สุขภาพผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะภายนอกที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในร่างกาย ผิวหนังนั้นมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้งเป็นเกราะป้องกันจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือช่วยควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับการมี สุขภาพผิว ที่ดี และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย เพื่อการปกป้องดูแลผิวของคุณให้ดียิ่งขึ้น ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพผิว

รักษาสิวอย่างตรงจุด ด้วยนวัตกรรมเรตินอยเจนใหม่

“สิว” ไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด ยิ่งคนที่เคยเผชิญปัญหานี้ บอกเลยมีทั้งความกังวลใจ และความไม่มั่นใจ ถึงแม้สิวจะหายไป แต่ก็ยังคงส่งผลกระทบตามมา ทั้งรอยแผลเป็นจากสิว หลุมสิว รอยดำ รอยแดง และสำหรับคนที่เคยมีปัญหาสิว โดยเฉพาะในวัยรุ่น สิ่งที่ตามมาไม่ใช่แค่ปัญหาทางผิวหนังเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจ หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ กังวลทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับคนอื่น รู้สึกเหมือนถูกจับจ้อง หรือบางครั้งถึงกับหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ กัดกร่อนความมั่นใจในตัวเอง และทำให้หลายคนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น การปล่อยปละละเลยไม่รีบรักษาสิวตั้งแต่เนิ่นๆ อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิวที่เกิดจากหลุมสิว ยกตัวอย่างเช่น สิวที่หลัง ซึ่งมักถูกมองข้าม ทำให้ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม การรักษารอยแผลเป็นจากสิวเหล่านี้เป็นไปได้ยาก และในปัจจุบันก็สามารถดูแลได้เพียงทำให้หลุมสิวดีขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีจึงควรเริ่มรักษาสิวด้วยวิธีที่ถูกต้อง และเร็วที่สุด เพื่อลดความรุนแรงและรอยโรคที่จะเกิดขึ้นตามมา แน่นอนว่าปัญหาสิวไม่สามารถหายไปได้ง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นยังเกิดขึ้นในหลายส่วนของร่างกาย 64.6-89.3% ของคนที่เป็นสิวในระดับปานกลางมักจะต้องเจอกับสิวที่ใบหน้าและสิวที่หลัง จากการสำรวจพบว่ามีคนไทยที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 12-25 ปี มากถึง 85% ที่ต้องเผชิญกับปัญหาสิว ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 50% ที่เป็นสิวทั้งที่หน้าและสิวที่หลัง การรักษาสิวอย่างตรงจุด จึงจำเป็นที่จะต้องครอบคลุมทั้ง 2 บริเวณ และจะต้องช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความมั่นใจในระยะยาวอีกด้วย วิธีรักษาสิวมีได้หลากหลายรูปแบบ โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ยารักษาสิว ซึ่งสามารถทำได้เองทุกวัน ยาในกลุ่มเรตินอยจัดเป็นยารักษาสิวประสิทธิภาพดี ช่วยลดการอักเสบทั้งสิวเก่า และป้องกันสิวใหม่ไม่ให้เกิดขึ้น ทำให้ยาทาในกลุ่มเรตินอยได้ถูกระบุให้เป็นทางเลือกแรกในการรักษาสิวโดยสถาบันโรคผิวหนังแห่งอเมริกา […]

หมวดหมู่ สุขภาพผิว เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพผิว

โรคผิวหนังติดเชื้อ

เชื้อราที่ขาหนีบ สาเหตุของโรคสังคัง อาการ การรักษา

เชื้อราที่ขาหนีบ หรือโรคสังคัง คือโรคเชื้อราบนผิวหนังชนิดหนึ่ง เมื่อเป็นแล้วมักมีอาการคันร่วมกับมีผื่นแดงขึ้นบริเวณขาหนีบ ซึ่งรักษาได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อราต่าง ๆ ในรูปของโลชั่น ขี้ผึ้ง หรือครีมทาบริเวณที่ติดเชื้อ อาการเชื้อราที่ขาหนีบ สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลรักษาความสะอาดขาหนีบให้แห้งอยู่เสมอ พยายามสวมใส่กางเกงและชั้นในที่สะอาด ไม่รัดหรือแนบเนื้อจนเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดความอับชื้น [embed-health-tool-bmr] คำจำกัดความ เชื้อราที่ขาหนีบ คืออะไร เชื้อราที่ขาหนีบ  เกิดจากเชื้อรากลุ่มเดอมาโทไฟท์ (Dermatophytes) เป็นสาเหตุของโรคสังคัง ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อราบนผิวหนังชนิดหนึ่ง พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เชื้อรากลุ่มเดอมาโทไฟท์เติบโตได้ดีในที่อบอุ่นและอับชื้น จึงมักพบเชื้อราที่ขาหนีบ หรือ โรคสังคังในนักกีฬา เพราะคนกลุ่มนี้สวมใส่เสื้อผ้าที่ชุ่มเหงื่ออยู่เสมอ เอื้อให้เชื้อราเติบโตได้ดี โดยเฉพาะบริเวณขาหนีบ ต้นขาด้านใน หรือทวารหนัก นอกจากนั้น เชื้อรากลุ่มเดอมาโทไฟท์ ยังเป็นสาเหตุของโรคน้ำกัดเท้า เนื่องจากสภาพภายในรองเท้าที่อาจมีความอับชื้น เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อราเช่นกัน และ โรคน้ำกัดเท้าเองนับเป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดเชื้อราที่ขาหนีบ เพราะเชื้อราที่เท้า อาจแพร่กระจายไปยังขาหนีบหรือบริเวณอื่น ๆ ได้ ผ่านการสัมผัสบริเวณที่มีเชื้อโรคแล้วไปจับร่างกายส่วนอื่น ๆ หรือการใช้ผ้าเช็ดตัวทำความสะอาดบริเวณที่มีเชื้อราแล้วนำมาเช็ดบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเชื้อราที่ขาหนีบ ได้แก่ ใส่กางเกงหรือกางเกงชั้นในที่รัดแน่นเกินไป ระบายอากาศไม่ดี มีการสะสมของปริมาณเหงื่อจำนวนมากในบริเวณขาหนีบ มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน อาจทำให้ข้อพับหรือขาหนีบอับชื้น หรือเสียดสีจนเกิดเป็นแผล มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ โดยอาจเกิดจากการที่มีโรคเรื้อรัง หรือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า […]


สุขภาพผิว

กระเนื้อ อาการ สาเหตุ การรักษา

กระเนื้อ คือ ตุ่มหรือติ่งเนื้อที่ยื่นออกมาจากผิวหนังร่างกาย ไม่เป็นอันตรายและไม่กลายเป็นเนื้อร้าย เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังซึ่งพบได้เมื่ออายุมากขึ้น ทั้งนี้ กระเนื้อจะไม่หายหรือหลุดไปเอง มักใช้วิธีจี้ให้หลุดออกโดยการบำบัดด้วยความเย็น หรือใช้แสงเลเซอร์ [embed-health-tool-heart-rate] คำจำกัดความ กระเนื้อ คืออะไร กระเนื้อ เป็นตุ่มหรือติ่งเนื้อซึ่งขึ้นบนผิวหนัง ไม่เป็นอันตรายและไม่ใช่โรคติดต่อ พบได้ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าอก หรือแผ่นหลัง ในบางกรณี กระเนื้ออาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นกระแดด หรือผื่นแอกทินิกเคอราโทซิส (Actinic Keratoses) เนื่องจากลักษณะที่คล้ายกันคือเป็นสีน้ำตาลเข้ม เพียงแต่กระแดดจะไม่ยื่นออกมาจากร่างกายและมีสีน้ำตาลเข้มคล้ายแผลตกสะเก็ดมากกว่า และยังเป็นปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่ง ในขณะที่กระเนื้อไม่เติบโตหรือเปลี่ยนไปเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง นอกจากนี้ อาจเกิดความเข้าใจผิดระหว่างกระเนื้อกับอาการของโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา (Melanoma) ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ซึ่งผลิตเม็ดสีให้ผิวหนังมีความเข้มกว่าปกติ แต่ทั้งนี้ อาการของทั้ง 2 โรคมีส่วนที่แตกต่างกัน เช่น กระเนื้อมักเกิดแบบกลุ่มมากกว่าแบบเดี่ยว ส่วนกระซึ่งเป็นอาการหนึ่งของโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา มักเกิดแบบเดี่ยวมากกว่าแบบกลุ่ม คล้ายเป็นไฝเม็ดใหญ่มากกว่า กระเนื้อมีพื้นผิวขรุขระ ส่วนกระแดดซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา มักมีผิวเรียบ กระเนื้อมีรูปร่างชัดเจนและเป็นตุ่มนูนหรือติ่งยื่นออกจากผิวหนัง ส่วนแดดที่กลายเป็นโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา มักนูน มีรูปร่างหรือขอบที่ไม่ชัดเจน สีไม่สม่ำเสมอ และมักโตเร็วกว่าปกติ ลักษณะ ลักษณะของกระเนื้อ ลักษณะของกระเนื้อที่พบได้ทั่วไป มีดังนี้ เป็นตุ่มทรงกลมหรือทรงรีขนาดเล็ก ยื่นออกมาจากผิวหนังเพียงเล็กน้อย หรือเป็นปื้นนูนเล็กน้อย พื้นผิวอาจไม่เรียบ มีหลายขนาด กระเนื้อขนาดเล็กอาจมองไม่เห็น แต่เมื่อใช้มือลูบจะสัมผัสได้ แต่กระเนื้อขนาดใหญ่อาจมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 2.5 […]


การดูแลเล็บ

clubbing finger คือ อะไร สาเหตุและการรักษา

clubbing finger คือ ภาวะนิ้วปุ้ม เป็นภาวะที่มีมาตั้งแต่กำเนิดอาการที่เกิดขึ้น คือ ปลายเล็บมือและเล็บเท้าเกิดการเปลี่ยนแปลงจนทำให้เล็บขยายใหญ่ขึ้น ฐานเล็บอ่อนนุ่ม เล็บหนา เล็บโค้งงอ อาจมีสาเหตุมาจากออกซิเจนในเลือดต่ำหรืออาจเป็นสัญญาณของโรคบางชนิด เช่น โรคมะเร็งปอด พังผืดในปอด โรคหลอดลมอักเสบ โรคหลอดลมโป่งพอง ฝีในปอด [embed-health-tool-heart-rate] clubbing finger คืออะไร clubbing finger คือ ภาวะที่ปลายเล็บขยายตัวออกและเล็บโค้งไปรอบ ๆ ปลายนิ้ว ลักษณะปลายนิ้วนูนกลม เป็นนิ้วปุ้ม เป็นภาวะที่มีมาตั้งแต่กำเนิด หรือพัฒนามาเป็นภายหลังได้ในบางโรค ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเป็นผลมาจากออกซิเจนในเลือดต่ำและอาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งปอด ฝีในปอด โรคปอด โรคเซลิแอค (Celiac Disease) โรคเกรฟส์ (Graves’ Disease) โดยอาจสังเกตอาการของภาวะนิ้วปุ้มได้ ดังนี้ ฐานเล็บหรือผิวหนังใต้เล็บอ่อนนุ่ม เล็บดูเหมือนลอยตัวไม่ติดแน่น เล็บหนาขึ้น ปลายเล็บอาจดูใหญ่หรือโปนออก อาจรู้สึกอุ่นและเป็นสีแดง เล็บมีลักษณะโค้งงอลง สาเหตุของ clubbing finger ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของภาวะนิ้วปุ้ม แต่อาจเกิดจากการตีบตันของเส้นเลือดเนื่องจากปัจจัยการเจริญเติบโตของบุผนังหลอดเลือด (Vascular Endothelial Growth Factor หรือ VEGF) […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

โลชั่นทาผิว เลือกอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว

แต่ละคนมีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน การใช้ โลชั่นทาผิว ที่เหมาะกับสภาพผิวเป็นประจำทุกวัน จึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ การศึกษาวิธีเลือกและวิธีใช้โลชั่นทาผิวให้เหมาะกับผิวที่สุดอาจช่วยให้แก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ปลอดภัย และไม่เสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้ ส่วนผสมที่ควรมองหาใน โลชั่นทาผิว ส่วนผสมที่อาจช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น บำรุงสุขภาพผิวให้แข็งแรง และลดปัญหาผิวได้ อาจมีดังนี้ กรดอัลฟาไฮดรอกซี หรือเอเอชเอ (Alpha-hydroxy acids หรือ AHAs) มีสารประกอบกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) กรดแล็กทิก (Lactic acid) กรดทาร์ทาริก (Tartaric acid) และกรดซิตริก (Citric acid) ที่อาจช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยกระชับรูขุมขน และช่วยให้ริ้วรอยดูจางลงได้ ทั้งนี้ ควรใช้โลชั่นทาผิวที่มีเอเอชเอความเข้มข้นไม่เกิน 15% โดยอาจเริ่มทาทุก 2-3 วัน เพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือไม่ หากไม่พบอาการแพ้ใด ๆ จึงค่อยปรับไปใช้โลชั่นทาผิวที่มีเอเอชเอทุกวัน กรดโพลีไฮดรอกซี (Polyhydroxy acids หรือ PHAs) มีคุณสมบัติที่คล้ายกรดอัลฟาไฮดรอกซีหรือเอเอชเอ (Alpha-hydroxy acids) อาจช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดอาการแสบหรือระคายผิว […]


การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

วิธีรักษาเหา ที่ได้ผล มีกี่วิธี ทำอย่างไรบ้าง

เหา เป็นแมลงขนาดเล็กอาศัยอยู่ตามร่างกายคนหรือสัตว์ โดยเฉพาะหนังศีรษะหรือบริเวณที่มีขน กินเลือดเป็นอาหาร เมื่อเป็นเหาจะมีอาการคันและระคายเคืองบริเวณหนังศีรษะ วิธีรักษาเหา สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการรักษาด้วยตนเองและการไปปรึกษาคุณหมอ ในเบื้องต้นสามารถรักษาด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดเหาในรูปแบบแชมพู ยาใส่ผม หรือโลชั่น รวมถึงการสางผมด้วยหวีเสนียด เหาคืออะไร เหาเป็นแมลงชนิดหนึ่งซึ่งเป็นปรสิตมีอายุไขประมาณ 1 เดือน ขนาดความยาวลำตัวราว ๆ 2-3 มิลลิเมตร ไม่มีปีก ปลายขาทั้ง 6 ขามีลักษณะเป็นตะขอ ซึ่งเอื้อต่อการยึดเกาะบนเส้นผมหรือเส้นขน เหามักพบบริเวณศีรษะ แต่อาจเจอที่บริเวณลำตัวหรือหัวเหน่าได้เช่นกัน โดยเหาจะแพร่กระจายระหว่างคนสู่คน ด้วยการสัมผัสใกล้ชิดหรือใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น หวี ผ้าปูที่นอน หมอน หมวก โดยทั่วไป เหาตัวเมีย 1 ตัว จะวางไข่วันละ 6-9 ฟอง โดยไข่มีลักษณะเป็นสีขาวขุ่น พบได้ตามโคนเส้นผม ไข่เหาจะฟักเป็นตัวภายใน 7-10 วัน เหาเป็นสาเหตุของตุ่มคันและอาการระคายเคืองที่หนังศีรษะ หรือบริเวณที่เหาอาศัยอยู่ โดยทั่วไปเมื่อเป็นเหา มักพบผื่นบริเวณท้ายทอย ในกรณีรุนแรง อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง เชื้อโรคแพร่กระจายอาจทำให้เกิดอาการต่อมน้ำเหลืองบวมบริเวณคอหรือท้ายทอยได้ด้วย วิธีรักษาเหา วิธีรักษาเหา สามารถทำได้ดังต่อไปนี้ ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดเหา ผลิตภัณฑ์กำจัดเหาที่พบได้ทั่วไปตามท้องตลาด คือ แชมพู โลชั่น หรือยาใส่ผม […]


การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

โรคหนังศีรษะ มีอะไรบ้าง มีวิธีรักษาอย่างไร

โรคหนังศีรษะ หมายถึง โรคผิวหนังต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณหนังศีรษะและเส้นผม อาทิ โรคเหา โรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน โรคสะเก็ดเงิน โรคผื่นแพ้สัมผัส โรคผมร่วงเป็นหย่อม ทำให้รู้สึกคัน มีขุย อักเสบ บวมแดง โดยปกติแล้ว โรคหนังศีรษะมักรักษาด้วยการทาครีม ร่วมกับการใช้แชมพู และสามารถป้องกันได้ด้วยการไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ทำผมที่ใช้ความร้อน โรคหนังศีรษะ โรคหนังศีรษะที่อาจพบได้ทั่วไป มีดังนี้ โรคเหา โรคเหา เป็นโรคหนังศีรษะที่ติดต่อจากเหาซึ่งเป็นแมลงปรสิตขนาดเล็กกินเลือดมนุษย์เป็นอาหาร โดยทั่วไปเหามักอาศัยอยู่บนศีรษะ แต่ในบางกรณีอาจพบตามลำตัวหรือบริเวณหัวเหน่า ผู้ที่เป็นเหา อาจมีอาการคันยิบ ๆ บริเวณหนังศีรษะ มีไข่เหาตามเส้นผม และมีความรู้สึกว่าเหาเดินอยู่บนศีรษะในกรณีรุนแรง อาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ทำให้หนังศีรษะหรือบริเวณที่ติดเชื้อมีตุ่มสีแดงและอักเสบ โรคเหาติดต่อได้ผ่านการสัมผัสใกล้ชิด หรือใช้สิ่งของบางอย่างร่วมกัน อาทิ หมอน หมวก ผ้าปูที่นอน หวี ทั้งนี้ เหาตัวเมีย 1 ตัวจะวางไข่ 6-9 ฟองต่อวัน และตัวอ่อนจะใช้เวลา 6-9 วันเพื่อฟักตัวก่อนจะโตเต็มที่ภายใน 7 วัน วิธีการรักษาโรคเหา โรคเหาสามารถรักษาได้หลายวิธี อาทิ ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดเหา เช่น แชมพู โลชั่น หรือยาใส่ผม ซึ่งมีส่วนผสมของตัวยาสำหรับกำจัดแมลงอย่าง […]


สิว

วิธีลดรอยแดงจากสิว มีอะไรบ้าง

วิธีลดรอยแดงจากสิว คือการทำให้รอยแดงซึ่งเกิดจากสิวลดลง รวมไปถึงรอยต่าง ๆ บนผิวหนังซึ่งเกิดจากความผิดปกติของผิวหนังระหว่างการฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองจากสิว ปัจจุบันนี้มีหลายวิธี อาทิ การใช้เลเซอร์ การกรอผิว ควรศึกษาถึงสาเหตุของการเกิดรอยแดงจากสิว และวิธีรักษาที่เหมาะกับสภาพผิวของตน เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียนใสดังเดิม สาเหตุของการเกิดรอยแดงจากสิว โดยปกติหากผิวหนังเกิดบาดเจ็บหรืออักเสบ ร่างกายจะมีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือการอักเสบ การสร้างเนื้อเยื่อ และการสมานแผล รอยแดงจากสิว เกิดจากเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัวมากเกินไปจนเปราะหรือแตกสร้างความระคายเคืองหรืออักเสบจนผิวมีรอยแดง มักเกิดจากสิวประเภทสิวหัวช้าง หรือสิวฮอร์โมน พบมากในผู้ที่อยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน หรือมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายอย่างรวดเร็ว จนไปกระตุ้นให้เกิดสิว นอกจากนี้ การบีบหรือกดสิว รวมทั้งการเช็ดหน้าแรง ๆ หรือล้างหน้าบ่อย ๆ ยังมีส่วนให้เกิดรอยแดงจากสิวง่ายขึ้นด้วย แม้ว่ารอยแดงจากสิวไม่เป็นอันตราย แต่ใบหน้าอาจมีรอยแดงเป็นเวลาหลายเดือน หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจ เสียบุคลิกได้ ข้อแตกต่างระหว่างรอยแดงจากสิวกับจุดด่างดำ รอยแดงจากสิวเกิดจากการขยายตัวหรืออักเสบของเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังจนแตกหรือหัก เป็นผลจากสิวอักเสบหรือสิวหัวช้าง และมักเห็นได้ชัดในคนผิวสีอ่อนมากกว่าผิวสีเข้ม ส่วนรอยดำหรือจุดด่างดำ คือภาวะไฮเปอร์พิกเมนเทชัน (Hyperpigmentation) หรือการสร้างเม็ดสีซึ่งมากเกินไประหว่างการฟื้นฟูผิวหนังตามธรรมชาติ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีผิวสีเข้มกว่าส่วนอื่น หรือเป็นรอยสีน้ำตาล มักเกิดในคนที่มีผิวคล้ำมากกว่าคนผิวสีอ่อน วิธีลดรอยแดงจากสิว การลดรอยแดงจากสิว สามารถทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ เลเซอร์ คือ การใช้เลเซอร์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อผลัดเปลี่ยนชั้นผิวหนัง โดยการกระตุ้นชั้นหนังแท้ให้สร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย ทำให้รอยแดงหายไป ทั้งนี้ การรักษาด้วยเลเซอร์ใช้เวลาราว 30 นาที […]


สิว

เลเซอร์หลุมสิว คืออะไร มีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง

เลเซอร์หลุมสิว คือการรักษาแผลเป็นบนใบหน้าเนื่องจากสิว โดยการใช้เลเซอร์กระตุ้นให้เซลล์ผิวชั้นหนังแท้ซ่อมแซมตัวเองด้วยการผลิตคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวที่เสียหาย เพื่อให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียน ไม่เป็นหลุม อย่างไรก็ตาม การเลเซอร์หลุมสิวต้องใช้เวลาเพื่อให้ได้ผล และอาจมีผลข้างเคียงที่ควรระวังด้วย หลุมสิว คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร หลุมสิว คือ แผลเป็นจากสิวรูปแบบหนึ่ง ลักษณะเป็นรอยบุ๋ม ผิวหนังยุบตัวลงไป และส่วนใหญ่มักเกิดบนใบหน้า แม้ไม่เป็นอันตรายต่อผิว แต่อาจทำให้ผิวไม่เรียบเนียน จนทำให้ขาดความมั่นใจได้ โดยปกติแล้ว หากผิวเกิดการอักเสบและเป็นแผล ร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่เสียหายเอง โดยสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนขึ้นมา แต่หากมีผังผืดยึดติดเนื้อเยื่อชั้นล่างและคอลลาเจนไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย ก็จะทำให้เกิดเป็นหลุมสิวขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยการเกิดหลุมสิวอาจเกิดจากการบีบสิว การกดสิว ชนิดของสิว และการอักเสบของสิว ในปัจจุบัน การรักษาหลุมสิวสามารถทำได้หลายวิธี หนึ่งในนั้นคือการเลเซอร์หลุมสิว โดยเหมาะกับหลุมสิวที่มีลักษณะตื้น โค้ง คล้ายแอ่งกระทะ มีขนาดของปากหลุมและก้นหลุมที่กว้างเท่า ๆ กัน เลเซอร์หลุมสิว คืออะไร เลเซอร์หลุมสิว คือการรักษาแผลเป็นจากสิวซึ่งมีลักษณะเป็นหลุมบนใบหน้าโดยใช้ความร้อนของแสงเลเซอร์ความเข้มข้นสูง หรือ Ablative Laser เข้าไปกำจัดเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าของใบหน้าส่วนที่เป็นหลุมสิว และกระตุ้นให้เซลล์ผิวชั้นหนังแท้สร้างคอลลาเจนขึ้นมาซ่อมแซมและเติมเต็มส่วนที่เป็นหลุมสิว ทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียน จำเป็นต้องทำซ้ำทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ และรักษาประมาณ 5-6 ครั้งติดต่อกันเพื่อให้ได้ผล ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและสภาพหลุมสิวของแต่ละคน ขั้นตอนการทำเลเซอร์หลุมสิว คุณหมอจะใช้ผ้าหรือแว่นกันแสงปิดตาคนไข้ ทายาชาทั่วใบหน้าก่อนทำเลเซอร์หลุมสิว และใช้เลเซอร์ยิงตามจุดที่ต้องการรักษา […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

เจาะจมูก การดูแลแผล และความเสี่ยงต่อสุขภาพ

เจาะจมูก เป็นการใช้อุปกรณ์เฉพาะเจาะลงบนผิวหนังบริเวณปีกจมูกและใส่เครื่องประดับที่มีลักษณะเป็นห่วง หมุด หรือตุ้มลงไปบนผิวหนัง การเจาะจมูกอาจทำให้มีเลือดออก ผิวหนังบวมและแดง หากอุปกรณ์เจาะไม่ได้คุณภาพหรือรักษาความสะอาดได้ไม่ดีอาจทำให้แผลติดเชื้อ เส้นประสาทเสียหายหรือเกิดแผลเป็นนูนได้ ก่อนเจาะจมูกจึงควรศึกษาถึงวิธีดูแลตนเอง ความเสี่ยงสุขภาพ และข้อมูลเกี่ยวกับร้านเจาะที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพและผิวหนัง [embed-health-tool-bmi] เจาะจมูก คืออะไร เจาะจมูก คือ การใช้อุปกรณ์เฉพาะเจาะลงบนผิวหนังบริเวณจมูกและใส่เครื่องประดับเข้าไปเพื่อเพิ่มความสวยงาม เมื่อแผลบริเวณที่เจาะหายดีบางคนอาจขยายขนาดรูเพื่อสวมใส่เครื่องประดับบางประเภทที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ การขยายขนาดรูควรค่อย ๆ ทำทีละน้อยเพื่อไม่ให้แผลฉีกขาดและเกิดแผลเป็น สำหรับผู้มีปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น โรคเบาหวาน โรคฮีโมฟีเลีย โรคภูมิแพ้ตัวเอง ปัญหาหัวใจ ปัญหาผิวหนังหรือการติดเชื้อที่จมูก ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ควรเจาะจมูกเนื่องจากอาจก่อให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมาได้ เจาะจมูก และความเสี่ยงต่อสุขภาพ การเจาะจมูกอาจเพิ่มความเสียหายให้กับผิวหนังและอาจเพิ่มความเสี่ยงอื่น ๆ ต่อสขภาพ ดังต่อไปนี้ เลือดออก การเจาะเครื่องประดับบนผิวหนังทำให้มีเลือดออกได้ และอาจทำให้ผิวหนังบริเวณจมูกมีอาการห้อเลือด ฟกช้ำ บวม ติดเชื้อหรืออาจลุกลามไปยังผิวหนังรอบ ๆ จนทำให้เกิดความเสียหายบริเวณใบหน้าได้ ปฏิกิริยาแพ้ เครื่องประดับหรืออุปกรณ์เจาะส่วนใหญ่อาจมีส่วนประกอบของนิกเกิลที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ อาจทำให้มีอาการคัน ผิวแดง พุพอง ผิวแห้งและหนา ผิวเปลี่ยนสี จึงควรเลือกวัสดุเครื่องประดับที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ทอง 18 หรือ 24 กะรัต สแตนเลส ไทเทเนียม […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

เลเซอร์ สำหรับผิวหนัง ประโยชน์และความเสี่ยง

เลเซอร์ เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีประโยชน์ต่อการรักษาปัญหาผิวหนัง เช่น จุดด่างดำ แผลเป็น ไฝ ริ้วรอย รอยสัก ทั้งยังช่วยปรับผิวให้สม่ำเสมอ เรียบเนียนและกระชับมากขึ้น ใช้เวลาในการรักษาน้อย แผลหายเร็วกว่าการรักษาแบบผ่าตัด ลดความเจ็บปวดและอาจลดโอกาสเกิดแผลเป็น เลเซอร์ผิวหนัง คืออะไร เลเซอร์ผิวหนัง คือ การใช้ลำแสงสั้น ๆ และเข้มข้นส่องไปที่ผิวหนังที่มีปัญหา ปัจจุบันมีการใช้เลเซอร์เพื่อลดปัญหาริ้วรอยหรือรอยแผลเป็น ลดการสร้างเม็ดสีในผิวใหม่ทำให้ผิวดูสม่ำเสมอขึ้น นอกจากนี้ การเลเซอร์ยังช่วยกระชับผิวและขจัดรอยโรค เช่น มะเร็ง เนื้องอกที่ไม่เป็นมะเร็ง โดยกลไกการรักษาด้วยเลเซอร์มีหลากหลาย เช่น ลำแสงจากเลเซอร์ที่ขจัดผิวออกทีละชั้นตั้งแต่ผิวชั้นนอก หนังกำพร้าไปจนถึงชั้นหนังแท้ พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ส่งผลให้ผิวใหม่เรียบเนียนและกระชับขึ้น ประเภทของการทำเลเซอร์ เลเซอร์ มีหลายประเภทซึ่งแต่ละประเภทมีความเหมาะสมต่อการรักษาและปรับปรุงสุขภาพผิวที่แตกต่างกัน ดังนี้ เลเซอร์ชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Laser) เป็นเลเซอร์ลอกผิวที่ใช้รักษารอยแผลเป็น หูด ริ้วรอย และจุดบกพร่องอื่น ๆ ของผิวหนังที่อยู่ลึกลงไป เลเซอร์เออร์เบียม (Erbium YAG Laser) ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่ นิยมในการรักษาริ้วรอย ความหย่อนคล้อยของผิวหนัง และจุดด่างดำที่เกิดจากอายุ เลเซอร์เพาซ์ดายด์ (Pulsed-Dye Lasers หรือ PDL) เป็นเลเซอร์ที่ดูดซับเม็ดสีเพื่อลดรอยแดง […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน