backup og meta

ต่อมน้ำลายติดเชื้อ (Salivary Gland Infection)

ต่อมน้ำลายติดเชื้อ (Salivary Gland Infection)

หากคุณลองสังเกตตนเองว่าเริ่มมีอาการเจ็บปวดบริเวณภายในช่องปาก และลำคอ หรือมีอาการต่อมรับรสเกิดการบกพร่องขณะรับประทานอาหาร ควรสำรวจอาการตนเองและรีบเร่งรักษา หรืออาจเข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอโดยด่วน เพราะคุณอาจมีความเสี่ยงเป็นโรค ต่อมน้ำลายติดเชื้อ (Salivary Gland Infection) ได้

คำจำกัดความ

ต่อมน้ำลายติดเชื้อ (Salivary Gland Infection) คืออะไร

ต่อมน้ำลายติดเชื้อ (Salivary Gland Infection) สามารถเกิดได้จากแบคทีเรีย หรือไวรัสที่เข้าไปรบกวนการทำงานภายในต่อมน้ำลายของคุณ จนส่งผลให้มีการอุดตัน หรือติดเชื้อขึ้น โดยต่อมน้ำลายที่ได้รับการติดเชื้อส่วนใหญ่มีอยู่ทั้งหมด 3 คู่ด้วยกัน ดังนี้

  • ต่อมน้ำลายบริเวณกกหู (Parotid gland) ซึ่งเป็นต่อมน้ำลายที่ใหญ่ที่สุด
  • ต่อมน้ำลายบริเวณขากรรไกรล่าง (Submaxillary gland) ที่อาจอยู่ด้านหลังกรามล่าง และคาง นับว่าเป็นต่อมน้ำลายที่ผลิตน้ำลายได้มากที่สุด
  • ต่อมน้ำลายใต้ลิ้น (Sublingual gland) เป็นต่อมน้ำลายที่ค่อนข้างเล็กที่สุดอยู่บริเวณใต้ลิ้น ผลิตได้ทั้งน้ำลายชนิดใส เหนียว ข้น

ต่อมน้ำลายติดเชื้อ สามารถพบบ่อยได้เพียงใด

ต่อมน้ำลายติดเชื้ออาจเกิดขึ้นได้ทุกเพศ และทุกช่วงวัยตั้งแต่ในวัยทารก วัยผู้ใหญ่ จนถึงวัยผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ที่กำลังประสบกับภาวะโรคเรื้อรัง

อาการ

อาการของต่อมน้ำลายติดเชื้อ

สำหรับผู้ป่วยบางรายหากมีอาการบวมเล็กน้อย อาจทำให้โรคนี้สามารถหายไปได้เองภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงนั้น อาจทำให้อาการเจ็บปวดดังต่อไปนี้ อยู่ได้นานถึง 1 สัปดาห์ หรืออาจมากกว่านั้น ตามสภาวะทางสุขภาพของแต่ละบุคคล พร้อมทั้งยังขึ้นอยู่กับตำแหน่งของต่อมน้ำลายที่เกิดการติดเชื้อร่วมด้วย

  • มีก้อนบวมบริเวณใกล้เคียงกับขากรรไกร ลำคอ และภายในช่องปาก
  • รับประทานอาหาร และกลืนอาหารอย่างลำบาก
  • กล้ามเนื้อด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้าคุณมีอาการอ่อนแรง เคลื่อนไหวยาก
  • ไข้ขึ้น และหนาวสั่น
  • การรับรู้ของรสชาติอาหารบกพร่อง

นอกจากอาการข้างต้นแล้ว หากมีอาการอื่น ๆ ที่รุนแรงเพิ่มเติม เช่น หายใจลำบาก และอุณภูมิร่างกายขึ้นสูง โปรดรีบเข้ารับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที ไม่ควรปล่อยไว้เป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้สุขภาพของคุณมีอการแย่ลงได้ หรือเกิดความเสี่ยงต่อการพัฒนาไปยังเนื้องอกของมะเร็งได้

สาเหตุ

สาเหตุของการเกิด อาการต่อมน้ำลายติดเชื้อ

สาเหตุของอาการนี้อาจแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล โดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากข้อบกพร่องทางสุขภาพของเรา ดังนี้

  • การสะสมของเชื้อแบคทีเรีย Haemophilus influenzae , Streptococcus pyogenes , Escherichia coli ที่ก่อให้เกิดนิ่วในน้ำลาย ซึ่งมักทำให้มีอาการปวด และบวมขึ้นทั้วทั้งบริเวณของต่อมน้ำลายทั้ง 3 คู่
  • อาการขาดน้ำอย่างรุนแรง
  • การอุดตันของนิ่วในต่อมน้ำลาย
  • การติดเชื้อไวรัสจากโรคคางทูม
  • สภาวะภูมิแพ้
  • ผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งด้วยรังสี

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยเสี่ยงของ ต่อมน้ำลายติดเชื้อ

เป็นไปได้ว่าผู้ที่จัดอยู่ในเกณฑ์ความเสี่ยงของการเกิดต่อมน้ำลายติดเชื้อมักเป็นผู้ที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และเป็นผู้ที่มีประวัติทางสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัวเหล่านี้ร่วมด้วย

การวินิจฉัยและการรักษา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

การวินิจฉัยอาการต่อมน้ำลายติดเชื้อ

เมื่อคุณเข้าขอรับการวิจฉัย เบื้องต้นแพทย์ผู้ชาญอาจทำการซักถามประวัติทางสุขภาพของคุณ หรือตรวจร่างกายของคุณอย่างละเอียดเสียก่อน จากนั้นอาจมีการตรวจสายตา หนองในลำคอจากตุ่มที่ปวดบวมขึ้น ที่สำคัญเพื่อให้ได้เห็นลักษณะของก้อนเนื้อที่ชัดเจน แพทย์อาจทำการใช้เทคนิคเหล่านี้ เข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม

  • การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computerized Tomography Scan ; CT)
  • การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging ; MRI)
  • อัลตร้าซาวด์ (Ultrasound)
  • การฉีดสารบางพร้อมการเอ็กซเรย์ (Sialography)

การรักษาอาการต่อมน้ำลายติดเชื้อ

การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อ โดยกรณีที่ผู้ป่วยถูกจัดอยู่ในอาการระดับไม่รุนแรงมากนัก แพทย์อาจทำการให้ยาแก้อักเสบ ยาบรรเทาอาการปวดบวม และยาต้านเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดต่อมน้ำลายติดเชื้อมาให้คุณนั้นรับประทาน

แต่ถ้าหากผู้ป่วยที่อยู่ในขั้นรุนแรง มีอาการปวดบวม หรือมีก้อนเนื้อที่ค่อนข้างใหญ่มากเกินกว่าการรักษาแบบธรรมดาจะรับไหว อาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อกำจัดสิ่งที่อุดตัน ก้อนนิ่ว หรือหนองภายในต่อมน้ำลายออกไป เพื่อลดอาการเจ็บปวดในช่องปากของคุณ

การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง

การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์หรือการเยียวยาตนเองเพื่อป้องกันและรักษาอาการต่อมน้ำลายอักเสบ

หลังจากที่แพทย์ได้ทำการตรวจสอบ หรือรักษาอาการต่อมน้ำลายติดเชื้อให้หายไปจากคุณแล้ว คุณอาจต้องเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันตามคำแนะนำถึงวิธีการดูแล รักษาตนเองเมื่ออยู่ที่บ้าน ดังนั้นโปรดปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการกลับมาของอาการต่อมน้ำลายติดเชื้อ

  • ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว หรืออาจจิบมะนาวเพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำลาย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ลำคอ ช่องปาก
  • รักษาความสะอาดภายในช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เช่น แปรงฟันอย่างเป็นประจำ ใช้ไหมขัดฟันยามมีเศษอาหารติดซอกฟัน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
  • ค่อย ๆ นวดบริเวณต่อมน้ำลายบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ
  • รับประทานอาหารที่ประกอบด้วยน้ำตาลในปริมาณที่น้อยลง ไม่ว่าจะเป็นขนม หรือเครื่อมดื่มน้ำอัดลม เป็นต้น

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Salivary Gland Infections https://www.healthline.com/health/salivary-gland-infections Accessed July 24, 2020

Salivary Gland Problems https://www.webmd.com/oral-health/guide/salivary-gland-problems-infections-swelling#1 Accessed July 24, 2020

Salivary gland tumors https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/salivary-gland-cancer/symptoms-causes/syc-20354151 Accessed July 24, 2020

What to know about salivary gland infections https://www.medicalnewstoday.com/articles/322439 Accessed July 24, 2020

Salivary Gland Infections https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/salivary-gland-infection-sialadenitis Accessed July 24, 2020

เวอร์ชันปัจจุบัน

04/08/2020

เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: Nattrakamol Chotevichean


บทความที่เกี่ยวข้อง

พฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก เช็กสิ! คุณมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือเปล่า

พฤติกรรมง่ายๆ ที่ช่วย ดูแลสุขภาพช่องปาก ให้ดี


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 04/08/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา