สุขภาพผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะภายนอกที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในร่างกาย ผิวหนังนั้นมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้งเป็นเกราะป้องกันจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือช่วยควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับการมี สุขภาพผิว ที่ดี และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย เพื่อการปกป้องดูแลผิวของคุณให้ดียิ่งขึ้น ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพผิว

รักษาสิวอย่างตรงจุด ด้วยนวัตกรรมเรตินอยเจนใหม่

“สิว” ไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่ใครหลายๆ คนคิด ยิ่งคนที่เคยเผชิญปัญหานี้ บอกเลยมีทั้งความกังวลใจ และความไม่มั่นใจ ถึงแม้สิวจะหายไป แต่ก็ยังคงส่งผลกระทบตามมา ทั้งรอยแผลเป็นจากสิว หลุมสิว รอยดำ รอยแดง และสำหรับคนที่เคยมีปัญหาสิว โดยเฉพาะในวัยรุ่น สิ่งที่ตามมาไม่ใช่แค่ปัญหาทางผิวหนังเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจ หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ กังวลทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับคนอื่น รู้สึกเหมือนถูกจับจ้อง หรือบางครั้งถึงกับหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม สิ่งเหล่านี้ค่อยๆ กัดกร่อนความมั่นใจในตัวเอง และทำให้หลายคนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น การปล่อยปละละเลยไม่รีบรักษาสิวตั้งแต่เนิ่นๆ อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิวที่เกิดจากหลุมสิว ยกตัวอย่างเช่น สิวที่หลัง ซึ่งมักถูกมองข้าม ทำให้ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม การรักษารอยแผลเป็นจากสิวเหล่านี้เป็นไปได้ยาก และในปัจจุบันก็สามารถดูแลได้เพียงทำให้หลุมสิวดีขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีจึงควรเริ่มรักษาสิวด้วยวิธีที่ถูกต้อง และเร็วที่สุด เพื่อลดความรุนแรงและรอยโรคที่จะเกิดขึ้นตามมา แน่นอนว่าปัญหาสิวไม่สามารถหายไปได้ง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นยังเกิดขึ้นในหลายส่วนของร่างกาย 64.6-89.3% ของคนที่เป็นสิวในระดับปานกลางมักจะต้องเจอกับสิวที่ใบหน้าและสิวที่หลัง จากการสำรวจพบว่ามีคนไทยที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 12-25 ปี มากถึง 85% ที่ต้องเผชิญกับปัญหาสิว ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 50% ที่เป็นสิวทั้งที่หน้าและสิวที่หลัง การรักษาสิวอย่างตรงจุด จึงจำเป็นที่จะต้องครอบคลุมทั้ง 2 บริเวณ และจะต้องช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความมั่นใจในระยะยาวอีกด้วย วิธีรักษาสิวมีได้หลากหลายรูปแบบ โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ยารักษาสิว ซึ่งสามารถทำได้เองทุกวัน ยาในกลุ่มเรตินอยจัดเป็นยารักษาสิวประสิทธิภาพดี ช่วยลดการอักเสบทั้งสิวเก่า และป้องกันสิวใหม่ไม่ให้เกิดขึ้น ทำให้ยาทาในกลุ่มเรตินอยได้ถูกระบุให้เป็นทางเลือกแรกในการรักษาสิวโดยสถาบันโรคผิวหนังแห่งอเมริกา […]

หมวดหมู่ สุขภาพผิว เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพผิว

สุขภาพผิว

รอยแผลเป็นจากอีสุกอีใส รักษาด้วยวิธีไหนได้ผลดีที่สุด

โรคอีสุกอีใส (Varicella Zoster หรือ Chickenpox) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลล่า (Varicella Zoster Virus) พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ก่อให้เกิดอาการไข้ออกผื่นตามลำตัว ลามไปที่ใบหน้า แขนและขา กลายเป็นตุ่มน้ำพุพองกระทั่งแผลแห้งตกสะเก็ดภายในเวลา 5-20 วัน และมักทิ้งรอยแผลเป็นหรือรอยดำไว้บนผิวหนัง อย่างไรก็ตาม การรักษารอยแผลเป็นจากอีสุกอีใสนั้นมีด้วยกันหลายวิธี วิธีรักษา รอยแผลเป็นจากอีสุกอีใส มีอะไรบ้าง รอยแผลเป็นจากอีสุกอีใสได้ สามารถบรรเทาให้จางลงได้ด้วยตนเองและโดยคุณหมอเฉพาะทาง ผ่านวิธีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ วิธีรักษา รอยแผลเป็นจากอีสุกอีใส ด้วยตัวเอง วิตามินอี การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอีทาบริเวณแผลเป็นอาจช่วยรักษารอยแผลเป็นจากอีสุกอีใสได้แต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น มีผื่น เกิดอาการคัน ฉะนั้น ก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินอีมาลบรอยแผลเป็นจากอีสุกอีใส ควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อน และควรทดสอบการแพ้ด้วยการทาผลิตภัณฑ์วิตามินอีที่ท้องแขนหรือข้อพับในพื้นที่ขนาดประมาณเหรียญสิบ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ติดต่อกันประมาณ 3-5 วัน หากไม่แพ้จึงค่อยนำมาทารักษารอยแผลเป็นจากอีสุกอีใสในจุดที่ต้องการ โกโก้บัตเตอร์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของโกโกบัตเตอร์ หรือเนยโกโก้ (Cocoa butter) ซึ่งเป็นไขมันจากเมล็ดโกโก้อาจช่วยลบรอยแผลเป็นจากอีสุกอีใสได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยให้รอยแผลเป็นนุ่มขึ้น ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะที่อาจทำให้รอยดำจากอีสุกอีใสเข้มขึ้นด้วย น้ำมันโรสฮิป น้ำมันโรสฮิป หรือโรสฮิปออยล์ (Rosehip oil) […]


สุขภาพผิว

เส้นเลือดขอดบนใบหน้า สาเหตุและวิธีรับมือที่ควรรู้

ปัญหา เส้นเลือดขอด เกิดขึ้นจากเส้นเลือดเกิดการขยายตัวใต้ผิวหนัง จนมีเส้นเลือดสีแดงเล็ก ๆ ที่สามารถมองเห็นได้ กระจายในบริเวณรอบๆ ส่วนใหญ่แล้วมักจะพบปัญหาเส้นเลือดขอดที่ขา แต่สาวๆ บางคนอาจมีปัญหา เส้นเลือดขอดบนใบหน้า ที่ทำเอาความมั่นใจหายเลยทีเดียว แต่จริง ๆ แล้วเส้นเลือดขอดบนใบหน้านั้นสามารถรักษาให้หายได้ เพียงแค่เรารู้สาเหตุที่แน่ชัด วันนี้ Hello คุณหมอ จึงมีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้มาให้อ่านกันค่ะ สาเหตุของการเกิด เส้นเลือดขอดบนใบหน้า เส้นเลือดขอด เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆ คน แม้กระทั่งในเด็ก บางอาจอาจจะมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดเส้นเลือดขอดนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุมากมายเหล่านี้ พันธุกรรม พันธุกรรมเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดเส้นเลือดขอด หากมีคนในครอบครัวเคยเป็นเส้นเลือดขอด คุณก็มีโอกาสที่จะมีเส้นเลือดขอด ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไรก็จะเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น การตั้งครรภ์ ในช่วงตั้งครรภ์ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วงระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้เส้นเลือดแตก จนเกิดเป็นเส้นเลือดขอดได้ ซึ่งหากเส้นเลือดขอดจากสาเหตุนี้ หลังคลอดลูกแล้วก็จะสามารถรักษาให้หายได้ โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) สำหรับผู้ที่มีสภาพผิวหนังอักเสบแบบโรซาเชีย ผิวมักจะมีความแดงกว่าปกติ และถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เส้นเลือดแดงจะแตกได้ โดนแดดมากเกินไป การที่ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไปนั้น สามารถขยายหลอดเลือดได้ ซึ่งหากแสงแดดเผาไหม้จนหนังชั้นบนสุดหลุด ลอก จะทำให้เส้นเลือดบาง ซึ่งหากเป็นบนใบหน้าจะสังเกตเห็นได้ชัดเจน การดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ในระดับปานกลาง หรือมีการดื่มเป็นครั้งคราว จะทำให้หน้าแดง เพราะการขยายตัวของหลอดเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดเส้นเลือดขอดบนใบหน้าได้ การบาดเจ็บ การได้รับการบาดเจ็บ ตังแต่การบาดเจ็บ เล็กๆ น้อยๆ […]


สุขภาพผิว

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับครีมกันแดด มีอะไรบ้าง

ครีมกันแดด ใช้ทาผิวหนังเพื่อป้องกันรังสียูวีในแสงแดดทำร้ายผิว แต่การใช้ครีมกันแดดควรใช้ให้ถูกวิธีและเหมาะสมกับความต้องการและสภาพผิว ที่สำคัญ แม้ครีมกันแดดจะเป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ยังมี ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับครีมกันแดด อยู่หลายประการที่ควรศึกษาและทำความเข้าใจให้ถูกต้อง เพื่อจะได้เลือกใช้ครีมกันแดดให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการปกป้องผิว [embed-health-tool-bmi] ครีมกันแดดกับสุขภาพผิว การทาครีมกันแดดเป็นวิธีในการช่วยดูแลผิวและปกป้องผิวจากแสงแดดที่ร้อนระอุ ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพผิวไม่ว่าจะเป็น อาการผิวไหม้แดด ไปจนถึงมะเร็งผิวหนัง การใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารที่มีความสามารถในการป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB จะช่วยปกป้องให้ผิวปลอดภัยจากภาวะอันตรายของแสงแดดได้ ข้อสำคัญคือควรเลือก ครีมกันแดด ที่เหมาะสม และควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประสิทธิภาพในการดูแลและปกป้องผิวอย่างเต็มที่ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับครีมกันแดด   หลายคนยังมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการใช้ครีมกันแดดอยู่มาก ทั้งเป็นเรื่องที่ควรรู้และเป็นเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่ง ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับครีมกันแดด ได้แก่ ครีมกันแดดทุกยี่ห้อเหมือนกัน ความเข้าใจที่ว่าครีมกันแดดทุกชนิดเหมือนกันนั้น นับว่าเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะครีมกันแดดแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างและทำหน้าที่ต่างกันด้วย โดยความแตกต่างหลัก ๆ ของครีมกันแดดที่รู้กันโดยทั่วไปคือ ครีมกันแดดแบบเคมีคัล (Chemical sunscreen) และครีมกันแดดแบบฟิสสิคัล (Physical sunscreen) ซึ่งครีมกันแดดแบบเคมีคัล จะทำหน้าที่ในการดูดซับรังสียูวีไม่ให้ซึมผ่านผิวหนัง ส่วนครีมกันแดดแบบฟิสสิคัล จะทำหน้าที่สะท้อนรังสียูวีออกไปจากผิวหนัง นอกจากความแตกต่างตรงนี้แล้ว ครีมกันแดด แต่ละชนิดก็ยังมีส่วนผสมที่ต่างกัน มี ค่า SPF ที่ต่างกันอีกด้วย ควรทาครีมกันแดดเมื่อจะออกจากบ้านเท่านั้น ถ้าไม่ออกจากบ้าน ไม่ได้อยู่ชายหาด ไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดด ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า แม้ว่าจะอยู่ในรถ นั่งอยู่ริมหน้าต่างบ้านก็ตาม […]


สิว

ประเภทของแผ่นแปะสิว และวิธีการใช้อย่างถูกต้อง

แผ่นแปะสิว หมายถึงแผ่นที่มีลักษณะคล้ายกับสติ๊กเกอร์ขนาดเล็ก ขนาดประมาณหัวสิว ใช้เพื่อแปะสิวเพื่อช่วยให้สิวหายไวขึ้น โดยช่วยดูดซับน้ำและของเหลวอื่น ๆ รวมไปจนถึงสิ่งสกปรกที่อยู่ในสิวให้ออกมา ทำให้แผลสามารถฟื้นฟูได้เร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และลดการเกิดแผลเป็นจากสิวได้ มีทั้งแบบไม่มีสารที่ออกฤทธิ์อื่น ๆ และแบบที่มีสารที่ออกฤทธิ์ เช่น กรดซาลิไซลิก (salicylic acid) หรือเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) เพื่อช่วยให้สิวหายเร็วยิ่งขึ้นไปอีก [embed-health-tool-ovulation] ประเภทของแผ่นแปะสิว แผ่นแปะสิวสำหรับสิวอักเสบ แผ่นแปะสิวสำหรับสิวอักเสบ มักจะมีส่วนผสมของสารที่จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว และสารที่ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของสิว ส่วนตัวแผ่นแปะสิวนั้นก็จะทำหน้าที่ในการดูดซับของเหลวจากสิวที่กำลังอักเสบให้ออกมาจนหมด ส่วนผสมที่พบได้มากในแผ่นแปะสิวชนิดนี้คือ กรดซาลิไซลิก และน้ำมันทรีทีออยล์ (tea tree oil) แผ่นแปะสิวชนิดนี้จะช่วยลดอาการบวม อาการปวด และรอยแดงจากการเกิดสิว ทั้งยังมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวอักเสบ เช่น สิวที่เป็นตุ่มนูน (papules) หรือช่วยลดแผลเป็นที่เกิดจากสิวตุ่มใหญ่ (nodular acne) และสิวหัวช้าง (cystic acne) ได้ แผ่นแปะสิวสำหรับสิวที่กำลังฟื้นฟู แผ่นแปะสิวสำหรับสิวที่กำลังฟื้นฟูนั้น จะใช้เป็นแผ่นแปะสิวธรรมดาที่ไม่เติมสารที่ออกฤทธิ์อื่นๆ คล้ายๆ กับพลาสเตอร์ หรือผ้าก็อซสำหรับปิดแผล เพื่อช่วยให้สิวมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปกติแล้วแผ่นแปะสิวแบบนี้มักจะมีลักษณะกลม พอดีกับหัวสิว และมีความบางมากจนยากต่อการสังเกต แผ่นแปะสิวนี้จะใช้เพื่อดูดซับความชื้นจากรูขุมขน ป้องกันการอักเสบและติดเชื้อที่บริเวณสิว และใช้เป็นเกราะป้องกันความชื้นจากภายนอกอีกหนึ่งขั้น ทำให้แผลสิวหายเร็วขึ้น และไม่เกิดรอยแผลเป็น แผ่นแปะสิวสำหรับสิวหัวช้าง แผ่นแปะสิวชนิดนี้ จะมีเข็มขนาดเล็ก (Micro […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

หูดข้าวสุก เกิดจากอะไร และป้องกันได้อย่างไร

หูดข้าวสุก เป็นอีกหนึ่งโรคทางผิวหนังที่มีสาเหตุเกิดมาจากการมีเพศสัมพันธ์ หรือการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกัน เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ทำให้เกิดอาการตุ่มขนาดต่าง ๆ อาจมีแค่ตุ่มเดียวหรือขึ้นหลายตุ่มรวมกันเป็นกระจุก หูดข้าวสารสามารถหายได้ด้วยตัวเอง หรืออาจจะเข้ารับการรักษากับคุณหมอเพื่อกำจัดตุ่มหูดออก หูดข้าวสุก เกิดขึ้นได้อย่างไร? โรคหูดข้าวสุก (Molluscum Contagiosum) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจาก เชื้อไวรัสมอลลัสคุมคอนทาจิโอซุม (Molluscum Contagiosum Virus​) ทำให้ผิวหนังชั้นนอกเกิดเป็นตุ่มรอยนูน เชื้อไวรัสนี้จะแพร่กระจายผ่านการสัมผัสโดยตรงจากคนสู่คน เช่น การใช้ผ้าเช็ดตัวหรือสวมใส่เสื้อผ้าร่วมกัน  อย่างไรก็ตาม โรคหูดข้าวสุก ไม่ใช่โรคร้ายแรง สามารถหายได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรับการรักษา และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ที่ผิวหนัง สัญญาณและอาการของผู้ป่วยที่ติด โรคหูดข้าวสุก โรคหูดข้าวสุก นั้น เกิดจากการสัมผัสกับคนที่มีเชื้อโดยตรง เช่น เด็กสัมผัสกับเด็กด้วยกันที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้ ส่วนใหญ่พบว่า ในวัยรุ่นและผู้ใหญ่มักติด โรคหูดข้าวสุก ได้ง่ายจากการมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการติดเชื้อระหว่างการเล่นกีฬาที่มีการสัมผัสโดนผิวหนัง อย่างกีฬามวยปล้ำ หรือกีฬาฟุตบอล เป็นต้น โรคหูดข้าวสุก จะมีระยะการฟักตัวอยู่ระหว่าง 2-7 สัปดาห์ จนถึง 6 เดือน โดยหลังจาก 6 เดือนผู้ป่วยจะเริ่มมีตุ่มขึ้นบริเวณผิวหนังเป็นตุ่มเดี่ยว ๆ หรือบางทีขึ้นเป็นกระจุกได้ถึง 20 ตุ่มกันเลยทีเดียว […]


โรคผิวหนังติดเชื้อ

ฝีฝักบัว อาการ สาเหตุ และการรักษา

ฝีฝักบัว เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส ทำให้ผิวหนังบริเวณที่มีรูขุมขนเกิดการอักเสบจนเกิดก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่มีหนองและเซลล์ผิวที่ตายแล้วอยู่ภายใน เมื่อปริมาณของหนองเพิ่มขึ้นก็อาจทำให้ก้อนเนื้อใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนแตกและมีหนองไหลออกมา ส่งผลทำให้เกิดอาการเจ็บปวด แต่บางครั้งหนองที่อยู่ในก้อนเนื้อก็อาจไม่สามารถไหลออกมาเองได้ จึงต้องเข้ารบการรักษาจากคุรหมออย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการติดเชื้อบริเวณที่เป็นแผล ฝีฝักบัว คืออะไร ฝีฝักบัว (Carbuncles) เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) ส่งผลทำให้ผิวหนังบริเวณที่มีรูขุมขนเกิดการอักเสบจนเกิดก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่มีหนองและเซลล์ผิวที่ตายแล้วอยู่ภายใน เมื่อปริมาณของหนองเพิ่มขึ้นก็อาจทำให้ก้อนเนื้อใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนแตกและมีหนองไหลออกมา ส่งผลทำให้เกิดอาการเจ็บปวด ระคายเคืองภายใต้ผิวหนัง ซึ่งบริเวณที่อาจเกิดฝีฝักบัวได้บ่อย ได้แก่ ใบหน้า หลังคอ รักแร้ ต้นขา ก้น และอาจพบได้มากในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง อาการของฝีฝักบัว สำหรับอาการที่อาจเกิดขึ้นจากฝีฝักบัวมีดังนี้ ผิวหนังเกิดบวมและตุ่มสีชมพูหรือแดง มีอาการคันก่อนที่ก้อนเนื้อจะปรากฏขึ้นมา เจ็บปวดผิวหนังรอบ ๆ บริเวณที่เกิดก้อนเนื้อ ก้อนเนื้อมีหนองเกิดขึ้นและอาจขยายใหญ่ขึ้นใน 2-3 วัน ผิวหยาบกร้าน และมีหนองไหลออกมา ปวดเมื่อยตามร่างกาย รู้สึกเมื่อยล้า อ่อนเพลีย หนาวสั่นและมีไข้ สาเหตุของการเกิดฝีฝักบัว ฝีฝักบัวอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า สแตฟิโลค็อกคัสออเรียส (Staphylococcus Aureus) กระจายเข้าสู่รุขุมขนผ่านทางบาดแผลหรือรอยขีดข่วน ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ ผิวหนังอักเสบ และเป็นหนอง ซึ่งฝีฝักบัวสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่อับชื้น เช่น […]


สุขภาพผิว

ผิวเสียสมดุล คืนสมดุลให้ผิวด้วยวิธีใดบ้าง

ผิวเสียสมดุล เกิดได้จากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น อายุที่เพิ่มมากขึ้น สภาพอากาศ มลภาวะ รวมถึงพฤติกรรมไม่ดูแลผิว หรือดูแลผิวไม่ถูกวิธี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ นอกจากจะทำให้ผิวเสียสมดุลแล้ว ยังอาจทำให้ผิวแห้ง เกิดสิว เกิดปัญหารูขุมขนกว้าง แต่ปัญหาเหล่านี้อาจแก้ไขได้ด้วยการคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมถึงการดูแลรักษาค่า pH ให้สมดุล ด้วยการล้างหน้าให้สะอาด เช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ รวมถึงวิธีอื่น ๆ ค่า pH Balance ของผิว คืออะไร ค่า pH Balance คือ ความสมดุลของค่าความเป็นกรด-ด่าง ซึ่งแบ่งเป็นระดับตั้งแต่ 0-14 และมีค่าเป็นกลางอยู่ที่ระดับ 7 หากค่า pH ต่ำกว่า 7 เท่ากับเป็นกรด หากระดับยิ่งต่ำ ค่าความเป็นกรดยิ่งสูง แต่ถ้าค่า pH สูงกว่า 7 เท่ากับเป็นด่าง ระดับยิ่งสูง ค่าความเป็นด่างก็ยิ่งสูงตามไปด้วย โดยทั่วไปแล้ว ค่าความเป็นกลางของสิ่งต่าง ๆ จะอยู่ที่ระดับ 7 แต่หากเป็นผิวหนัง ค่า pH ตามธรรมชาติของผิวนั้นกลับมีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆ […]


สิว

วิธีกดสิวที่ถูกต้อง ปลอดภัย หากจำเป็นต้องกำจัดสิวแบบเร่งด่วน

สิว เป็นปัญหาผิวที่พบได้ทั่วไป อาจเกิดจากความเครียด มลพิษทางอากาศ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เป็นต้น เมื่อเกิดสิว หลายคนอาจเลือกกดหรือบีบสิว เพื่อกำจัดสิวออกไปให้ได้เร็วที่สุด แต่วิธีนี้อาจทิ้งรอยแดง รอยดำ หรือทำให้สิวอักเสบกว่าเดิมได้ อย่างไรก็ตาม การศึกษา วิธีกดสิวที่ถูกต้อง และปลอดภัย อาจช่วยลดปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาได้ ทั้งนี้ ควรกดสิวเองเมื่อจำเป็นเท่านั้น และควรดูแลสิวด้วยไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสม เช่น ปรับการรับประทานอาหาร ล้างหน้าและบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว และหากปัญหาสิวแย่ลง ควรปรึกษาคุณหมอผิวหนัง เพื่อเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมที่สุด [embed-health-tool-bmr] วิธีกดสิวที่ถูกต้อง และปลอดภัย วิธีรักษาสิวที่เหมาะสมที่สุดอาจเป็นการรอให้หัวสิวหลุดออกมาเอง เพราะบนผิวหนังบริเวณรอบ ๆ สิวมีแบคทีเรียก่อตัวอยู่ หากกดสิวอาจทำให้แบคทีเรียบนผิวหนังชั้นนอกเข้าสู่ผิวหนังผ่านรอยกดสิว และทำให้ผิวหนังอักเสบได้ แต่หากจำเป็นต้องกำจัดสิวด้วยการกดสิวจริง ๆ การกดสิวด้วยวิธีกดสิวที่ถูกต้องดังต่อไปนี้ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาจากการกดสิวได้ วิธีกดสิวที่ถูกต้อง สำหรับสิวหัวขาวหรือสิวหัวปิด ล้างมือด้วยสบู่และน้ำอุ่นให้สะอาด จะได้ไม่เสี่ยงติดแบคทีเรีย ใช้แอลกอฮอล์ 70% เช็ดทำความสะอาดเข็มเจาะสิวให้สะอาด หากไม่มี สามารถใช้เข็มเย็บผ้าเล่มใหม่ได้ ค่อย ๆ แทงเข็มลงบนสิวในมุมเฉียง หากมองเห็นรูขุมขนให้แทงเข็มเข้าไปตามแนวรูขุมขน ควรแทงเข็มอย่างเบามือ อย่าให้แรงหรือลึกเกินไปจนเลือดไหลหรือรู้สึกเจ็บ ใช้ไม้พันสำลีหรือผ้าก๊อซกดที่ผิวใกล้ๆ บริเวณหัวสิว แล้วดึงผิวให้ตึง ให้หัวสิวหรือหนองไหลออกมาเอง อย่าใช้วิธีกด […]


สิว

สิวขึ้นที่รักแร้ สาเหตุและวิธีป้องกันแบบง่าย ๆ

สิวขึ้นที่รักแร้ คือการที่สิวขึ้นบริเวณผิวหนังใต้วงแขน ซึ่งสาเหตุเกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน หรือมีต่อมเหงื่ออุดตัน ทั้งนี้ สิวขึ้นที่รักแร้ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง เพียงแต่อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน  เช่น การระคายเคืองของผิวหนัง รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว เจ็บปวดบริเวณใต้วงแขน ซึ่งสิวขึ้นที่รักแร้สามารถดูแลและป้องกันได้ ทั้งนี้ หากเป็นสิวเรื้อรังหรืออักเสบมากผิดปกติบริเวณใต้วงแขน ควรปรึกษาคุณหมอ [embed-health-tool-bmi] สาเหตุการเกิด สิวที่รักแร้  สาเหตุที่ทำให้เกิด สิวที่รักแร้ มีหลายประการ ดังนี้ สิวที่รักแร้ จากขนคุด ขนคุด เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิด สิวที่รักแร้ เนื่องจากการถอนขนรักแร้ หรือการกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีต่าง ๆ ส่งผลให้ผิวหนังเกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขน อาจทำให้รู้สึกคัน มีแผลอักเสบ หรือร้ายแรงถึงขั้นมีหนอง หากมีอาการรุนแรง คุณควรปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม การอักเสบของต่อมเหงื่อ สิวที่รักแร้ อาจเกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อ โดยทั่วไปมักพบบริเวณรักแร้ และขาหนีบ ควรต้องหมั่นสังเกตหากพบว่ามีสิวเกิดขึ้นใหม่ มีกลิ่นเหม็น หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้เกิดแผลได้ มีวิธีการรักษาโดยคุณหมอจะสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อลดการอักเสบและการติดเชื้อ ควบคู่กับการใช้ยารักษาสิว ในกรณีที่รุนแรงกว่านี้คุณหมออาจแนะนำให้ผ่าตัด การอักเสบของรูขุมขน สภาพผิวของรูขุมขนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดการอักเสบที่รูขุมขน เช่น การแว็กซ์ ผิวหนังจะได้รับการกระทบกระเทือนจนเกิดการระคายเคือง จนอาจนำไปสู่สิวบริเวณใต้วงแขนได้ อย่างไรก็ตาม หากอาการของสิวไม่หายไป ควรปรึกษาคุณหมอ เพราะอาจเป็นโรคอักเสบของต่อมเหงื่อ ซึ่งในเบื้องต้นผู้ป่วยจะมีตุ่มคล้ายสิวเกิดขึ้นที่รักแร้ หากไม่ได้รักษาอาการจะรุนแรงขึ้นและเกิดการอักเสบจนเจ็บปวดและทำให้การรักษานั้นเรื้อรังออกไปอีก เคล็ดลับป้องกันสิวขึ้นที่รักแร้ เคล็ดลับวิธีในการปฏิบัติตัวให้ถูกสุขอนามัย เพื่อป้องกันการเกิด สิวที่รักแร้  มีดังนี้ ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากน้ำหอม และอ่อนโยนต่อผิว […]


การดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

โบท็อกซ์ผม คืออะไร และวิธีการทำโบท็อกซ์ผมด้วยตัวเอง

โบท็อกซ์ผม (Hair Botox) เป็นวิธีการบำรุงเส้นผมรูปแบบหนึ่ง โดยการเคลือบเส้นผมด้วยเคราติน เพื่อช่วยเติมเต็มเส้นผมที่บอบบาง ให้แข็งแรงและดูเงางาม อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาวิธีการทำโบท็อกซ์ผมให้ละเอียด หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญการทำโบท็อกซ์ผม เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ [embed-health-tool-bmi] โบท็อกซ์ผม คืออะไร? การโบท็อกซ์ผม จะช่วยเติมเต็มเส้นผม ทำให้ผมเรียบเนียน สร้างเส้นผมให้สวยงามยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยทำให้เส้นผมที่เสีย กลับมาเงางาม และดูมีสุขภาพดีขึ้น แต่ทั้งนี้การทำโบท็อกซ์ผมนั้น ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and Drug Administration หรือ FDA) การโบท็อกซ์ผม เป็นการบำบัดแบบลึก โดยการเคลือบเส้นใยผมด้วยฟิลเลอร์ (Filler) เช่น เคราติน นอกจากนั้นมันยังสามารถรักษาเส้นผมที่แตกหักหรือบอบบางแต่ละเส้น รวมถึงเติมเต็มเส้นผมในบริเวณที่ผมบาง เพื่อให้เส้นผมดูเต็มและเงางามมากขึ้น สำหรับส่วนผสมของโบท็อกซ์ผมก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ละผลิตภัณฑ์ แต่โดยปกติแล้วจะมีส่วนผสมต่างๆ เหล่านี้ผสมอยู่ด้วย น้ำมันคาเวียร์ (Caviar Oil) เปปไทด์ BONT-L วิตามินบี 5 วิตามินอี คอลลาเจนคอมเพล็กซ์ (Collagen Complex) ทั้งนี้ การโบท็อกซ์ผมสามารถไปทำที่ร้าน หรือซื้อผลิตภัณฑ์กลับไปใช้งานที่บ้านก็ได้ โดยแชมพูสระผมเพื่อทำการเปิดเกล็ดผม จากนั้นนำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของโบท็อกซ์มานวดลงบนเส้นผมตั้งแต่รากไปจนจรดปลายผม แล้วทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 20-90 นาที […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน