โรคขาดสารอาหาร เกิดจากการที่ร่างกายได้รับสารอาหารต่าง ๆ รวมไปถึงวิตามินและแร่ธาตุ ไม่เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ จนอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย อาจส่งผลให้น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ สูญเสียมวลกล้ามเนื้อและมวลกระดูก ขาดพลังงานในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน และอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรังเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
[embed-health-tool-bmi]
คำจำกัดความ
โรคขาดสารอาหาร คืออะไร
โรคขาดสารอาหาร คือ โรคที่เกิดจากการที่ร่างกายขาดวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน หรือเกิดจากความบกพร่องในระบบย่อยอาหาร ที่ไม่สามารถเผาผลาญอาหารและเปลี่ยนเป็นพลังงานให้แก่ร่างกายได้ จึงส่งผลให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายผิดปกติ
อาการ
อาการของโรคขาดสารอาหาร
อาการของโรคขาดสารอาหาร มีดังนี้
- น้ำหนักลดลงต่ำกว่าเกณฑ์
- เหนื่อยล้าง่าย และอาจรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา
- อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
- วิงเวียนศีรษะ
- ผิวแห้ง
- ผมร่วง
- เจ็บป่วยบ่อย และใช้ระยะเวลานานในการฟื้นตัว
- การทำงานของสมองบกพร่อง ไม่มีสมาธิ
- หงุดหงิดง่าย วิตกกังวล ซึมเศร้า
- แผลหายช้า
- สูญเสียมวลกล้ามเนื้อและกระดูก ปวดข้อต่อ
- เลือดออกตามไรฟัน
- ตาแห้ง ตาพร่ามัว โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน
- รู้สึกเบื่ออาหาร
- ท้องร่วง
ควรเข้าพบคุณหมอทันทีที่สังเกตว่าน้ำหนักตัวลดลงโดยไม่มีสาเหตุ
สาเหตุ
สาเหตุของโรคขาดสารอาหาร
สาเหตุของโรคขาดสารอาหาร มีดังนี้
ภาวะทางสุขภาพ
- ลำไส้ใหญ่บวมหรือเป็นแผล ที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหาในระบบย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร
- ภาวะสมองเสื่อม ที่อาจส่งผลให้หลงลืมการรับประทานอาหาร
- ภาวะซึมเศร้าหรือโรคจิตเภท ที่อาจส่งผลกระทบอารมณ์และความอยากอาหาร ทำให้รู้สึกเบื่ออาหาร
- โรคมะเร็ง ที่อาจทำให้ผู้ป่วยไม่อยากรับประทานอาหาร เนื่องจากอาจมีอาการเจ็บปวดและคลื่นไส้บ่อยครั้ง
- ปัญหาเกี่ยวกับฟัน เช่น ปวดฟัน ฟันผุ ฟันแตกหักง่าย รวมถึงฟันปลอมหลวม ที่อาจส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหาร ทำให้รับประทานอาหารน้อยลงหรือไม่ยอมรับประทานอาหาร
- ปัญหาการเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่สามารถขยับตัวได้ เป็นอัมพาต หรือผู้ป่วยติดเตียง ที่ส่งผลให้การหุงหาอาหารเป็นเรื่องลำบาก
ยา
เนื่องจากยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาต้านซึมเศร้า ยาลดกรด ยาปฏิชีวนะ อาจส่งผลข้างเคียงให้ความอยากอาหารลดลง เบื่ออาหาร หรือมีอาการท้องร่วง จึงอาจทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้น้อย
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของโรคขาดสารอาหาร
ปัจจัยเสี่ยงของโรคขาดสารอาหาร มีดังนี้
- ผู้ที่มีรายได้น้อย
- ผู้ที่อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครคอยช่วยเหลือ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว และปัญหาสุขภาพ ที่อาจทำให้จำเป็นต้องอยู่กับที่
- ผู้ที่อยู่ในช่วงฟื้นตัวจากการเจ็บป่วยรุนแรง
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดูดซึมสารอาหาร
- ผู้สูงอายุ
การวินิจฉัยและการรักษา
การวินิจฉัยโรคขาดสารอาหาร
คุณหมออาจสอบถามประวัติสุขภาพ และทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และตรวจอัลบูมิน (Albumin) เพื่อทราบค่าโปรตีนและสารอาหารว่าอยู่ในระดับปกติหรือไม่ รวมถึงการวัดดัชนีมวลกายเพื่อดูว่าน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่
การรักษาโรคขาดสารอาหาร
วิธีการรักษาโรคขาดสารอาหารอาจแตกต่างกันออกไปตามอาการของผู้ป่วย โดยคุณหมอจะวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล ดังนี้
- อาจวางแผนให้รับประทานอาหาร 3 มื้อ/วัน และอาจให้รับประทานของว่าง 2-3 มื้อ ในระหว่างวัน เช่น ขนมปัง แพนเค้กกับเนย โยเกิร์ต เยลลี่ ผลไม้อบแห้ง บิสกิต เค้ก ซีเรียล
- เน้นการรับประทานที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ถั่ว
- เพิ่มปริมาณการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่สูง เช่น เนย ชีส น้ำมันมะกอก ครีม
- อาจเพิ่มปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำผลไม้ น้ำอัดลม ช็อคโกแลตร้อน
นอกจากนี้ คุณหมออาจให้รับประทานอาหารเสริมที่มีแคลอรี่สูง และมีสารอาหารต่าง ๆ ประกอบ เช่น โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ ควบคู่กับการรับประทานอาหาร เพื่อช่วยเพิ่มสารอาหารให้ร่างกาย
สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ คุณหมออาจให้อาหารผ่านทางสายยางเข้าสู่กระเพาะอาหารโดยตรงหรืออาจให้สารอาหารผ่านทางหลอดเลือด
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโรคขาดสารอาหาร
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโรคขาดสารอาหาร อาจทำได้ดังนี้