พ่อแม่เลี้ยงลูก

ในทุกช่วงชีวิตของลูกน้อย เหล่าคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องรู้วิธีดูแลและสนับสนุนสุขภาพโดยรวมของลูกน้อย เพื่อให้ความเป็นอยู่ของลูกน้อยดีขึ้น เพราะฉะนั้นใน พ่อแม่เลี้ยงลูก คุณจะได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงเคล็ดลับในการดูแลลูกให้แข็งแรง มีความสุข และสามารถปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์

เรื่องเด่นประจำหมวด

พ่อแม่เลี้ยงลูก

โปลิโอ เป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

โปลิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้ไขสันหลังอักเสบ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสโปลิโอ (Poliovirus) ซึ่งเคยส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ในอดีต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แม้ว่าในปัจจุบันโรคนี้จะลดลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน แต่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันยังคงมีความสำคัญ [embed-health-tool-vaccination-tool] โปลิโอ คืออะไร โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Picornavirus โดยไวรัสนี้แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ PV1, PV2 และ PV3 ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อน รวมถึงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย มันจะแพร่กระจายในลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาต การแพร่กระจายของโรค โรคโปลิโอแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อผ่านทางอุจจาระ แล้วปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร นอกจากนี้ การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การสัมผัสมือหรือของใช้ส่วนตัวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกเส้นทางที่โรคสามารถแพร่กระจายได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน อาการของโรคโปลิโอ โรคโปลิโอมีลักษณะอาการหลากหลาย ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงอัมพาตรุนแรง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ (70-90%) ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ อาการเบื้องต้น รวมถึงไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และคลื่นไส้ อาการรุนแรง ได้แก่ อัมพาตของแขนขา หรือในบางกรณีเชื้อไวรัสอาจทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิต สำหรับบางคนที่เคยติดเชื้อ อาจเกิดภาวะ กลุ่มอาการหลังโปลิโอ (Post-Polio Syndrome) ในระยะเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดกล้ามเนื้อ การป้องกันด้วยวัคซีน ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปลิโอเฉพาะเจาะจง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีน […]

หมวดหมู่ พ่อแม่เลี้ยงลูก เพิ่มเติม

สำรวจ พ่อแม่เลี้ยงลูก

ลูกวัยเตาะแตะและเด็กก่อนวัยเรียน

รถหัดเดิน คืออะไร และจำเป็นสำหรับเด็กหรือไม่

รถหัดเดิน เป็นรถที่ผลิตขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยในการหัดเดินของเด็ก แต่อาจยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดว่ารถหัดเดินสามารถช่วยให้เด็กฝึกทักษะการเดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจมีข้อโต้แย้งถึงอันตรายมากกว่าประโยชน์ ทั้งยังอาจทำให้เด็กมีพัฒนาการในการเดินที่ล่าช้าลงได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณพ่อแม่ต้องการให้เด็กใช้รถหัดเดิน อาจต้องคอยระมัดระวังเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการใช้งาน รถหัดเดิน คืออะไร รถหัดเดิน คือ รถที่มีลักษณะเป็นโครงวงกลม มีที่นั่งตรงกลางและมีล้อเพื่อช่วยในการเคลื่อนที่ รวมถึงอาจมีของเล่นติดอยู่เพื่อให้ความเพลิดเพลินแก่เด็ก รถหัดเดินผลิตขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้เด็กวัยหัดเดินฝึกฝนการเดิน เนื่องจากมีโครงสร้างที่สามารถช่วยพยุงเด็กให้ยืนตัวตรงซึ่งอาจช่วยให้เด็กสามารถเดินได้เร็วขึ้น แต่เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัยของรถหัดเดิน ยังไม่มีการยืนยันอย่างแน่ชัดว่ารถหัดเดินสามารถช่วยให้เด็กมีพัฒนาการในการเดินที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ในทางกลับกันอาจทำให้เด็กมีพัฒนาการในการเดินล่าช้าลง และอาจแฝงอันตรายต่อตัวเด็กอีกด้วย รถหัดเดินช่วยให้เด็กหัดเดินได้จริงหรือไม่ รถหัดเดินอาจไม่ช่วยส่งเสริมการเดินของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก เด็กวัยหัดเดินเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ การใช้รถหัดเดินอาจขัดขวางการเรียนรู้ของเด็ก และอาจทำให้เด็กไม่ได้ฝึกฝนและเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เพราะโครงสร้างที่ใหญ่อาจทำให้เด็กไม่สามารถเอื้อมจับสิ่งของรอบ ๆ ตัวได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังอาจทำให้ทักษะการทรงตัว การประสาทงาน การยืน รวมถึงการรองรับและส่งน้ำหนักตัวจากขาข้างหนึ่งไปยังขาอีกข้างหนึ่งพัฒนาได้ช้าลง เพราะรถหัดเดินจะพยุงตัวเด็กไว้ตลอดเวลา นอกจากนี้ เด็กที่อยู่ในรถหัดเดินมักใช้ปลายนิ้วเท้าในการช่วยดันตัวเองให้เคลื่อนตัวไปข้างหน้า เมื่อเด็กออกจากรถหัดเดินจะทำให้เด็กติดพฤติกรรมการเดินที่ผิดและอาจใช้นิ้วเท้าในการเดินต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ให้เด็กใช้รถหัดเดินบ่อยครั้งมากเท่าไหร่ ก็อาจยิ่งทำให้เด็กมีพัฒนาการในการเดินที่ช้าลงตามไปด้วย รถหัดเดินสำหรับเด็กอันตรายหรือไม่ สำหรับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเด็กใช้รถหัดเดิน มีดังนี้ รถหัดเดินมีล้อที่ช่วยในการเคลื่อนที่ เมื่อเด็กเคลื่อนตัวอาจทำให้รถเคลื่อนที่เร็วมากและอาจชนกับสิ่งของหรือกำแพงจนเกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เด็กเข้าถึงของอันตราย เช่น มีด ยา ชั้นวางของ ได้ง่ายขึ้น อาจทำให้เด็กตกจากบันไดหรือไหลลงทางลาดได้ง่ายขึ้น อาจเสี่ยงที่รถจะพลิกคว่ำในขณะเคลื่อนที่ อาจเสี่ยงที่จะทำให้เด็กถูกน้ำร้อนลวก อาหารร้อนตกใส่ หรือถูกไฟคลอกได้ เพราะเด็กอาจเคลื่อนตัวไปชนกับโต๊ะอาหารที่มีของร้อน อาจเสี่ยงที่จะทำให้เด็กจมน้ำได้ […]


ขวบปีแรกของลูกน้อย

นิทานสําหรับทารก เสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกตั้งแต่แรกเกิด

นิทานสําหรับทารก อาจช่วยเสริมพัฒนาการทางสมองและสติปัญญา เช่น ภาษา ความคิด ความจำ การสื่อสาร รวมถึงช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ ประสาทสัมผัส การมองเห็นและการได้ยินอีกด้วย ทั้งนี้ นิทานสำหรับทารกควรเป็นนิทานที่มีรูปภาพขนาดใหญ่ สีสันสดใส มีคำศัพท์ง่าย ๆ รวมถึงอาจมีเสียงหรือของเล่นประกอบ เพื่อช่วยเพิ่มความสนุกและอาจช่วยดึงดูความสนใจของทารก นิทานสําหรับทารก ควรเป็นอย่างไร ทารกเป็นวัยที่สมองและสติปัญญากำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจเลือกนิทานสำหรับทารกที่ช่วยพัฒนาทักษะทางภาษา ความคิด การใช้เหตุผลและความจำ เพื่อให้ทารกได้เรียนรู้และฝึกจดจำคำศัพท์ในการช่วยพัฒนาการพูดและการสื่อสารมากขึ้น ดังนี้ เลือกหนังสือที่มีภาพประกอบขนาดใหญ่ สีสันสดใส รายละเอียดน้อย เรียบง่าย และอาจมีเนื้อเรื่องเป็นคำง่าย ๆ สั้นและกระชับ เพราะอาจช่วยให้ทารกจดจำคำศัพท์และช่วยส่งเสริมการมองเห็น เลือกหนังสือนิทานสำหรับทารกที่มีเสียงประกอบสั้น ๆ หรือมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน เช่น เรียบ ขรุขระ นุ่ม เพื่อช่วยส่งเสริมการได้ยินและฝึกประสาทสัมผัส เลือกหนังสือนิทานสำหรับทารกที่มีของเล่นหรือมีตัวการ์ตูนชิ้นใหญ่ซ่อนอยู่ เพื่อช่วยให้ทารกฝึกทักษะการสัมผัส ฝึกกล้ามเนื้อมือ นิ้วและแขนในการหยิบจับสิ่งของ แต่ควรเป็นวัสดุที่ปลอดภัย ทนทาน นุ่มนิ่ม มีขนาดใหญ่พอประมาณ เพื่อป้องกันทารกเอาเข้าปาก แตกหักหรืออาจสร้างความบาดเจ็บให้แก่ทารก เลือกหนังสือนิทานที่มีรูปหน้าคน ใบหน้าสัตว์ หรือลักษณะสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันและพบเห็นได้ง่าย เพื่อช่วยให้ทารกฝึกการแยกแยะบุคคล สัตว์หรือสิ่งของ นิทานสําหรับทารก […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

นิทาน เด็ก เสริมสร้างพัฒนาการเด็กอย่างไร

นิทาน เด็ก เป็นหนังสือที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการทางสติปัญญา การฟัง การพูด ภาษา อารมณ์ จิตใจและสังคม รวมถึงช่วยให้เด็กมีจินตนาการ ช่วยขัดเกลาจิตใจ เสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรม นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวได้อีกด้วย โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเล่านิทานให้เด็กฟังได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และเลือกหนังสือให้เหมาะสมกับวัย จะยิ่งสามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กในทุกด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ [embed-health-tool-bmi] นิทาน เด็ก สามารถเริ่มเล่าได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ การเล่านิทานให้เด็กฟังอาจช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ของเด็กได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถเล่านิทานให้เด็กฟังได้ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ เนื่องจากการพูดคุยกับทารกในครรภ์อาจจะช่วยทำให้สมองและระบบประสาทที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเล่านิทานเด็กด้วยการใช้น้ำเสียง อารมณ์ และความรู้สึกเข้าไปในเนื้อเรื่อง ซึ่งทารกในครรภ์จะสามารถสัมผัสได้และอาจตอบสนองออกมาด้วยการดิ้นและเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ดี และเมื่อทารกคลอดออกมาจนกระทั่งเติบโตขึ้น เด็กจะเริ่มมีความสนใจและต้องการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากขึ้น มีความสนใจสิ่งแวดล้อมและหนังสือตรงหน้า การเลือกนิทานเด็กให้เหมาะสมกับวัยและวิธีการเล่านิทานให้น่าสนใจก็สามารถช่วยดึงดูดใจและช่วยเสริมทักษะของเด็กในด้านอื่น ๆ ได้ด้วย นิทาน เด็ก มีประโยชน์อย่างไร ประโยชน์ของนิทานเด็ก อาจมีดังนี้ ช่วยเพิ่มจินตนาการ นิทานเด็กอาจช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น รวมถึงช่วยเสริมความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของเด็ก เนื่องจาก เด็กแต่ละคนมีความคิดและจินตนาการไม่เหมือนกัน เด็กบางคนอาจนำนิทานไปเชื่อมโยงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น หรือบางคนอาจสร้างเรื่องราวใหม่ ๆ ขึ้นมา จึงสามารถช่วยพัฒนาทักษะทางความคิดและสมองของเด็กได้ ช่วยพัฒนาทักษะทางภาษา การอ่านนิทานให้เด็กฟังทำให้เด็กได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ จึงอาจช่วยให้เด็กได้ฝึกพูดและฝึกออกเสียงคำนั้น ๆ หรืออาจเริ่มเชื่อมประโยคได้ ทำให้ทักษะทางภาษาและการสื่อสารดีขึ้น ช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ นิทานที่มีเนื้อเรื่องแนวผจญภัย […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

น้ำหนักเด็ก และส่วนสูง ที่เหมาะสมในเด็กแต่ละช่วงวัย

น้ำหนักเด็ก และส่วนสูง เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความใส่ใจ เนื่องจาก น้ำหนักและส่วนสูงอาจเป็นตัวบ่งชี้การเจริญเติบโตและพัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กในแต่ละช่วงวัย โดยน้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐานในแต่ละช่วงวัยอาจนำมาใช้ในการประเมินสุขภาพเบื้องต้น และยังอาจบอกถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาทางด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กได้ด้วย อย่างไรก็ตาม เกณฑ์น้ำหนักเด็กและส่วนสูงเป็นเพียงการประมาณค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรพาเด็กไปตรวจสุขภาพอยู่เสมอ เพื่อการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์แข็งแรง [embed-health-tool-child-growth-chart] ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อน้ำหนักเด็กและส่วนสูง พันธุกรรมอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนในการกำหนดน้ำหนักเด็ก ส่วนสูง และพัฒนาการทางร่างกาย แต่ก็อาจมีปัจจัยที่อาจส่งผลต่อน้ำหนักเด็กได้เช่นกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านั้น อาจมีดังนี้ การตั้งครรภ์ โดยปกติแล้วเด็กที่คลอดตามกำหนดจะมีการพัฒนาทางร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่ เมื่อคลอดออกมาจึงอาจทำให้เด็กมีน้ำหนักที่สมส่วนและสุขภาพดี ในทางกลับกันเด็กที่คลอดก่อนกำหนดมักจะไม่ได้รับการพัฒนาทางร่างกายอย่างเหมาะสม โดยอาจมีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพของคุณแม่ หรืออาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเมื่อยังเป็นทารกในครรภ์ ซึ่งอาจทำให้เด็กที่คลอดออกมามีน้ำหนักน้อยกว่าปกติและอาจมีสุขภาพที่อ่อนแอ จึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษจนกว่าร่างกายจะแข็งแรงขึ้น สุขภาพและการใช้ชีวิตในระหว่างตั้งครรภ์ของคุณแม่ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ใช้ยาเสพติด รับประทานอาหารที่ไม่ช่วยบำรุงครรภ์ หรือรับประทานอาหารที่มีโภชนาการที่ไม่ดี ก็อาจมีแนวโน้มที่จะทำให้น้ำหนักเด็กน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานและอาจมีขนาดตัวเล็ก นอกจากนี้ คุณแม่ที่มีปัญหาสุขภาพในระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ก็อาจมีแนวโน้มที่จะทำให้น้ำหนักเด็กมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานได้เช่นกัน ความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น ดาวน์ซินโดรม กลุ่มอาการนูแนน (Noonan Syndrome) กลุ่มอาการเทอร์เนอร์ (Turner Syndrome) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของยีนในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตและน้ำหนักเด็ก เพศ เด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายจะมีน้ำหนักไม่เท่ากัน ซึ่งโดยปกติเด็กแรกเกิดเพศหญิงมักมีน้ำหนักน้อยกว่าเด็กแรกเกิดเพศชาย การให้เด็กกินนมแม่หรือนมผง ในช่วงปีแรกน้ำหนักเด็กที่กินนมแม่จะน้อยกว่าเด็กที่กินนมผง เนื่องจากสารอาหารและส่วนประกอบในนมที่แตกต่างกัน และเมื่อผ่านไปจนอายุประมาณ […]


พ่อแม่เลี้ยงลูก

ลูกท้องเสีย ถ่ายมีมูกเลือด เกิดจากอะไร ควรดูแลอย่างไร

ลูกท้องเสีย ถ่ายมีมูกเลือด อาจเกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ การแพ้โปรตีนในนมวัว โรคลำไส้อักเสบ โดยปกติสามารถรักษาให้หายได้ตามสาเหตุของโรค อย่างไรก็ตาม หากลูกท้องเสีย ถ่ายมีมูกเลือด ร่วมกับมีอาการอื่น ๆ  เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย มีมูกเลือดในปริมาณมาก ขณะขับถ่าย ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาโดยเร็วที่สุด [embed-health-tool-vaccination-tool] ลูกท้องเสีย ถ่ายมีมูกเลือด เกิดจากอะไร ลูกท้องเสียและถ่ายมีมูกเลือด อาจเกิดได้จากสาเหตุต่อไปนี้ ภาวะท้องเสียเรื้อรัง อาการท้องเสียเรื้อรังที่มีระยะยาวนานกว่า 3-4 สัปดาห์ อาจทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือดได้ การติดเชื้อที่ผิวหนัง การติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณทวารหนักอาจทำให้อุจจาระเป็นเลือดได้ การติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ เช่น เชื้อชิเกลลา (Shigella) เชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella) เชื้ออีโคไล (E. coli) เชื้อแคมไพโลแบคเตอร์ (Campylobacter) ส่งผลให้ลำไส้ทำงานผิดปกติ และอาจถ่ายมีมูกเลือด การแพ้โปรตีนนมวัว (Allergic colitis) เกิดจากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันร่างกายต่อโปรตีนในนมวัว อาจทำให้อุจจาระเหลว เป็นเมือก และอาจมีเลือดออกได้ โรคลำไส้อักเสบ เช่น โรคโครห์น (Crohn’s disease) โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง (Ulcerative […]


โรคเด็กและอาการทั่วไป

ไข้แดด เด็ก อาการ สาเหตุ และการรักษา

อาการของ ไข้แดด เด็ก มักเกิดขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด มีแดดจัด หรืออุณภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ซึ่งอาการของไข้แดดอาจเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่อาจพบได้บ่อยในเด็ก เนื่องจาก สภาพร่างกายของเด็กยังไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ทำให้ร่างกายสะสมความร้อนไว้ในร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะภายในร้อนตาม จนอาจทำให้เด็กมีอาการไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว ตัวร้อน อ่อนเพลีย ปวดหัว กระหายน้ำ เหงื่อออกมากและผิวแดง [embed-health-tool-vaccination-tool] คำจำกัดความ อาการของ ไข้แดด เด็ก คืออะไร อาการของ ไข้แดด เด็ก คือ อาการไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว ตัวร้อน อ่อนเพลีย ปวดหัว กระหายน้ำ เหงื่อออกมากและผิวแดง ซึ่งเป็นอาการที่มักเกิดขึ้นในเด็ก เนื่องจาก ระบบประสาทส่วนกลางซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ จนอาจทำให้เด็กมีอาการไข้แดดได้ง่ายเมื่ออยู่ในสภาพอากาศร้อน มีแดดจัดหรืออยู่ในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก นอกจากนี้ เด็กเป็นช่วงวัยที่ต้องการออกไปเรียนรู้ เล่นสนุก และใช้พละกำลังในการขยับร่างกายมาก จึงอาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะหากต้องเล่นอยู่ในสภาพอากาศร้อนจัด มีแดดจัด ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการของไข้แดดได้เช่นกัน อาการ อาการของไข้แดด อาการของไข้แดดมักเกิดจากการสัมผัสกับความร้อนหรือแสงแดดจัดเป็นเวลานาน จนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและขาดน้ำ โดยอาการที่พบได้บ่อย อาจมีดังนี้ รู้สึกกระหายน้ำมากขึ้น คลื่นไส้หรืออาเจียน อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ เป็นลม ปวดหัว หงุดหงิด […]


ขวบปีแรกของลูกน้อย

เสื้อผ้าเด็กแรกเกิด เลือกอย่างไรให้เหมาะสม

เสื้อผ้าเด็กแรกเกิด คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกให้เหมาะกับขนาดตัว เนื่องจาก เด็กแรกเกิดเป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตของร่างกายอย่างรวดเร็ว จึงไม่ควรเตรียมเสื้อผ้าให้เยอะจนเกินไป แค่เตรียมให้พอดีกับการใช้งานเท่านั้น ควรเลือกเสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป รวมทั้งควรเลือกเนื้อผ้าที่ทำจากผ้าป่านหรือผ้าฝ้าย เพราะระบายความร้อนได้ดี อ่อนนุ่ม ไม่ระคายเคืองต่อผิว รวมถึงสวมใส่สบายและเหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทย [embed-health-tool-vaccination-tool] การเลือกเสื้อผ้าเด็กแรกเกิด การเลือกเสื้อผ้าเด็กแรกเกิด คุณพ่อคุณแม่อาจทำได้ดังนี้ เด็กแรกเกิดอาจขับถ่ายหรือคายนมจนเปื้อนเสื้อผ้า จึงควรเลือกเสื้อผ้าที่ใส่และถอดได้ง่าย เช่น เสื้อผ้าที่มีกระดุมด้านหน้าหรือด้านข้าง เสื้อคอกว้าง มีซิป มีเชือกสำหรับผูก หรือกางเกงเอวยางยืดแบบยืดหยุ่นพอดีไม่รัดแน่นเกินไป ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีกระดุมที่เป้าเพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนผ้าอ้อม ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าอ่อนนุ่มและอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบางของเด็กแรกเกิด เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าป่าน ควรเลือกเนื้อผ้าให้เหมาะกับทุกสภาพอากาศและมีในปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้งาน เช่น ชุดจั๊มสูทผ้ายืดขาสั้น แขนสั้นสำหรับสภาพอากาศร้อน ชุดจั๊มสูทผ้ายืดขายาว แขนยาวสำหรับสภาพอากาศหนาว ถุงเท้า ถุงมือและหมวกผ้าฝ้าย สำหรับให้ความอบอุ่นและปกป้องผิวของเด็กแรกเกิด ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีป้ายกำกับว่า มีอันตรายจากไฟไหม้ต่ำ (Low Fire Hazard Label) เนื่องจาก เนื้อผ้าที่นำมาผลิตเป็นเสื้อผ้าเด็กแรกเกิด อาจช่วยป้องกันอันตรายจากไฟไหม้ได้ ซึ่งอาจทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดไฟลดลง ควรเลือกเสื้อผ้าที่ไม่มีป้ายกำกับอยู่ที่หลังคอเสื้อ หรือควรตัดออกก่อนใส่ให้เด็กแรกเกิด เพราะป้ายกำกับอาจบาดผิวหรือทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองได้ ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ปักลวดลาย มีลูกไม้ หรือมีของประดับตกแต่งต่าง ๆ เพราะอาจบาดผิวหรือระคายเคืองผิวของเด็กแรกเกิดได้ ควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีการถักทอหรือการเย็บที่ไม่แข็งแรง เพราะอาจทำให้วัสดุบางอย่าง […]


สุขภาพเด็ก

จักรยานเด็ก ประโยชน์ที่ช่วยพัฒนาความสมดุลร่างกาย

จักรยานเด็ก สามารถให้เด็กเริ่มฝึกได้ตั้งแต่อายุประมาณ 18 เดือนขึ้นไป เนื่องจากมีประโยชน์ต่อพัฒนาการทั้งทางร่างกาย สติปัญญาและสังคม ซึ่งช่วยฝึกทักษะการทรงตัว เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกาย ทั้งยังช่วยลดความเครียด ช่วยให้เด็กมีความสุขทางอารมณ์มากขึ้น และช่วยสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่นทั้งเพื่อนและคนในครอบครัว จักรยานเด็ก มีประโยชน์อย่างไร การให้เด็กเริ่มฝึกปั่นจักรยานอาจดีต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายและสติปัญญาหลายด้าน ดังนี้ ช่วยปรับความสมดุลของร่างกาย เนื่องจากจักรยานเด็กช่วยฝึกการทรงตัวได้เป็นอย่างดี ทำให้เด็กเรียนรู้ทักษะการทรงตัวมากขึ้น ช่วยจัดการความเครียด เพราะการปั่นจักรยานจะช่วยให้เด็กได้ออกไปเรียนรู้โลกกว้างและอาจเพิ่มความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เด็กรู้สึกสนุกและมีความสุขทางอารมณ์มากขึ้น ช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ภายในครอบครัวมากขึ้น เพราะการปั่นจักรยานอาจเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันภายในครอบครัวได้ นอกจากนี้ เด็กอาจได้เสริมทักษะทางสังคมมากขึ้นด้วยการร่วมปั่นจักรยานกับเพื่อน ๆ เป็นการออกกำลังกายที่ดีสำหรับเด็ก โดยเด็กควรออกกำลังกาย 60 นาที/วัน เพื่อช่วยเพิ่มการเผาผลาญ สร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ทั้งยังช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ช่วยให้เด็กกระตือรือร้นมากขึ้น การปั่นจักรยานเป็นกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กกระตือรือร้นและกระฉับกระเฉงมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดการดูโทรทัศน์ เล่นเกมหรือเล่นโทรศัพท์มือถือที่อาจทำให้เด็กขี้เกียจและเสียสุขภาพได้ วิธีเลือกจักรยานเด็ก วิธีการเลือกจักรยานเด็กมีปัจจัยหลายอย่างในการเลือก เช่น ขนาดของล้อ ความสูง อย่างไรก็ตาม การเลือกจักรยานให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน อาจจำเป็นต้องลองใช้ด้วยตัวเอง และควรคำนึงถึงส่วนสูง ความยาวลำตัว และความยาวของขา เนื่องจากเด็กที่อายุเท่ากันอาจมีความยาวขาหรือส่วนสูงไม่เท่ากัน โดยการเลือกจักรยานอาจทำได้ดังนี้ เด็กอายุ 2-4 ปี ความสูงประมาณ 76-100 เซนติเมตร […]


สุขภาพเด็ก

ผลการประเมินสภาพทารกแรกเกิด หรือ Apgar score คืออะไร

Apgar score หรือ คะแนนแอปการ์ คือ ผลการประเมินสภาพร่างกายทารกแรกเกิด ที่ได้จากการทดสอบสุขภาพหลังคลอดของทารกในเบื้องต้น Apgar score แบ่งเป็นระดับคะแนนตั้งแต่ 1-10 หากทารกได้คะแนนต่ำกว่า 7 ถือว่ามีปัญหาสุขภาพที่อาจต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น การให้ออกซิเจนเพื่อช่วยในการหายใจ ทั้งนี้ คะแนนแอปการ์เป็นคะแนนที่ใช้ในการประเมินร่างกายเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้เป็นเกณฑ์วัดสุขภาพของทารกในระยะยาว สำหรับทารกที่ได้คะแนนแอปการ์น้อยกว่าเกณฑ์ หากได้รับการดูแลที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที ก็อาจมีพัฒนาการเหมือนทารกทั่วไปได้ Apgar score คือ อะไร Apgar score หรือ คะแนนแอปการ์ คือ ผลการประเมินสภาพร่างกายทารกแรกเกิด เมื่อทารกลืมตาดูโลก คุณหมอและพยาบาลจะประเมินคะแนนแอปการ์ประมาณ 2-3 ครั้ง คือ หลังทารกลืมตาดูโลก 1 นาที เพื่อประเมินว่าทารกทนกระบวนการคลอดได้ดีหรือไม่ จากนั้นจะประเมินคะแนนแอปการ์ซ้ำ เมื่อทารกลืมตาดูโลกได้ 5 นาที หากประเมินแล้วพบอาการผิดปกติ คุณหมอจะประเมินซ้ำอีกครั้ง เมื่อทารกลืมตาดูโลกได้ 10 นาที คำว่า “Apgar” เป็นคำที่ย่อมาจากตัวบ่งชี้สุขภาพทารกแรกเกิด ดังต่อไปนี้ ลักษณะ (Appearance) ประเมินจากสีผิวของทารก (Skin […]


เด็กวัยเรียน

เกมสำหรับเด็ก วัยเรียน เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการอย่างเหมาะสม

เด็กวัยเรียนเป็นวัยที่เหมาะในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เนื่องจากสมองและร่างกายกำลังพัฒนาอย่างเต็มที่ นอกจากการเรียนหนังสือแล้ว การให้เด็กได้ทำกิจกรรมอย่าง เกมสำหรับเด็ก ที่เหมาะกับเด็กวัยเรียน เช่น เกมเก้าอี้ดนตรี เกมวิ่งไล่จับ เกมซ่อนหา เกมต่อจิกซอว์ ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย กระตุ้นพัฒนาการและการเรียนรู้ในด้านต่าง ๆ เช่น ทักษะด้านสังคม ทักษะด้านความคิด ของเด็กได้เป็นอย่างดี ทั้งยังให้ความเพลิดเพลินและช่วยให้เด็กได้คลายเครียดด้วย โดยเด็กจะเริ่มเล่นรวมกับผู้อื่นได้ตั้งแต่อายุ 3 ปี และเริ่มเล่นอย่างมีกติกาได้ตั้งแต่อายุ 5 ปี เกมสำหรับเด็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัยเรียน เกมสำหรับเด็ก ที่อาจช่วยส่งเสริมพัฒนาการให้เด็กวัยเรียนได้ อาจมีดังนี้ 1. เกมที่ช่วยเสริมสร้างทักษะการเข้าสังคม เด็กในวัยเรียนมักเข้าสังคมและใช้เวลาร่วมกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ การเล่นเกมร่วมกันจะทำให้เด็กได้เรียนรู้กฎระเบียบข้อตกลงที่มีร่วมกันในสังคม ได้ฝึกการใช้เหตุผลเมื่ออยู่ในสังคม และเรียนรู้ที่จะยอมรับผลแพ้ชนะผ่านการเล่นเกม เกมที่อาจช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านสังคมให้กับเด็ก มีดังนี้ เกมส่งต่อมันร้อน ให้เด็ก ๆ นั่งล้อมวงกันเป็นวงกลมพร้อมเปิดเพลงประกอบ จากนั้นให้เด็กผลัดกันส่งต่อมันร้อน (อาจเป็นลูกบอลหรือกระดาษที่ขยำเป็นก้อนกลม) ไปให้คนข้าง ๆ เรื่อย ๆ ให้เร็วที่สุด จนกว่าเสียงดนตรีจะหยุด หากเพลงหยุดแล้วผลมันร้อนอยู่ที่ใคร คนนั้นต้องออกจากวงกลมไป เล่นไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเหลือผู้เล่นคนสุดท้าย ซึ่งจะกลายเป็นผู้ชนะของเกมนี้ เกมเก้าอี้ดนตรี เป็นเกมที่ใช้อุปกรณ์เป็นเก้าอี้และเสียงเพลง โดยจัดวางเก้าอี้หลายตัวเป็นวงกลม หันส่วนที่นั่งออกด้านนอกในลักษณะที่หันหลังชนกันเป็นวงกลม ให้เก้าอี้มีจำนวนน้อยกว่าจำนวนผู้เล่น 1 […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน