ผักโขม ที่หลาย ๆ คนเรียกว่า “ผักขม’ เมื่อฟังชื่อผ่าน ๆ อาจทำให้คุณรู้สึกว่าผักนี้มีรสชาติที่ไม่น่ารับประทานเสียเท่าไหร่นัก แต่จริง ๆ แล้วนั้น รสชาติของมันอาจอร่อยกว่าที่คุณคิด พร้อมทั้งยังมีสารอาหารที่เข้าไปช่วยปรับปรุงสุขภาพของคุณให้ดีขึ้นได้ วันนี้ Hello คุณหมอ จึงขอพาทุกคนมารู้จักกับ ผักโขม สุดยอดผักใบเขียว ให้มากขึ้น เพื่อเป็นการเปิดรับผักใบเขียวอีกชนิดมาประกอบอยู่คู่ในเมนูอาหารของคุณ
คุณค่าทางสารอาหารของ ผักโขม สุดยอดผักใบเขียว
ผักโขม (Spinach) คือ ผักใบเขียวที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิหร่าน หรือเปอร์เซีย ที่มีชื่อเรียกอย่างทางการว่าสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
ผักโขมเป็นผักที่เกี่ยวข้องกับตระกูลของผักกาด ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ให้คุณประโยชน์แก่ร่างกาย โดยเพียงแค่รับประทาน 1 ถ้วย หรือในปริมาณ 100 กรัม ต่อวันก็อาจทำให้คุณได้รับสารอาหารนานาชนิด ดังนี้
- พลังงาน 23 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 3.6 กรัม
- โปรตีน 2.9 กรัม
- ไฟเบอร์ 2.2 กรัม
- น้ำตาล 0.4 กรัม
- ไขมัน 0.4 กรัม
- น้ำ 91%
- แคลเซียม 250 มิลลิกรัม
นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค1 แมกนีเซียม กรดโฟเลต (Folate acid) เป็นต้น นับได้ว่าเพียงแค่ทานในปริมาณที่พอเหมาะต่อวันเช่นนี้ ก็อาจทำให้คุณได้รับสารอาหารแทบจะครบถ้วนได้เลยทีเดียว
ผักโขม สุดยอดผักใบเขียว มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร
- เสริมสร้างสุขภาพของดวงตาให้มีการทำงานที่ดีขึ้น
ผักโขมมีเบต้า แคโรทีน (Beta-carotene) ซีแซนทิน (Zeaxanthin) ลูทีน (Lutein) และคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ที่ประกอบอยู่ในผักใบเขียว ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตาของคุณจากการเสื่อมสภาพ และปกป้องดวงตาของคุณที่ได้รับความเสียหายจากแสงแดดให้ยังคงมีการทำงานได้ดีอยู่เสมออีกด้วย
- ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
สารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในผักโขมนั้น คือกรดอัลฟาไลโปอิก (Alpha-Lipoic Acid ; ALA) ซึ่งได้มีการศึกษาหนึ่งได้แสดงให้เห็นว่า กรดดังกล่าวสามารถเข้าไปช่วยลดระดับของกลูโคส ที่เป็นสาเหตุหนึ่งในการเพิ่มอินซูลินที่เชื่อมโยงไปยังโรคเบาหวานให้ลดลง รวมทั้งยังช่วยละระดับความดันของโลหิตที่อาจนำไปสู่โรคหัวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ป้องกันโรคมะเร็ง
ผักโขมมีองค์ประกอบหลักที่อยู่ในเยื่อหุ้มเซลล์ของพืช ที่เรียกว่า Monogalactosyl diglycerides (MGDG) ซึ่งเป็นสารที่อาจช่วยในการชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง หรือเนื้องอกในปากมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก
จากการศึกษาในปีพ.ศ. 2556 ของสัตว์จำนวน 12,000 ตัว ยังแสดงให้เห็นอีกว่าคลอโรฟิลล์ ในผักโขมมีประสิทธิภาพในการยับยั้งสารบางอย่างที่อยู่ในกลุ่มเฮเทอโรไซคลิก เอมีนส์ (Heterocyclic amines ; AHCAs) ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดมะเร็งได้
- เพิ่มความแข็งแรงให้แก่กระดูก
วิตามินเค1 แมกนีเซียม โพแทสเซียม เป็นแหล่งอาหารชั้นดีที่สามารถเข้าไปช่วยปรับปรุงให้กระดูกของคุณแข็งแรงขึ้น และยังอาจทำให้ลดความเสี่ยงจากอาการกระดูกร้าวแตกหัก พร้อมทั้งยังช่วยรักษาระดับของแคลเซียมในกระดูกให้คงที่
- บำรุงสุขภาพผิว และเส้นผม
วิตามินเอในผักขม มีบทบาทหน้าที่ในการช่วยควบคุมระบบการผลิตน้ำมันบนใบหน้า ตามรูขุมของเราได้เป็นอย่างดี ทำให้ลดอัตราการเกิดสิวได้มากขึ้น ที่สำคัญวิตามินเอยังเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างมากในการกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนบนผิวหนัง และการเจริญเติบโตของเส้นผมบนหนังศีรษะของเราอีกด้วย
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เมื่อคุณทานผักโขม
โดยทั่วไปการรับประทานผักโขมอาจปลอดภัยสำหรับผู้คนส่วนใหญ่ ยกเว้นผู้ป่วยที่มีปัญหาทางสุขภาพที่เกี่ยวกับอาการดังต่อไปนี้
- การแข็งตัวของเลือด
นอกจากวิตามินเค1 จะให้ประโยชน์แก่ร่างกายของเรา แต่ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือดขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีการรับประทานยาในกลุ่มเจือจางเลือดเช่น วาร์ฟาริน (Warfarin)
ผักโขมมีแคลเซียมออกซาเลต (Calcium oxalate) อยู่สูง ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการพัฒนาเป็นนิ่วในไตได้ในผู้ที่อยู่ในภาวะทางสุขภาพที่ค่อนข้างเสี่ยง เพราะนิ่วในไตส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการสะสมของเกลือแร่มากเกินควร โดยเฉพาะเกลือแร่แคลเซียมออกซาเลต
ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ควรเริ่มจากการเช็ก และตรวจสอบสุขภาพของคุณเป็นอันดับแรก ว่าเหมาะสมกับอาหารประเภทใด และอาหารแบบใดที่เราควรหลีกเลี่ยง หรืออาจรับประทานตามที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักโภชนาการให้คำแนะนำเบื้องต้น เพื่อความปลอดภัยจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
[embed-health-tool-bmr]