สุขภาพทางเพศ

สุขภาพทางเพศ คืออีกหนึ่งส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Hello คุณหมอ จึงอยากนำเสนอเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ไปจนถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ผู้อ่านได้มีสุขภาพทางเพศที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพทางเพศ

HPV ในผู้หญิงตั้งครรภ์ ส่งผลกระทบต่อคุณแม่และลูกน้อยอย่างไร

HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยบางสายพันธุ์สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกและภาวะผิดปกติอื่น ๆ ในระบบสืบพันธุ์ สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ HPV มักกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของตัวเองและทารกในครรภ์ โดยเฉพาะการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การคลอดก่อนกำหนด และการถ่ายทอดไวรัสสู่ทารกในระหว่างคลอด ผลกระทบของ HPV ต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ ผลกระทบต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ การเกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศ (Genital Warts) การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการเกิดหูดในบริเวณอวัยวะเพศ หูดเหล่านี้อาจโตขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบไหลเวียนเลือด หากหูดมีขนาดใหญ่ อาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือขัดขวางการคลอดทางช่องคลอด การเปลี่ยนแปลงในปากมดลูก การติดเชื้อ HPV โดยเฉพาะสายพันธุ์ความเสี่ยงสูง อาจทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งปากมดลูกได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ ความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ในบางกรณี การติดเชื้อ HPV อาจเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะหากมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด การติดเชื้อ HPV อาจกระตุ้นการอักเสบในระบบสืบพันธุ์ ซึ่งส่งผลต่อการคลอดก่อนกำหนด การคลอดก่อนกำหนดอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาวสำหรับทารก เช่น การเจริญเติบโตที่ช้ากว่าปกติ ผลกระทบต่อทารกในครรภ์และหลังคลอด การติดเชื้อในทารก แม้โอกาสที่ HPV จะส่งต่อถึงทารกในครรภ์มีน้อย แต่มีรายงานว่าการคลอดทางช่องคลอดในกรณีที่แม่มีหูดหรือการติดเชื้อ HPV […]

หมวดหมู่ สุขภาพทางเพศ เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพทางเพศ

โรคซิฟิลิส

ซิฟิลิส อาการ สาเหตุ การรักษา

ซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อที่สามารถแพร่กระจายผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังอาจแพร่กระจายจากการติดเชื้อผ่านทางผิวหนังหรือเนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นแผลเปิด หากปล่อยไว้เป็นเวลานาน  เชื้ออาจมีการติดต่อไปยังน้ำเลี้ยงสมองและไขสันหลัง ส่งผลต่อการทำงานของสมอง ระบบประสาท หัวใจ และอวัยวะอื่นได้ คำจำกัดความซิฟิลิส คืออะไร ซิฟิลิส คือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากเชื้อแบคทีเรียที่ส่วนมากจะมีรอยโรคหรือแผลที่ไม่มีความเจ็บปวดเกิดขึ้นบริเวณทวารหนัก อวัยวะเพศ และปาก รวมถึงอาจสามารถแพร่กระจายไปยังทารกได้หากมารดามีการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์ ผู้ที่ติดเชื้อซิฟิลิสหากไม่ได้เข้ารับการรักษา อาจเสี่ยงเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนที่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่ระบบประสาท หัวใจ หลอดเลือด และเพิ่มโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้น   อาการอาการซิฟิลิส อาการซิฟิลิสแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้   ซิฟิลิสระยะแรก หรือระยะปฐมภูมิ เป็นระยะที่อาจทำให้ผู้ติดเชื้อมีแผลริมแข็ง หรือแผลพุพองเล็ก ๆ บริเวณทวารหนัก อวัยวะเพศ หรือรอบปาก แต่อาจไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดใด ๆ อาจมีอาการคันที่บริเวณแผลได้  ซิฟิลิสทุติยภูมิ หลังจากที่ร่างกายได้รับเชื้อประมาณ 6 สัปดาห์ ถึง 6 เดือน อาจทำให้ผื่นแดงขึ้นบนผิวหนังทั่วทั้งร่างกาย บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า บางคนอาจมีไข้ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ และมีอาการผมร่วง ซิฟิลิสตติยภูมิ หากไม่รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกที่สังเกตเห็นความผิดปกติ อาจทำให้อาการซิฟิลิสพัฒนาเข้าสู่ระยะตติยภูมิที่กระทบต่อสุขภาพหัวใจ สมอง และเส้นประสาทอย่างรุนแรง เสี่ยงต่อการเป็นอัมพาต ตาบอด หูหนวก สมองเสื่อม หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ สาเหตุสาเหตุของซิฟิลิส ซิฟิลิสมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า […]


การคุมกำเนิด

ผลข้างเคียงของยาคุม มีอะไรบ้าง ยาคุมไม่เหมาะกับใคร

ยาคุม เป็นยาเม็ดรับประทานช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ หากรับประทานยาอย่างถูกต้องอาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แต่ยังไม่ถือว่ามีประสิทธิภาพ 100% และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนรับประทานยาคุมควรทราบถึงข้อดี และ ผลข้างเคียงของยาคุม เพื่อพิจารณาก่อนตัดสินใจรับประทาน [embed-health-tool-ovulation] ยาคุม คืออะไร ยาคุม คือ ยาคุมกำเนิดป้องกันการตั้งครรภ์ ซึ่งมี 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ยาคุมกำเนิดแบบผสม ที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสติน (Progestins) ส่วนยาคุมแบบมินิพิล (Minipill) จะมีส่วนประกอบของฮอร์โมนโปรเจสตินเท่านั้น และมีขนาดค่อนข้างเล็กกว่ายาคุมกำเนิดแบบผสม โดยยาคุมกำเนิดแต่ละชนิดอาจมีรูปแบบ และวิธีการรับประทานแตกต่างกัน เช่น ยาคุมบางชุดอาจมีทั้งแบบ 21 และ 28 เม็ด ประกอบด้วยยาออกฤทธิ์ 21 เม็ด แต่สำหรับชุดยา 28 เม็ด อาจมียาหลอกร่วมประมาณ 7 เม็ด การรับประทานยาคุมกำเนิดควรรับประทานวันแรกที่รอบเดือนมา วันละ 1 เม็ด และรับประทานในช่วงเวลาที่ตรงกันทุกวัน เพื่อง่ายต่อการจดจำ หากกรณีลืมรับประทานให้รีบรับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากลืมรับประทานยาคุมจนเข้าสู่วันที่ 2 ควรรับประทาน 2 […]


สุขภาพทางเพศ

ตกขาวสีเหลือง เกิดจากอะไร ผิดปกติหรือไม่

ตกขาว คือกระบวนการทำความสะอาดภายในช่องคลอดและปากมดลูก โดยร่างกายจะหลั่งของเหลวออกมา เพื่อกำจัดแบคทีเรีย แต่หากมี ตกขาวสีเหลือง และมีกลิ่น อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าภายในช่องคลอดกำลังเสี่ยงติดเชื้อจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงควรรีบหาสาเหตุเพื่อจะได้รักษาได้อย่างตรงจุด [embed-health-tool-ovulation] สาเหตุของอาการ ตกขาวสีเหลือง สาเหตุทั่วไปที่ทำให้ตกขาวเปลี่ยนจากสีใสหรือขาวขุ่นเป็นสีเหลือง อาจมีอยู่ 3 ปัจจัย ดังนี้ สัญญาณเตือนก่อนมีประจำเดือน หากตกขาวมีสีเหลือง แต่มีลักษณะเป็นน้ำเหลว โดยปกติแล้วไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนก่อนมีประจำเดือน ซึ่งส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ เช่น สิวขึ้นบนใบหน้า เจ็บหน้าอก รู้สึกเหนื่อยง่าย ปวดท้อง ท้องร่วง ท้องอืด อารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล อีกทั้งบางครั้งอาจมีเลือดประจำเดือนปะปนออกมาด้วย การตั้งครรภ์ ตกขาวที่มีลักษณะหนากว่าปกติ และมีสีเหลืองอ่อน ไร้กลิ่น อาจเป็นสัญญาณเตือนก่อนมีประจำเดือน หรือสัญญาณแรกเริ่มของการตั้งครรภ์ ซึ่งสีเหลืองนี้อาจมาจากเลือดขณะที่ตัวอ่อนฝังตัวในระยะแรก หากมีความกังวลใจ หรืออยากทราบผลให้แน่ชัด สามารถซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์ หรือเข้าขอรับการตรวจอย่างละเอียดจากคุณหมอได้ การติดเชื้อภายในช่องคลอด หากตกขาวสีเหลือง มีกลิ่นฉุนและคาว อาจเป็นไปได้ว่าช่องคลอดติดเชื้อแบคทีเรีย หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจส่งผลให้มีอาการแสบคันบริเวณอวัยวะเพศ แสบร้อนขณะปัสสาวะ ระคายเคือง บวมแดง เพื่อความปลอดภัย ควรเข้ารับการตรวจภายในและแจ้งให้คุณหมอทราบถึงอาการต่าง ๆ […]


เคล็ดลับเรื่องบนเตียง

เล้าโลม ความสำคัญ และวิธีกระตุ้นอารมณ์ให้คู่รัก

เล้าโลม เป็นการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ เพื่อเตรียมความพร้อมทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ก่อนมีเพศสัมพันธ์ กระบวนการนี้สามารถทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซิน (Oxytocin) ฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) และฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) ที่เป็นสารในการสร้างความสุข และอาจทำให้คู่รักมีเลือดไหลเวียนไปที่อวัยวะเพศมากขึ้น ร่างกายผลิตสร้างสารหล่อลื่น และช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ด้วย การเล้าโลมอาจเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผู้หญิง เพราะผู้หญิงอาจต้องใช้เวลาในการกระตุ้นอารมณ์ และทำกิจกรรมทางเพศนานกว่าผู้ชาย กว่าจะไปถึงจุดสุดยอด [embed-health-tool-ovulation] วิธีเล้าโลมคู่รัก วิธีเล้าโลมกระตุ้นอารมณ์คู่รักฝ่ายตรงข้าม สามารถปฏิบัติได้ตามวิธีเหล่านี้ ใช้เวลาร่วมกัน หรือหากิจกรรมทำร่วมกันเพิ่มความโรแมนติก เช่น ชวนคู่รักเต้น ทำอาหาร นวดกระตุ้นความรู้สึก อาบน้ำด้วยกัน สัมผัสร่างกายให้ทั่วด้วยการกอด จูบ หรือลูบไล้ผิว โดยเฉพาะบริเวณหลังคอ หลังใบหู ทวารหนัก เนื่องจากอวัยวะเหล่านี้มีเส้นประสาทที่อาจช่วยกระตุ้นอารมณ์ได้ หากผู้ชายต้องการกระตุ้นอารมณ์ผู้หญิงอาจสัมผัสบริเวณคลิตอริส หรือปุ่มกระสัน ซึ่งอยู่บริเวณปากช่องคลอดของอวัยวะเพศผู้หญิง ผู้หญิงอาจใช้เวลานานกว่าจะกระตุ้นให้มีอารมณ์ได้ และไปถึงจุดสุดยอดได้ยาก จึงควรใช้เวลาในการเล้าโลม สัมผัสร่างกายสักพัก อย่างไม่เร่งรีบจนเกินไป หากผู้หญิงมีอาการช่องคลอดแห้ง แม้จะมีอารมณ์ทางเพศแล้ว ก็ควรใช้สารหล่อลื่นด้วย  การเตรียมความพร้อมก่อน เล้าโลม วิธีการเหล่านี้ อาจทำให้การเล้าโลมและการเตรียมพร้อมก่อนมีเพศสัมพันธ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น  รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหมั่นออกกำลังกายเพื่อป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ที่อาจทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อมลง สื่อสารพูดคุยเกี่ยวกับความต้องการทางเพศของคู่รัก เพราะการพูดคุยเรื่องเพศอาจช่วยเพิ่มความเข้าใจ […]


สุขภาพทางเพศ

ประจําเดือนเป็นลิ่มเลือด มาน้อย เพราะสาเหตุใด

ประจําเดือนเป็นลิ่มเลือด มาน้อย เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกและจับตัวกันเป็นก้อน เพื่อป้องกันร่างกายเสียเลือดมากเกินไป ภาวะนี้เป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงมีประจำเดือน แต่ถ้าประจำเดือนที่จับตัวกันเป็นก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง นั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ควรเร่งหาสาเหตุและเข้ารับการรักษา [embed-health-tool-ovulation] สาเหตุที่ทำให้ประจําเดือนเป็นลิ่มเลือด มาน้อย ช่วงก่อนมีประจำเดือน ร่างกายจะสร้างสภาพแวดล้อมภายในมดลูกให้พร้อมต่อการตั้งครรภ์ โดยการสร้างเยื่อโพรงมดลูกให้หนาขึ้นเพื่อให้ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิฝังตัว แต่เมื่อไข่ไม่ได้รับการปฏิสนธิทำให้เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกที่ก่อตัวหนาขึ้นจะหลุดออกตามธรรมชาติกลายเป็นประจำเดือน ร่างกายจะปล่อยพลาสมาและเกล็ดเลือดออกมา เพื่อช่วยป้องกันหลอดเลือดในเยื่อบุโพรงมดลูกมีเลือดออกมากเกินไป ส่งผลให้เลือดแข็งตัวและจับตัวกันเป็นก้อน นอกจากนี้ ประจําเดือนเป็นลิ่มเลือดยังอาจเกิดจากที่ประจำเดือนถูกขับออกมาไม่หมด จึงเกิดการสะสมในช่องคลอดกลายเป็นลิ่ม หรือก้อนเหมือนตับได้ บางคนที่ประจำเดือนมามากอาจมีการสูญเสียเลือดประมาณ 80 มิลลิลิตร หรือมากกว่านั้น เป็นระยะเวลาอาจนานกว่า 7 วัน ซึ่งอาจทำให้ร่างกายปล่อยพลาสมาและเกล็ดเลือดออกมามากขึ้นเพื่อห้ามเลือดโดยการทำให้เลือดแข็งตัว ส่งผลให้ประจําเดือนเป็นลิ่มเลือดซึ่งอาจมีขนาดใหญ่กว่า 2.5 เซนติเมตร ภาวะนี้มักเกิดขึ้นเมื่อมีประจำเดือนอยู่ในช่องคลอดหรือโพรงมดลูกก่อนวันที่จะมีประจำเดือน ประจําเดือนเป็นลิ่มเลือด มาน้อย อันตรายไหม ประจําเดือนเป็นลิ่มเลือด มาน้อยสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงวัยมีประจำเดือนทุกคน ถือเป็นเรื่องปกติที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ แต่หากมีประจําเดือนเป็นลิ่มเลือดขนาดใหญ่กว่า 2.5 เซนติเมตรออกมาทางปากมดลูก อาจส่งผลให้มีอาการ ดังนี้ ปวดและเป็นตะคริวที่กระดูเชิงกราน หรือหลังส่วนล่าง ปวดประจำเดือน ประจำเดือนไม่มา หรือประจำเดือนมามากกว่าปกติ รู้สึกไม่สบายตัว หรือเจ็บปวดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ ประจําเดือนเป็นลิ่มเลือดอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น เนื้องอก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มดลูกโต มะเร็งมดลูก ติ่งเนื้อมดลูก โรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ (PID) […]


โรคเริมที่อวัยวะเพศและเริมที่ปาก

รักษาเริมที่ปาก สามารถทำได้อย่างไร

โรมเริม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถพบได้บ่อย เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Herpes simplex virus (HSV) ผู้ป่วยอาจไม่แสดงอาการและอาจไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อไวรัส หากเริ่มรุนแรง อาจมีอาการเจ็บปวดในปาก เหงือก ลิ้น โดยการ รักษาเริมที่ปาก อาจช่วยบรรเทาอาการและลดการแพร่เชื้อของไวรัส [embed-health-tool-ovulation] อาการของเริมที่ปาก การติดเชื้อเริมที่ปาก อาจไม่แสดงอาการ หรืออาจมีอาการหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 2-12 วัน อาการอาจเริ่มจากรู้สึกแสบร้อน หรือคันบริเวณริมฝีปาก และเกิดตุ่มใส ๆ ลักษณะคล้ายพวงองุ่น หลังจากนั้นประมาณ 4-6 วัน ตุ่มใสจะเริ่มแห้งและหายเป็นปกติ อาจมีไข้ เหนื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ เหงือกบวม รวมถึงต่อมน้ำเหลืองที่คอบวมร่วมด้วย แต่ถ้าหากร่างกายอ่อนแอ อาการของโรคเริมที่ปากก็อาจกลับมาได้อีกครั้ง  การ รักษาเริมที่ปาก ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโรคเริมที่ปากให้หายได้ 100 % เนื่องจากผู้ที่เคยเป็นเริมที่ปากอาจกลับมาเป็นซ้ำได้อีก หากร่างกายอ่อนแอ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่การรักษาด้วยยาต้านไวรัสดังต่อไปนี้ อาจช่วยบรรเทาอาการได้ อะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) รับประทาน 400 มก. วันละ 3 ครั้ง หรือ 200 มก. วันละ […]


สุขภาพทางเพศ

แพ้ยาคุม อาการและผลข้างเคียง

แพ้ยาคุม อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน หรือการแพ้ฮอร์โมนเพศหญิงของร่างกาย ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ หรือปวดหัว หรืออาจร้ายแรงกลายเป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงได้ การรู้ถึงสาเหตุ การรักษา และการป้องกันอาจเป็นวิธีที่จะช่วยรับมือกับอาการแพ้ยาคุมที่อาจเกิดขึ้น [embed-health-tool-ovulation] คำจำกัดความ แพ้ยาคุม คืออะไร ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestin)  ซึ่งตัวฮอร์โมนทั้งคู่จะช่วยยับยั้งการตกไข่  และสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการตั้งครรภ์ เช่น ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางตัวลง บางคนอาจมีอาการแพ้ยาคุม ซึ่งอาจเป็นความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ต่อต้านยา จนทำให้เกิดอาการแพ้ยาคุม ในบางกรณีอาการแพ้ยาอาจลดลงหรือหายไป หรืออาจรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประวัติสุขภาพของผู้ป่วยด้วย ทั้งนี้ อาการแพ้ยาคุม คือการที่แพ้ส่วนประกอบของฮอร์โมน หรือสารประกอบอื่นที่บรรจุมาในเม็ดยา ซึ่งในรายที่มีอาการแพ้แบบรุนแรงจะไม่แนะนำให้มีการใช้ยาต่อ แต่อาการส่วนใหญ่ที่เกิดหลังจากการใช้ยาคุมกำเนิดในช่วงแรก จะเรียกว่าผลข้างเคียงจากยา หรือเป็นภาวะที่ร่างกายได้รับฮอร์โมนจากภายนอกแล้วมีการตอบสนองที่แตกต่างกันไป สามารถใช้ยาต่อไปได้ แพ้ยาคุมพบบ่อยแค่ไหน การแพ้ยาคุมไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้ เช่นเดียวกับการแพ้ยาชนิดอื่นๆ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาชนิดใหม่ต้องสังเกตอาการที่เกิดขึ้นเสมอ ส่วนอาการที่เป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาคุมสามารถเกิดขึ้นได้น้อยกว่า 5% เช่น อาการเจ็บหน้าอก คลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ มีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย จึงควรปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทานยาคุมกำเนิดเสมอ อาการ อาการแพ้ยาคุม อาการแพ้ยาเป็นปฏิกิริยาความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่มีต่อยา ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งคุณหมอ ยาสมุนไพร หรือยาคุมกำเนิด อาจสามารถกระตุ้นทำให้เกิดอาการแพ้ยาได้ อาการแพ้ยามีความแตกต่างกับผลข้างเคียงของยาที่อาจเกิดขึ้นได้ตามคำระบุไว้บนฉลากยา ซึ่งอาการอาจเกิดขึ้นทันทีหรือเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังกินยา โดยอาการเหล่านี้อาจคงอยู่เป็นเวลานานหลายชั่วโมง หลายวัน หรือหลายสัปดาห์ อาการแพ้ยาคุมที่พบบ่อย ได้แก่ ลมพิษ […]


สุขภาพทางเพศ

ปวดท้องเมน เกิดจากอะไร และรับมือได้อย่างไร

ปวดท้องเมน คืออาการปวดท้องน้อย และอาจปวดบริเวณหลังส่วนล่างไปถึงต้นขา ที่เกิดขึ้นในช่วงขณะที่มีประจำเดือน โดยอาจมีสาเหตุการบีบตัวของมดลูกตามปกติ หรืออาจเกิดจากปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกในมดลูก ปากมดลูกอักเสบ หากสังเกตว่ามีอาการปวดประจำเดือนมากผิดปกติ ควรพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม [embed-health-tool-ovulation] ปวดท้องเมน คืออะไร อาการปวดท้องเมนจะเกิดขึ้นต่อเมื่อใกล้เข้าสู่ช่วงมีประจำเดือน เนื่องจากเยื่อบุมดลูกจะผลิตสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งเป็นสารที่เข้าไปกระตุ้นให้มดลูกเกิดการบีบตัวและคลายตัวเพื่อขับเยื่อบุมดลูกออกจากช่องคลอด ซึ่งลักษณะการบีบตัวและคลายตัวนี้ส่งผลให้ผู้หญิงส่วนใหญ่อาจมีอาการปวดท้องก่อนมีประจำเดือนหรือระหว่างมีประจำเดือน โดยลักษณะของอาการปวดท้องจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับลักษณะการบีบตัวของมดลูก อาการปวดท้องเมน อาการปวดท้องเมน อาจสังเกตได้จากปฏิกิริยาต่าง ๆ เหล่านี้ มีอาการปวดบริเวณท้องน้อย และอาจปวดท้องอย่างหนักในบางครั้ง ปวดท้องก่อนมีประจำเดือนประมาณ 1-3 วัน และอาจรู้สึกปวดท้องมากในช่วง 24 ชั่วโมง เมื่อประจำเดือนมา และจะบรรเทาลงภายใน 2-3 วัน รู้สึกปวดไปถึงหลังส่วนล่าง และต้นขา ประจำเดือนออกมาเป็นลักษณะลิ่มเลือดปริมาณมาก ผู้หญิงบางคนอาจมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ ท้องร่วง ร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง หรือนานกว่า 2-3 วัน ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการตรวจช่องคลอด และปากมดลูกภายในอย่างละเอียด สาเหตุของอาการปวดท้องเมน สาเหตุที่อาจทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่ปวดท้องเมน อาจเกิดได้จากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ ผู้หญิงที่อายุระหว่าง 30-45 ปี […]


สุขภาพทางเพศ

ตกขาวเยอะ เกิดจากอะไร ผิดปกติหรือไม่

ตกขาว เป็นของเหลวที่หลั่งออกจากช่องคลอด และปากมดลูก มีส่วนช่วยในการกำจัดสิ่งสกปรก และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ช่องคลอด แต่หาก ตกขาวเยอะ และมีความผิดปกติของสีตกขาวร่วมด้วย ก็เป็นไปได้ว่า ภายในช่องคลอด อาจกำลังเกิดการติดเชื้อจากสิ่งแปลกปลอม เช่น แบคทีเรีย เชื้อโรค เชื้อรา [embed-health-tool-ovulation] ตกขาวเยอะ ผิดปกติหรือไม่ การมีตกขาว เป็นเรื่องปกติของผู้หญิง เพราะตกขาวเป็นระบบการกำจัดสิ่งสกปรกจากแบคทีเรีย และเซลล์ที่ตายแล้วออกจากช่องคลอดโดยธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ช่องคลอด หากตกขาวเยอะจนเกินไปแต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสี อาจเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงวันมีประจำเดือน ตกไข่ ให้นมบุตร หรืออาจถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากมีตกขาวเยอะพร้อมกับมีการเปลี่ยนแปลงของสี จากสีขาวเป็นสีครีม สีเหลือง สีเขียว สีเทา และมีกลิ่น หรือการระคายเคืองแสบในช่องคลอด อาจต้องเข้ารับการตรวจโดยคุณหมอในทันที เพราะอาจเป็นอาการของการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราภายในช่องคลอด สาเหตุที่ทำให้ตกขาวเยอะ สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงมีอาการตกขาวเยอะ อาจมีดังต่อไปนี้  การถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ เมื่อถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศอาจทำให้เกิดการตื่นตัวทางกายภาพที่เข้าไปเพิ่มการไหลเวียนของเลือดภายในอวัยวะเพศ ซึ่งอาจส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวและดันของเหลวไปยังผนังช่องคลอด เพื่อคอยเป็นน้ำหล่อลื่นขณะมีเพศสัมพันธ์ การตกไข่ การที่ช่องคลอดขับตกขาวออกมาเยอะ อาจเป็นสัญญาณเตือนที่นำไปสู่การตกไข่ก่อนถึงรอบเดือน และตกขาวอาจลดระดับลงหลังจากการตกไข่แล้ว ช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย ช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรียเป็นภาวะที่แบคทีเรียมีการเจริญเติบโตมากเกินไป ทำให้อาจพัฒนานำไปสู่ช่องคลอดอักเสบ มีตกขาวเยอะ และมีกลิ่นที่ค่อนข้างรุนแรง การติดเชื้อรา เชื้อราในช่องคลอดเป็นผลมาจากการติดเชื้อราที่มีชื่อว่า “แคนดิดา” ซึ่งเชื้อราชนิดนี้อาจส่งผลให้มีอาการตกขาวเยอะ และอาการคันอย่างหนัก หากอาการดังกล่าวไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรเข้ารับการรักษาทันทีก่อนเกิดการติดเชื้อรุนแรง การรักษาภาวะตกขาวเยอะ การรักษาภาวะตกขาวเยอะ อาจเป็นไปตามสาเหตุ […]


สุขภาพทางเพศ

อุ้งเชิงกรานอักเสบ อาการ การรักษาและการป้องกัน

อุ้งเชิงกรานอักเสบ เป็นการติดเชื้อทางอวัยวะสืบพันธุ์ ส่วนใหญ่เกิดจากโรคหนองในแท้และโรคหนองในเทียม อาจทำให้มีอาการปวดอุ้งเชิงกราน เจ็บปวดเมื่อปัสสาวะ และอาจมีเลือดออกทางช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก หรือการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ [embed-health-tool-ovulation] คำจำกัดความ อุ้งเชิงกรานอักเสบคืออะไร อุ้งเชิงกรานอักเสบ คือ การติดเชื้อทางอวัยวะสืบพันธ์ุของสตรี ได้แก่ มดลูก รังไข่ ท่อนำไข่ และปากมดลูก ซึ่งอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในเทียม โรคหนองในแท้ หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดปัญหามีลูกยาก ปัญหาระหว่างตั้งครรภ์ หรืออาจมีอาการปวดกระดูกเชิงกรานเรื้อรังได้ อุ้งเชิงกรานอักเสบพบบ่อยแค่ไหน อุ้งเชิงกรานอักเสบพบบ่อยในผู้หญิงอายุ 15-24 ปี และความเสี่ยงเป็นโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบอาจเพิ่มสูงขึ้นหากมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เคยมีประวัติอุ้งเชิงกรานอักเสบมาก่อน เปลี่ยนคู่นอนบ่อย และสวนล้างอวัยวะเพศ อาการ อาการอุ้งเชิงกรานอักเสบ โรคอุ้งเชิงกรานอักเสบมักไม่แสดงอาการชัดเจน ทำให้ผู้ป่วยหลายคนอาจไม่รู้ตัว อาการของอุ้งเชิงกรานอักเสบอาจมีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงรุนแรงมาก ดังนี้ ปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน หรือท้องน้อย รู้สึกเจ็บปวดเมื่อปัสสาวะ หรือระหว่างมีเพศสัมพันธ์ มีเลือดออกทางช่องคลอด โดยเฉพาะหลังหรือระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น อาจมีสีเขียวหรือสีเหลือง ประจำเดือนมามาก ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการรุนแรงขึ้น ดังนี้ ไม่สบายตัว หนาวสั่น มีไข้ ปวดท้องรุนแรง สาเหตุ สาเหตุอุ้งเชิงกรานอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคหนองในเทียม และโรคหนองในแท้ ซึ่งสามารถติดต่อได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน นอกจากนี้ อวัยวะสืบพันธ์ุอาจได้รับเชื้อแบคทีเรียจากสาเหตุอื่นได้ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน