดอินซูลินอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย
- หมั่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำและจดบันทึกค่ารัะดับน้ำตาล เพื่อเป็นข้อมูลให้กับคุณหมอเพิ่มเติมเมื่อถึงกำหนดนัดหมายครั้งถัดไป
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ผักเเละผลไม้ที่ใยอาหารสูง ธัชพืช อาทิเช่น ปลาแซลมอน แตงกวา ผักคะน้า มะเขือเทศ แครอท กะหล่ำปลี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ส้ม อัลมอนด์ ถั่วเหลือง เมล็ดฟักทอง
- หลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งขัดสี น้ำตาล รวมทั้งอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารแปรรูป มันฝรั่งทอด แพนเค้ก วาฟเฟิล โดนัท เค้ก คุกกี้ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เพราะจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ โดยทั่วไปเเล้ว ควรดื่มน้ำเปล่าวันละอย่างน้อย 8 แก้ว แต่ในผู้ที่เป็นเบาวหวานแล้วยังไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในได้ดี ร่างกายจะขับน้ำตาลส่วนเกินออกทางปัสสาวะ จึงทำให้เสียน้ำมากกว่าสภาวะปกติ จึงยิ่งควรดื่มน้ำทดเเทนเพิ่มมากขึ้น
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 วัน/สัปดาห์ เพื่อช่วยลดภาวะดื้ออินซูลิน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดโดยอาจเริ่มจากการเดินเร็ว วิ่งเหยาะ ๆ วิ่งบนลู่วิ่ง ว่ายน้ำ หรือจะเป็นเพิ่มการทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวร่างงกายในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น เช่น ทำงานบ้าน พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น ทำสวน สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหอบ โรคหัวใจ ปัญหาข้อต่อ แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติม เพื่อรับคำแนะนำในการออกกำลังกายที่เหมาะสม