ถ้าคุณกำลัง ออกกำลังกายลดน้ำหนัก ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ แต่กลับไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ร่างกายของคุณก็อาจอยู่ในช่วงไม่ตอบสนองต่อการออกกำลังกายแล้วก็ได้ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะ Hello คุณหมอได้หาข้อมูลถึงสาเหตุและวิธีแก้ไขมาให้คุณอ่านแล้ว
สาเหตุที่คุณ ออกกำลังกายลดน้ำหนัก แต่น้ำหนักไม่ยอมลดสักที
คุณออกกำลังกายเหมือนเดิมทุกวัน
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คุณเปลี่ยนกิจวัตรการออกกำลังกายทุกๆ สองถึงห้าสัปดาห์ เพื่อจะเห็นผลได้มากที่สุด และหลีกเลี่ยงอาการไม่ตอบสนองต่อการออกกำลังกาย ซึ่งอาการเช่นนี้จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเริ่มรู้สึกเคยชินการการออกกำลังกายแบบนั้นแล้ว
ฉะนั้นเราจึงควรหลอกร่างกายด้วยการใช้วิธีออกกำลังกายแบบใหม่อยู่เสมอ โดยอาจเปลี่ยนวิธีออกกำลังใหม่ทุกๆ หนึ่งถึงสองเดือนสลับกันไปสลับกันมา อย่างเช่น วิ่งบนเครื่องวิ่งสายพานซักประมาณเดือนนึง แล้วเปลี่ยนไปเป็นการปั่นจักรยานอีกเดือนนึง
คุณออกกำลังกายหนักเกินไป
คุณกดดันตัวเองอย่างหนัก ตั้งแต่เริ่มจนจบการออกกำลังกายอยู่หรือเปล่า? ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็อาจอยู่ในข่ายที่ร่างกายไม่ต้องสนองต่อการออกกำลังกายแล้วเหมือนกัน
สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณออกกำลังกายหนักเกินไป ได้แก่ การเจ็บปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ อ่อนเพลีย ไม่มีพลังในการทำอะไร เป็นหวัดง่าย และปวดศีรษะ วิธีแก้คือ หลังจากออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์ คุณก็ควรพัก 1 สัปดาห์ แล้วค่อยกลับไปออกกำลังกายใหม่
คุณต้องออกกำลังกายให้หนักขึ้น
ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณออกกำลังกายแบบไม่ได้เสียเหงื่อ หรือเสียแรงอะไรเลย คุณก็อาจจะมองไม่เห็นอย่างที่ต้องการก็ได้
ทางที่ดีก็ควรเลือกวิธีออกกำลังกายต้องเสียเหงื่อหน่อย อย่างเช่น การออกกำลังกายแบบบริหารหัวใจหรือการเต้นแอโรบิค นอกจากนี้ก็ควรปลุกใจและร่างกายให้รู้สึกฮึกเหิมอยู่เสมอ และตั้งเป้าการออกกำลังกาย ที่สามารถใช้กล้ามเนื้อได้หลายๆ ส่วนด้วย วิธีนี้จะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
ถึงเวลาต้องใช้ครูฝึกแล้ว
ถ้าคุณลองทำทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ยังมองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงจากการออกำลังกายอยู่ดี ก็ควรจ้างครูฝึกมาช่วยควบคุมการออกกำลังกายของคุณแล้วล่ะ เนื่องจากการมีผู้เชี่ยวชาญจะช่วยวางแผนการออกกำลัง ให้ไปถึงจุดหมายได้อย่างแน่นอน แถมยังมีไอเดียใหม่ๆ ที่อาจทำให้คุณสนุกสนานกับการออกำลังกายมากขึ้นด้วย แต่ถ้าคุณคิดว่าการใช้ครูฝึกจะเป็นการสิ้นเปลือง ก็อาจมองหาเพื่อนหรือคนรู้จัก ที่มีความรู้ในเรื่องการออกกำลัง มาช่วยคุณแทนครูฝึกก็ได้
คุณรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง
อาหารที่คุณกินเข้าไป อาจกำลังเป็นตัวถ่วงการออกกำลังกายของคุณอยู่ก็ได้นะ คุณต้องระมัดระวัง เรื่องการกินอาหารเป็นพิเศษ ในช่วงที่คุณต้องการลดน้ำหนัก เพราะอาจจะมีแคลอรี่แอบแฝงอยู่ในนั้น จนคุณเผลอกินเข้าไปมากขึ้นได้ อย่างเช่น ชา กาแฟที่คุณดื่มเข้าไปวันละหลายแก้ว น้ำผลไม้สุดโปรดของคุณ ก็อาจมีน้ำตาลธรรมชาติแฝงอยู่ในนั้นด้วย รวมทั้งผักและผลไม้บางอย่าง ก็มีแป้งอยู่เยอะด้วย ฉะนั้น ควรกินอะไรให้พอเหมาะพอดี ในช่วงที่คิดจะลดน้ำหนักอยู่นี้
คุณนอนหลับพักผ่อนไม่พอเพียง
การออกกำลังกายกับการนอนหลับพักผ่อน เป็นสิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญเท่าๆ กัน เนื่องจากการนอนน้อยก็อาจส่งผลต่อการควบคุมอาหารของคุณได้ ในการดูแลระดับฮอร์โมนที่ส่งสัญญาณความหิวให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น คุณก็จำเป็นต้องนอนหลับพักผ่อนให้ได้คืนละเจ็ดถึงแปดชั่วโมง
การนอนน้อยก็หมายความว่า คุณจะมีพลังงานที่จำเป็นต่อการออกกำลังกายน้อยไปด้วย หรือไม่มีเวลาพักผ่อนที่พอเพียงให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นฟูตัวเอง ฉะนั้น ถ้าคุณอยากกำลังกายให้ได้ผล ก็จงจำเอาไว้ว่าการนอนหลับพักผ่อนนั้น มีความสำคัญพอๆ กับการออกกำลังกายเลยนะ
คุณตั้งเป้าที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง
คุณควรตั้งเป้าการออกกำลังกายให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ซึ่งขั้นแรก ก็ควรหากิจกรรมหรือวิธีออกกำลังกายที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และคุณสามารถทำได้อย่างเพลิดเพลิน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณไม่ชอบวิ่ง การวิ่งนั้นก็ไม่น่าจะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนที่ดีขึ้นในชีวิต จากนั้น ก็ตั้งเป้าหมายการออกกำลังกายที่เป็นจริง ซึ่งก่อนที่คุณจะกดดันตัวเองให้ออกกำลัง ด้วยวิธีไหนที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็ควรเริ่มจากคลาสเริ่มต้น เพื่อเรียนรู้ทักษะขั้นพื้นฐาน
ลองประเมินตัวคุณเอง เกี่ยวกับสมรรถภาพในการออกกำลังกาย อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือหรือการปรับเปลี่ยนอะไร ถ้าคุณรู้สึกว่ามันไม่ใช่หรือยังไม่เหมาะ เป้าหมายนั้นมีไว้ให้ก้าวผ่านช่วงที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่อการออกกำลังกาย และช่วยทำให้การออกกำลังกายประสบผลสำเร็จ ไม่ใช่มีไว้ให้เกิดการบาดเจ็บ หรือเหนื่อยอ่อนชนิดสายตัวแทบขาด
ลองออกกำลังกายกลางแจ้ง
การออกกำลังกายในยิมหรือในห้องออกกำลังกายอยู่ตลอดเวลา อาจทำให้คุณรู้สึกเบื่อหน่ายได้ การมองเห็นแต่เครื่องออกกำลังกายในยิมอยู่ตลอดเวลา ก็อาจทำให้คุณติดอยู่ในบ่วงการออกกำลังกายแบบเดิมๆ ที่ทำให้เห็นผลได้ยาก
ฉะนั้น ก็ควรออกไปเปิดหูเปิดตาและรับอาการบริสุทธิ์ข้างนอกบ้าง ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยต่อสู้กับอาการที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่อการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี ถ้าอากาศข้างนอกร้อนนัก ก็เลือกการว่ายน้ำแทนซะ วิธีนี้จะช่วยสร้างความตื่นเต้นในการออกกำลังกายให้คุณได้
คุณควรลองปรับเปลี่ยนไปการออกกำลังกายที่คุณชอบ อาจจะออกกำลังคนเดียว หรือกับครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อร่างกายที่แข็งแรง และที่สำคัญควรออกกำลังอย่างพอเหมาะไม่มากไปจนเกินกำลังหรือบาดเจ็บ
Hello Health Groupไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]