สุขภาพ

สุขภาพ เป็นเรื่องสำคัญ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้นไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยคุณได้แน่นอน

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพ

โรคไวรัสตับอักเสบบี คือโรคอะไร ใครควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

โรคไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี และอี โดยไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เป็นชนิดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงยาที่ช่วยไม่ให้ตับถูกทำลาย โรคไวรัสตับอักเสบบี จึงเป็นโรคที่ควรตรวจคัดกรองเพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็ว และป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี  [embed-health-tool-vaccination-tool] โรคไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร ไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคตับอักเสบชนิดหนึ่ง หรือเกิดจากการอักเสบของเซลล์ตับ สาเหตุจากการ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) อาจทำให้เซลล์ตับตาย ความรุนแรงของโรคไวรัสตับอักเสบ บี เมื่อเป็นเรื้อรังจะเกิดพังผืด อาจกลายเป็นตับแข็ง นำสู่โรคมะเร็งตับได้  การติดต่อของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี  ส่วนใหญ่การติดต่อของโรคเกิดจากการถ่ายทอดจากแม่ที่ติดเชื้อสู่ทารก ไม่ติดต่อผ่านทางการสัมผัสภายนอก ไม่ติดต่อหลักทางน้ำลาย แต่ติดต่อได้ ดังนี้ สามารถเกิดได้จากการเจาะหรือสักผิวหนัง ด้วยเครื่องมือที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน เชื้อเข้าทางบาดแผล หรือการใช้ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน  สัมผัสกับเลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อ อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสตับอักเสบบีจะไม่แสดงอาการในทันที แต่จะใช้เวลาฟักตัว 2-3 เดือน จึงเริ่มมีอาการ เช่น เกิดการอ่อนเพลียคล้ายกับโรคหวัด คลื่นไส้ อาเจียน จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต  สีปัสสาวะเข้มขึ้น […]

หมวดหมู่ สุขภาพ เพิ่มเติม

ประกันสุขภาพ

สำรวจ สุขภาพ

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เส้นเลือดขอด กับ วิธีรักษา ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน

เส้นเลือดขอด เป็นปัญหากวนใจของสาวๆ หลายคน เพราะเมื่อถึงเวลาใส่เสื้อผ้าที่มีการเปิดโชว์เรียวขา ก็ต้องมานั่งกังวลใจว่า คนจะมามองที่ขาของเรา แล้วสังเกตเห็นเส้นเลือดขอดรึเปล่า วันนี้ทาง Hello คุณหมอ เลยมีวิธีรักษาเส้นเลือดขอดที่สามารถทำเองได้ที่บ้านมาฝากกัน วิธีรักษา เส้นเลือดขอด ด้วยตัวเองที่บ้าน ทำได้อย่างไรบ้าง เส้นเลือดขอด (Varicose vein) นั้นคือเส้นเลือดที่บิดและขยาย จนอาจทำให้เกิดอาการปวด คัน และรู้สึกไม่สบายขึ้นมาได้ ซึ่งจากการประเมินพบว่า เส้นเลือดขอดจะเกิดขึ้นในบางช่วงชีวิตของผู้ใหญ่ถึง 20% เลยทีเดียว ดังนั้นจะทำอย่างไรให้อาการเส้นเลือดขอดดีขึ้นได้ ต้องมาดูกัน การออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยทำให้เลือดที่ขาไหลเวียนได้ดีขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยในการดันเลือดที่สะสมอยู่ในเส้นเลือดด้วย การออกกำลังกายยังช่วยลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดอีกด้วย การออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ ช่วยให้กล้ามเนื้อน่องทำงานได้โดยไม่เครียด การออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพและผลกระทบต่ำ ได้แก่ ว่ายน้ำ เดิน ขี่จักรยาน โยคะ สวมถุงน่องแบบบีบอัด ถุงน่องแบบบีบอัดมีจำหน่ายในร้านขายยาเกือบทุกแห่ง และมีราคาไม่แพง นี่ก็ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายในการรักษาเส้นเลือดขอดได้ด้วยตัวเอง ซึ่งถุงน่องแบบบีบอัด จะทำหน้าที่ดังนี้ ใช้แรงกดที่ขา ปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตสู่หัวใจ ลดอาการปวดและปวดเมื่อย เปลี่ยนแปลงอาหารการกิน อาหารบางชนิดนั้นสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพของเส้นเลือดดำได้ ซึ่งอาหารเหล่านั้น ได้แก่ อาหารที่มีกากใย ใยอาหารช่วยให้มีการขับถ่ายดี การกินกากใยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าคุณมีอาการท้องผูก การทานอาหารที่มีกากใยจะเป็นตัวช่วยขับถ่ายที่ดีทีเดียว นอกจากนั้นแล้วความพยายามทางกายภาพบางอย่างที่ต้องขับถ่ายผ่านอุจจาระ สามารถสร้างแรงกดดันในช่องท้องได้อย่างรุนแรง ซึ่งสามารถทำให้ลิ้นหัวใจของหลอดเลือดดำเสียหาย อาหารที่มีโพแทสเซียม การขาดโพแทสเซียมอาจทำให้เกิดการกักเก็บน้ำ สิ่งนี้จะเพิ่มปริมาณเลือดในร่างกายของคุณและสร้างความดันพิเศษในลิ้นหัวใจของหลอดเลือดดำ อาหารที่มีฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ฟลาโวนอยด์อาจช่วยรักษาปัญหาหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนั้นยังสามารถช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต ลดความดันโลหิตแดง และผ่อนคลายหลอดเลือด ได้อีกด้วย สมุนไพร สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ขนจมูก มีไว้เพื่ออะไร ควรกำจัดทิ้งดีไหม?

เคยมีบางครั้งไหมที่คุณยิ้มแล้วรู้สึกไม่มั่นใจ ซึ่งไม่ได้เป็นเพราะว่ายิ้มไม่สวย แต่เป็นเพราะเวลาที่ยิ้มกว้าง รูจมูกก็ขยายกว้างตามไปด้วย และนั่นทำให้ ขนจมูก ที่อยู่ภายในรูจมูก โผล่ออกมาจนเห็นได้อย่างชัดเจน เล่นเอาหมดความมั่นใจไปตาม ๆ กัน แต่เมื่อมาคิด ๆ ดูแล้ว ก็น่าสงสัยว่าขนจมูกของเรานี้ มีหน้าที่สำคัญอะไรรึเปล่า แล้วถ้าอยากจะกำจัดขนส่วนนี้ออกไปให้หมดเลยจะทำได้ไหม? มาหาคำตอบได้กับบทความนี้จาก Hello คุณหมอ    [embed-health-tool-bmr] ทำไมเราถึงมีขนที่จมูก ขนจมูก เส้นขนเล็ก ๆ ที่อยู่ในรูจมูก ในตอนที่ยังเล็ก ขนจมูกเหล่านี้ยังมีขนาดสั้น และบาง แต่ปัจจุบันเมื่ออายุมากขึ้น เส้นขนจมูกก็โตตามอายุของเราด้วย ขนจมูกจึงเริ่มหนา และยาวขึ้น จนบางครั้งยาวออกมานอกรูจมูก ทำให้หมดความมั่นใจเมื่อมีผู้อื่นพบเห็น หรือสังเกต จับจ้องที่รูจมูกของเรา ซึ่งแม้จะมีความน่ารำคาญใจอยู่บ้าง แต่ขนจมูกที่น่ารำคาญนี้นี่เองเป็นตัวช่วยกรองอากาศชั้นดีให้เข้าสู่ปอดของเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ ขนจมูก ทำหน้าที่อะไรบ้าง ในจมูกของเราประกอบไปด้วยเส้นขนอยู่สองชนิด คือ ซีเลีย (cilia) ซึ่งเป็นขนที่มีขนาดสั้น และขนจมูก (vibrissae) ซึ่งเป็นขนจมูกที่อยู่ส่วนหน้า ขนทั้งสองแบบนี้เองที่ร่วมกันทำหน้าที่ในการดักจับสิ่งสกปรกต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า หน้าที่หลักของขนจมูกคือ ช่วยในการกรองอากาศ ทำหน้าที่ในการกรองเอาอากาศดี ๆ เข้าสู่ปอด และกรองไม่ให้สิ่งสกปรก หรือสารพิษเข้าไปยังปอดของเรา ไม่เพียงสิ่งสกปรกเท่านั้น […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

กิจกรรมยามเช้า ช่วยลดน้ำหนัก ได้อย่างไร

การเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยกิจกรรมดีๆ ก็ย่อมทำให้วันนั้นทั้งวันเต็มไปด้วยความสดชื่น นอกจากทำให้สดชื่นแล้ว การทำ กิจกรรมยามเช้า ยังมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย ใครที่กำลังสงสัยว่า กิจกรรมยามเช้า ช่วยลดน้ำหนัก ได้อย่างไร Hello คุณหมอ ได้รวบรวมกิจยามเช้าต่างๆ เหล่านั้นมาให้อ่านกันแล้วค่ะ กิจกรรมยามเช้า ช่วยลดน้ำหนัก การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในตอนเช้า แถมยังเป็นวิธีง่ายๆ และมีประสิทธิภาพที่ช่วยในการลดน้ำหนักได้ หากคุณฝึกฝน และทำทุกอย่างเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เท่านี้ก็มีช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ รับประทานอาหารเช้าที่ให้โปรตีนสูง อาหารมือเช้า ถือเป็นมื้อที่มีความสำคัญมากอีกมื้อหนึ่งของวัน มื้อเช้าถือเป็นมื้อแรกของวัน หากได้รับประทานอาหารมื้อเช้าที่ดี มื้ออื่นๆ ของวันก็จะดีตามไปด้วย การเริ่มต้นมื้อแรกของวันด้วยโปรตีน จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มและช่วยลดความอยากอาหาร ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้ จากการศึกษาเด็กผู้หญิงวัย 20 ปี ที่รับประทานอาหารเช้าที่ให้โปรตีนสูง ซึ่งผลการศึกษาพบว่าอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูงช่วยลดความยากอาหารหลังมื้ออาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการรับประทานอาหารเช้าที่มีระดับโปรตีนแบบปกติ และอีกการศึกษาหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าการรับประทานอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูง มีความเกี่ยวข้องกับการที่ร่างกายได้รับไขมันน้อยลงและลดปริมาณและความหิวลงทุนวัน เมื่อเทียบการการรับประอานอาหารเช้าที่มีระดับโปรตีนปกติ จากการศึกษาทั้งสองแสดงให้เห็นว่า โปรตีนอาจมีส่วนช่วยยับยั้งการหลั่ง Ghrelin ซึ่งเป็น ฮอร์โมนหิว ที่ทำหน้าที่ในการเพิ่มความอยากอาหาร ดังนั้นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพควรเลือกมื้อเช้าเป็นโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ไข่ กรีกโยเกิร์ต ชีส และถั่ว ดื่มน้ำมากๆ การเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำเปล่าสัก 1-2 แก้ว ถือเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้น้ำยังช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายของเราได้อีกด้วย […]


อาการของโรค

เลิกกังวล โรคสมองน้อยย้อย รักษาให้หายได้หากคุณรู้ทัน

ทุกคนคงสงสัย และประหลาดใจเมื่อได้ยินชื่อของโรคนี้อย่างแน่นอน เพราะอาจยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนักสำหรับ โรคสมองน้อยย้อย ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดขึ้นได้ยาก 1 ในพันล้านคนเลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตามเราไม่ควรประมาทกับความอันตรายนี้ เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้กับคนที่คุณรัก รวมทั้งตัวคุณเองด้วย รู้ก่อน ก็ย่อมรักษาได้ก่อน วันนี้ Hello คุณหมอ ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักโรคสมองน้อยย้อยนี้กัน โรคสมองน้อยย้อย (Chiari Malformation) เกิดจากอะไร? โรคสมองน้อยย้อยในภาษาอังกฤษนั้นเรียกว่า  เชียรี่ มาลฟอเมชั่น (Chiari Malformation) คือ ความผิดปกติของโครงสร้างความสัมพันธ์ของกะโหลกศีรษะและสมองที่ไม่สมดุลกัน เนื่องจากกะโหลกศีรษะนั้นมีขนาดที่เล็กกว่าทำให้เนื้อเยื้อสมองส่วนท้ายทอยที่มีขนาดที่โตกว่าย้อยลงมากดทับส่วนอื่นๆ เช่น ก้านสมอง กระดูกสันหลัง เป็นต้น สาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคสมองน้อยย้อย อาจมีปัจจัยมาจากพันธุกรรม การขาดวิตามิน สารอาหาร สารเคมีอันตราย ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นทารกในครรภ์ รวมถึงภาวะครรภ์เป็นพิษ และการไหลเวียนน้ำส่วนของไขสันหลังนำไปสู่การอุดตันสัญญาณบางอย่างที่ส่งจากสมองทำให้เกิดการสะสมของเหลวจนเกิดการเติบโตของสมองส่วนท้ายทอยขึ้น ประเภทของ โรคสมองน้อยย้อย มีความรุนแรงของโรคต่างกันแค่ไหน ประเภทที่ 1 เป็นประเภทเกี่ยวข้องกับต่อมทอมซิล อาจมีอาการปวดหัว ไอ จาม หายใจไม่ออก เจ็บคอ อาเจียน ซึ่งยังคงถือว่าเป็นอาการแรกเริ่มที่ไม่ชัดเจนนัก จนกว่าผู้ป่วยจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ประเภทที่ 2 เกี่ยวข้องกับเนื้อเยื่อสมองน้อยและก้านสมอง บางกรณีเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับสมองน้อยอาจหายไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว โดยประเภทนี้สามารถเป็นได้ตั้งแต่ทารกในครรภ์ และมีความเสี่ยงรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้หากไม่รีบตรวจตั้งแต่ต้น ประเภทที่ 3 […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

อุจจาระสีซีด สัญญาณบอกโรคของร่างกาย

หลายคนคงไม่เคยสังเกตที่ของอุจจาระกันใช่ไหม? แต่ความจริงแล้วอุจจาระนั้นก็สามารถบ่งบอกถึงโรคที่เกิดขึ้นกับร่างกายได้ ส่วนมากสีของอุจจาระปกติจะเป็นไปในเฉดสีน้ำตาล แต่หากเมื่อใดที่ อุจจาระสีซีด ลง นั่นแสดงว่าร่างกายของคุณกำลังมีปัญหาอย่างแน่นอน ดังนั้นทาง Hello คุณหมอจึงมีเรื่องนี้มาฝากกัน อุจจาระสีซีด สื่อถึงอะไรได้บ้าง โดยปกติแล้ว อุจจาระอาจจะมีสีแตกต่างกันไป แต่โดยส่วนมากจะเป็นไปในเฉดสีน้ำตาลนั่นก็เกิดจากการทานอาหารนั่นเอง แต่เมื่ออุจจาระมีสีซีดนั่นแสดงว่ากำลังมีเรื่องไม่ปกติเกี่ยวกับร่างกายเกิดขึ้น ซึ่งอาจหมายถึงกำลังมีปัญหากับการระบายน้ำของระบบทางเดินน้ำดี ซึ่งประกอบด้วย ถุงน้ำดี ตับ และตับอ่อน เกลือน้ำดีจะถูกปล่อยออกมาสู่ตับ นั่นจึงทำให้อุจจาระมีสีน้ำตาล แต่หากตับผลิตน้ำดีไม่เพียงพอ หรือหากน้ำดีไหลไปอุดตันและไม่ระบายออกจากตับ อุจจาระก็อาจมีซีดหรือเป็นสีนวลได้ การมีอุจจาระสีอ่อนๆ นานๆ ครั้ง อาจไม่ใช่สาเหตุของความกังวล แต่ถ้าหากเกิดขึ้นบ่อยครั้งนั่นอาจหมายถึงคุณกำลังป่วยหนักอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือการแปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์รักษาความเจ็บป่วยหรือโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น อะไรที่สามารถทำให้อุจจาระสีซีดได้ มีหลายสิ่งที่สามารถเปลี่ยนสีของอุจจาระได้ ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน การติดเชื้อ และอาหารบางชนิด ปัญหาทางการแพทย์บางอย่าง เช่น ถุงน้ำดี และโรคตับ ก็สามารถเปลี่ยนสีอุจจาระได่เช่นกัน หากอุจจาระมีสีซีด โดยเฉพาะถ้าเป็นสีขาวหรือสีนวล สามารถบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ ดังนั้น เมื่อผู้ใหญ่มีอุจจาระสีอ่อนที่ไม่มีอาการอื่นๆ ก็มักจะปลอดภัย แต่ก็ควรต้องหมั่นดูว่าอุจจาระกลับสู่ปกติหรือไม่ ส่วนในเด็กและทารกหากมีอุจจาระสีซีดหรือขาวมาก ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างที่สามารถทำให้อุจจาระสีซีดได้ อาหาร อาหารบางประเภทอาจทำให้สีอุจจาระอ่อนลง โดยเฉพาะอาหารที่ไขมันหรืออาหารที่มีสีผสม ส่วนวิตามินที่มีธาตุเหล็กจะสามารถเปลี่ยนสีของอุจจาระให้เป็นสีน้ำตาลเข้ม หากเกิดอุจจาระสีซีดนั่นอาจหมายถึง คนที่มีเงื่อนไขทางการแพทย์พื้นฐาน ไกอาเดีย (Giardia)  ไกอาเดีย (Giardia) […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เจาะตามร่างกาย ความสวย เท่ ที่มาพร้อมความเสี่ยง

ปัจจุบันดูเหมือนว่าการเจาะนั้นไม่ใช้เพียงแค่เจาะเฉพาะที่หู เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีการ เจาะตามร่างกาย ในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคิ้ว สะดือ ลิ้น หรือแม้กระทั่งจมูก เป็นต้น การเจาะเหล่านี้ควรได้รับการเจาะจากผู้ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญ ทั้งยังต้องมีความสะอาดประกอบอีกด้วย ดังนั้นทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำเรื่องเกี่ยวกับการเจาะตามร่างกายมาฝากกัน ข้อควรรู้ก่อน เจาะตามร่างกาย การเจาะติ่งหูดูเหมือนเป็นเรื่องที่ฮิตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดการเจาะส่วนต่างๆ ของร่างกาย แต่จากการสำรวจของ Paw ในปี 2010 พบว่าวัยรุ่นเกือบ 25% นิยมเจาะที่อื่นด้วยนอกเหนือจากติ่งหู นั่นก็คือ ลิ้น ริมฝีปาก จมูก คิ้ว รวมไปถึงสะดือ อีกด้วย นอกจากนั้นหัวนม และอวัยวะเพศ ก็มีคนเจาะด้วยเช่นกัน ในบรรดาผู้ที่ได้รับการเจาะนอกเหนือจากติ่งหูประมาณ 1 ใน 3 มักจะจบลงด้วยการมีภาวะแทรกซ้อน โดยทางคลินิกของ American Academy of Pediatrics (AAP) กล่าวเอาไว้ว่า วัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ได้รับการเจาะ หรือการสัก ที่ทำให้เกิดแผล มักมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคที่เกี่ยวข้องขึ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์จากการเจาะร่างกายนั่นเอง ภาวะแทรกซ้อนจากการเจาะตามร่างกาย สำหรับภาวะแทรกซ้อนจากการเจาะตามร่างกานนั้น มีด้วยกันดังนี้ การติดเชื้อที่จุดเจาะ เมื่อใดก็ตามที่เกราะป้องกันของผิวแตก การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยการติดเชื้อแบคทีเรีย […]


การทดสอบทางการแพทย์

วิงเวียน (Dizzy)

วิงเวียน หรือหรือมึนศีรษะ คืออาการอย่างหนึ่ง ที่มักจะพบได้ในโรคต่างๆ วิงเวียน ใช้อธิบายถึงอาการที่ร่างกายรู้สึกไม่สมดุล มึนงง ส่วนใหญ่แล้ว อาการวิงเวียนนั้นจะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง และมักจะหายไปได้เอง คำจำกัดความวิงเวียน คืออะไร วิงเวียน หรือหรือมึนศีรษะ คืออาการอย่างหนึ่ง ที่มักจะพบได้ในโรคต่างๆ วิงเวียนใช้อธิบายถึงอาการที่ร่างกายรู้สึกไม่สมดุล มึนงง อาการวิงเวียนนี้สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้อีก แม้ว่าจะรักษาไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่แล้ว อาการวิงเวียนนั้นจะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง และมักจะหายไปได้เอง   วิงเวียนพบได้บ่อยแค่ไหน อาการวิงเวียนสามารถพบได้บ่อย และสามารถเกิดได้กับคนทุกวัย สามารถจัดการได้โดยการรักษาที่ต้นเหตุ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดปรึกษาแพทย์ อาการอาการวิงเวียน อาการวิงเวียนศีรษะนั้นเป็นลักษณะของอาการ ไม่ใช่โรค นอกจากอาการวิงเวียนแล้ว ยังอาจมีอาการอื่นๆ ที่มักจะเกิดขึ้นพร้อมกับอาการวิงเวียน เช่น อาเจียน มึนศีรษะ หน้ามืด ร่างกายไม่สมดุล คลื่นไส้ รู้สึกเบาโหวง นอกจากนี้ หากคุณมีอาการต่อไปนี้ร่วมด้วย ควรรีบติดต่อแพทย์ในทันที ปวดหัวเฉียบพลัน หรือปวดหัวอย่างรุนแรง หมดสติ เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นผิดปกติ อ่อนแรง หรือมีอาการชา หายใจติดขัด ไข้สูง มีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ ชัก อาเจียน สาเหตุสาเหตุของการวิงเวียน อาการวิงเวียนสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุรวมถึงภาวะต่อไปนี้ หูชั้นในมีปัญหา การเมารถ การใช้ยาบางชนิด เช่น ยากันชัก ยาต้านซึมเศร้า ยานอนหลับ และยาคลายกังวลต่างๆ การไหลเวียนเลือดไม่ดี ความดันโลหิตต่ำ หัวใจวาย การติดเชื้อ การได้รับบาดเจ็บ ไมเกรน น้ำในหูไม่เท่ากัน โรควิตกกังวล ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะโลหิตจาง อากาศร้อนเกินไป ภาวะขาดน้ำ ปัจจัยเสี่ยงปัจจัยเสี่ยงของอาการวิงเวียน ปัจจัยเสี่ยงของการวิงเวียนมีหลายปัจจัยได้แก่ อายุ ผู้สูงอายุมักจะมีโอกาสที่จะเกิดอาการวิงเวียนได้มากกว่า โดยเฉพาะอาการรู้สึกไม่สมดุล เนื่องจากผู้สูงอายุนั้นมักจะมีโอกาสที่จะใช้ยาที่ทำให้เกิดอาการวิงเวียน อาการวิงเวียนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต หากคุณเคยมีอาการวิงเวียนในอดีตมาก่อน คุณก็อาจจะมีโอกาสที่จะวิงเวียนได้ในอนาคต การวินิจฉัยและการรักษาโรคข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์ทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม การวินิจฉัยอาการวิงเวียน ตรวจร่างกาย เอ็มอาร์ไอ หรือซีทีแสกน สำหรับกรณีของผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง ตรวจสอบความสามารถในการทรงตัวขณะเดิน ตรวจการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ตรวจสอบความสามารถในการได้ยินและการทรงตัว ตรวจการเคลื่อนไหวจองลูกตาและศีรษะ การรักษาอาการวิงเวียน โดยทั่วไปอาการวิงเวียนจะดีขึ้นเองโดยไม่ต้องรักษา แต่หากจำเป็นต้องรักษาก็จะรักษาตามสาเหตุและอาการ โดยการใช้ยา และการออกกำลังกาย ยาที่อาจจะใช้มีดังต่อไปนี้ ยาลดอาการวิงเวียน เช่น ยาต้านฮีสตามีน ยาต้านโคลิเนอร์จิก ยาต้านอาการคลื่นไส้ ยาลดความวิตกกังวล […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

แก้มแดง (Rosy cheeks) เพราะอาย หรือ ร่างกายกำลังบอกโรค

หลายคนคงเคยได้ยินว่า การที่มีเลือดฝาดบนใบหน้า ซึ่งส่งผลทำให้แก้มแดงนั้น บ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดี แต่ความจริงแล้วอาการ แก้มแดง ที่เกิดขึ้น ยังสามารถบ่งบอกอาการของโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในร่างายได้อีกด้วย ซึ่งทาง Hello คุณหมอ มีบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกัน อาการ แก้มแดง เกิดขึ้นจากอะไร? แก้มแดงเป็นสีกุหลาบ เกิดจากหลอดเลือดขยายตัวเพื่อให้เลือดไหลผ่านใบหน้ามากขึ้น ซึ่งอาการแก้มแดงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เมื่ออยู่ท่ามกลางความหนาวเย็น เนื่องจากร่างกายพยายามทำให้ผิวอุ่นขึ้น อาการแก้มแดงยังเกิดได้จากความร้อนที่สูงเกินไปหลังจากที่ออกกำลังกาย แก้มแดงจากการดื่มเครื่องดื่มที่ร้อน  แก้มแดงจากความระส่ำระส่ายหรือเกิดความลำบากใจ ซึ่งบางคนสามารรถแก้มแดงได้ง่ายกว่าคนอื่น บางครั้งอาการแก้มแดงที่เกิดขึ้นอาจเป็นสัญญาณเตือนของอาการป่วนก็เป็นได้ แก้มแดงสามารถบ่งบอกเรื่องสุขภาพได้จริงหรือ? แม้แก้มแดงจะหมายถึงผู้ที่มีสุขภาพดี แต่ก็ไม่ใช่สำหรับทุกคน เพราะบางครั้งอาการแก้มแดงที่เกิดขึ้นก็กำลังบ่งบอกโรคที่เกิดขึ้นต่างๆ ดังนี้ โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย ส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันมากกว่า 161 ล้านคน ซึ่งหลายคนไม่ทราบว่าพวกเขากำลังเป็นโรคนี้ เนื่องจากอาการของมันดูเมือนหน้าแดงปกติ โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชียนั้นเกิดขึ้นจากหลอดเลือดในใบหน้าขยายใหญ่ขึ้น ทำให้เลือดไหลผ่านแก้มได้มากขึ้น นอกจากนั้นยังอาจมีอาการเหล่านี้ประกอบด้วย มองเห็นหลอดเลือด ตุ่มที่เต็มไปด้วยหนองที่มีลักษณะเหมือนสิว เปลือกตาบวมแดง จมูกโป่ง ผิวอบอุ่น สิว สิวเป็นสภาพผิวที่พบมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รูขุมขนบนผิวหนังอุดตัน และอาจทำให้เกิดรอยแดง ซึ่งอาจรวมถึงบริเวณใบหน้า โดยปกติแล้วสิวมักเกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนอุดตันดักจับแบคทีเรีย และเกิดการติดเชื้อภายใต้ผิวหนัง เมื่อแบคทีเรียเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ก็จะส่งผลทำให้ผิวหนังดูแดงและบวม ปฏิกิริยาต่ออาหาร อาการเผ็ดสามารถทำให้ผิวหน้าเป็นสีแดงได้ สารประกอบในอาหารเหล่านี้สามารถกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งทำให้หลอดเลือดในผิวหนังขยายตัวตามความร้อน ซึ่งปฏิกิริยาเดียวกันนี้ยังสามารถทำให้เหงื่อออกได้ด้วย ยา ยาเฉพาะทางสามารถกระตุ้นอาการแดงบนใบหน้าได้ อาการนี้มักเกิดจากฮีสตามีนซึ่งเป็นสารเคมีที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายปล่อยออกมาเมื่อทำปฏิกิริยากับยา โดยยาบางชนิดอาการให้เกิดอาการหน้าแดง ยกตัวอย่างเช่น ยาระงับปวด เช่น มอร์ฟีน ไนอะซิน […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ไฟฟ้าสถิต โดนอะไรก็ช็อตจนสะดุ้งโหยง เป็นเพราะอะไร แก้ยังไงดีนะ

หลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์จับลูกบิดประตู เปิดประตูรถ เปิดก๊อกน้ำ แขนชนกับแขนเพื่อน แล้วโดนช็อตแปลบจนสะดุ้งโหยง โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว หรือช่วงที่อากาศแห้งมากๆ ก็ยิ่งโดนช็อตจนรำคาญ จะหยิบจับอะไรทีก็ระแวงไปหมด อาการช็อตที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลมาจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ไฟฟ้าสถิต แต่ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะป้องกันยังไงได้บ้าง วันนี้  Hello คุณหมอ มีคำตอบมาให้แล้ว [embed-health-tool-bmr] อะตอม… ตัวการทำให้เกิด ไฟฟ้าสถิต อะตอม (Atom) เป็นอนุภาคที่เล็กที่สุดของสสาร ประกอบด้วยอนุภาคมูลฐาน 3 ชนิด ได้แก่ โปรตอน (Protons) มีประจุไฟฟ้าเป็นบวก อิเล็กตรอน (Electron) มีประจุไฟฟ้าเป็นลบ นิวตรอน (Neutron) ไม่มีประจุไฟฟ้า โดยปกติแล้ว เมื่ออะตอมเป็นอิสระจะมีจำนวนโปรตอนและอิเล็กตรอนเท่ากัน และมีสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้า โปรตอนและนิวตรอนจะอยู่รวมกับเป็นแกนกลางที่เรียกว่านิวเคลียส (Nucleus) และมีอิเล็กตรอนวิ่งอยู่รอบ ๆ แต่หากจำนวนโปรตอนและอิเล็กตรอนไม่สมดุลกัน นั่นเท่ากับประจุไฟฟ้าขั้วบวกและขั้วลบภายในหรือบนพื้นผิววัสดุไม่เท่ากัน ก็จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ไฟฟ้าสถิตได้ ทำไมบางคนถึงไม่มีปัญหา ไฟฟ้าสถิต บางคนอาจมีแนวโน้มเกิดปรากฏการณ์ไฟฟ้าสถิตได้มากกว่าคนอื่น โดยส่วนใหญ่แล้ว จะเกิดแรงดันไฟฟ้าสถิตประมาณ 2,000-4,000 โวลต์ ซึ่งอาจเป็นผลจากสาเหตุเหล่านี้ มีความสามารถในการกักเก็บไฟฟ้าสถิตได้มากกว่าคนอื่น ขึ้นอยู่กับขนาดตัว ขนาดเท้า และความหนาของพื้นรองเท้า ยิ่งตัวใหญ่ เท้าใหญ่ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ระวัง อย่าให้ หมาเลีย หน้า เพราะน้ำลายหมาอันตรายกว่าที่คิด

คนที่รักสัตว์มักจะชอบแสดงความรักด้วยการกอดจูบกับสัตว์เลี้ยง หรือปล่อยให้สัตว์เลี้ยงเหล่านี้เลียหน้าเลียตาด้วยความรักใคร่ แต่รู้หรือไม่ว่า การที่ หมาเลีย หน้า อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด [embed-health-tool-bmi] หมาเลีย เป็นอันตรายจริงเหรอ เช่นเดียวกันกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในน้ำลายของสุนัขนั้น จะเต็มไปด้วยเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียต่างๆ มากมาย ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้ก็สามารถถ่ายทอดมาสู่คนได้ หากคุณปล่อยให้สุนัขเลียตัวคุณ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงในกรณีของคนรักสุนัขที่ใช้ช้อนเดียวกันป้อนไอศกรีมให้สุนัข ว่าอาจจะก่อนให้เกิดโรคจากน้ำลายสุนัขได้ สุนัขนั้นเป็นสัตว์ที่มักจะคลุกคลีอยู่กับดิน ทั้งยังมีสัญชาตญาณชอบในการเลีย ไม่ว่าจะเป็นเลียตัวเอง เลียสุนัขตัวอื่น หรือเลียสำรวจสิ่งของต่างๆ ส่งผลให้ภายในน้ำลายของสุนัข เต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ มากมายเข้าไปปะปนในน้ำลาย เมื่อสุนัขมากัดคุณ เลียคุณ หรือหากคุณใช้ช้อนร่วมกันกับสุนัข เชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำลายก็จะสามารถถ่ายทอดมาสู่ตัวคุณได้ โรคจากน้ำลายสุนัขที่อาจเกิดขึ้นกับคน มีดังต่อไปนี้ การติดเชื้อพาสเทอเรลลา แคนิส (Pasteurella canis) เชื้อนี้เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องอาศัยออกซิเจน เชื้อแบคทีเรียประเภทนี้มักจะอาศัยอยู่ภายในปากและทางเดินหายใจส่วนบนของสุนัข หากเราถูกสุนัขกัด หรือหากสุนัขมาเลียแผลของเรา อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายได้ และทำให้เกิดการติดเชื้อที่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง และอาจเกิดโรคปอดบวมได้ การติดเชื้อแคปโนไซโตฟากา (Capnocytophaga) เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้สามารถพบได้ทั่วไปในน้ำลายของสุนัข แม้ว่าโดยปกติแล้วเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้จะไม่เป็นอันตรายอะไร แต่การติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงที เพราะเชื้อนี้อาจจะเข้าไปในกระแสเลือด และกระจายเข้าสู่เยื่อหุ้มสมองและลิ้นหัวใจได้ โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) การติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง และมีโอกาสเสียชีวิตมากจนเกือบถึง 100% หากไม่ได้รับวัคซีนก่อนที่จะเริ่มมีอาการใดๆ โรคพิษสุนัขบ้านั้นมักจะติดได้จากการถูกสุนัขกัด แต่ก็มีส่วนน้อยที่อาจจะได้รับเชื้อจากการถูกสุนัขเลีย เชื้อโรคที่มาจากน้ำลายสุนัขเหล่านี้มักจะส่งผลกระทบต่อเด็กเล็ก เด็กทารก […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน