สุขภาพผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะภายนอกที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในร่างกาย ผิวหนังนั้นมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้งเป็นเกราะป้องกันจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือช่วยควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับการมี สุขภาพผิว ที่ดี และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย เพื่อการปกป้องดูแลผิวของคุณให้ดียิ่งขึ้น ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพผิว

รักษาสิวอย่างตรงจุด ด้วยนวัตกรรมเรตินอยเจนใหม่

“สิว” ไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด ยิ่งคนที่เคยเผชิญปัญหานี้ บอกเลยมีทั้งความกังวลใจ และความไม่มั่นใจ ถึงแม้สิวจะหายไป แต่ก็ยังคงส่งผลกระทบตามมา ทั้งรอยแผลเป็นจากสิว หลุมสิว รอยดำ รอยแดง และสำหรับคนที่เคยมีปัญหาสิว โดยเฉพาะในวัยรุ่น สิ่งที่ตามมาไม่ใช่แค่ปัญหาทางผิวหนังเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจ หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ กังวลทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับคนอื่น รู้สึกเหมือนถูกจับจ้อง หรือบางครั้งถึงกับหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ กัดกร่อนความมั่นใจในตัวเอง และทำให้หลายคนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น การปล่อยปละละเลยไม่รีบรักษาสิวตั้งแต่เนิ่นๆ อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิวที่เกิดจากหลุมสิว ยกตัวอย่างเช่น สิวที่หลัง ซึ่งมักถูกมองข้าม ทำให้ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม การรักษารอยแผลเป็นจากสิวเหล่านี้เป็นไปได้ยาก และในปัจจุบันก็สามารถดูแลได้เพียงทำให้หลุมสิวดีขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีจึงควรเริ่มรักษาสิวด้วยวิธีที่ถูกต้อง และเร็วที่สุด เพื่อลดความรุนแรงและรอยโรคที่จะเกิดขึ้นตามมา แน่นอนว่าปัญหาสิวไม่สามารถหายไปได้ง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นยังเกิดขึ้นในหลายส่วนของร่างกาย 64.6-89.3% ของคนที่เป็นสิวในระดับปานกลางมักจะต้องเจอกับสิวที่ใบหน้าและสิวที่หลัง จากการสำรวจพบว่ามีคนไทยที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 12-25 ปี มากถึง 85% ที่ต้องเผชิญกับปัญหาสิว ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 50% ที่เป็นสิวทั้งที่หน้าและสิวที่หลัง การรักษาสิวอย่างตรงจุด จึงจำเป็นที่จะต้องครอบคลุมทั้ง 2 บริเวณ และจะต้องช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความมั่นใจในระยะยาวอีกด้วย วิธีรักษาสิวมีได้หลากหลายรูปแบบ โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ยารักษาสิว ซึ่งสามารถทำได้เองทุกวัน ยาในกลุ่มเรตินอยจัดเป็นยารักษาสิวประสิทธิภาพดี ช่วยลดการอักเสบทั้งสิวเก่า และป้องกันสิวใหม่ไม่ให้เกิดขึ้น ทำให้ยาทาในกลุ่มเรตินอยได้ถูกระบุให้เป็นทางเลือกแรกในการรักษาสิวโดยสถาบันโรคผิวหนังแห่งอเมริกา […]

หมวดหมู่ สุขภาพผิว เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพผิว

โรคผิวหนังติดเชื้อ

โรคงูสวัด คืออะไร สาเหตุ อาการ และการรักษา

โรคงูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัส วาริเซลลาซอสเตอร์ (Varicella-Zoster Virus: VZV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันกับเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคอีสุกอีใส หลังมีอาการปวดตามเนื้อตัวไม่นาน มักมีตุ่มแดงขึ้นที่ผิวหนังบางส่วนของร่างกาย แล้วค่อย ๆ ลุกลามเป็นลายพาดไปตามแนวของเส้นประสาทฝั่งใดฝั่งหนึ่งของร่างกาย อย่างไรก็ตาม อาจป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน [embed-health-tool-bmi] โรคงูสวัด เกิดจากอะไร งูสวัด หรือโรคงูสวัด (Shingles) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์ซึ่งถือว่าเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง ดังนั้น หากไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน แล้วสัมผัสบริเวณผื่นของผู้ป่วยที่เป็นงูสวัด ก็ทำให้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคอีสุกอีใส อาการของโรคงูสวัด อาการที่พบได้บ่อย อาจมีดังนี้ มีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหนัง มีไข้ ปวดศีรษะ ดวงตาไวต่อแสง ผิวหนังไวต่อการสัมผัส หลังมีอาการปวดตามเนื้อตัวไม่นาน มักมีตุ่มแดงขึ้นที่ผิวหนังบางส่วนของร่างกาย บางครั้งอาจเกิดที่คอ ใบหน้า หรือดวงตา แล้วค่อย ๆ ลามเป็นลายพาดไปตามแนวของเส้นประสาท จนกระทั่งพันรอบทั้งลำตัว และอาจมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย มีอาการคันและแสบในผิวหนังบริเวณที่มีผื่นแดงและตุ่มน้ำใส ตุ่มแดงจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสและแตกออก จนเริ่มตกสะเก็ด วิธีรักษาโรคงูสวัด โรคงูสวัดเป็นโรคที่สามารถหายได้เอง อาจใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 2-6 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันของแต่ละคน คุณหมอจะรักษาโรคงูสวัดตามอาการ โดยอาจสั่งจ่ายยาเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น อะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) แฟมไซโคลเวียร์ (Famciclovir) หรือวาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir) และอาจสั่งจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการปวด เนื่องจากผู้ที่เป็นโรคงูสวัดมักจะมีอาการปวดรุนแรง  นอกจากนี้ […]


โรคผิวหนังอักเสบ

รักษาเซ็บเดิร์ม โดยวิธีธรรมชาติง่าย ๆ ด้วยตนเอง

เซ็บเดิร์ม คือโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ซึ่งอาการคือ มีผื่นแดง ผิวหนังตกสะเก็ดคล้ายกับรังแคบริเวณใบหน้า คิ้ว หนวดเครา มักเป็นเมื่อสภาพอากาศร้อนจัดหรือหนาวจัด เพราะต่อมไขมันจะขับไขมันมากกว่าปกติจนทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดการอักเสบได้ โดยปกติ ผู้ที่เป็นเซ็บเดิร์มสามารถรักษาและดูแลตัวเองให้หายได้ด้วยวิธีง่าย ๆ  เซ็บเดิร์ม คือโรคอะไร  เซ็บเดิร์ม หรือโรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic dermatitis) คือโรคผิวหนังที่เกิดจากต่อมไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังผลิตไขมันออกมามากเกินไป ทำให้เกิดเป็นผื่นผิวหนังอักเสบขึ้นมา มีลักษณะเป็นผื่นแดง และมีการตกสะเก็ด มักจะเกิดตามร่างกาย เช่น ลำตัว ใบหน้า หรือบางครั้งอาจเกิดบริเวณหนังศีรษะ โดยเซ็บเดิร์มมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีสภาพอากาศร้อน ซึ่งต่อมน้ำมันมีการขับไขมันออกมามากจนเกิดการอักเสบ บางครั้งเซ็บเดิร์มก็อาจจะเกิดขึ้นในฤดูหนาว เนื่องจากเป็นช่วงที่สภาพอากาศแห้ง ทำให้ต่อมไขมันขับน้ำมันออกมามาก เสี่ยงที่จะเป็นผื่นเซ็บเดิร์มเช่นกัน อาการทั่วไปของ เซ็บเดิร์ม มีดังนี้ ผิวหนังตกสะเก็ดที่บริเวณศีรษะ คิ้ว หรือบริเวณหนวด คล้ายกับการมีรังแค ผิวหนังที่ตกสะเก็ดจะลอกออกมาเป็นขุย ๆ ที่บริเวณศีรษะ คิ้ว ใบหน้า บริเวณหนวด หรือบางครั้งก็อาจพบได้ที่บริเวณขาหนีบ หรือใต้ราวนม ผื่นแดง อาการคัน รักษาเซ็บเดิร์ม ด้วยวิธีธรรมชาติแบบไหนได้บ้าง เซ็บเดิร์ม เป็นโรคผิวหนังที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจกลับมาเป็นใหม่ได้อีก โดยวิธีการรักษาส่วนใหญ่ คุณหมอมักแนะนำให้ใช้ครีมหรือแชมพูยาที่มีสรรพคุณช่วยรักษาการอักเสบหรือต้านเชื้อรา สำหรับผู้ป่วยบางราย คุณหมออาจสั่งจ่ายยาเม็ดที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อราแทน อย่างไรก็ตาม […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

วิธีรักษา กลาก ด้วยวัตถุดิบใกล้ตัว

กลาก เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อรา มีลักษณะเป็นผื่นรูปวงแหวนหรือวงกลมตามผิวหนัง สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนบนร่างกาย สามารถติดต่อไปยังผู้อื่นผ่านการสัมผัสได้ กลากสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาฆ่าเชื้อรา นอกจากนี้ การใช้วัตถุดิบที่หาได้ทั่วไป เช่น กระเทียม แอปเปิ้ลไซเดอร์ ชะเอมเทศ ก็อาจสามารถช่วยบรรเทาอาการกลากได้เช่นกัน [embed-health-tool-heart-rate] กลาก เกิดจากอะไร กลาก (Ringworm of the Body หรือ Tinea Corporis) คือโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราซึ่งอาศัยอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นมือ เล็บ ผิวหนัง หรือเส้นผม เมื่อเกิดการติดเชื้อราเหล่านี้แล้ว ก็จะมีอาการดังต่อไปนี้ มีผื่นแดงรูปวงแหวนหรือรูปวงกลมอยู่ตามแขน ขา ลำตัว ก้น มีอาการคัน ผื่นแดงมีการตกสะเก็ด วงแหวนจะค่อย ๆ ขยายวงกว้างขึ้น อาจเกิดการพุพอง และมีวงแหวนหลายวงทับซ้อนกัน กลาก สามารถติดต่อได้หลายวิธี ได้แก่ ติดต่อจากคนสู่คน ผ่านการสัมผัสผิวหนังของผู้ติดเชื้อโดยตรง ติดต่อจากสัตว์สู่คน ผ่านการสัมผัสกับสัตว์ที่เป็นกลาก เช่น สุนัข แมว หรือวัว ติดต่อจากวัตถุสู่คน ผ่านการสัมผัสกับสิ่งของหรือวัตถุต่าง ๆ ที่ถูกผู้ติดเชื้อหรือเป็นโรคกลากมาสัมผัสก่อนหน้านี้ หรือเกิดจากการใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้ที่เป็นกลาก […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ดูแลรักษารอยสัก อย่างไรให้ถูกวิธีและสิ่งที่ควรรู้

ดูแลรักษารอยสัก เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิว เพราะนอกจากจะช่วยบำรุงสุขภาพผิวให้แข็งแรงแล้ว ยังอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนและการติดเชื้อ ช่วยลดบรรเทาอาการเจ็บปวด ลดรอยแดง รวมถึงอาจช่วยป้องกันการอักเสบบริเวณรอยสัก และอาจทำให้รอยสักดูสวยงามอยู่เสมอ [embed-health-tool-ovulation] ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากรอยสัก รอยสักเกิดจากการใช้เข็มที่มีหมึกวาดลงบนผิวหนัง ส่งผลทำให้ผิวหนังเปิดจนเกิดอาการปวด บวม คัน เจ็บ ทั้งยังเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อ โดยอาจสังเกตได้จากการที่หมึกส่วนเกินไหลออกมาพร้อมกับเลือดและอาจมีของเหลวไหลออกมาร่วมด้วย ซึ่งอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้ ดังนั้น การดูแลรักษารอยสักจึงอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ดังนี้ 1. การติดเชื้อ รอยสักที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมอาจเกิดการติดเชื้อ ส่งผลทำให้ผิวหนังบริเวณรอยสักมีสีแดง รู้สึกอุ่น ๆ และเจ็บปวด นอกจากนี้ หากอุปกรณ์สักหรือหมึกที่ใช้ในการสักมีการปนเปื้อนยังอาจทำให้มีหนองไหลออกมาจากรอยสัก และยังอาจเกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อในกระแสเลือด เช่น ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี บาดทะยัก เอชไอวี 2. อาการแพ้รุนแรง หากผิวหนังของผู้เข้ารับการสักไวต่อหมึกสัก อาจส่งผลทำให้ผิวหนังบริเวณที่กำลังสักเปลี่ยนเป็นสีแดงและมีอาการคัน โดยหมึกสักสีแดงอาจมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้มากที่สุด นอกจากนี้ หมึกสักสีแดงพร้อมและหมึกสักสีน้ำเงิน เมื่อสักลงบนผิวหนังอาจเกิดปฏิกิริยาต่อผิวหนังชนิดไม่ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ผิวไวต่อแสง (Photosensitivity) 3. แผลเป็น ผิวหนังที่เกิดความเสียหายจากเข็มหรือการจับที่รอยสัก อาจทำให้ร่างกายผลิตเนื้อเยื่อที่ไม่สมบูรณ์เท่ากับเนื้อเยื่อเก่าที่ถูกทำลายไป โดยเนื้อเนื้อเยื่อชนิดนี้เรียกว่า สะคาราบีอิฟอร์ม (Scar Tissue) ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดรอยแผลเป็นแบบถาวร ดูแลรักษารอยสัก ทำได้อย่างไร การดูแลรักษารอยสักควรปฏิบัติทันทีหลังจากที่สักเสร็จเรียบร้อย โดยวิธีการดูแลรักษารอยสักมีดังนี้ หลังจากสักเรียบร้อยแล้ว ช่างสักอาจใช้ครีมปฏิชีวนะทาบาง ๆ […]


สุขภาพผิว

คันที่รอยสัก เป็นเพราะอะไร และควรบรรเทาอาการด้วยวิธีไหนดี

คันที่รอยสัก เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากสักใหม่ ๆ เนื่องจากผิวหนังสัมผัสโดนเข็ม หมึก เจลหรือครีม ซึ่งใช้ในขั้นตอนการสัก อาจทำให้เกิดการระคายเคืองรวมทั้งอาการได้  เมื่อคันที่รอยสัก ไม่ควรเกาเพราะทั้งด้วยอาจทำให้รอยสักเสียหาย เและยังอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้อีกด้วย ควรหาทางบรรเทาอาการคันที่รอยสักด้วยวิธีอื่น [embed-health-tool-bmr] อาการคันที่รอยสัก เกิดจากอะไร อาการคันที่รอยสัก ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่เพิ่งไปรับการสักมาใหม่ ๆ เพราะผิวหนังค่อนข้างอ่อนไหวจากการสัก ทั้งสัมผัสโดนเข็ม หมึก ครีมหรือเจลที่ใช้ในขั้นตอนการสัก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคันได้ในบางจุด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใดก็ไม่ควรเกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเพิ่งไปสักมาใหม่ ๆ การเกาที่รอยสักอาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงต่อรอยสัก รวมถึงผิวหนังโดยรอบ นอกจาก หลังสักใหม่ ๆ จะรู้สึกคันแล้ว คนที่สักมานานก็อาจรู้สึกคันได้เช่นกัน  ซึ่งอาการคันที่รอยสัก เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ผิวหนังฟื้นตัวจากบาดแผล เมื่อเพิ่งไปสักมาใหม่ ผิวหนังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวจากบาดแผล ซึ่งผิวหนังอาจอักเสบและกำลังทำงานเพื่อป้องกันการติดเชื้อและซ่อมแซมตัวเอง ในขณะที่เนื้อเยื่อผิวหนังสมานตัวอาจทำให้มีอาการคันที่รอยสักได้ การติดเชื้อ รอยสักใหม่จะเผยให้เห็นชั้นลึกของหนังกำพร้า และชั้นหนังแท้ของเนื้อเยื่อผิวหนัง หมึกที่ใช้สักรอยสักใหม่ ๆ อาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด ภายใน 2-3 สัปดาห์แรกหลังสัก หากบริเวณรอยสักใหม่เกิดการติดเชื้อ อาจมีอาการคันที่รอยสักร่วมกับอาการบวมแดง และมีเลือดออก การติดเชื้ออย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดไข้และหนาวสั่น ซึ่งจำเป็นต้องไปพบคุณหมอ ปฏิกิริยาการแพ้เม็ดสีพิกเม้นต์ (Pigment) บางคนอาจมีอาการแพ้หมึกที่ใช้ในการสัก เม็ดสีพิกเม้นต์ที่ใช้ในการสักอาจทำจากสีย้อมที่ทำจากวัสดุพลาสติก ตามที่สถาบันผิวหนังของอเมริกา (American […]


สิว

เคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับดูแลตนเองเพื่อ หยุดสิวที่หลัง

สิว นอกจากจะขึ้นบนใบหน้าแล้ว สิวที่หลัง ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพผิวที่ทำให้หลาย ๆ คนไม่สบายตัวและไม่สบายใจ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ต้องการโชว์แผ่นหลังเรียบเนียน เมื่อเป็นสิวที่หลังทำให้ขาดความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม สิวที่หลังสามารถดูแลและป้องกันได้ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้    ทำความรู้จัก สิวที่หลัง สิวที่หลัง เกิดจากหลายสาเหตุหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น ความเครียด พันธุกรรม เหงื่อ ฮอร์โมน การใช้ยาบางชนิด รวมไปถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยสถาบันผิวหนังของอเมริกา (American Academy of Dermatology) ระบุว่า การรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตบางชนิด เช่น ขนมปัง มันฝรั่งทอด จะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดสิวได้ เคล็ดลับ โชว์หลังสวย หยุดสิวที่หลัง  สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาสิวที่หลัง จนทำให้ขาดความมั่นใจ อาจลองปฏิบัติตามเคล็ดลับง่าย ๆ ในการดูแลตนเอง ด้วยเคล็ดลับ หยุดสิวที่หลัง ดังต่อไปนี้ ขัดผิว การขัดผิว จะช่วยผลัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกจากผิว อาจใช้เลือกใช้วัตถุดิบที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาลทรายแดงและน้ำผึ้ง นำมาผสมในปริมาณที่เท่ากันแล้วนำมาขัดลงบนผิว สครับกาแฟ […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

รอยสักติดเชื้อ อาการและการรักษา

รอยสักเป็นศิลปะบนเรือนร่างอย่างหนึ่ง วิธีการสักคือการใช้เข็มที่เต็มไปด้วยหมึกวาดลงบนผิวหนัง หากดูแลรักษาแผลหลังจากสักเสร็จไม่ดี ก็อาจทำให้ รอยสักติดเชื้อ ซึ่งอาจส่งผลทำให้ผิวหนังเกิดความเสียหาย ทั้งยังอาจเกิดอาการต่าง ๆ เช่น อาการแพ้ คัน ผื่น และหากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษาในทันที อาจทำให้เกิดภาวะช็อคจากการแพ้ รวมถึงอาจต้องทำการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อบริเวณที่ติดเชื้อออก [embed-health-tool-bmi] รอยสัก คืออะไร รอยสัก (Tattoo) เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ชาวอเมริกันราว 4 ใน 10 คนมีรอยสักอย่างน้อย 1 ลายบนตัว นอกจากนี้ รอยสักยังกลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันน้อยลงในที่ทำงาน ในหลายอุตสาหกรรม โดยอาจจะเห็นได้จากการที่เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือผู้บริหารหลายคนมีรอยสักที่มองเห็นได้ ความนิยมของรอยสักอาจทำให้หลายคนคิดว่า เมื่อไปสักแล้วอาจจะไม่มีความเสี่ยงใด ๆ ตามมา แต่ความจริงแล้วการสักมีความเสี่ยงหลายอย่าง เนื่องจากการใช้เข็มที่เต็มไปด้วยหมึกสักลงไปบนผิวหนังอาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายหรืออาจเกิดการติดเชื้อได้ การสักกับบุคคลหรือร้านที่ไม่ได้ทำความสะอาดเครื่องมืออย่างถูกต้อง หรือให้ไม่ยอมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษารอยสักที่เพิ่งสักใหม่ให้สะอาด อาจนำไปสู่ปัญหารอยสักติดเชื้อ หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ อาการของ รอยสักติดเชื้อ อาการของรอยสักติดเชื้อที่อาจพบได้บ่อย คือ ผื่นแดง หรือผิวหนังเป็นหลุมเป็นบ่อบริเวณที่มีรอยสัก ในบางกรณีผิวอาจเกิดการระคายเคืองเนื่องจากเข็มที่ใช้สัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีผิวบอบบาง หากเป็นกรณีนี้อาการอาจหายไปภายใน 2-3 วัน แต่หากอาการที่เกิดขึ้นยังเป็นอยู่นานกว่า  […]


สิว

ล้างหน้าบ่อย สามารถช่วยลดสิวได้จริงหรือ

โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่เป็นสิวไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวหัวดำ สิวหัวหนอง และผู้ที่มีผิวหน้ามัน มักจะ ล้างหน้าบ่อย ๆ เพราะเข้าใจว่าการมีผิวหน้าที่สะอาด อาจช่วยให้อาการสิวดีขึ้น แต่ความจริงแล้ว การล้างหน้าบ่อยอาจยิ่งทำให้อาการสิวแย่ลง เนื่องจาก ผิวจะผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น เพื่อทำให้ผิวชุ่มชื้น ทั้งยังอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง แห้ง ตึง และเป็นขุยได้ ดังนั้น การดูแลรักษาสิวอย่างถูกวิธี อาจช่วยให้อาการสิวดีขึ้น เป็นสิว ต้อง ล้างหน้าบ่อย จริงหรือไม่ ในความเป็นจริงแล้ว การล้างหน้าอาจทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นและอาจทำให้ผิวหน้าแห้ง เกิดการระคายเคือง เป็นขุย และตึง นอกจากนั้น การล้างบ่อยอาจทำให้ผิวผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว ดังนั้น การล้างบ่อยเมื่อเป็นสิว อาจไม่ใช่เรื่องที่ดี ดังนั้น วิธีการทำความสะอาดผิวหน้าอาจทำได้ด้วยการล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง คือ เช้าและก่อนนอน ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม เพื่อป้องกันอาจการแพ้ที่อาจตามมาได้ คำถามเกี่ยวกับปัญหาเรื่องสิว หลายคนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสิว โดยคำถามที่พบบ่อยอาจมีดังนี้ ทำไมคนส่วนใหญ่มักมีสิวในช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป สิวมักเกิดจากน้ำมันส่วนเกินบนใบและเชื้อแบคทีเรีย โดยมักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุอยู่ในช่วง 20 ปีขึ้นไป เพราะร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนที่เกิดจากการตั้งครรภ์ การมีประจำเดือน อาจทำให้เกิดน้ำมันส่วนเกินได้  ล้างหน้าบ่อย […]


การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

ส่วนผสมในยาสระผม เลือกอย่างไรให้เหมาะกับสภาพเส้นผม

วิธีบำรุงรักษาเส้นผมให้สุขภาพดี แข็งแรง และนุ่มสลวยนั้นมีด้วยกันหลากหลายวิธี ทั้งการดูแลตัวเองจากภายใน อย่างการบริโภควิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อเส้นผม เช่น โปรตีน วิตามินซี วิตามินเอ เหล็ก โบโอติน โอเมก้า 3 รวมไปถึงวิธีบำรุงจากภายนอก เช่น หวีผมอย่างเบามือ บำรุงผมด้วยน้ำมันต่าง ๆ หมักผมด้วยไข่แดง นอกจากนั้นแล้ว ยังรวมไปถึงการอ่านฉลากเพื่อตรวจดูส่วนผสมในยาสระผม โดยเลือกให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของตนเอง [embed-health-tool-bmi] ส่วนผสมในยาสระผม ที่พบได้ทั่วไป แชมพูหรือยาสระผมทุกชนิดมักมีส่วนประกอบสำคัญคือ สารชำระล้าง (Detergents) หรือสารทำความสะอาด (Cleaning agent) เพราะสารเหล่านี้ช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกิน สิ่งสกปรก กลิ่น และสะเก็ดผิวหนัง ที่ติดอยู่ตามหนังศีรษะและเส้นผม ส่วนผสมอีกหนึ่งชนิดที่พบได้บ่อยในยาสระผมก็คือ สารลดแรงตึงผิว (Surfactant) เช่น โซเดียมลอริลซาโครซิเนต (Sodium Lauryl Sarcosinate) โซเดียมลอริลซัลเฟต (Sodium Lauryl Sulfate หรือ (SLS) โซเดียมลอเรทซัลเฟต (Sodium Laureth Sulfate หรือ SLES) โดยสารลดแรงตึงผิวเหล่านี้จะช่วยทำให้แรงตึงผิวของยาสระผมลดลง ยาสระผมจึงกระจายตัวได้ดีขึ้น โดยทำงานร่วมกับสารช่วยลดแรงตึงผิว […]


สุขภาพผิว

ผิวลอก ผิวแห้ง สาเหตุ และวิธีการป้องกัน

ผิวแห้ง ผิวลอก อาจเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังขาดความชุ่นชื้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น อากาศแห้ง หรืออาจเกิดจากปัญหาสุขภาพผิวต่าง ๆ และการใช้ยาบางชนิด ดังนั้น จึงควรดูแลสุขภาพผิวอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาผิวแห้งและผิวลอกในภายหลัง [embed-health-tool-bmi] สาเหตุที่ทำให้ ผิวแห้ง ผิวลอก สาเหตุหลัก ๆ ของปัญหาผิวลอก (Peeling Skin) ที่พบได้บ่อยที่สุดคือ ปัญหา ผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น จึงทำให้ผิวลอกได้ง่าย หรือผิวลอกที่คุณกำลังเผชิญอยู่อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ ผิวไหม้แดด เนื่องจากตากแดดเป็นเวลานาน หรือถูกแดดเผาจนผิวที่โดนแสงแดดมีอาการไหม้ และลอก ยารักษาโรคบางชนิด อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เซลล์ผิวหนังขยายจนเกิดการแตกและลอกของผิวหนัง โรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคผิวหนังเหล่านี้มักก่อให้เกิดผื่นแดง มีอาการคันตามผิวหนัง และก่อให้เกิดปัญหาผิวลอกตามมาได้ อาการแพ้ ส่วนใหญ่ที่พบคืออาการแพ้เครื่องสำอาง ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน เป็นผื่น มีอาการระคายเคืองที่ทำให้ผิวลอก วิธีการป้องกันผิวแห้ง และผิวลอก มีอยู่ด้วยกันหลายวิธีที่จะช่วยบำรุง ผิวแห้ง ให้เกิดความชุ่มชื้นและป้องกันปัญหาผิวลอก โดยสามารถเลือกใช้วิธีดูแลผิวแบบธรรมชาติ ตามวิถีบ้าน ๆ แต่ได้ผลจริง ดังนี้ 1. […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน