สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

วัคซีน HPV ผู้ชายฉีดได้ไหม? ช่วยอะไร?

HPV (Human Papillomavirus) คือไวรัสที่ติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย อีกทั้งยังอาจนำไปสู่การเกิดโรคร้ายอย่างมะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งลำคอ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจคิดว่า HPV ส่งผลกระทบแค่กับผู้หญิงเท่านั้น จึงมองข้ามความสำคัญของการฉีดวัคซีน hpv สำหรับผู้ชายไปได้ บทความนี้จึงอยากจะมาแก้ไขความเข้าใจผิด และนำเสนอให้ผู้อ่านได้เห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน HPV ในผู้ชาย [embed-health-tool-vaccination-tool] HPV ส่งผลอะไรต่อผู้ชาย เชื้อไวรัส HPV เป็นเชื้อไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดย แบ่งเป็นสายพันธุ์เสี่ยงต่ำ และสายพันธุ์เสี่ยงสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเพศชาย ดังนี้ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งทวารหนักเกิดจากการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง เช่น HPV 16 และ 18 ซึ่งทำให้เซลล์บริเวณทวารหนักเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป็นมะเร็งได้  ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV  ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย  การมีคู่นอนหลายคน  อาการที่พบบ่อยคือ เลือดออกจากทวารหนัก ปวดหรือกดเจ็บในบริเวณนั้น และรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อ  การป้องกันทำได้โดยการฉีดวัคซีน HPV การตรวจคัดกรองในกลุ่มเสี่ยง และการใช้ถุงยางอนามัย มะเร็งองคชาต มะเร็งองคชาตเกิดจากการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูง เช่น HPV 16 และ […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ

อาการก่อนเป็นประจำเดือน (PMS) พร้อมวิธีรับมือที่ควรรู้

อาการก่อนเป็นประจำเดือน (Premenstrual syndrome หรือ PMS) เป็นอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนเป็นประจำเดือน มักส่งผลกระทบทั้งด้านร่างกาย จิตใจและอารมณ์ ผู้หญิงแต่ละคนอาจมีอาการก่อนเป็นประจำเดือนที่อาจแตกต่างกันทั้งรูปแบบและความรุนแรงของอาการ เช่น ปวดหลัง ปวดท้อง เจ็บบริเวณหน้าอก ฉุนเฉียวง่าย อารมณ์อ่อนไหว ซึมเศร้า ทั้งนี้ ควรศึกษาอาการที่เกิดขึ้นเพื่อเตรียมรับมืออย่างถูกวิธี โดยทั่วไปแล้ว ภาวะนี้สามารถรักษาด้วยการปรับพฤติกรรม เช่น การออกกำลังกาย การงดสูบบุหรี่ อย่างไรก็ตาม หากปรับพฤติกรรมแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมที่สุด [embed-health-tool-ovulation] อาการก่อนเป็นประจำเดือน คืออะไร อาการก่อนเป็นประจำเดือน (Premenstrual syndrome หรือ PMS) คือ กลุ่มอาการผิดปกติด้านร่างกายและอารมณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไข่ตก ก่อนที่ประจำเดือนจะเริ่มต้นประมาณ 1 สัปดาห์ โดยปกติแล้วอาการก่อนเป็นประจำเดือนจะหายไปภายใน 1-2 วันหลังมีประจำเดือน แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอาจเกิดจากปัจจัยภายใน เช่น ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่เปลี่ยนแปลงในช่วงที่เป็นประจำเดือน คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า หรือปัจจัยภายนอก เช่น การไม่ออกกำลังกาย ความเครียดสะสม การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ สัญญาณของ อาการก่อนเป็นประจำเดือน สัญญาณที่อาจแสดงถึงอาการก่อนเป็นประจำเดือน […]


การคุมกำเนิด

ยาคุมแบบแปะ วิธีการใช้และผลข้างเคียง

การใช้ ยาคุมแบบแปะ หรือแผ่นแปะคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ช่วยในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั่วไปคือ แปะแผ่นแปะคุมกำเนิดไว้บนผิวหนังติดต่อกัน 3 สัปดาห์ใน 1 เดือน โดยเปลี่ยนแผ่นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และงดแปะ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ประจำเดือนมาในรอบเดือนนั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการคุมกำเนิดด้วยการใช้ยาคุมแบบเม็ดที่ต้องกินยาทุกวัน อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิธีใช้งานที่ถูกต้อง และพิจารณาผลข้างเคียงของยาคุมแบบแปะหรือแผ่นแปะคุมกำเนิด อาจช่วยให้วางแผนป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น [embed-health-tool-ovulation] การทำงานของยาคุมแบบแปะ ยาคุมแบบแปะ หรือแผ่นแปะคุมกำเนิด เป็นแผ่นยาฮอร์โมนชนิดฮอร์โมนรวม ประกอบไปด้วยยาฮอร์โมนในกลุ่มเอสโตรเจน (Estrogens) ผสมกับยาฮอร์โมนในกลุ่มโปรเจสติน (Progestins) ซึ่งเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ แผ่นแปะคุมกำเนิดมีลักษณะเป็นแผ่นสีเนื้อบาง ยืดหยุ่นได้ดี สามารถแปะไว้ในขณะที่อาบน้ำ ว่ายน้ำ เล่นกีฬา และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ วิธีใช้คือ แปะแผ่นแปะคุมกำเนิดไว้บนผิวหนังบริเวณต้นแขน หลังส่วนบน หน้าท้อง เป็นต้น แผ่นยาจะปล่อยฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนังและยาจะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่กระแสเลือด ตัวยาจะเข้าไปยับยั้งไม่ให้เกิดการตกไข่ ทำให้มูกบริเวณมดลูกหนาขึ้น ป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิผ่านเข้าไปได้ และทำให้ผนังมดลูกบางจนตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวในมดลูกได้ อย่างไรก็ตาม ยาคุมแบบแปะสามารถช่วยคุมกำเนิดได้เท่านั้น ไม่สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Infections […]


สุขภาพทางเพศ

การใช้ถุงยางอนามัย ให้ถูกต้อง ไม่รั่ว ไม่หลุด และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง

การใช้ถุงยางอนามัย คือ การสวมใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ ซึ่งนับเป็นวิธีที่ปลอดภัย ใช้ได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง ค่าใช้จ่ายน้อย และมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง ทั้งนี้ การใช้ถุงยางอนามัยจำเป็นต้องใส่ให้ถูกวิธีเพื่อการป้องกันที่ได้ผล  และมีข้อควรระวังที่จำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนใช้งาน ถุงยางอนามัย คืออะไร ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์สำหรับคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยการสวมใส่ให้อวัยวะเพศ ส่วนใหญ่ทำจากน้ำยางธรรมชาติหรือน้ำยางสังเคราะห์ มีขนาดเล็กและบาง แต่ขยายได้ตามขนาดของอวัยวะเพศ แยกเป็นถุงยางอนามัยสำหรับเพศชายและสำหรับเพศหญิง ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้ ถุงยางอนามัยสำหรับเพศชาย เป็นแบบใช้ภายนอก โดยสวมครอบองคชาตเมื่อแข็งตัว เพื่อป้องกันน้ำอสุจิไหลเข้าสู่ช่องคลอด และอาจทำให้ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม รวมถึงป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส หูดหงอนไก่ เอชไอวี (HIV) ถุงยางอนามัยของผู้หญิง เป็นแบบใช้ภายใน โดยสอดเข้าไปในช่องคลอด เพื่อไม่ให้น้ำอสุจิไหลเข้าสู่ช่องคลอด และป้องกันความเสี่ยงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หากใช้อย่างถูกวิธี ถุงยางอนามัยจะลดโอกาสตั้งครรภ์และการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้ประมาณ 98 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าใช้ผิดวิธีหรือไม่เหมาะสม ประสิทธิภาพของการป้องกันโรคและการตั้งครรภ์อาจลดลงเหลือ 75 เปอร์เซ็นต์ การใช้ถุงยางอนามัย ที่ถูกต้อง ทำอย่างไร วิธีการใช้ถุงยางอนามัย ทั้งของเพศชายและของเพศหญิง มีดังต่อไปนี้ การใช้ถุงยางอนามัยสำหรับเพศชาย นำถุงยางอนามัยออกจากห่อ เวลาฉีดซองให้ระวังไม่ให้ถุงยางอนามัยเสียหาย ฉีดขาด ควรตรวจสอบว่ายังอยู่ในสภาพดี ไม่ขาด ไม่รั่วทุกครั้งก่อนการใช้งาน หากพบว่าถุงยางอนามัยหมดอายุ หรือมีลักษณะผิดปกติ […]


การคุมกำเนิด

ฉีดยาคุม มีประโยชน์และผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง

ฉีดยาคุม เป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย การฉีดยาคุมกำเนิด 1 ครั้งอาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 3 เดือน ช่วงหลังคลอดหรือให้นมบุตรก็สามารถเข้ารับการฉีดยาคุมกำเนิดได้ การฉีดยาคุมกำเนิดแต่ละครั้งใช้เวลาไม่นาน มีราคาย่อมเยา และอาจสะดวกกว่าการกินยาเม็ดคุมกำเนิดสำหรับบางคน เนื่องจากแก้ไขปัญหาการลืมรับประทานยา อย่างไรก็ตาม การศึกษาประโยชน์และผลข้างเคียงของการฉีดยาคุมกำเนิด อาจช่วยให้ทราบว่าการคุมกำเนิดวิธีนี้เหมาะกับตนเองหรือไม่ และอาจทำให้สามารถคุมกำเนิดด้วยการฉีดยาคุมได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยยิ่งขึ้น [embed-health-tool-ovulation] การทำงานของยาคุมกำเนิดแบบฉีด ยาคุมกำเนิดแบบฉีดชนิดที่นิยมใช้ในประเทศไทย ได้แก่ ยาคุมกำเนิดแบบฉีดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียว (Progestin-only Injectable Contraceptives) หรือที่เรียกว่า ยาฉีดเมดร็อกซีโพรเจสเทอโรนแอซีเทต (Medroxyprogesterone Acetate) ยาคุมชนิดนี้มีเพียงโปรเจสตินซึ่งเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในรูปแบบสังเคราะห์ ไม่มีส่วนผสมของฮอร์โมนในกลุ่มเอสโตรเจน ที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น อารมณ์แปรปรวน คลื่นไส้อาเจียน วิธีฉีดยาคุมกำเนิดทำได้โดยฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อบริเวณต้นแขนข้างที่ไม่ถนัดหรือบริเวณกล้ามเนื้อสะโพก ฮอร์โมนโปรเจสตินจะซึมเข้าสู่กระแสเลือดและช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ด้วยการทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงจนตัวอ่อนที่เกิดจากการปฏิสนธิไม่สามารถฝังตัวได้ ทำให้มูกมดลูกเหนียวขึ้นจนอสุจิผ่านเข้าไปผสมกับไข่ที่บริเวณปากมดลูกได้ยากขึ้น ทั้งยังช่วยยับยั้งการตกไข่ด้วย เพื่อให้ยาคุมกำเนิดแบบฉีดออกฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง ควรฉีดทุก 3 เดือน และควรไปพบคุณหมอตามนัดฉีดยาหรือภายในไม่เกิน 1 สัปดาห์หากครบกำหนดฉีดยาคุมกำเนิดรอบใหม่ การฉีดยาคุมกำเนิด มีประโยชน์อย่างไร ประโยชน์ของการฉีดยาคุมกำเนิด อาจมีดังนี้ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงและปลอดภัย ช่วยให้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้สะดวกขึ้น เนื่องจากไม่ต้องกินยาทุกวัน จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการลืมกินยาเม็ดคุมกำเนิด และอาจออกฤทธิ์ได้นานถึง 3 เดือน ไม่กระทบต่อการมีเพศสัมพันธ์ ราคาถูก อาจเข้าถึงได้ง่ายกว่าการคุมกำเนิดประเภทอื่น เช่น ห่วงอนามัยคุมกำเนิด […]


การคุมกำเนิด

ฝังยาคุมกำเนิด ดีหรือไม่ เหมาะกับใคร

การ ฝังยาคุม เป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวที่ออกฤทธิ์ได้นาน สามารถใช้คุมกำเนิดระยะยาวได้ถึง 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ การฝังยาคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง สามารถฝังและนำออกยาคุมออกได้อย่างรวดเร็ว อาจไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เวลาพักฟื้นนาน อีกทั้งยังไม่ต้องกินยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นประจำทุกเดือน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการใช้ยาคุมแบบฝังควรศึกษาถึงประโยชน์และผลข้างเคียงให้ถี่ถ้วน จะได้ทราบว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ [embed-health-tool-ovulation] ยาคุมกำเนิดแบบฝังทำงานอย่างไร การใช้ยาคุมกำเนิดแบบฝังสามารถทำได้โดยการฝังหลอดยาขนาดเล็ก ยืดหยุ่นสูง ขนาดประมาณ 4 เซนติเมตรหรือประมาณไม้ขีดไฟไว้ใต้ผิวหนังบริเวณท้องแขนท่อนบนของแขนข้างที่ไม่ถนัด ภายในหลอดยาจะบรรจุฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) หรือบางครั้งเรียกว่า โปรเจสโตเจน (Progestogen) ซึ่งจะค่อย ๆ ถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือดประมาณวันละ 70-60 ไมโครกรัม ตัวฮอร์โมนจะไปกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกฝ่อลง ทำให้ตัวอ่อนที่เกิดจากการปฏิสนธิฝังตัวที่เยื่อบุโพรงมดลูกได้ยากขึ้น กระตุ้นให้มูกมดลูกเหนียวข้นจนอสุจิเข้าไปสู่ปากมดลูกได้ยากขึ้น ทั้งยังมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของไข่และป้องกันไม่ให้มีการตกไข่ สามารถใช้คุมกำเนิดระยะยาวได้นานถึง 3-5 ปี ประโยชน์ของการ ฝังยาคุม ประโยชน์ของการฝังยาคุมกำเนิด อาจมีดังนี้ สามารถคุมกำเนิดอย่างได้ผลและมีประสิทธิภาพ ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน อาจมีอาการปวดท้องน้อยลง นอกจากนี้ รอบเดือนอาจมีระยะเวลาสั้นลงหรืออาจไม่มาเลย ใช้สะดวก อาจไม่ต้องกังวลเรื่องวิธีใช้ที่ถูกต้องเหมือนการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น ถุงยาง ยาเม็ดคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ไม่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงไม่เกิดผลข้างเคียง เช่น วิงเวียนศีรษะ อารมณ์แปรปรวนง่าย เหมือนกับการกินยาเม็ดคุมกำเนิด […]


สุขภาพทางเพศ

ต่อมลูกหมากมีความสำคัญอย่างไร เรื่องของอวัยวะภายในที่ผู้ชายควรรู้

ต่อมลูกหมากมีความสำคัญอย่างไร? ต่อมลูกหมากเป็นอวัยวะภายในของระบบสืบพันธุ์เพศชาย อยู่บริเวณเชิงกรานรอบ ๆ ท่อปัสสาวะ มีหน้าที่ผลิตน้ำเมือกสำหรับหล่อเลี้ยงตัวอสุจิ นับเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญต่อระบบสืบพันธุ์อย่างมาก [embed-health-tool-bmr] ต่อมลูกหมาก คืออะไร ต่อมลูกหมาก เป็นอวัยวะภายในของระบบสืบพันธุ์เพศชาย อยู่บริเวณใต้กระเพาะปัสสาวะ และห่อหุ้มรอบท่อปัสสาวะส่วนต้น ต่อมลูกหมากมีขนาดเท่าลูกเกาลัดหรือประมาณลูกปิงปอง หนักราว 15-20 กรัม จะหยุดโตเมื่อผู้ชายอายุประมาณ 20 ปี ต่อมลูกหมากมีหน้าที่ผลิตของเหลวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของน้ำอสุจิ เพื่อหล่อเลี้ยงตัวอสุจิและนำพาตัวอสุจิออกสู่ภายนอกร่างกายเมื่อมีการหลั่งในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ แม้ต่อมลูกหมากจะอยู่ภายในร่างกาย แต่สามารถตรวจหาความผิดปกติได้ด้วยการสอดนิ้วมือผ่านรูทวารเข้าไปสัมผัสและตรวจสอบขนาดหรืออาการบวมของต่อมลูกหมากเรียกว่า การตรวจต่อมลูกหมากทางทวารหนัก ในเพศหญิง อวัยวะภายในซึ่งเปรียบเสมือนต่อมลูกหมากคือต่อมสกีน (Skene's Gland หรือ Paraurethral Gland) โดยอยู่บริเวณส่วนปลายของท่อปัสสาวะ ทำหน้าที่หลั่งสารหล่อลื่นให้ทั้งช่องคลอดและท่อปัสสาวะ ต่อมลูกหมากมีความสำคัญอย่างไร ต่อมลูกหมากมีความสำคัญ ดังนี้ ผลิตส่วนประกอบของน้ำอสุจิ หรือของเหลวสภาพเป็นกรดซึ่งคิดเป็น 15-30 เปอร์เซ็นต์ของน้ำอสุจิทั้งหมด สำหรับหล่อเลี้ยงตัวอสุจิ ขับน้ำอสุจิออกนอกร่างกาย กล้ามเนื้อบริเวณต่อมลูกหมากทำหน้าที่ขับน้ำอสุจิให้ออกจากองคชาตเมื่อถึงจุดสุดยอด ความแรงของน้ำอสุจิคือปัจจัยสำคัญที่ช่วยดันให้ตัวอสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้ลึกพอ และมีโอกาสว่ายไปผสมกับไข่เพื่อปฏิสนธิ ทำให้องคชาตแข็งตัว เส้นประสาทของต่อมลูกหมากจะกระตุ้นให้เลือดจำนวนมากไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงองคชาตและค้างอยู่ในเนื้อเยื่อฟองน้ำในองคชาต ทำให้องคชาตแข็งตัวและพร้อมสำหรับการสอดใส่เข้าไปในช่องคลอดของเพศหญิง มีเอนไซม์ที่เปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ให้เป็นฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone; DHT) ควบคุมปัสสาวะ ไม่ให้รั่วไหลออกจากกระเพาะปัสสาวะขณะรอขับถ่าย เพราะหากเกิดการรั่วไหลอาจไปปนเปื้อนกับตัวอสุจิซึ่งรอหลั่งออกเมื่อถึงจุดสูงยอด โรคที่อาจเกิดขึ้นกับ ต่อมลูกหมาก โรคที่อาจเกิดกับต่อมลูกหมาก อาจมีดังนี้ ต่อมลูกหมากอักเสบ มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แต่ในบางรายอาจไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน […]


สุขภาพทางเพศ

ตรวจช่องคลอด การเตรียมตัว และความเสี่ยงที่ผู้หญิงควรรู้

การตรวจช่องคลอด หรือการตรวจภายใน เป็นการตรวจที่อาจทำให้ทราบถึงสุขภาพภายในช่องคลอดและบริเวณอวัยวะเพศว่าเสี่ยงเป็นโรคหรือมีการติดเชื้อใด ๆ หรือไม่ เพื่อให้สามารถทำการรักษาได้ทันท่วงทีก่อนที่อาการจะลุกลาม ก่อนการตรวจช่องคลอด ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับการตรวจ และคอยสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นหลังการตรวจ เช่น เจ็บช่องคลอด เลือดออกมาก จะได้แจ้งคุณหมอให้ทราบในทันที [embed-health-tool-ovulation] ประโยชน์ของการตรวจช่องคลอด การตรวจช่องคลอด เป็นการตรวจเพื่อหาสัญญาณของการเกิดภาวะต่าง ๆ เช่น ซีสต์ในรังไข่ ปัญหาของท่อรังไข่ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เนื้องอกในมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากมดลูก ซึ่งควรตรวจเป็นประจำทุกปี โดยสามารถเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 21 ปี และสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนการตั้งครรภ์ก็ควรทำการตรวจช่องคลอดเพื่อคัดกรองโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการตกขาวผิดปกติ เลือดออกทางช่องคลอด ปัญหาทางเดินปัสสาวะ ปวดบริเวณช่องคลอดขณะปัสสาวะและระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรเข้ารับการตรวจช่องคลอดเพื่อคัดกรองโรคด้วยเช่นกัน การเตรียมตัวก่อนตรวจช่องคลอด การเตรียมตัวก่อนตรวจช่องคลอด ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้ ควรนับเวลาที่รอบเดือนมา เพราะการตรวจช่องคลอดควรตรวจในวันที่ไม่มีประจำเดือน ทำความสะอาดบริเวณช่องคลอดและอวัยวะเพศให้สะอาดก่อนตรวจ ไม่ควรใช้ยาหรือครีมทาบริเวณช่องคลอดก่อนตรวจ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ หรือกิจกรรมที่มีการสอดวัตถุในช่องคลอดก่อนตรวจอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ขั้นตอนการตรวจช่องคลอด ขั้นตอนการตรวจช่องคลอด มีดังนี้ การตรวจช่องคลอดภายนอกด้วยสายตา เป็นการตรวจขั้นแรก โดยคุณหมออาจตรวจดูบริเวณภายนอกของช่องคลอดเพื่อมองหาความผิดปกติ เช่น ช่องคลอดบวมแดง อาการคันเมื่อสัมผัส แผลพุพอง สีของตกขาวผิดปกติ โดยให้ถอดเสื้อผ้าส่วนล่างและนอนลงบนเตียงสำหรับตรวจภายใน พร้อมกับยกขาขึ้นวางบนที่วางขา เพื่อให้สะดวกต่อการตรวจ การตรวจช่องคลอดภายในด้วยสเปคคูลั่ม (Speculum) […]


สุขภาพทางเพศ

ทำหมันชาย ข้อดี ข้อเสีย และวิธีแก้หมัน

ทำหมันชาย หมายถึง การคุมกำเนิดถาวรในผู้ชาย ด้วยการตัดหรือผูกท่อนำอสุจิ เพื่อไม่ให้อสุจิซึ่งโตเต็มที่แล้วถูกส่งออกนอกร่างกายเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และปฏิสนธิกับไข่ของฝ่ายหญิง จนทำให้เกิดการตั้งครรภ์ โดยปกติ การทำหมันชายมีโอกาสสำเร็จสูง จึงเหมาะกับผู้ชายซึ่งมีบุตรเพียงพอแล้วหรือไม่ต้องการมีบุตร ในกรณีอยากมีบุตรอีกครั้ง สามารถแก้หมันได้ แต่โอกาสสำเร็จค่อนข้างต่ำ ดังนั้น หากมีความประสงค์ที่จะทำหมันชาย ควรศึกษาข้อดี ข้อเสีย และพิจารณาให้ดีเสียก่อน ประเภทของการทำหมันชาย การทำหมันชาย อาจใช้เวลาราว 10-30 นาที โดยวิธีการทำหมันแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ ทำหมันแบบดั้งเดิม คือ การผ่าตัดโดยใช้มีดกรีดบริเวณถุงอัณฑะของคนไข้ ภายใต้ฤทธิ์ยาชาเพื่อหาหลอดนำอสุจิทั้ง 2 ข้างแล้วตัดหรือปิดผนึก ก่อนเย็บปิดแผล ทำหมันเจาะ คือ การผ่าตัดภายใต้ฤทธิ์ยาชาเช่นเดียวกับการทำหมันแบบดั้งเดิม ไม่ใช้มีดผ่าตัด แต่เป็นการใช้เครื่องมือขนาดเล็กเฉพาะทางการแพทย์เจาะผ่านผิวหนังบริเวณถุงอัณฑะเข้าไปในร่างกายเพื่อผูกหรือตัดหลอดนำอสุจิโดยใช้ความร้อน แผลจะเล็กกว่าการทำหมันแบบดั้งเดิม ไม่ต้องเย็บปิดแผลภายนอก และใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า ทั้งนี้ ในการปิดผนึกหลอดนำอสุจิ นอกจากการผูกด้วยมือหรือจี้ด้วยความร้อน คุณหมออาจเลือกใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งเรียกว่า Surgical Clips หรือใช้มากกว่าหนึ่งวิธีในการผ่าตัดทำหมัน เมื่อไรจึงทราบว่าทำหมันชายสำเร็จ การทำหมันชายอาจจะไม่ได้ผลทันที ผู้ที่ทำหมันแล้วจำเป็นต้องสวมถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์เป็นระยะเวลา 1-3 เดือนหลังผ่าตัด หรือจนกว่าจะถึงเวลาที่คุณหมอนัดตรวจตัวอย่างน้ำเชื้อ โดยในการตรวจ คุณหมอจะให้หลั่งน้ำเชื้อใส่ภาชนะ เพื่อนำไปตรวจดูว่ายังมีตัวอสุจิหลงเหลืออยู่หรือไม่ หากไม่พบตัวอสุจิในน้ำเชื้อ แสดงว่าการทำหมันสำเร็จแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์อีกต่อไป ทั้งนี้ […]


สุขภาพทางเพศ

ขลิบปลาย ขั้นตอนและการเตรียมตัว

ขลิบปลาย เป็นการขลิบส่วนปลายองคชาต ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งสำหรับช่วยรักษาความสะอาดของอวัยวะเพศชาย ลดความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงป้องกันความผิดปกติขององคชาต เช่น ภาวะหนังหุ้มปลายไม่เปิด หรือเป็นการขลิบตามประเพณีปฏิบัติซึ่งมักทำตั้งแต่แรกเกิดหรือในช่วงที่ยังเป็นเด็กชาย การเตรียมตัวก่อนขลิบปลาย การขลิบปลายองคชาต เป็นการผ่าตัดเล็ก ไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหารก่อนการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม  คุณหมอจะแนะนำให้งดรับประทานยาที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพรินเป็นเวลา 7-10 วัน ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ทั้งนี้ คุณหมอจะไม่อนุญาตให้เข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากกรณีต่อไปนี้ เป็นโรคซึ่งทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น โรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) รูเปิดของอวัยวะเพศอยู่ต่ำหรือสูงกว่าปกติ มีโรคที่ทำให้ต้องรับประทานยากดภูมิต้านทานอยู่ ซึ่งมีผลทำให้ติดเชื้อได้ง่ายจากการผ่าตัด องคชาตติดเชื้อ หรือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นมะเร็งองคชาต ขั้นตอนการขลิบปลาย ขั้นตอนการขลิบปลายองคชาต แบ่งตามประเภทเครื่องมือการผ่าตัด ดังนี้ การผ่าตัดขลิบปลายองคชาตแบบดั้งเดิม ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที และคนไข้สามารถกลับบ้านได้เลยหลังผ่าตัดเสร็จ โดยเริ่มแรก คุณหมอจะทำความสะอาดองคชาตของคนไข้และบริเวณโดยรอบ หลังจากนั้น จึงผ่าตัดตามขั้นตอน ดังนี้ ฉีดยาชาที่องคชาต รัดปลายองคชาตด้วยตัวหนีบหรือวงแหวนพลาสติก ตัดหนังหุ้มปลายออกด้วยมีดผ่าตัดหรือกรรไกร ทายาปฏิชีวนะหรือปิโตรเลียมเจลลีบริเวณองคชาต พันองคชาตด้วยผ้าพันแผล การขลิบปลายแบบไร้เลือด ขั้นตอนจะแตกต่างจากการขลิบปลายแบบดั้งเดิมเล็กน้อย และใช้เวลาผ่าตัดเพียง 10-15 นาที โดยหลังจากฉีดยาชาให้คนไข้แล้ว คุณหมอจะปฏิบัติดังนี้ สอดชิ้นส่วนของเครื่องมือผ่าตัด ซึ่งมีรูปทรงคล้ายกระดิ่ง เข้าไปในองคชาต หรือใต้หนังหุ้มปลาย กะขนาดและส่วนของปลายองคชาตซึ่งจะถูกตัดออก ใช้ปากท่อเครื่องมือผ่าตัดเฉพาะทางซึ่งมีรูปร่างคล้ายปืนครอบบนปลายองคชาตเพื่อตัดหนังหุ้มปลายและห้ามเลือดในเวลาเดียวกัน […]


สุขภาพทางเพศ

ปวดอัณฑะ สาเหตุ และการดูแลตัวเอง

ปวดอัณฑะ เป็นอาการที่พบได้ในผู้ชายเมื่อระบบสืบพันธุ์หรือระบบขับถ่ายเกิดภาวะผิดปกติหรือเป็นโรค เช่น อัณฑะอักเสบ ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ โรคถุงน้ำลูกอัณฑะ ในเบื้องต้นอาจดูแลตัวเองด้วยการรับประทานยาแก้ปวดหรือใช้น้ำแข็งประคบบริเวณอัณฑะ แต่หลังจากนั้น ควรพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาให้ถูกจุด [embed-health-tool-ovulation] ปวดอัณฑะ เกิดจากอะไร ปวดอัณฑะ มักเป็นอาการสืบเนื่องจากความผิดปกติบริเวณช่วงล่างของผู้ชาย ทั้งจากระบบสืบพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่น อัณฑะอักเสบ อัณฑะอักเสบ อาจเกิดได้กับอัณฑะข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง เป็นผลจากการติดเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนองในหรือหนองในเทียม หรือจากการติดเชื้อของหลอดเก็บตัวอสุจิ หรือการติดเชื้อไวรัสซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกับโรคคางทูม หากไม่เคยได้รับวัคซีนโรคคางทูมมาก่อน อาจเพิ่มความเสี่ยงให้ป่วยเป็นอัณฑะอักเสบได้ อาการอื่น ๆ ซึ่งอาจพบได้ในผู้ป่วยอัณฑะอักเสบ คือ อัณฑะบวมข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้อัณฑะอักเสบประกอบด้วย การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และการผ่าตัดในระบบทางเดินปัสสาวะหรืออวัยวะเพศ วิธีการรักษา อัณฑะอักเสบรักษาได้ด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะ ทั้งในกรณีของการป่วยเนื่องจากแบคทีเรีย โดยการรักษาอัณฑะอักเสบเนื่องจากเชื้อไวรัส คุณหมออาจให้ผู้ป่วยดูแลตัวเองเพิ่มเติมที่บ้าน ด้วยการประคบเย็นเป็นเวลา 15-20 นาที/ครั้ง ร่วมกับการให้สวมกางเกงในกีฬา (Athletic Supporter) เพื่อไม่ให้อัณฑะได้รับการกระทบกระเทือนเวลาเคลื่อนไหว ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ เป็นภาวะที่ลำไส้ยื่นออกจากช่องท้อง อาจพบก้อนนูนที่ขาหนีบ ซึ่งจะเห็นนูนชัดขึ้นเมื่อลำตัวตั้งตรงขณะนั่ง ยืน เดิน สาเหตุเกิดจากผนังหน้าท้องบางลงเนื่องจากอายุมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมที่ไปเพิ่มแรงดันในช่องท้อง เช่น การเบ่งอุจจาระ ทั้งนี้ ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ ทำให้อัณฑะบวมหรือปวดได้ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน