ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป เป็นเรื่องที่ทุกคนควจะต้องรู้เอาไว้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัว ซึ่งเรื่องราวที่คุณจะอ่านเรารวบรวมเอาไว้ให้แล้ว

เรื่องเด่นประจำหมวด

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

โรคไวรัสตับอักเสบบี คือโรคอะไร ใครควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

โรคไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี และอี โดยไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เป็นชนิดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงยาที่ช่วยไม่ให้ตับถูกทำลาย โรคไวรัสตับอักเสบบี จึงเป็นโรคที่ควรตรวจคัดกรองเพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็ว และป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี  [embed-health-tool-vaccination-tool] โรคไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร ไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคตับอักเสบชนิดหนึ่ง หรือเกิดจากการอักเสบของเซลล์ตับ สาเหตุจากการ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) อาจทำให้เซลล์ตับตาย ความรุนแรงของโรคไวรัสตับอักเสบ บี เมื่อเป็นเรื้อรังจะเกิดพังผืด อาจกลายเป็นตับแข็ง นำสู่โรคมะเร็งตับได้  การติดต่อของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี  ส่วนใหญ่การติดต่อของโรคเกิดจากการถ่ายทอดจากแม่ที่ติดเชื้อสู่ทารก ไม่ติดต่อผ่านทางการสัมผัสภายนอก ไม่ติดต่อหลักทางน้ำลาย แต่ติดต่อได้ ดังนี้ สามารถเกิดได้จากการเจาะหรือสักผิวหนัง ด้วยเครื่องมือที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน เชื้อเข้าทางบาดแผล หรือการใช้ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน  สัมผัสกับเลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อ อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสตับอักเสบบีจะไม่แสดงอาการในทันที แต่จะใช้เวลาฟักตัว 2-3 เดือน จึงเริ่มมีอาการ เช่น เกิดการอ่อนเพลียคล้ายกับโรคหวัด คลื่นไส้ อาเจียน จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต  สีปัสสาวะเข้มขึ้น […]

สำรวจ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดีดังใจ

การฉีดโบท็อกซ์นั้น นอกจากจะลดริ้วรอยบนใบหน้าได้แล้ว ยังสามารถใช้เพื่อรักษาภาวะทางสุขภาพต่างๆ ได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้เพื่อทำให้การฉีดโบท็อกซ์เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ จึงเป็นเรื่องที่คุณควรจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ นอกจากนั้นก็ยังมีข้อควรระวังต่างๆ อีกด้วย ซึ่งทาง Hello คุณหมอ ได้นำเรื่องนี้มาฝากกัน หลังการฉีดโบท็อกซ์ ทำไมจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ โบท็อกซ์ หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin A ; Botox) ถือเป็นยาในกลุ่มเครื่องสำอางชนิดฉีด ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อของคุณเป็นอัมพาตชั่วคราว การฉีดโบท็อกซ์ถือเป็นเรื่องที่ปลอดภัย เพราะการฉีดจะใช้สารชนิดนี้ในปริมาณที่เจือจาง เพื่อหยุดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยให้ริ้วรอยอ่อนลงและผ่อนคลาย นอกจากคนส่วนใหญ่จะใช้โบท็อกซ์ เพื่อลดริ้วรอยบนใบหน้าแล้ว ยังใช้เพื่อรักษาภาวะทางการแพทย์ต่างๆ เช่น ไมเกรนเรื้อรัง เหงื่อออกมาก (Hyperhidrosis) ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน หรือโอเอบี (Overactive Bladder หรือ OAB) ภาวะตาขี้เกียจ (Lazy Eye) คอบิดเกร็ง (Cervical Dystonia) หรือคอกระตุก (Neck Spasms) หลังจากเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ 4 ชั่วโมง คุณควรหลีกเลี่ยงการนอนหงาย หลีกเลี่ยงการนวดหรือใช้ความร้อนในบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ไป หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น ออกกำลังกายอย่างหนัก การดื่มแอลกอฮออล์ และการใช้อ่างน้ำร้อน เหตุผลที่จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองหลังการฉีดโบท็อกซ์เป็นพิเศษ ก็เพื่อลดการแพร่กระจายของสารดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นได้ วิธี […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เทคนิคการดูแลตัวเองที่บ้าน สำหรับ ผู้ป่วยเข้าเฝือก

เมื่อเกิดอาการกระดูกหัก หรือแขนขาผิดรูป แพทย์ก็มักจะให้ผู้ป่วยได้เข้าเฝือก เพื่อช่วยตรึงไม่ให้บริเวณที่บาดเจ็บนั้นเคลื่อนไหว และช่วยให้บาดแผลฟื้นฟูได้เร็วยิ่งขึ้น แต่หลายๆ คนอาจจะยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับ วิธีการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมเมื่อต้องเข้าเฝือก วันนี้ Hello คุณหมอ เลยจะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับ เทคนิคการดูแลตัวเอง สำหรับ ผู้ป่วยเข้าเฝือก ให้ทุกคนได้รับทราบกันค่ะ เทคนิคการดูแลตัวเอง สำหรับ ผู้ป่วยเข้าเฝือก อย่าให้เปียก เฝือกนั้นควรจะแห้งอยู่เสมอ ควรระมัดระวัง อย่าให้เฝือกเปียกน้ำเป็นอันขาด เนื่องจากหากเฝือกเปียกน้ำ อาจทำเฝือกอ่อนตัวลง และไม่สามารถค้ำกระดูกของคุณได้ดีดังเดิม นอกจากนี้เฝือกก็อาจจะอุ้มน้ำไว้ ทำให้อับชื้น และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง หรือนำไปสู่การติดเชื้อได้ ในช่วงที่ต้องเช็ดตัว หรืออาบน้ำ ควรหาพลาสติกมาหุ้มเฝือกใช้หลายๆ ชั้น หรือหาซื้อถุงคลุมกันน้ำสำหรับเฝือกโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าระหว่างอาบน้ำหรือเช็ดตัว และพยายามอาบน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหงื่อออกภายใต้เฝือก หากเฝือกเปียกน้ำเล็กน้อย อาจสามารถซับน้ำและเป่าให้แห้งได้ แต่ห้ามใช้ลมร้อน เพราะเฝือกอาจจะเสียหายได้ หากเฝือกเปียกน้ำมาก ควรติดต่อแพทย์เพื่อขอคำแนะนำจากแพทย์โดยตรงจะดีกว่า ดูแลรักษาความสะอาด แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการดูแลตัวเองระหว่างใส่เฝือก เพราะหากว่าเราไม่สามารถรักษาความสะอาดของเฝือกได้ดีพอ อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือเป็นหนองได้ ควรพยายามระมัดระวัง อย่าให้เศษฝุ่น เศษทราย หรือเศษดินเข้าไปในเฝือก และใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาดเฝือก และบริเวณโดยรอบเป็นประจำ อย่าเกา ในบางครั้งผิวหนังใต้บริเวณที่ใส่เฝือก อาจจะเกิดอาการคันขึ้นมาได้ อย่าพยายามเกา หรือหาอะไรมาแหย่มาเกา เพราะอาจทำให้เฝือกผิดรูปเสียหาย […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เคี้ยวหมากฝรั่ง ลดน้ำหนัก จริงแท้หรือแค่มั่วนิ่ม

หมากฝรั่ง ผลิตภัณฑ์เคี้ยวหนึบ ที่ผลิตขึ้นจากแบะแซ และทำการแต่งกลิ่นเพิ่มรส บางครั้งก็เพิ่มสารที่มีประโยชน์อื่น ๆ เช่น สารที่มีส่วนช่วยป้องกันฟันผุ หลายๆ คนมักจะมีหมากฝรั่งติดกระเป๋าอยู่เสมอ สำหรับเคี้ยวหลังรับประทานอาหาร เพื่อดับกลิ่นปาก บางคนเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อเลิกบุหรี่ วันนี้ Hello คุณหมอ มีอีกหนึ่งประโยชน์ที่น่าสนใจของการเคี้ยวหมากฝรั่งมาฝาก นั่นก็คือ เคี้ยวหมากฝรั่ง ลดน้ำหนัก เรื่องนี้จะจริงเท็จแค่ไหน ลองไปอ่านกันค่ะ เคี้ยวหมากฝรั่ง ลดน้ำหนัก ได้จริงไหม แม้ว่าจะมีงานวิจัยหลายๆ ชิ้นแสดงให้เห็นว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อลดน้ำหนักนั้นมีแนวโน้มเพียงเล็กน้อย แต่ว่าก็ยังมีงานวิจัยบางชิ้นที่มีความน่าสนใจว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งมีประโยชน์ในการลดน้ำหนัก ดังนี้ ช่วยให้รู้สึกหิวได้น้อยลง การเคี้ยวอาหารที่ต้องเคี้ยวบ่อยๆ เช่น การเคี้ยวหมากฝรั่ง ขนบขบเคี้ยว อาจมีส่วนช่วยทำให้รู้สึกอิ่มและช่วยให้รู้สึกหิวได้น้อยลง จากการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่าการเคี้ยวหมากฝรั่ง ช่วยลดความหิวและความอยากอาหารได้หลังจากเวลาผ่านไป 10 ชั่วโมง แถมยังมีประสิทธิภาพเท่ากับการดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณแคลอรีสูงเลยด้วย ช่วยให้รับประทานอาหารแคลอรี่ที่น้อยลง หลาย ๆ คนชอบเคี้ยวหมากฝรั่งระหว่างมื้ออาหาร เพราะเชื่อว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก และช่วยให้รับประทานอาหารที่มีปริมาณแคลอรีที่น้อยลง จากการศึกษาหนึ่ง ที่ให้ผู้เข้าการศึกษา เคี้ยวหมากฝรั่งระหว่างมื้อเช้าและมื้อกลางวัน พบว่าไม่เพียงแต่พวกเขาจะรู้สึกหิวน้อยลงระหว่างมื้ออาหารแล้ว แต่ยังกินอาหารกลางวันน้อยกว่า 68 แคลอรี่ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคี้ยวหมากฝรั่ง จากการศึกษามีบางรายงานว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งมีผลต่ออาหารหรือปริมาณแคลอรี่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม เพื่อความชัดเจนของข้อมูล ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น จากการศึกษาเล็กๆ งานหนึ่งชี้ให้เห็นว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งอาจช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้เล็กน้อย […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เดินป่า ประโยชน์ดีๆ ของการผจญภัยที่ได้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต

เดินป่า แค่พูดถึงหลายคนก็คงจะส่ายหน้า เพราะไม่ใช่สายแอดเวนเจอร์ หรือสายเนวิเกเตอร์ จะให้ไปแบกเป้เดินป่า ปีนเขาอะไรทำนองนั้น ฟังแล้วดูเหงื่อไหลไคลย้อยและผาดโผนอยู่มากทีเดียว สำหรับใครที่ชอบไปเที่ยวแบบชิลล์ๆ รับบรรยากาศผ่อนคลายก็ตงจะต้องขอลา แต่คุณรู้หรือไหมว่า การเดินป่ามีดีมากกว่าแค่ความผาดโผนนะ แต่ไปเดินป่าจะมีประโยชน์ดีๆ มากแค่ไหนนั้น Hello คุณหมอ มีคำตอบมาไขข้อข้องใจให้แล้วค่ะ ประโยชน์ของการเดินป่า เสริมความแข็งแรงของกระดูก มวลกระดูกของคนเราจะค่อยๆ สลายไปเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ยิ่งถ้าไม่ค่อยออกกำลังกายด้วยแล้วล่ะก็ ถือว่ามีความเสี่ยงที่มวลกระดูกจะสลายได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้กระดูกไม่แข็งแรง เสี่ยงที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกเช่น โรคกระดูกพรุน ดังนั้นการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก จึงเป็นวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อกระดูกได้ และหนึ่งในนั้นคือการออกกำลังกายด้วย การเดินป่า การเดินป่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยให้เราสามารถออกกำลังขาได้มากขึ้น ทุกย่างก้าวที่เดินเข้าป่าเพื่อไปยังจุดหมายนั้นกล้ามเนื้อกับกระดูกจะได้ออกแรงทำงานไปพร้อมๆ กัน จึงมีส่วนช่วยเพิ่มและรักษาความหนาแน่นของมวลกระดูก มากไปกว่านั้น ยังได้วิตามินดีจากแสงแดดอีกด้วย ซึ่งวิตามินดีนี้จะช่วยในการสังเคราะห์แคลเซียม ซึ่งสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เผาผลาญแคลอรี่ นอกจากการออกกำลังกายอยู่ในฟิตเนสและสวนสาธารณะแล้ว การไปเที่ยวที่ออกแนวผจญภัยหน่อยๆ อย่าง การเดินป่า ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีส่วนช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกายได้เหมือนกัน เนื่องจากสภาพการเดินทางในป่าหรือเขา ทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการเดิน เมื่อออกแรงมากขึ้นก็ทำให้สามารถเผาผลาญได้มากขึ้น โดยจากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยฟลอริด้า (University of Florida) พบว่าการเดินในพื้นที่ไม่สม่ำเสมออย่างการเดินป่า ร่างกายจะต้องใช้พลังงานในการเดินมากกว่าการเดินบนพื้นราบเรียบปกติถึง 28 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการใช้พลังงานที่มากขึ้นนี้เอง ก็จะไปกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญให้เผาผลาญไขมันหรือสารอาหารออกมาเป็นพลังงานแก่ร่างกาย โดยการเดินป่า 1 ชั่วโมง สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณ 300-400 […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

สมองซีกซ้าย สมองซีกขวา แตกต่างกันจริงไหม และสมองทำงานอย่างไร

หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำกล่าว หรือคำถามที่ว่า คุณถนัดใช้สมองซีกซ้าย หรือสมองซีกขวามากกว่ากัน หรือเคยได้ยินว่า คนถนัดใช้สมองซีกซ้ายจะเก่งเรื่องตัวเลขและชอบใช้เหตุผลเป็นหลัก ส่วนคนถนัดใช้สมองซีกขวาจะเก่งเรื่องความคิดสร้างสรรค์และชอบใช้อารมณ์เป็นหลัก แต่ว่า คำกล่าวเกี่ยวกับ สมองซีกซ้าย สมองซีกขวา เหล่านี้จะใช่เรื่องจริงไหม จริง ๆ แล้ว สมอง ของเราทำงานอย่างไร เราไปหาคำตอบจากบทความที่ Hello คุณหมอ นำมาฝากกันเลยดีกว่า สมอง ของคนเราทำงานอย่างไร สมอง เป็นอวัยวะที่ซับซ้อน แม้จะมีน้ำหนักแค่ประมาณ 1.3 กิโลกรัม แต่ก็ประกอบด้วยเซลล์ประสาทกว่าแสนล้านเซลล์ และมีส่วนเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทถึงร้อยล้านล้านส่วน สมองของเราแบ่งออกเป็น 2 ซีก ได้แก่ สมองซีกซ้าย และสมองซีกขวา โดยสมองแต่ละซีกก็ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกายที่แตกต่างกันออกไป แม้สมองทั้งสองซีกจะดูคล้ายคลึงกัน แต่วิธีการประมวลข้อมูลของสมองทั้งสองซีกก็แตกต่างกันมาก แต่ถึงอย่างนั้น สมองสองซีกของเราก็ไม่ได้ทำงานแยกกันโดยสิ้นเชิงแบบที่ใครหลายคนเข้าใจ โดยปกติแล้ว สมองแต่ละส่วนจะเชื่อมต่อกันด้วยเส้นใยประสาท (nerve fibers) หากสมองได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่อของสมองแต่ละส่วนหรือแต่ละซีก ร่างกายของคุณก็จะยังสามารถทำงานต่อไปได้ แต่การสอดประสานกันก็อาจจะไม่ดีเท่าปกติ หรือทำให้ร่างกายทำงานบกพร่องไปบ้าง ทฤษฎีว่าด้วยเรื่อง สมองซีกซ้าย สมองซีกขวา มีทฤษฎีที่ว่า สมอง แต่ละซีก ทั้งสมองซีกซ้าย และสมองซีกขวานั้นควบคุมความคิดคนละด้านกัน และคนเราแต่ละคนก็มักจะถนัดใช้สมองซีกใดซีกหนึ่งมากกว่าสมองอีกซีก เช่น คนถนัดใช้สมองซีกซ้ายมักจะเก่งเรื่องการคิดวิเคราะห์ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ดื่มน้ำบ่อย แต่รู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลา อีกหนึ่งสัญญาณเตือนของ โรคเบาจืด

หากคุณรู้สึกหิวน้ำบ่อย ๆ ทั้งที่ดื่มน้ำตลอดเวลา หรือเข้าห้องน้ำปัสสาวะบ่อย ๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของ โรคเบาจืด ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเสียสมดุลของน้ำในร่างกาย หากปล่อยไว้เนิ่นนานโดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ บทความนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับโรคเบาจืดให้มากขึ้นค่ะ โรคดังกล่าวนี้จะมีสาเหตุและอาการอย่างไร ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลยค่ะ ทำความรู้จัก โรคเบาจืด (Diabetes insipidus) โรคเบาจืด (Diabetes Insipidus) เกิดจากความผิดปกติของสมดุลน้ำในร่างกาย ซึ่งความผิดปกติของสมดุลน้ำในร่างกายนี้ ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลา นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายผลิตปัสสาวะจำนวนมากอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจส่งผลให้ผู้ป่วยปัสสาวะมากถึง 20 ลิตร/ต่อวัน ซึ่งโดยปกติในกลุ่มคนทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรงจะปัสสาวะโดยเฉลี่ย 1-2 ลิตร/วัน เท่านั้น สาเหตุของโรคเบาจืด สาเหตุของโรคเบาจืดเกิดขึ้นเมื่อร่างกายไม่สามารถปรับสมดุลน้ำในร่างกายได้อย่างเหมาะสม โดยมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของโรคเบาจืด ดังนี้ โรคเบาจืดชนิดที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง (Central diabetes insipidus) เกิดจากความผิดปกติของต่อมใต้สมอง ร่างกายจึงไม่สามารถหลั่งฮอร์โมนอาร์จินีน วาโซเพรสซิน (Arginine vasopressin : AVP) ได้เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้ร่างกายปัสสาวะออกมาจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุที่ทำให้สมองเกิดความผิดปกติ อาจเกิดจากการติดเชื้อ โรคเยื่อสมองอักเสบ โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น โรคเบาจืดชนิดที่เกิดจากความผิดปกติของไต (Nephrogenic diabetes insipidus) เกิดจากความผิดปกติของไต ทำให้ไตไม่ดูดซึมน้ำกลับ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เช็กให้ชัวร์ 9 กลุ่มโรคอันตราย หากเป็นแล้วห้ามขับรถ

การเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์นั้น อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มสุรา ความประมาท หรือแม้แต่ปัญหาสภาพอากาศ แต่คุณรู้หรือเปล่าว่า มีสภาวะบางอย่าง ที่หากเป็นแล้ว ไม่ควรที่จะขับรถ เพราะอาจเป็นอันตราย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ กลุ่มอาการที่ห้ามขับรถ เหล่านั้นมีอะไรบ้าง มาหาคำตอบร่วมกับ Hello คุณหมอ เลยค่ะ 9 กลุ่มอาการที่ห้ามขับรถ มีอะไรบ้างนะ 1. กลุ่มอาการเกี่ยวกับการมองเห็น การขับรถนั้นเป็นทักษะที่จำเป็นต้องใช้การมองเห็นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการบังคับทิศทาง หรือการมองสัญญาณเตือนการจราจรต่างๆ ยิ่งผู้ขับรถมีสมรรถภาพในการมองเห็นมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ได้มากเท่านั้น การมองเห็นไม่ชัด หรือไม่สามารถจำแนกสีได้ อาจส่งผลกระทบต่อการขับรถเป็นอย่างมาก หากผู้ขับไม่สามารถมองเห็นสิ่งกีดขวางข้างหน้าได้อย่างชัดเจน หรือไม่สามารถแยกแยะสีไฟจราจร ว่าเป็นสีอะไรกันแน่ ก็อาจทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง และนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ ตัวอย่างปัญหาทางสายตา ที่ควรหลีกเลี่ยงการขับรถ มีดังนี้ สายตาเลือนราง โรคต้อกระจก โรคต้อหิน เบาหวานขึ้นจอตา (Diabetic Retinopathy) โรคจอตามีสารสี หรือโรคอาร์พี (Retinitis pigmentosa) การมองเห็นข้างเดียว จากอาการตาบอดหนึ่งข้าง จอประสาทตาเสื่อม ตากระตุก (Nystagmus) ลานสายตาผิดปกติ (Visual field defects) นอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการตาบอดสี และไม่สามารถแยะแยะระหว่าง สีแดง สีเขียว หรือสีเหลือง ซึ่งเป็นสีของสัญญาณไฟจราจร ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการขับรถ เพราะอาจทำให้มองสัญญาณไฟจราจรไม่ออก และเกิดอุบัติเหตุได้ 2. กลุ่มอาการโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease) โรคหัวใจและหลอดเลือดนั้น […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ลำไส้อุดตัน (Intestinal Obstruction)

ลำไส้อุดตัน (Intestinal obstruction) หมายถึงภาวะที่มีอาหาร หรือของเหลวอุดตันอยู่ในบริเวณลำไส้ใหญ่หรือลำไส้เล็ก ซึ่งอาจมีได้ทั้งการอุดตันบางส่วน และการอุดตันทั้งหมด คำจำกัดความลำไส้อุดตัน คืออะไร ลำไส้อุดตัน (Intestinal obstruction) หมายถึงภาวะที่มีอาหาร หรือของเหลวอุดตันอยู่ในบริเวณลำไส้ใหญ่หรือลำไส้เล็ก ซึ่งอาจมีได้ทั้งการอุดตันบางส่วน และการอุดตันทั้งหมด อาจจะมีสาเหตุมาจากพังผืดของเนื้อเยื่อในลำไส้ ที่เกิดขึ้นหลังจากการผ่าตัดลำไส้ การอักเสบในลำไส้เนื่องจากสภาวะบางอย่าง ไส้เลื่อน หรือโรคมะเร็งลำไส้ จนทำให้เกิดการอุดตันในลำไส้ และอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง และท้องบวมได้ ภาวะลำไส้อุดตันนั้นเป็นภาวะที่อันตราย หากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษา อาจทำให้ลำไส้ส่วนที่อุดตันเสียหาย และนำไปสู่สภาวะที่อันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ลำไส้อุดตัน พบบ่อยแค่ไหน ยังไม่มีงานวิจัยที่จะทำให้สามารถสรุปได้ว่า ภาวะลำไส้อุดตันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยแค่ไหน แต่จากข้อมูลพบ่วา ภาวะลำไส้อุดตันนั้นจะพบได้บ่อยกับผู้ที่มีปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับลำไส้ และอาจพบได้ในทารกแรกเกิดที่ระบบทางเดินอาหารยังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์ อาการอาการของลำไส้อุดตัน สัญญาณและอาการที่พบได้บ่อยของภาวะลำไส้อุดตันมีดังต่อไปนี้ ท้องอืดอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องบวม เบื่ออาหาร ท้องผูก ผายลมไม่ได้ อาการเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอาการทั้งหมด ร่างกายของคนเราต่างกัน บางคนก็อาจจะมีอาการนอกเหนือจากอาการที่กล่าวมาข้างต้น โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด เนื่องจากภาวะลำไส้อุดตันนั้นเป็นภาวะที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ หากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษาอย่างถูกต้อง หากคุณสังเกตเห็นสัญญาณและอาการของภาวะลำไส้อุดตัน หรือมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง โปรดเข้ารับการตรวจจากแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและหาทางรักษาโรคในทันที สาเหตุสาเหตุของลำไส้อุดตัน สาเหตุการณ์เกิดภาวะลำไส้อุดตัน มีดังต่อไปนี้ พังผืดในลำไส้ ที่เกิดจากการรวมตัวกันของเนื้อเยื่อ มาอุดตันในลำไส้ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคลำไส้กลืนกัน (Intussusception) ไส้เลื่อน ลำไส้อักเสบและอาการบวมของลำไส้ ลำไส้บิด เนื้องอกบางชนิด หลอดเลือดเสียหาย ที่อาจทำให้เนื้อเยื่อในลำไส้ตาย และอุดตันลำไส้ได้ ปัจจัยเสี่ยงปัจจัยเสี่ยงของลำไส้อุดตัน สภาวะบางอย่าง อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะลำไส้อุดตันได้ เช่น การผ่าตัดในช่องท้อง หรือการผ่าตัดลำไส้ โรคโครห์น (Crohn’s Disease) ที่ทำให้ผนังลำไส้หนาขึ้น และอาจทำให้ลำไส้ตีบตันได้ โรคมะเร็งในช่องท้องหรือลำไส้ การวินิจฉัยและการรักษาโรคข้อมูลที่นำเสนอไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม การวินิจฉัยลำไส้อุดตัน แพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

น้ำมันดอกคำฝอย กับสรรพคุณสุดเลิศ จะใช้บำรุงผิว ผม หรือปรุงอาหารก็ดีไม่แพ้กัน

เดี๋ยวนี้คนหันมาใช้น้ำมันจากธรรมชาติในการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะสุขภาพเส้นผมและผิวพรรณ น้ำมันจากธรรมชาติที่คนส่วนใหญ่นึกถึงก็น่าจะเป็นน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอาร์แกน น้ำมันงา แต่ยังมีน้ำมันจากธรรมชาติอีกหนึ่งชนิด ที่มีคุณประโยชน์ไม่แพ้น้ำมันอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม นั่นก็คือ น้ำมันดอกคำฝอย วันนี้ Hello คุณหมอ เลยอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับน้ำมันชนิดนี้ให้มากขึ้น คุณจะได้รู้ว่า น้ำมันดอยคำฝอยมีดีอย่างไร และมีข้อควรระวังในการใช้ยังไงบ้าง ทำความรู้จัก น้ำมันดอกคำฝอย (Safflower oil) ดอกคำฝอย เป็นไม้ล้มลุกในวงศ์ทานตะวัน ดอกมีลักษณะกลมคล้ายดอกดาวเรือง นอกจากคนจะนิยมนำส่วนดอกทั้งสดและแห้ง เกสร และเมล็ดมาทำเป็นยาสมุนไพรแล้ว ก็ยังนิยมนำเมล็ดดอกคำฝอยมาสกัดเอาน้ำมัน จนได้เป็นน้ำมันดอกคำฝอยที่อุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะกรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นไขมันดี รวมถึงสารประกอบอื่น ๆ เช่น เบต้าแคโรทีน ที่มีประโยชน์มากมาย จะนำมาบำรุงผิว บำรุงผม หรือบำรุงสุขภาพด้านอื่น ๆ ก็ได้ ประโยชน์สุขภาพของ น้ำมันดอกคำฝอย เป็นแหล่งไขมันดี ที่มีประโยชน์รอบด้าน น้ำมันดอกคำฝอยเป็นแหล่งของกรดไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fatty acid) ทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีพันธะคู่ 1 ตำแหน่ง (Monounsaturated fatty acid) เช่น […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

หน้าแดง อาจไม่ใช่เพราะอาย แต่เป็นเพราะปัญหาสุขภาพเหล่านี้ต่างหากล่ะ

เวลาเห็นใครหน้าแดง หรือแก้มแดง เรามักจะคิดหรือแซวเขาว่าอายอะไร หน้าแดงเชียว แต่คุณรู้ไหมว่าจริง ๆ แล้ว อาการ หน้าแดง ไม่จำเป็นต้องเกิดจากความเขินอายเพียงอย่างเดียว เพราะนี้อาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังมีภาวะสุขภาพบางประการก็ได้ แล้วสาเหตุของอาการหน้าแดงจะมีอะไรบ้าง หน้าแดงขนาดไหนที่ควรรีบไปพบคุณหมอ วันนี้ทาง Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกัน [embed-health-tool-bmi] ปัญหาสุขภาพที่ส่งผลให้ หน้าแดง ได้ โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคผิวหนังอักเสบ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) สามารถทำให้เกิดอาการหน้าแดง หรือแก้มแดงได้ โดยเฉพาะในเด็กทารก นอกจากจะทำให้หน้าแดงแล้ว โรคผิวหนังอักเสบยังทำให้มีอาการคัน และผิวหนังแห้งลอกอย่างรุนแรงได้ด้วย แม้ในปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะสำหรับโรคผิวหนังอักเสบ แต่โรคนี้ก็สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาที่ช่วยลดอาการบวมแดงและปลอบประโลมผิว โรคผิวหนังอักเสบในเด็กทารกสามารถหายได้เองในผู้ป่วยบางราย หรือในบางกรณี อาการก็จะทุเลาลงเมื่อโตขึ้น วัยหมดประจำเดือน หรือวัยทอง สตรีในวัยหมดประจำเดือนมักมีอาการร้อนวูบวาบ ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนในสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป และอาการร้อนวูบวาบนี้มักส่งผลรุนแรงกับบริเวณใบหน้า ลำคอ และหน้าอก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีสีแดงขึ้น รวมถึงมีอาการอื่น ๆ เหล่านี้ด้วย หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อแตก ผิวหนังแดง หรือเป็นตุ่ม มีอาการหนาวสั่นหลังหายร้อนวูบวาบ วิธีบรรเทาอาการร้อนวูบวาบอย่างง่าย ๆ ก็คือ การจิบน้ำเย็น สูดหายใจลึก ๆ และสวมเสื้อผ้าที่เนื้อผ้าบางเบา ตัวหลวม […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน