สุขภาพ

สุขภาพ เป็นเรื่องสำคัญ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้นไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยคุณได้แน่นอน

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพ

โรคไวรัสตับอักเสบบี คือโรคอะไร ใครควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

โรคไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี และอี โดยไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เป็นชนิดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงยาที่ช่วยไม่ให้ตับถูกทำลาย โรคไวรัสตับอักเสบบี จึงเป็นโรคที่ควรตรวจคัดกรองเพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็ว และป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี  [embed-health-tool-vaccination-tool] โรคไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร ไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคตับอักเสบชนิดหนึ่ง หรือเกิดจากการอักเสบของเซลล์ตับ สาเหตุจากการ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) อาจทำให้เซลล์ตับตาย ความรุนแรงของโรคไวรัสตับอักเสบ บี เมื่อเป็นเรื้อรังจะเกิดพังผืด อาจกลายเป็นตับแข็ง นำสู่โรคมะเร็งตับได้  การติดต่อของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี  ส่วนใหญ่การติดต่อของโรคเกิดจากการถ่ายทอดจากแม่ที่ติดเชื้อสู่ทารก ไม่ติดต่อผ่านทางการสัมผัสภายนอก ไม่ติดต่อหลักทางน้ำลาย แต่ติดต่อได้ ดังนี้ สามารถเกิดได้จากการเจาะหรือสักผิวหนัง ด้วยเครื่องมือที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน เชื้อเข้าทางบาดแผล หรือการใช้ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน  สัมผัสกับเลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อ อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสตับอักเสบบีจะไม่แสดงอาการในทันที แต่จะใช้เวลาฟักตัว 2-3 เดือน จึงเริ่มมีอาการ เช่น เกิดการอ่อนเพลียคล้ายกับโรคหวัด คลื่นไส้ อาเจียน จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต  สีปัสสาวะเข้มขึ้น […]

หมวดหมู่ สุขภาพ เพิ่มเติม

ประกันสุขภาพ

สำรวจ สุขภาพ

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ กับ 7 เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทำแล้วดี มีความสุข

หนึ่งปี (กำลังจะ) ผ่านไป ไวเหมือนโกหก เมื่อมานั่งนึกย้อนคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดทั้งปี ซึ่งก็มีทั้งวันที่ดี วันแย่ ๆ หรือวันร้าย ๆ ที่ทำให้ใจหมองอยู่ไม่น้อย และเมื่อปีใหม่กำลังจะมาถึง หลายคนก็อาจจะเริ่มตั้งเป้าหมายใหม่  เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น  หรือสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ บ้าง และแน่นอนว่าความสุขของเราควรจะเริ่มจากตัวเราเองก่อน วันนี้ Hello คุณหมอ มีเคล็ดลับ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ให้มีความสุขมาฝากค่ะ 7 เคล็ดลับ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ มีอะไรบ้าง 1. นอนหลับให้เพียงพอ เคยมีคำกล่าวว่า “การตัดสินใจที่ดี มาจากการนอนที่ดี” เพราะการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอเป็นเสมือนที่ชาร์ตแบตร่างกายประจำวัน ถ้านอนเต็มอิ่มก็จะไม่อ่อนเพลีย หรือง่วงนอนระหว่างวัน มีพลังเต็มเปี่ยมในการออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งรอบตัวมากขึ้น ตัดสินใจสิ่งต่าง ๆ ได้ถี่ถ้วนขึ้น ทั้งยังช่วยให้ระบบภายในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ไม่โหมหนักจนเกิดอันตรายต่อสุขภาพในภายหลังด้วย อย่างไรก็ตาม แม้จะพูดง่าย แต่เวลาทำนั้นยากเหลือแสน เพราะเรามักจะต้องมีกิจกรรมที่มาคั่นแบ่งเวลานอนของเราออกไปเสมอ ลอง เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น ตั้งเป้าหมายใหม่ว่าฉันจะนอนให้มากขึ้น นอนให้เพียงพอ อย่างน้อย ๆ ควรจะนอนหลับให้ได้ 7-8 ชั่วโมงในแต่ละคืน และควรจะเข้านอนแต่หัววัน […]


ขั้นตอนทางการแพทย์และการผ่าตัด

ปลูกถ่ายเหงือก (Gum Tissue Graft)

ปลูกถ่ายเหงือก (Gum Tissue Graft) เป็นกระบวนการทางทันตกรรมประเภทหนึ่ง ที่ทำเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเหงือกร่น โดยนำเนื้อเยื่อเหงือกที่มีสุขภาพดี จากบริเวณส่วนฐานของเหงือก แล้วนำมาติดเข้ากับเหงือกส่วนที่เกิดความเสียหาย ข้อมูลพื้นฐานการ ปลูกถ่ายเหงือก คืออะไร การ ปลูกถ่ายเหงือก (Gum Tissue Graft) เป็นกระบวนการทางทันตกรรมประเภทหนึ่ง ที่ทำเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเหงือกร่น การปลูกถ่ายเหงือกนั้นจะนำเนื้อเยื่อเหงือกที่มีสุขภาพดี จากบริเวณส่วนฐานของเหงือก แล้วนำมาติดเข้ากับเหงือกส่วนที่เกิดความเสียหาย เพื่อทำให้เหงือกกลับมาดูสุขภาพดี และทำให้มีรอยยิ้มที่สวยมากขึ้น การปลูกถ่ายเหงือกนั้นในบางครั้งอาจทำเพื่อความสวยความงาม ทำให้ฟันดูเรียงสวย สุขภาพดี และมีรอยยิ้มที่สวยงาม แต่ในบางครั้ง ก็อาจใช้เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาช่องปาก สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงือกร่นอย่างรุนแรง จนรากฟันโผล่ออกมาจากเหงือก และทำให้โครงสร้างฟันไม่แข็งแรงได้เช่นกัน ความจำเป็นในการปลูกถ่ายเหงือก ทันตแพทย์มักจะแนะนำวิธีการปลูกถ่ายเหงือก สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเหงือกร่นอย่างรุนแรง ปัญหาเหงือกร่นนั้นหมายถึงการที่เหงือกเกิดการหดร่นลงไปจากฟัน จนทำให้สามารถมองเห็นรากฟันได้อย่างชัดเจน ปัญหาเหงือกร่นนี้อาจนำมาสู่การเกิดปัญหาฟัน ทำให้รากฐานฟันไม่แข็งแรง เสียวฟัน และมีโอกาสฟันผุได้ง่ายอีกด้วย ความเสี่ยงความเสี่ยงของการปลูกถ่ายเหงือก กระบวนการปลูกถ่ายเหงือกนั้นมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนค่อนข้างต่ำ และมีโอกาสติดเชื้อได้น้อย แต่อย่างไรก็ตาม การปลูกถ่ายเหงือกก็อาจจะมีความเสี่ยงดังต่อไปนี้ การติดเชื้อ อาการปวด อาการอักเสบ เหงือกบวม รู้สึกเหมือนฟันโยกง่าย เสียวฟันง่าย ฟันห่าง มีช่องว่างระหว่างฟัน อาการแพ้ยาชา ในกรณีหายาก เนื้อเยื่อเหงือกที่นำมาปลูกถ่ายอาจจะไม่ยอมยึดติดกับเนื้อเยื่อเหงือกเดิม จนทำให้จะเป็นต้องทำการปลูกถ่ายเหงือกใหม่อีกครั้ง หากลักษณะของเหงือกหลังจากการปลูกถ่ายเหงือกนั้นออกมาไม่สวย หรือไม่ถูกใจคุณ คุณอาจจะติดต่อทันตแพทย์เพื่อทำศัลยกรรมตกแต่งเหงือกเพิ่มเติมได้ในภายหลัง ขั้นตอนการผ่าตัดการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการปลูกถ่ายเหงือก การเตรียมตัวก่อนการปลูกถ่ายเหงือกนั้นไม่มีอะไรมาก เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน และผู้ป่วยก็สามารถกลับบ้านได้เลยหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการปลูกถ่ายเหงือก หลังจากที่คุณปรึกษาทันตแพทย์จนแน่ใจแล้วว่า คุณต้องการทำการปลูกถ่ายเหงือก แพทย์ก็อาจจะให้คุณพิจารณาเลือกวิธีการปลูกถ่ายเหงือกประเภทต่าง ๆ เพื่อดูว่าวิธีไหนจะเหมาะสมกับคุณที่สุด จากนั้นจึงทำการนัดเวลาเพื่อทำการปลูกถ่ายเหงือก ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่สามารถพาตัวผู้ป่วยกลับบ้านมาด้วย ขั้นตอนการปลูกถ่ายเหงือก ขั้นตอนในการปลูกถ่ายเหงือกนั้น จะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท […]


อาการของโรค

ขมปาก ขมคอ กินอะไรก็ไม่อร่อย เป็นเพราะอะไรกันนะ

คุณผู้อ่านหลาย ๆ ท่าน น่าจะต้องประสบพบเจอกับอาการขมปาก ขมคอ กินอะไรก็ไม่อร่อย แม้แต่ดื่มน้ำเปล่ายังรู้สึกขม เล่นเอาหงุดหงิด รำคาญใจอยู่ไม่น้อยเลย แต่รู้หรือไม่ว่า อาการ ขมปาก ขมคอ นี้เกิดจากอะไร และเมื่อเป็นแล้วเราจะรับมือได้อย่างไรบ้าง Hello คุณหมอ มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาการนี้มาฝากค่ะ [embed-health-tool-bmr] สาเหตุของอาการ ขมปาก ขมคอ อาการขมปาก ขมคอ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ กลุ่มอาการแสบร้อนช่องปาก (Burning mouth syndrome) เป็นปัญหาสุขภาพช่องปากที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และไม่เพียงทำให้รู้สึกเจ็บปวดหรือแสบร้อนภายในช่องปากเท่านั้น แต่ยังอาจก่อให้เกิดอาการขมปาก ขมคอ กินอะไรไม่ค่อยอร่อยได้ด้วยเช่นกัน ปากแห้ง อาการปากแห้งเกิดจากการที่ภายในปากไม่สามารถผลิตน้ำลายออกมาได้อย่างเพียงพอและเหมาะสมที่จะรักษาความชุ่มชื้นไว้ เมื่อปริมาณของน้ำลายลดลงจึงเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปากแห้ง มากไปกว่านั้น ปริมาณของน้ำลายที่น้อยลงยังมีผลต่อรสชาติภายในปากด้วย เช่น รู้สึกขมปาก ขมคอ หรือรับรสเค็มได้น้อยลง ตลอดจนเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาฟันผุด้วย ยารักษาโรค ยาปฏิชีวนะบางชนิดที่รับประทานเพื่อรักษาและบรรเทาอาการทางสุขภาพที่เป็นอยู่อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดรสชาติขมปาก ขมคอได้ โดยเฉพาะถ้าหากยาหรืออาหารเสริมนั้นมีองค์ประกอบที่เป็นรสขม หรือธาตุโลหะ ก็จะส่งผลให้รู้สึกขมปาก ขมคอได้ เช่น ยาความดันโลหิต ยารักษาโรคหัวใจ ยาไทรอยด์ ยาจิตเวช ยาต้านมะเร็ง กรดไหลย้อน กรดไหลย้อนเกิดจากการที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหาร ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกและช่องท้องแล้ว ยังก่อให้เกิดรสขมที่ปากและลำคอ หรือมีอาการเรอเปรี้ยวร่วมด้วย อาการเจ็บป่วย ในช่วงที่ไม่สบาย เป็นหวัด หรือร่างกายเกิดการติดเชื้อจนมีอาการเจ็บป่วย ช่วงเวลาที่ไม่สบายนั้นร่างกายจะปล่อยโปรตีนจากเซลล์ต่าง […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

กำจัดอาการคลื่นไส้ ง่ายๆ ด้วยวิธีธรรมชาติ

เมื่อเกิดอาการคลื่นไส้ สิ่งที่หลายคนมักคิดถึงเป็นเพื่อบบรรเทาอาการเป็นสิ่งแรกก็คือ “ยาแก้คลื่นไส้” ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อกินเข้าไปแล้วอาจทำให้เกิดอาการง่วงตามมา ดังนั้น หลายคนจึงลองพยายามค้นหาวิธีธรรมชาติที่จะสามารถ กำจัดอาการคลื่นไส้ หรือบรรเทาอาการให้ดีขึ้น ซึ่งวิธีธรรมชาติที่จะช่วยกำจัดอาการคลื่นไส้ได้นั้นก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ซึ่งทาง Hello คุณหมอ ได้นำเรื่องนี้มาฝากกัน วิธีธรรมชาติที่สามารถ กำจัดอาการคลื่นไส้ อาการคลื่นไส้เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนส่วนใหญ่ ซึ่งมันไม่ใช่อาการที่ดีสักเท่าไหร่ ยังรวมไปถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ และการคลื่นไส้จากการเดินทาง (เมารถ) อีกด้วย โดยปกติแล้ว เมื่อเกิดอาการคลื่นไส้ ยาแก้คลื่นไส้มักจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง โดยยาแก้คลื่นไส้ มักใช้เพื่อช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ แต่ก็มักจะมีผลข้างเคียง เช่น ทำให้เกิดอาการง่วงนอน ดังนั้น หลายคนจึงพยายามหาวิธีทางธรรมชาติที่สามารถ กำจัดอาการคลื่นไส้ ซึ่งวิธีธรรมชาติที่ไม่ต้องใช้ยาเข้ามาช่วย มีตัวอย่างดังนี้ รับประทานขิง ขิงเป็นยาสมุนไพรตามธรรมชาติที่นิยมใช้ในการรักษาอาการคลื่นไส้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สารประกอบในขิงอาจทำงานในลักษณะเดียวกับยาแก้คลื่นไส้ ซึ่งจากการศึกษาหลายชิ้นที่เชื่อถือได้ยอมรับว่า ขิงมีประสิทธิภาพในการลดอาการคลื่นไส้ในหลาย ๆ สถานการณ์ การรับประทานขิงอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการคลื่นไส้ในคุณแม่ตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ขิงอาจมีประสิทธิภาพในการลดอาการคลื่นไส้ในในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือการผ่าตัด การศึกษาบางชิ้นที่เชื่อถือได้รายงานว่า ขิงมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ แต่มีผลข้างเคียงที่ของยาน้อยกว่า แม้การใช้ขิงจะปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่คุณก็จำเป็นจะต้องจำกัดปริมาณให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม หากคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคความดันโลหิตต่ำ มีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือคุณกำลังใช้ยาเจือจางเลือด (Blood Thinners) ถึงแม้ว่าจะมีการศึกษาเกี่ยวกับขิงเพียงเล็กน้อย แต่การศึกษาในหญิงตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพดี รายงานว่า การรับประทานขิงระหว่างตั้งครรภ์มีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดผลข้างเคียง […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ร้องเพลง ร้องคาราโอเกะ กิจกรรมผ่อนคลาย ดีต่อสุขภาพกายและใจ

“ร้องเพลงพอไปวัดไปวา พอจับไมค์ขึ้นมาก็เป็นเรื่องทุกที” มีเวลาว่างเมื่อไหร่ เหงาปากทีไร หรือได้ยินจังหวะดี ๆ ทำนองโดน ๆ ครั้งไหน เป็นอันต้องคว้าไมค์มา ร้องเพลง แผดเสียงเจื้อยแจ้วให้ดังลั่นไปสามบ้านแปดบ้าน แม้จะฟังดูเป็นกิจกรรมคลายเครียด ทำเพื่อแก้เหงา และเพิ่มสุนทรียภาพให้แก่ชีวิต แต่…คุณผู้อ่านรู้ไหมว่า ทุกจังหวะใน การร้องเพลง ที่ไม่ว่าจะร้องเพลงเพราะหรือร้องเพลงเพี้ยนมากแค่ไหนนั้น แท้จริงแล้วเป็นกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพของเราทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ แต่จะดีอย่างไรนั้น Hello คุณหมอ มีคำตอบมาฝากที่บทความนี้แล้วค่ะ ประโยชน์ของการ ร้องเพลง ลดความเครียด เครียดหนักแบบนี้มาร้องเพลงกันสักเพลงสองเพลง หรือจะร้องทั้งอัลบั้มเลยดีไหม เพราะจากผลการวิจัยที่ได้รับการเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ Frontiersin.org ได้กล่าวไว้ว่า ระดับของคอร์ติซอล (Cortisol)ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียด ที่เมื่อเพิ่มระดับมากขึ้นจะส่งผลให้เกิดความรู้สึกเครียดได้ แต่ถ้ามีในระดับปกติจะช่วยกระตุ้นความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า โดยจากผลการทดลองกับผู้ที่เข้าร่วมการทดสอบ พบว่าหลังจากร้องเพลง ที่ไม่ว่าจะร้องเพลงแบบเป็นกลุ่มหรือร้องเพลงคนเดียว ระดับของคอร์ติซอลในร่างกายจะมีปริมาณลดลง และหลังจากร้องเพลงเสร็จแล้ว อาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดสอบยังรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วย มากไปกว่านั้น มีผลการวิจัยที่คล้ายกันนี้ระบุเอาไว้ว่า ระดับคอร์ติซอลหลังร้องเพลงจะลดลงได้จริงก็ต่อเมื่อมี การร้องเพลง ในสถานการณ์ที่ผ่อนคลายและไม่กดดันเท่านั้น หากต้องไปร้องเพลงประกวด หรือร้องเพลงต่อหน้าคนมาก ๆ แล้วรู้สึกเขินอาย กดดัน สถานการณ์เช่นนั้นอาจจะทำให้เครียดกว่าเดิมได้ ดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง ไม่ได้มีเพียงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์หรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น กิจกรรมยามว่างอย่าง การร้องเพลง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีส่วนช่วยสร้างความแข็งแรงแก่ระบบภูมิคุ้มกันได้ จากผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยแฟรงค์เฟิร์ต […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

พยาธิเข็มหมุด เชื้อพยาธิชนิดหนึ่ง ที่ก่อให้เกิด อาการคันรูทวาร

โปรดระวังให้ดีสำหรับใครที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารดิบ ๆ โดยไม่ผ่านการปรุงสุกอย่าง ซาซิมิ กุ้งสด ปลาร้า เป็นต้น ที่กำลังเป็นอาหารที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ก็อาจทำให้คุณนั้นต้องเผชิญ อาการคันรูทวาร อย่างหนัก อันมีสาเหตุมาจาก พยาธิเข็มหมุด ที่แฝงอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งถ้าหากคุณไม่อยากพบเจอกับอาการดังกล่าวให้รู้สึกรำคาญใจ บทความของ Hello คุณหมอ วันนี้ จึงขอนำวิธีป้องกันเบื้องต้นจากสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เข้าสู่ร่างกาย มาฝากกันทุกคนกันค่ะ พยาธิเข็มหมุด คืออะไร พยาธิเข็มหมุด (Pinworm) เป็นพยาธิอีกชนิดหนึ่งที่อยู่ภายในลำไส้ และบริเวรทวารของมนุษย์ ซึ่งพวกมันมักมีลักษณะลำตัวสีขาวเรียวยาวประมาณ 6-13 มิลลิเมตร พยาธิเข็มหมุด (Pinworm – Enterobius vermicularis) สาเหตุการแพร่กระจายของพยาธิเข็มหมุด การที่พยาธิเข็มหมุดจะเข้าสู่ร่างกายของคุณได้นั้น อาจมาจากการหายใจ การรับประทานอาหาร และการสัมผัสกับไข่พยาธิโดยที่คุณไม่รู้ตัว จึงทำให้ไข่พยาธิเข้าสู่ร่างกายคุณ จนกระทั่งเกิดการฟักตัวเป็นพยาธิเข็มหมุดตัวเต็มวัย จากนั้นพยาธิตัวเมียที่อยู่ภายในลำไส้ของคุณจะเริ่มทำการวางไข่อีกรอบบริเวณใกล้กับรูทวาร และทำให้รู้สึกคัน จนคุณต้องนำมือไปเกาในที่สุด การเกาบริเวณรูทวารอาจทำให้ไข่ของพยาธิเข็มหมุดก็อาจปนเปื้อนติดมากับมือของคุณได้ ซึ่งคุณอาจนำมือไปหยิบจับสิ่งของโดยที่อาจไม่ทันได้ระมัดระวัง ก่อให้เกิดการกระจายของไข่พยาธิเพิ่ม และยิ่งหากมีผู้ใดมาสัมผัสวัตถุนั้นซ้ำ หรือมีการเผลอนำมือเข้าปากอีกครั้ง ก็อาจทำให้ผู้นั้นได้รับไข่พยาธิเข็มหมุดเข้าสู่ร่างกายได้โดยไวด้วยเช่นเดียวกัน ที่สำคัญไข่ของพยาธิเข็มหมุดนี้สามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวต่าง ๆ รอบตัวเราได้ ราว ๆ 2-3 สัปดาห์เลยทีเดียว สัญญาณและอาการเบื้องต้นที่เกิดจากพยาธิเข็มหมุด บางรายที่ได้รับการติดเชื้อจากพยาธิเข็มหมุดอาจไม่ก่อให้เกิดอาการใด ๆ […]


ขั้นตอนทางการแพทย์และการผ่าตัด

ตัดเหงือก (Gingivectomy)

ตัดเหงือก (Gingivectomy) การตัดเหงือก เป็นกระบวนการศัลยกรรมชนิดหนึ่ง ที่ทำเพื่อตัด หรือปรับเปลี่ยนรูปของของเหงือก การตัดเหงือกนี้สามารถทำเพื่อรักษาสภาวะบางอย่าง เช่น โรคเหงือกอักเสบ หรือปัญหาร่องเหงือกลึก ข้อมูลพื้นฐานการ ตัดเหงือก คืออะไร ตัดเหงือก (Gingivectomy) เป็นกระบวนการศัลยกรรมชนิดหนึ่ง ที่ทำเพื่อตัด หรือปรับเปลี่ยนรูปของของเหงือก การตัดเหงือกนี้สามารถทำเพื่อรักษาสภาวะบางอย่าง เช่น โรคเหงือกอักเสบ หรือปัญหาร่องเหงือกลึก ที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือการเกลารากฟัน โดยปกติแล้วกระบวนการตัดเหงือกนั้นจะทำก่อนที่ปัญหาจากโรคเหงือกจะส่งผลให้รากฟันเกิดความเสียหายแล้ว บางครั้งการตัดเหงือกก็อาจจะถูกจำสับสนกับ การศัลยกรรมตกแต่งเหงือก (Gingivoplasty) ซึ่งเป็นกระบวนการปรับรูปร่างของเหงือก เพื่อเหตุผลทางด้านความสวยความงาม เช่น ทำให้รูปฟันดูยาวขึ้น หรือทำให้ดูยิ้มสวยมากขึ้น แต่การตัดเหงือกนั้นจะมุ่งเน้นไปที่การตัดชิ้นเนื้อเหงือกที่มีปัญหาเพื่อรักษาโรค ในขณะที่การศัลยกรรมตกแต่งเหงือกจะเน้นไปที่การเสริมความงาม แต่อย่างไรก็ตาม ในระหว่างกระบวนการศัลยกรรมเหงือก ก็อาจจำเป็นต้องมีการตัดเหงือก เพื่อปรับรูปร่างของเหงือกให้ออกมาดูสวยงามได้เช่นกัน ความจำเป็นในการ ตัดเหงือก ทันตแพทย์อาจจะแนะนำให้คุณทำการตัดเหงือกได้ หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับเหงือกดังต่อไปนี้ เหงือกร่น เหงือกติดเชื้อ เหงือกอักเสบ ปัญหาร่องเหลือกลึก เหงือกบาดเจ็บ ทันตแพทย์มักจะแนะนำให้ผู้ที่มีปัญหาโรคเหงือกทำการรักษาด้วยการตัดเหงือก เพื่อป้องกันไม่ให้เหงือกเกิดความเสียหายมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ทันตแพทย์สามารถรักษาและทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ความเสี่ยงความเสี่ยงของการตัดเหงือก เนื่องจากกระบวนการผ่าตัดเหงือกนั้นจะทำให้เกิดรอยแผลที่เหงือก จึงทำให้มีความเสี่ยงที่บาดแผลจะติดเชื้อได้ ยิ่งโดยเฉพาะในบริเวณเหงือกที่มักจะมีการสะสมของเชื้อแบคทีเรียอยู่มาก นอกจากนี้ เชื้อแบคทีเรียยังอาจสามารถเข้าสู่กระแสเลือด และทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้ แพทย์อาจจำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อนั้น สิ่งที่สำคัญคือ ก่อนเริ่มกระบวนการนี้ คุณควรทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงและอาการแทรกซ้อนให้ดี หากคุณมีข้อสงสัยใด  ๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือศัลยแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ขั้นตอนการผ่าตัดการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตัดเหงือก ทันตแพทย์จะต้องทำการตรวจอาการของคุณ เพื่อให้แน่ใจก่อนว่า คุณควรจะต้องทำการตัดเหงือกหรือไม่ หลังจากที่คุณปรึกษากับแพทย์จนมั่นใจแล้วว่าคุณต้องการที่จะทำการผ่าตัดเหงือก ก็อาจสามารถทำการตัดเหงือกได้เลย […]


อาการของโรค

รู้จักกับอาการ แผลเป็นหนอง ดูแลอย่างไรดี

แผลผ่าตัดหรือแผลสด สามารถเกิดหนองได้หลากหลายชนิด ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป หนองเป็นของเหลวชนิดหนึ่ง ที่ไหลออกมาจากแผล หากแผลมีหนองไหลออกมา เป็นสัญญาณที่สามารถบ่งบอกได้ว่า แผลที่เป็นอยู่นั้นเกิดการติดเชื้อ หากเกิดแผลต้องหมั่นทำความสะอาด และตรวจดูอยู่เสมอว่าแผลนั้นมีหนองหรือไม่ วันนี้ Hello คุณหมอ จะชวนทุกคนไปรู้จักกับ แผลเป็นหนอง ว่าควรทำอย่างไรดี หนอง คืออะไร หนอง (Pus) คือของเหลวที่ไหลออกมาจากบาดแผล หากบาดแผลของเรามีหนองนั้นก็จะสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะหนองจะมีสีที่แตกต่างกันออกไปตั้งแต่ สีเหลือง สีเทา สีเขียว และสีน้ำตาล โดยสีและความเข้มข้นของหนองนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนของเชื้อโรคที่มีอยู่ รวมไปถึงเชื้อโรคที่ตายแล้ว และขึ้นอยู่กับจำนวนเม็ดเลือดขาวด้วย ประเภทของ แผลเป็นหนอง ประเภทของแผลเป็นหนองนั้นสามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ดังนี้ 1. Sanguineous drainage หนองชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นสีแดงสดหรือสีชมพู โดยหนองชนิดนี้จะประกอบไปด้วย เลือดสดเป็นส่วนใหญ่ มีลักษณะคล้ายกับน้ำเชื่อม แต่จะมีความข้นและความหนืดมากกว่าเลือดปกติ ซึ่งหนองชนิดนี้มักจะเกิดขึ้นกับแผลที่เพิ่งเป็น หากเกิดหนองชนิดนี้หลังจากที่เป็นแผลได้ 2-3 ชั่วโมง แสดงว่าแผลนั้นเกิดการฟกช้ำ 2. Serous drainage หนองชนิดนี้เป็นหนองที่ประกอบไปด้วยโปรตีน เซลล์เม็ดเลือดขาว และเซลล์สำคัญอื่น ๆ ที่ร่างกายมักจะใช้ในการรักษาตัวเอง หนองชนิดนี้มีลักษณะใส และโปร่งแสงคล้ายกับน้ำ หากมีหนองชนิดนี้ที่แผลมากเกิดไป อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าบริเวณแผลมีเชื้อโรคที่เป็นอันตรายอยู่บริเวณนั้น 3. Serosanguineous drainage หนองชนิดเป็นหนองที่ผสมกันระหว่างหนองสองชนิดข้างต้น […]


ขั้นตอนทางการแพทย์และการผ่าตัด

เสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน กับข้อดีและข้อเสียที่ผู้หญิงควรรู้

การเสริมหน้าอกถือเป็นอีกหนึ่งการทำศัลยกรรมที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิภาพ และความมั่นใจให้กับผู้หญิงหลาย ๆ คน ซึ่งการเสริมหน้าอกนั้นก็มีหลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดเสริมซิลิโคน หรือ เสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน ซึ่งการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันนั้น ยังถือเป็นเรื่องที่ใหม่พอสมควร ดังนั้น ทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำเรื่องนี้มาฝากกัน เรื่องที่ควรรู้ก่อน เสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน การปลูกถ่ายไขมัน หรือที่เรียกว่า “เสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน” เป็นเทคนิคการเสริมหน้าอกแบบใหม่ การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันนั้น จะเป็นการปลูกถ่ายไขมันเนื้อเยื่อ โดยไขมันจะถูกกำจัดออกมาจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ปกติจะเป็นไขมันจากต้นขา หน้าท้อง และก้น ซึ่งใช้วิธีการดูดไขมันออกมา จากนั้นเนื้อเยื่อจะถูกแปรรูปเป็นของเหลว แล้วฉีดเข้าไปบริเวณเต้านม เพื่อสร้างเต้านมใหม่ขึ้น การปลูกถ่ายไขมัน คืออะไร การปลูกถ่ายไขมันอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า “การเติมไขมัน (Lipofilling)” ถูกนำมาใช้เป็นเวลาหลายปี เพื่อแก้ไขความแตกต่างเล็กน้อยในรูปร่าง ความสมดุล หรือตำแหน่งของเต้านมที่สร้างขึ้นมาใหม่ เมื่อเทียบกับเต้านมอื่น ๆ เนื่องจากวิธีนี้ใช้ได้ผลดี แพทย์จึงคิดว่า พวกเขาสามารถสร้างเต้านมใหม่ได้โดยการใช้ไขมัน การปลูกถ่ายไขมัน ถือเป็นขั้นตอนที่ปลอดภัย ทั้งยังไม่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดใหญ่อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีผลที่ชี้ชัดเจนว่า การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันนั้นจะประสบความระยะยาวได้เพียงใด เนื่องจากการปลูกถ่ายไขมันยังเป็นเรื่องใหม่ จึงยังไม่มีการศึกษาทางคลินิกขนาดใหญ่ที่เกี่ยวขั้นตอนนี้ ดังนั้น จึงยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน สำหรับสิ่งที่สำคัญที่คุณต้องทราบเอาไว้สำหรับการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมัน ก็คือ ในหลาย ๆ […]


อาการของโรค

น้ำหนักลดแบบไม่มีสาเหตุ สัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

หลายคน โดยเฉพาะสาว ๆ อาจจะรู้สึกดีเวลาที่น้ำหนักตัวลดลง และคิดว่ายิ่งน้ำหนักลดลงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น หากน้ำหนักตัวที่ลดลงเป็นผลมาจากการควบคุมน้ำหนักอย่างถูกวิธี เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกายเป็นประจำ นั่นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่เมื่อไหร่ที่ น้ำหนักลดแบบไม่มีสาเหตุ หรือน้ำหนักลดฮวบโดยที่คุณไม่ได้พยายามลดน้ำหนัก Hello คุณหมอ อยากบอกว่า คุณไม่ควรชะล่าใจเด็ดขาด เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังมีปัญหาสุขภาพร้ายแรง ที่ควรได้รับการรักษาทันทีก็ได้ น้ำหนักลดแค่ไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ น้ำหนักของคนเราขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ตลอดเวลา บางครั้งความเครียดในชีวิตก็อาจส่งผลให้น้ำหนักลดลงได้ แต่หากน้ำหนักของคุณลดลงมากกว่า 5% ภายในระยะเวลา 6-12 เดือน ทั้ง ๆ ที่คุณก็ใช้ชีวิตตามปกติ จะถือว่าคุณมีภาวะน้ำหนักลดแบบไม่มีสาเหตุ และต้องรีบเข้าพบคุณหมอทันที ยิ่งหากภาวะนี้เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ ก็ยิ่งไม่ควรปล่อยไว้ เพราะภาวะที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอื่นที่ร้ายแรงได้ และเมื่อไปพบคุณหมอ คุณควรแจ้งให้คุณหมอทราบด้วยว่า นอกจากน้ำหนักลดแบบไม่มีสาเหตุแล้ว คุณมีอาการอื่นอีกหรือไม่ ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวที่ถือว่าเข้าข่ายน้ำหนักลดแบบไม่มีสาเหตุ ผู้ที่มีน้ำหนัก 72 กิโลกรัม และน้ำหนักลดลงอย่างน้อย 3.6 กิโลกรัม ภายใน 6-12 เดือน ผู้ที่มีน้ำหนัก 90 กิโลกรัม และน้ำหนักลดลงอย่างน้อย […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน